สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 93.1 รวมกลุ่มเข้าหอนางโลม (1) (รีไรท์)
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ไม่รู้เหตุใดเล่อเหยาเหยารู้สึกขัดตายิ่งนัก
โดยเฉพาะหญิงชุดแดงผู้นั้น ล้มตัวอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอยู่ในอ้อมอกของพญายม ยังใช้หน้าอกอันใหญ่โตของนางนั้นเบียดกับหน้าและไหล่ของพญายม
หน้าอกใหญ่โตแล้วอย่างไร วันหน้าเธอก็เติบใหญ่ขึ้นได้เช่นกัน!
ไม่ได้ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอต้องหาหนทางซื้อมะละกอกลับไปทานให้ได้!
ขณะคิดอยู่ในใจ เล่อเหยาเหยาเห็นเพียงหนานกงจวิ้นซีที่อยู่ด้านข้าง ก็ถูกหญิงสาวหลายคนห้อมล้อมเช่นกัน
นี่ก็ไม่แปลก!
พวกเขาสองคน ล้วนรูปโฉมน่ามอง เสื้อผ้าอาภรณ์สวยหรู เพียงมองก็รู้ว่าฐานะร่ำรวย
หญิงสาวที่อยู่ในหอนางโลมเหล่านี้ ถูกฝึกให้มีสายตาแหลมคม มังกรหรือแมลง เพียงมองก็รู้ทันที
ที่ทำให้เล่อเหยาเหยาน่าขันที่สุดคือ
องค์ชายเจ็ดผู้นี้ เป็นคนยุยงให้พญายมมาที่หอนางโลมนี้ไม่หยุด ตอนนี้เมื่อถูกห้อมล้อมด้วยหญิงสาวมากมาย สีหน้ากลับดูเขินอายและอึดอัด
รู้สึกว่าแสร้งไร้เดียงสา!
ฮึ!ชายหนุ่มจอมเจ้าชู้ หากพูดว่าเขาไร้เดียงสา ตีเธอให้ตายก็ไม่เชื่อ
เพราะชายหนุ่มในยุคโบราณเหล่านี้ เมื่อเป็นตระกูลใหญ่โต พออายุสิบสามสิบสี่ปี คนในครอบครัวต่างก็หาสาวใช้อุ่นเตียงให้พวกเขา ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงองค์ชายเจ็ดผู้นี้!
เขาต้องมีหญิงสาวมาก่อนแน่นอน! มิฉะนั้น หลังได้ยินว่าที่นี่มีหญิงงาม เหตุใดเขาจึงยุยงรีบร้อนพาพญายมมาที่นี่
เล่อเหยาเหยาจึงมั่นใจอย่างยิ่งว่า หนานกงจวิ้นซีแสร้งไร้เดียงสา ความจริงเขาคือชายหนุ่มที่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน
หากหนานกงจวิ้นซีรู้ว่าเล่อเหยาเหยาคิดเช่นนี้กับตน ต้องกระอักเลือดตายแน่นอน
แม้เขาจะเป็นองค์ชายเจ็ดผู้สง่างามแห่งแคว้นต้าเซี่ย ถูกต้อง ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อได้ประทานหญิงงามมาให้เขาไม่น้อย
แต่ขณะนั้นเขาไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้มาตลอด ดังนั้นจึงไม่เคยแตะต้องหญิงงามพวกนั้น
ครั้งนี้ เขาแสร้งทำเพราะกังวลว่าตนอายุสิบเจ็ดแล้ว ยังไม่เข้าใจเรื่องระหว่างชายหญิง อีกทั้งพักนี้หลังเจอกับขันทีน้อยผู้นี้ ร่างกายเขาคล้ายไม่ปกติขึ้นมา ดังนั้นจึงคิดกำจัดความผิดปกตินี้ไม่ให้อาการหนักขึ้น โดยการมาหาหญิงงาม
หลังทำความรู้จักกับผู้หญิง เขาอาจจะไม่คิดนอกลู่นอกทางอีก
ผู้ใดจะรู้ พอมายืนอยู่ที่นี่ เห็นหญิงสาวเหล่านั้น ประทินโฉมหนาเตอะ ทุกคนต่างสวมเสื้อผ้าอาภรณ์เปิดเปลือย ผ้าบนร่างกายนั้นบางเบาจนไม่สามารถบางได้อีกแล้ว
เพียงลมพัดมา ไม่เผยให้เห็นหน้าอกใหญ่โต ก็เปิดเผยต้นขาออกมา
เปิดกว้างเช่นนี้ ยังมีสิ่งที่เรียกว่าน้ำหอมราคาถูกชวนสำลักนั้นอีก
หนานกงจวิ้นซีเมื่อยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ พลันเกิดความคิดอยากจากไปในใจขึ้นมา
แต่เมื่อเห็นขันทีน้อยที่ประณีตดุจหยกแกะสลักด้านหลังนั้น เขาต้องอดกลั้นไว้!
