สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1344 เกรี้ยวกราด
ตอนที่ 1344 เกรี้ยวกราด
ทว่า หากพวกเขากตัญญูต่อหวังเหล่าไท่จวินจริงเหตุใดพวกเขาต้องเชิญหมอจากนอกจวนมาตรวจชีพจรให้หวังเหล่าไท่จวินโดยอ้างว่าหมอหลี่แห่งสำนักหมอหุยชุนมีฝีมือดีด้วย พวกเขาก็แค่แสดงให้คนภายนอกเห็นเท่านั้น
หมอหลี่แห่งสำนักหมอหุยชุนเป็นคนเก็บความลับเก่ง แม้เขาจะตรวจพบว่าหวังเหล่าไท่จวินมีความเครียดที่สั่งสมมานาน ทว่า เขาไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้กับคนภายนอกเลยสักครั้ง ผู้อื่นรู้เรื่องเหล่านี้เพราะสองสามีภรรยาคู่นี้เป็นคนป่าวประกาศทั้งนั้น
หวังเหล่าไท่จวินไม่ยอมไปจากจวนหวัง สองสามีภรรยาจึงใช้หวังเหล่าไท่จวินเป็นเครื่องมือบีบบังคับหวังซื่อทุกครั้ง หวังเหล่าไท่จวินรู้เรื่องนี้ดีเช่นเดียวกัน นางไม่ให้บุตรสาวของตัวเองมาสนใจนางอีก กระทั่งบอกให้หมัวมัวห้ามไม่ให้บุตรสาวกลับจวน ทว่า หวังซื่อเติบโตมากับหวังเหล่าไท่จวิน นางจะใจร้ายไม่สนใจมารดาของตัวเองได้อย่างไรกัน
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินชุนเถาเล่าเรื่องทั้งหมดด้วยความโมโหจบจึงพอมีแผนการในใจบ้างแล้ว
อาสะใภ้สี่ของนางไม่สามารถขัดความต้องการของมารดาตัวเองได้ แม้ไป๋ชิงเหยียนจะเป็นจักรพรรดินีของต้าโจวแล้ว นางสามารถพระราชทานสมรสเพื่อช่วยอาสะใภ้สี่ของนางแก้ไขปัญหาเรื่องของสองสามีภรรยาโหดร้ายคู่นี้ได้ ทว่า ในฐานะผู้ด้อยอาวุโสกว่าไป๋ชิงเหยียนไม่สามารถจัดการกับสองสามีภรรยาคู่นั้นขั้นเด็ดขาดได้ มิเช่นนั้นหากหวังเหล่าไท่จวินเสียใจจนเกิดเป็นอันใดขึ้นมาความหวังดีของนางคงกลายเป็นเรื่องร้ายได้
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางอาสะใภ้สี่ของตัวเองแวบหนึ่ง หวังหลิ่วซื่อกำลังกล่าวสิ่งใดกับอาสะใภ้สี่ของนางด้วยความร้อนใจ ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น
“ชุนเถาไปบอกท่านอาสะใภ้สี่ด้วยตัวเองทีว่าข้าเชิญท่านอาสะใภ้สี่มานั่งสนทนาเป็นเพื่อนท่านแม่ของข้า เจ้าไปประคองท่านอาสะใภ้สี่มาหาท่านแม่ด้วยตัวเอง อย่าให้ผู้อื่นว่าร้ายสิ่งใดท่านอาสะใภ้สี่ได้”
“เจ้าค่ะ!”
