สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 99.2 ถูกองค์ชายเจ็ดทำลายลง (2) (รีไรท์)
เห็นเพียงเวลานี้เหลิ่งจวิ้นอวี๋หยิบผ้าคลุมเตียงขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะเช็ดสิ่งสีขาวขุ่นบนมือเล่อเหยาเหยาอย่างเบามือ
พญายมก็คือพญายม ไม่ว่าทำเรื่องใดล้วนยอดเยี่ยม ต่างมีสมาธิและจริงจัง
และทำให้เล่อเหยาเหยาที่เดิมทีตกใจกับเรื่องเมื่อครู่ ค่อยๆ ได้สติ ก่อนพลันเงยหน้าที่ยังตกตะลึงขึ้น ก่อนมองไปยังใบหน้าของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกล
แสงไฟเลือนราง สาดลงบนตัวชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน
เสื้อผ้าบนตัวชายหนุ่ม เพราะเมื่อครู่รีบร้อน จึงทำให้ดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่กลับไม่ส่งผลต่อเสน่ห์ของเขา
กลับกันทำให้เขาดูดิบเถื่อนมากยิ่งขึ้น! คล้ายเสือดาวสูงส่งที่กระหายเลือดทว่าสง่างามตัวหนึ่ง
และเครื่องหน้าที่ตราตรึงนั้น สมบูรณ์แบบดุจร่างของเทพเจ้ากรีก น่ามองจนคนมิอาจละสายตา
แม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะน่ามองอย่างยิ่ง แต่พอนึกถึงเรื่องต่ำทรามทั้งหมดที่เขาทำกับตนเมื่อครู่ เล่อเหยาเหยารู้สึกโกรธแค้นอยู่เช่นเดิม
แม้พญายมเวลานี้จะอ่อนโยนกับตนอย่างยิ่ง แต่เล่อเหยาเหยาทราบดีว่า เขาอ่อนโยนกับเธอเพราะรู้สึกผิดต่อเธอ ดังนั้นเล่อเหยาเหยาจึงไม่พอใจเขา
หลังเบ้ปาก เล่อเหยาเหยาชักมือของตนออกจากมือพญายมทันที ก่อนเอ่ยอย่างโกรธเคืองขึ้นว่า
“ขอบพระทัยท่านอ๋อง บ่าวทำเอง!”
ฮึ!
รู้สึกว่าท่านจะชอบตบหัว แล้วลูบหลังผู้อื่น ขออภัย เธอไม่รับสิ่งนี้!
เล่อเหยาเหยาคิดอย่างโกรธแค้น
ส่วนเหลิ่งจวิ้นอวี๋เมื่อเห็นสองแก้มของเล่อเหยาเหยากระเพื่อมอย่างโมโห ดวงตาเย็นชาเพียงวาบขึ้น ก่อนปล่อยให้เล่อเหยาเหยาเช็ดทำความสะอาดมือด้วยตนเอง
เขาค่อยๆ ออกมาจากเตียง เริ่มจัดการสภาพของตนให้เรียบร้อย
ไม่นาน เหลิ่งจวิ้นอวี๋ก็แต่งกายเสร็จ เมื่อเล่อเหยาเหยาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงชายหนุ่มที่ดูเย็นชาทว่าเด็ดเดี่ยวผู้หนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
เหลิ่งจวิ้นอวี๋หลังจากรับรู้ถึงสายตาของเล่อเหยาเหยา สีหน้ากลับไปเป็นเรียบเฉยดังเดิม พลันเอ่ยกับเล่อเหยาเหยาขึ้นว่า
“เรื่องเมื่อครู่ ข้าบีบบังคับเจ้า เท่ากับว่าข้าติดค้างเจ้า เจ้าพูดมาเถิด อยากได้สิ่งใด ข้าล้วนรับปากเจ้า!”
“เอ่อ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาตกตะลึงเล็กน้อย
สิ่งนี้คือค่าปิดปากไม่ให้แพร่งพราย หรือคือค่าตอบแทน!
แม้การตอบแทนเช่นนี้ จะทำให้เล่อเหยาเหยารู้สึกไม่พอใจ แต่เรื่องเมื่อครู่นั้นเกิดขึ้นแล้ว ยังจะแสร้งทำราวไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นอีก
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาเอ่ยปากออกไปโดยไม่คิดว่า
“เช่นนั้นบ่าวขอออกจากวังอ๋อง!”
ถูกต้อง!
เธอต้องการจากไป!
ตอนแรก เดิมทีเธอคิดกลับกันว่าเมื่อไร้ที่อยู่ การอยู่ในวังอ๋อง อย่างน้อยถือว่ายังมีสถานที่ให้ตั้งหลัก วันหน้าหลังเก็บออมเงินได้ ค่อยๆ หาวิธีจากไป
แต่ตอนนี้ เธอทนไม่ไหวต่อไปแล้ว!
เพราะพญายมน่าหวาดกลัวเกินไป โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
พ่อคุณจัดจ้านเกินไป!เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่ผ่านมือชายเลย!แต่เขากลับทำลายอนาคตของชาติ โดยทำเช่นนี้กับเธอ!ดังนั้นเธอต้องไปจากที่นี่ หนีไปให้ไกลจากพญายม และต่อไปไม่ต้องพบหน้ากันอีก!
ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยายิ่งโมโห
กระทั่งสองแก้มแดงก่ำยังกระเพื่อมขึ้น เพียงมองรู้สึกคล้ายผลแอปเปิ้ลที่กำลังสุกงอม
แต่เธอกลับไม่รู้ว่าคำพูดเมื่อครู่ของตน เมื่อเหลิ่งจวิ้นอวี๋ได้ฟัง กลับทำให้เขาสั่นไหวในใจ ใบหน้าหล่อเหลาตะลึงเล็กน้อย ก่อนในใจจะทะลักความโกรธขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เหตุใด! หรือเขาทำให้ ‘เขา’เกลียดชังแล้วหรือ
เหตุใด‘เขา’จึงคิดจากเขาไป!
ยิ่งคิด เหลิ่งจวิ้นอวี๋คล้ายมีไฟสุมอยู่ภายในใจ สายตาเย็นชาที่มองเล่อเหยาเหยา ยิ่งร้อนดั่งนั่งอยู่บนกองไฟ ราวกับมีลูกไฟขนาดเล็กสองลูกเคลื่อนไปมา
แต่ว่าเขายังมีสติข่มความโกรธของตนเอาไว้ สองมือที่ซ่อนอยู่ในชายเสื้อนั้น เวลานี้กลับกำหมัดแน่น ก่อนกัดฟันเอ่ยปากออกมา
“อยากไปจากวังอ๋อง! ห้ามคิดเป็นอันขาด!”
“เพราะเหตุใด เมื่อครู่ท่านอ๋องเอ่ยว่าติดค้างบ่าว บ่าวอยากได้สิ่งใด ท่านอ๋องล้วนรับปากมิใช่หรือ ตอนนี้บ่าวไม่ต้องการสิ่งใด นอกจากไปจากวังอ๋องเท่านั้น!”
เล่อเหยาเหยาไม่รับรู้ถึงความโกรธในใจของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เพราะตอนนี้เธอเองก็โกรธอย่างยิ่งเช่นกัน
อันที่จริง การอยู่ข้างกายพญายมที่มีนิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้ที่ผ่านมา ทำให้เธอกังวลใจอย่างยิ่งแล้ว แต่ตอนนี้พญายมยังมีด้านที่จัดจ้านในเรื่องพรรค์นั้นอีก จึงทำให้เธอยากที่จะรับได้จริงๆ!
เมื่อครู่เธอก็รู้ดีว่า เดิมทีเขาอยากใช้กำลังกับเธอ ทว่าสุดท้ายเธอต่อต้านอย่างสุดกำลัง เขาจึงพยายามอย่างสุดตัวให้เธอใช้มือ
แม้เธอจะรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้ แต่เธอไม่กล้ามั่นใจ ครั้งหน้าหากพญายมเกิดสัญชาตญาณดิบนี้ขึ้นมาอีกครั้ง จะทำให้เธอทำเรื่องที่จัดจ้านอันใดขึ้นมาอีก
สวรรค์! เธอรับไม่ไหวต่อไปแล้ว ดังนั้น เธอต้องไปจากที่นี่!
พอคิดถึงตรงนี้ ภายในดวงตางดงามของเล่อเหยาเหยานั้น ปรากฏความแน่วแน่ขึ้นมา พร้อมจ้องไปที่เหลิ่งจวิ้นอวี๋
แม้ปกติยามเผชิญหน้ากับพญายมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้นี้ เล่อเหยาเหยามักจะหวาดกลัวเขาสุดหัวใจ
แต่เมื่อเธอโมโห ผลที่เกิดขึ้นก็ร้ายแรงมากเช่นกัน!
ส่วนเหลิ่งจวิ้นอวี๋เมื่อเห็นเล่อเหยาเหยากล้าใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับตน ภายในแววตาเปี่ยมด้วยความหนักแน่น คล้ายปฏิญาณว่าตนต้องการจากไป
เรื่องนี้ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋โมโหอย่างหนัก
ทว่าในใจกลับเจ็บปวด
เหตุใด เหตุใดทุกคนจึงไม่ชื่นชอบเขา
เสด็จพ่อไม่ชอบเขา เสด็จแม่ไม่ชอบเขา หรือบนโลกนี้ไม่มีคนห่วงใยเขาจริง!
ยิ่งคิด เหลิ่งจวิ้นอวี๋ปวดใจดุจโดนแผดเผา สายตาที่มองเล่อเหยาเหยาแฝงด้วยความโกรธและเสียใจ
เล่อเหยาเหยาที่กำลังโมโห เมื่อสบสายตาสับสนของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ ใบหน้าดูตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนพลันสับสนในใจ
อันที่จริงในใจของเธอ พญายมเย็นชาตลอดเวลา นอกจากความผิดปกติเมื่อครู่ ไม่เหมือนตอนนี้ดูแฝงไปด้วยความโศกเศร้าและโมโหที่เธอได้เห็นเป็นครั้งแรก
อีกทั้งไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อเห็นสายตาเจ็บปวดของเขา ใจเธอคล้ายถูกเข็มทิ่มแทงเข้าไปอย่างรุนแรง
เพราะเหตุใด
พญายมจึงเจ็บปวดเสียใจ!
เขาไม่ใช่ชายที่ดุจเทพเซียนหรือ!
แต่สายตาโศกเศร้าเสียใจเช่นนี้ของเขา ช่างคล้ายกับสัตว์ร้ายที่บาดเจ็บตัวหนึ่ง ทำให้คนที่เห็นอดไม่ได้ที่จะสงสาร…
……………………………………………….