แม้หญิงสาวเหล่านี้ แต่ละคนน่าสะอิดสะเอียดยิ่งนัก แต่เขาต้องกลับมาเป็นบุรุษปกติให้ได้!
บุรุษปกติต้องคู่กับหญิงสาวถึงจะถูกต้อง!
ดังนั้น หนานกงจวิ้นซีจึงข่มความรังเกียจไว้ ใบหน้าหล่อเหลาหายชะงักงัน ค่อยๆ เผยท่าทางสง่างามออกมา ควงแขนหญิงสาว เดินอย่างองอาจเข้าไปในหออวี๋หง
ส่วนพญายม หลังรับตัวหญิงสาวชุดแดงนั้นไว้ ไม่นานก็ผลักนางออกไป
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของพญายม หญิงชุดแดงนั้นคล้ายไม่สบอารมณ์
ยื่นริมฝีปากทาชาดแดงนั้นออกมา ใช้สายตาอ้อนวอนจ้องเขม็งไปยังพญายม
แต่เมื่อสบเข้ากับใบหน้าเย็นชาของพญายม สุดท้ายด้วยคล้ายหวาดกลัว ก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานอีก
เพียงเดินตามพญายม เข้าไปในหออวี๋หงอย่างช้าๆ
เล่อเหยาเหยาเห็นท่าทางเช่นนี้ของพญายมจึงรู้สึกอุ่นใจ แต่เมื่อเห็นเขาเดินเข้าไปในหออวี๋หงอย่างช้าๆ ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นอีกครั้ง
ทอดถอนใจ ชายหนุ่มบนโลกล้วนเจ้าชู้ กระทั่งพญายมก็ไม่เว้นเช่นกัน
เล่อเหยาเหยาพลางคิดในใจ และเดินตามหลังพวกเขาไป
แม้เล่อเหยาเหยาจะมีรูปโฉมประณีตดุจหยกแกะสลัก ทำให้ผู้คนตกตะลึง
แต่เมื่อมีหนานกงจวิ้นซีและเหลิ่งจวิ้นอวี๋อยู่ด้านหน้า รวมทั้งการแต่งกายของพวกเขาสามคน เพียงมองอย่างๆชัดก็รู้ว่าสองคนด้านหน้าฐานะร่ำรวย เล่อเหยาเหยาอย่างมากเป็นแค่ผู้ติดตาม
อีกทั้งเล่อเหยาเหยาอายุยังน้อย ร่างกายก็บอบบาง เมื่อมีเหลิ่งจวิ้นอวี๋และหนานกงจวิ้นซีที่สูงใหญ่อยู่ด้านหน้า ความสนใจทั้งหมด ต่างตกอยู่บนพวกเขาทั้งสองคน ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่คนตัวเล็กอย่างเล่อเหยาเหยาถูกกลบฝัง
เมื่อเห็นการประจบสอพลออันคึกคักด้านหน้า ก่อนมองมาที่ตนเองอีกครั้ง เล่อเหยาเหยาพลันรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
น่าตายนัก!