ชุนเถารับคำ
เมื่อชุนเถาจากไปไป๋ชิงเหยียนจึงหันไปกระซิบข้างหูมารดาของตัวเองเบาๆ ต่งซื่อหันไปมองทางหวังซื่อน้องสะใภ้ของตัวเองแวบหนึ่งพลางพยักหน้าให้ไป๋ชิงเหยียนสบายใจ ผู้ใดกล้ารังแกน้องสะใภ้ของนางกัน หากต่งซื่อไม่รู้ว่าน้องสะใภ้ของตัวเองถูกรังแกก็ว่าไปอย่าง ทว่า ตอนนี้นางรู้แล้วดังนั้นคนที่มีนิสัยรักพวกพ้องอย่างนางไม่มีทางปล่อยให้หวังหลิ่วซื่อรังแกหวังซื่อแน่นอน
ต่งซื่อหันไปสั่งให้ฉินหมัวมัวไปประคองหวังซื่อมาหานางด้วยตัวเองทันที
ชุนเถาเดินไปทำความเคารพหวังซื่อยิ้มๆ จากนั้นบอกว่าไป๋ชิงเหยียนเชิญหวังซื่อไปนั่งสนทนาเป็นเพื่อนต่งซื่อ
หวังหลิ่วซื่อเป็นคนมีไหวพริบ นางรู้ว่าชุนเถาคือนางกำนัลข้างกายไป๋ชิงเหยียน คือนางกำนัลใหญ่ผู้ควบคุมดูแลทุกอย่างในวังหลวงจึงรีบลุกขึ้นกล่าวยิ้มๆ
“ชุนเถากูกู คุณหนูของตระกูลพวกเราช่างวาสนาดีจริงๆ ที่ฝ่าบาททรงนึกถึงตลอดเวลาเช่นนี้…”
ชุนเถายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นเอนกายบังร่างของหวังหลิ่วซื่อไว้พลางประคองร่างของหวังซื่อไปยังที่นั่งบนแทนสูง
หวังหลิ่วซื่อจะปล่อยผ่านโอกาสดีๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร นางรีบรั้งร่างของบุตรสาวให้ลุกขึ้นทันที หากบุตรสาวของนางมีโอกาสพบหน้าไทเฮาและไป๋ชิงเหยียน จากนั้นได้พระราชทานสมรสจากไป๋ชิงเหยียน…เช่นนั้นบุตรสาวของนางจะได้ไม่ต้องอาศัยความดีความชอบของจงกั๋วอ๋องเพื่อได้รับแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เป็นจวิ้นจู่แล้ว
บรรดาหลานสาวของหวังหลิ่วซื่ออยากตามไปบ้าง ทว่า หวังหลิ่วซื่อรวมถึงสตรีคนอื่นๆ กลับถูกขันทีที่ชุนเถาพามาด้วยขวางไว้เสียก่อน
หวังหลิ่วซื่อเอ่ยเรียกหวังซื่อด้วยความร้อนใจ
“พี่สามี!”
ใจของหวังซื่อกระตุกวูบ นางเตรียมหันกลับไปมอง ทว่า เห็นฉินหมัวมัวเดินยิ้มเข้ามาประคองนางไว้เสียก่อน
“ฮูหยินสี่ ฮูหยินใหญ่รอท่านอยู่นานแต่ไม่เห็นท่านมาเสียทีจึงให้บ่าวมารับฮูหยินสี่ด้วยตัวเองเจ้าค่ะ…”
“พี่สามี! พี่สามี!…”
หวังหลิ่วซื่อเอ่ยเรียกหวังซื่อ ทว่า นางไม่กล้าตะโกนเสียงดังเพราะกลัวจะรบกวนงานเลี้ยงและถูกไล่ออกจากวัง นางได้แต่มองฉินหมัวมัวประคองร่างของหวังซื่อเดินจากไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านอา…”
หลานสาวของหวังหลิ่วซื่อเอ่ยเรียกอาของตัวเองเบาๆ พลางพ่นพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์
“เหตุใดท่านป้าของญาติผู้น้องจึงไม่พาท่านอาและญาติผู้น้องไปพบไทเฮาและฝ่าบาทบ้างเจ้าคะ นางไม่เห็นท่านอาและญาติผู้น้องอยู่ในสายตาเลยนะเจ้าคะ”
หวังหลิ่วซื่อได้ยินหลานสาวของตัวเองกล่าวเช่นนี้จึงรู้สึกเสียหน้า นางยิ่งรู้สึกโมโหหวังซื่อมากขึ้นกว่าเดิม นางสะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือด้วยความโมโห จากนั้นหันไปยิ้มให้ขันทีที่ขวางทางนางไว้เล็กน้อยพลางนั่งลงที่เดิมพร้อมบุตรสาวและหลานสาวของตัวเอง หวังหลิ่วซื่อมองไปทางแท่นสูงอีกครั้งอย่างหงุดหงิดใจ นางเห็นหวังซื่อนั่งลงบนเก้าอี้กลมข้างกายไทเฮาและไป๋ชิงเหยียนจึงได้แต่กำหมัดแน่น จู่ๆ ก็รู้สึกว่าระบำและอาหารตรงหน้าไม่น่ามองอีกต่อไป
หวังหลิ่วซื่อยกจอกเหล้าตรงหน้าขึ้นอย่างใช้ความคิด นางคงต้องเร่งให้หวังซื่อขอให้ไทเฮาหรือไป๋ชิงเหยียนพระราชทานสมรสให้จงกั๋วอ๋องไป๋ชิงเจวี๋ยกับบุตรสาวของนางโดยเร็วที่สุดแล้ว
