สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1363 เสาหลักของแคว้น
ตอนที่ 1363 เสาหลักของแคว้น
เฝิงเย่านำชาร้อนมาให้เซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นยืนนิ่งอยู่ข้างกายชายหนุ่ม
“ได้ยินว่าวันนี้ใต้เท้าหลิ่วปรากฏตัวแล้ว” เซียวหรงเหยี่ยนเอ่ยถาม
“พ่ะย่ะค่ะ…” หวังหานปิงตอบ “ใต้เท้าหลิ่วผู้นี้ช่างร้ายกาจจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนยกถ้วยชาขึ้นพลางถามต่อ “นอกจากกล่าวว่าจะส่งองค์ชายใหญ่มาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวแล้วยังเจรจาเรื่องใดอีก”
“ทูลท่านผู้สำเร็จราชการ พวกเราคุยกันถึงเรื่องการเลือกเมืองตัวแทนที่จะใช้ในการแข่งขันแล้วพ่ะย่ะค่ะ หากตัดสินด้วยเมืองทุกเมืองของสองแคว้นเป็นเรื่องที่ยากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ” หวังหานปิงตอบอย่างนอบน้อม
เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้าใช้ฝากดใบชาให้จมลงไปในถ้วยชา เขาไม่ได้จะถอดหน้ากากออกแต่อย่างใด “แล้วเรื่องตัวประกันของฝั่งต้าโจวล่ะ”
“ผู้สำเร็จราชการ เอ่ยถึงเรื่องนี้กระหม่อมรู้สึกโมโหยิ่งนัก…” ขุนนางต้าเยี่ยนคนหนึ่งก้าวไปด้านหน้าแล้วกลอกตาใส่หวังหานปิง จากนั้นกล่าวขึ้น “ต้าโจวไม่ยอมส่งคนไปเป็นตัวประกันที่ต้าเยี่ยน พวกเขากล่าวว่าคนอ่อนแอไม่มีสิทธิ์เสนอเงื่อนไขกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขารังแกกันเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
แสงไฟกลางโถงรับรองส่องกระทบหน้ากากสีเงินของเซียวหรงเหยี่ยน แววตาลึกล้ำคู่นั้นยิ่งดูเคร่งขรึมกว่าเดิม
เซียวหรงเหยี่ยนนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “แม้เป็นคำกล่าวเหยียดหยามพวกเรา ทว่า ต้าโจวไม่ได้กล่าวผิด”
“ทว่า ตอนนี้สองแคว้นกำลังเจรจากันอยู่ เหตุใดต้าโจวจึงกล่าวถ้อยคำดูถูกไม่ไว้หน้าพวกเราอย่างไร้กฎเกณฑ์ทางการทูตเช่นนี้!” ขุนนางต้าเยี่ยนผู้นั้นยังคงไม่พอใจ
“กฎเกณฑ์ทางการทูตอย่างนั้นหรือ เอาตามตรงก็คือวิธีการที่คนแข็งแกร่งตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกคนอ่อนแอเท่านั้น แต่ไรมาไม่เคยมีแคว้นแข็งแกร่งแคว้นใดยอมลงให้แคว้นที่อ่อนแอกว่าเลยสักครั้ง แคว้นที่อ่อนแอล้วนเป็นฝ่ายอ้อนวอนขอร้องทั้งสิ้น” เซียวหรงเหยี่ยนวางถ้วยชาลงบนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ท่านอ๋อง ตอนนี้ต้าโจวไม่ยอมส่งตัวประกันมาให้พวกเรา ถือเป็นเรื่องเสี่ยงสำหรับพวกเรามากพ่ะย่ะค่ะ” น้ำเสียงของหวังหานปิงราบเรียบเหมือนแววตาของเขา “หาทหารง่าย ทว่า หาแม่ทัพยาก! พวกเราต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดไว้ก่อน หากองค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินถูกส่งไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวทั้งหมด กองทัพหลักของต้าเยี่ยนของพวกเราสามารถกลับมายังเมืองหลวงของต้าเยี่ยนได้ ทว่า หากต้าโจวเกิดกลับคำบุกโจมตีต้าเยี่ยนขึ้นมา ท่านอ๋องสามารถจัดกองทัพต้าเยี่ยนของพวกเราไปต่อสู้กับต้าโจวได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนอยากรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งด้วยสันติวิธี ขอเพียงต้าเยี่ยนยอมส่งตัวประกันมาที่ต้าโจว ต้าโจวไม่มีทางยกทัพบุกโจมตีต้าเยี่ยนแน่นอน ทว่า เขาต้องเตรียมป้องกันเพื่อความไม่ประมาทอยู่ดี
ไป๋ชิงเหยียน มู่หรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่ต่างยินดีรับผลแพ้ชนะที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ทว่า หากลูกน้องของพวกเขาก่อความวุ่นวายขึ้นมา พวกเขาต้องคอยสะสางปัญหาเหล่านั้นอยู่ดี