พวกเขามาเที่ยวเตร่ เหตุใดจึงเรียกเธอมาด้วย!
เล่อเหยาเหยากลัดกลุ้มใจ ทว่ายังเดินตามทั้งสองคนไป
เมื่อเถ้าแก่เนี้ยของหออวี๋หง เห็นเหลิ่งจวิ้นอวี๋และหนานกงจวิ้นซีที่หล่อเหลาดูดีมีฐานะเดินเข้ามา มองเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ไม่ธรรมดาของพวกเขา ทราบทันทีว่าร่ำรวยและสูงศักดิ์
ดังนั้น ใบหน้าชราที่แต่งแต้มด้วยชาดสีแดงนั้น ก็ยิ้มแย้มดุจบุปผาเดินเข้ามา
จากนั้นก็บิดเอวหนาดุจถังน้ำของตนนั้นไปมาอย่างเย้ายวน ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดบนแก้มอวบอิ่ม ก่อนเบียดตัวเข้าหาพวกหนานกงจวิ้นซี
“ไอ๊หยา วันนี้หออวี๋หงของเราต้องโชคดีเป็นแน่ ดูสิ นายท่านทั้งสองรูปโฉมหล่อเหลายิ่งนัก! เหล่าสาวๆ พวกเจ้ายังไม่รีบเชิญนายท่านทั้งสองไปอีก ปรนนิบัตินายท่านทั้งสองให้ดี!”
เห็นเพียงเถ้าแก่เนี้ยกวักมือ เหล่าหญิงสาวที่ประทินโฉมหนาเตอะ สวมอาภรณ์เปิดเปลือยเหล่านั้น ต่างกรูกันตรงเข้ามาที่พวกเขา
ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋และหนานกงจวิ้นซีถูกห้อมล้อม ห้องโถงก็แออัดจนลมไม่สามารถพัดผ่านได้
ในอากาศกลิ่นชาดแดง กลิ่นสุรา กลิ่นเหงื่อนั้นต่างผสมปนเปกันไปหมด
ทำให้เล่อเหยาเหยาที่ถูกเบียดเข้าไป อดเบ้ปากไม่ได้
เมื่อมองเหลิ่งจวิ้นอวี๋และหนานกงจวิ้นซีที่ถูกเหล่าหญิงสาวห้อมล้อมอีกครั้ง
เห็นเพียงเวลานี้หนานกงจวิ้นซีสองแก้มแดงก่ำ คล้ายรู้สึกเขินอาย
เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาส่งเสียงฮึในใจอย่างดูถูก ก่อนหันไปมองยังพญายม
เห็นเพียงพญายมที่สูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร เป็นดั่งนกกระเรียนในฝูงไก่ท่ามกลางผู้คน
และชายหนุ่มภูเขาน้ำแข็งก็คือภูเขาน้ำแข็ง เวลานี้ถูกหญิงสาวมากมายห้อมล้อม ทว่าใบหน้าดั่งภูเขาน้ำแข็งนั้นยังคงเย็นชา นัยน์ตาคู่นั้นไร้ความรู้สึกเช่นเดิม
ไม่รู้ในใจเขาจะสงบเช่นนี้หรือไม่ หรือเป็นเช่นไร
แต่เมื่อเห็นเหล่าหญิงสาวที่สวมเสื้อผ้าเปิดเปลือยนี้ เอ่ยกระซิบกระซาบ เสแสร้งเป็นแง่งอน
เมื่อเห็นสีหน้าไม่แยแสของพญายม ทันใดนั้น เล่อเหยาเหยาก็รู้สึกว่าพญายมคล้ายพระถังซัมจั๋งที่ตกลงไปในรังของปีศาจแมงมุม
สำหรับความคิดแปลกประหลาดที่ตนพลันคิดออกมานี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาอดรู้สึกน่าขันไม่ได้