หวังหลิ่วซื่อดื่มเหล้าเย็นในจอกจนหมด นางคิดขึ้นมาได้ว่าฝ่าบาทรักและเอ็นดูน้องๆ ของตัวเองทุกคน ไป๋ชิงเหยียนต้องคิดได้แน่ว่าหากฐานะพ่อตาของจงกั๋วอ๋องต่ำต้อยเกินไปจะไม่ส่งผลดีต่อไป๋ชิงเจวี๋ย หากไป๋ชิงเหยียนไม่แต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้บุตรสาวของนาง ไป๋ชิงเหยียนก็คงเพิ่มตำแหน่งให้สามีของนางแทน ไม่ว่าอย่างไรไป๋ชิงเหยียนก็ต้องดูแลตระกูลของพวกนางเป็นอย่างดีเพราะเห็นแก่หน้าจงกั๋วอ๋องแน่นอน
เมื่อจงกั๋วอ๋องกลับมาและแต่งบุตรสาวของนางเข้าจวนอ๋อง ตระกูลหวังของนางต้องมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน
หวังหลิ่วซื่อที่ดื่มเหล้าไปสองจอกจินตนาการไปไกลจนอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
เซียวหรงเหยี่ยนเห็นไป๋ชิงเหยียนหันไปสนทนากับหวังซื่อ คอปกเสื้อของหญิงสาวแหวกออกเล็กน้อยจนเห็นลำคอที่เพรียวระหง ช่างเป็นภาพที่งดงามน่ามองยิ่งนัก
ไม่เพียงแค่เซียวหรงเหยี่ยนเท่านั้นที่ละสายตาไปที่อื่นไม่ได้ บุรุษที่ยังไม่ได้หมั้นหมายก็ละสายตาไปที่อื่นไม่ได้เช่นเดียวกัน ทว่า บารมีของไป๋ชิงเหยียนน่าเกรงขามเกินไป ถึงแม้พวกเขาจะหลงเสน่ห์ไป๋ชิงเหยียน ทว่า พวกเขาหวาดกลัวและยำเกรงหญิงสาวมากกว่าจึงทำได้เพียงมองจากที่ไกลๆ เท่านั้น
บุรุษทะเยอทะยานที่หลงใหลความงามและไม่หวาดกลัวบารมีของไป๋ชิงเหยียนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อดึงดูดความสนใจของหญิงสาว ไม่ว่าจะเป็นการต่อบทกวีหรือถกเถียงเรื่องในราชสำนัก ทว่า น่าเสียดายที่พวกเขาอยู่ห่างจากที่นั่งบนแท่นสูงของไป๋ชิงเหยียนมากเกินไป เสียงบทกวีที่พวกเขาแต่งขึ้นจึงดังไปไม่ถึงหูของไป๋ชิงเหยียน ต่อให้พวกเขาจะแต่งกายเหมือนเซียวหรงเหยี่ยนมากเพียงใดก็ไม่มีผลอันใดทั้งสิ้น
หวังซื่อที่กำลังสนทนาอยู่กับต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียนสังเกตเห็นสายตาของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมองมาที่ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา
“อาเป่า ตอนนี้สามีของเจ้าก็จากไปนานแล้ว อาเป่าคิดอย่างแต่งตั้งภัสดาคนใหม่บ้างหรือไม่ อาเห็นว่าวันนี้มีบุรุษรูปงามจำนวนไม่น้อย…”
หวังซื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเป็นดั่งบุตรสาวของตัวเองจึงกล่าวเช่นนี้ออกมา
เซียวหรงเหยี่ยนคือผู้มีพระคุณของหวังซื่อ ตอนนั้นไป๋ชิงเหยียนแต่งงานกับเซียวหรงเหยี่ยนและแต่งตั้งเขาเป็นพระภัสดาอย่างไม่รังเกียจฐานะที่ต่ำต้อยของชายหนุ่ม ทั้งยังมีบุตรฝาแฝดด้วยกันอีกสองคน หวังซื่อกลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะจมอยู่กับความรักที่มีต่อเซียวหรงเหยี่ยนจนเดินออกมาไม่ได้เหมือนกับนางในตอนนี้ที่ทุกข์ทรมานกับการจากไปของสามีทุกคืน
ไม่ว่าอย่างไรหวังซื่อก็อยากให้ไป๋ชิงเหยียนมีคู่ครองที่คอยอยู่เคียงข้างกัน
ที่สำคัญตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์อันสูงส่ง ไป๋ชิงเหยียนอาจรู้สึกโดดเดี่ยวได้ อาสะใภ้อย่างนางไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของไป๋ชิงเหยียนได้ ทว่า นางอยากให้ไป๋ชิงเหยียนมีคนคอยดูแลและปลอบใจ
ยิ่งไปกว่านั้นสายตาที่อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมองมาที่ไป๋ชิงเหยียนชัดเจนมาก หวังซื่อไม่ติดใจที่อ๋องของแคว้นศัตรูจะกลายเป็นสามีของไป๋ชิงเหยียน ทว่า คนผู้นี้มีใจอำมหิตโหดเหี้ยมดังนั้นพวกนางควรเตรียมป้องกันไว้ก่อนที่อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้นี้จะคิดหมายปองไป๋ชิงเหยียน