เซียวหรงเหยี่ยนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด ครู่ใหญ่จึงกล่าวขึ้น “ในเมื่อต้าโจวไม่ยอมส่งตัวประกันมาให้ต้าเยี่ยน เช่นนั้นพวกเราก็เปลี่ยนวิธีใหม่…”
หวังหานปิงไม่เข้าใจสิ่งที่เซียวหรงเหยี่ยนต้องการจะสื่อ เขาลุกขึ้นโค้งคำนับเซียวหรงเหยี่ยน “ท่านอ๋องได้โปรดชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ในเมื่อพวกเราต้องเลือกเมืองออกมาเป็นเมืองตัวแทนสำหรับการเดิมพัน เช่นนั้นต้าโจวต้องส่งคนของต้าโจวมาเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของต้าเยี่ยนเพื่อป้องกันพวกเราเล่นตุกติกแน่นอน” เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้ามองหวังหานปิง เขาเห็นแววตาของหวังหานปิงเป็นประกายราวกับเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อแล้ว
“ท่านอ๋องตรัสถูกแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หวังหานปิงนับถือสติปัญญาของเซียวหรงเหยี่ยนมาก เหตุใดตอนนั้นเขาจึงคิดไม่ได้นะ “ในเมื่อต้าโจวจะส่งคนมาจับตาดูพวกเรา เช่นนั้นพวกเขาย่อมส่งคนที่ไว้ใจได้ที่สุดมาแน่นอน”
“พวกเจ้าไม่ต้องบอกให้ต้าโจวส่งคนไปจับตาดูพวกเรา บอกเพียงว่าต้าเยี่ยนต้องการส่งคนมาจับตาดูความเคลื่อนไหวที่เมืองของต้าโจวเพื่อป้องกันต้าโจวเล่นตุกติก หากฝ่ายนั้นถามให้บอกไปว่าพวกเราจะส่งเชื้อพระวงศ์มา ทว่า ยังไม่สะดวกบอกว่าเป็นผู้ใด หากต้าโจวไม่วางใจสามารถส่งคนมาจับตาดูต้าเยี่ยนได้เช่นกัน” เซียวหรงเหยี่ยนสะบัดชายชุดที่ไม่ได้มีฝุ่นเกาะแม้แต่น้อยเบาๆ จากนั้นลุกขึ้นยืนพลางกล่าวขึ้นต่อ “เอาตามนี้ก็แล้วกัน! ตกลงเรื่องนี้ให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้ ฝ่าบาทจะได้สบายพระทัย”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบจึงเดินออกไปจากโถงรับรองทันที เฝิงเย่ารีบเดินตามหลังชายหนุ่มไปติดๆ
บรรดาขุนนางต้าเยี่ยนลุกขึ้นยืนคารวะเซียวหรงเหยี่ยน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของชายหนุ่มและองครักษ์จากไปไกลทุกคนจึงจับกลุ่มถกเถียงเรื่องนี้กันด้วยความตื่นเต้น
“เหตุใดตอนนั้นพวกเราจึงคิดวิธีที่ดีเช่นนี้ไม่ออกนะ!” ขุนนางต้าเยี่ยนคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น “การที่พวกเราส่งคนมาจับตาดูความเคลื่อนไหวของเมืองตัวแทนของต้าโจวขณะแข่งขันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ในเมื่อพวกเราส่งคนมาจับตาดูต้าโจวได้ ต้าโจวก็ส่งคนไปจับตาดูพวกเราได้เช่นกัน จักรพรรดินีแห่งต้าโจวมีน้องชายและน้องสาวมากถึงเพียงนั้น นางต้องส่งคนที่เชื่อใจไปสักคนแน่นอน!”
“ไร้สาระ หากเจ้าคิดได้เจ้าก็คงได้เป็นผู้สำเร็จราชการไปแล้ว!” เมื่อขุนนางใหญ่ของต้าเยี่ยนกล่าวด้วยความตื่นเต้นจบก็รีบใช้มือปิดปากตัวเองทันที เขามองไปด้านนอกแวบหนึ่ง จากนั้นหัวเราะแห้งออกมา
“ข้ากล่าววาจาผิดไป ข้าพลั้งปากเอง! ทว่า หากเรื่องนี้สำเร็จด้วยดี ฝ่าบาท ไทเฮาและผู้สำเร็จราชการคงโล่งใจแน่นอน”
“ผู้สำเร็จราชการคือเสาหลักของแคว้นต้าเยี่ยนจริงๆ !”
การเจรจาหลังจากนั้นเป็นไปด้วยความราบรื่น ทว่า พวกเขายังตกลงเรื่องเมืองที่ใช้ในการแข่งขันไม่ได้เสียที
ไป๋จิ่นถงส่งการวิเคราะห์เมืองแต่ละเมืองของต้าเยี่ยนมาให้ไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่ขาดสาย
ส่วนต้าเยี่ยน เซียวหรงเหยี่ยนเคยออกเดินทางไปทั่วทุกแคว้นเป็นเวลาหลายปี เขารู้จักแคว้นต้าโจวเป็นอย่างดี
สภาพของเมืองที่พวกเขาเลือกต้องไม่แตกต่างจากเมืองที่อีกฝ่ายเลือกเท่าใดนัก ที่สำคัญควรเป็นเมืองที่อยู่ติดกันจะได้ปกครองและจัดการได้อย่างสะดวกสบาย
ไป๋ชิงเหยียนเชิญหลิ่วหรูซื่อมารับประทานอาหารกลางวันกับนางในวังหลวง
หลิ่วหรูซื่อนั่งเล่ารายละเอียดและความลังเลที่เกิดขึ้นในหงหลู่ซื่อให้ไป๋ชิงเหยียนฟังอยู่บนที่นั่งถัดจากที่นั่งของไป๋ชิงเหยียน
นางกำนัลรินสุราข้าวให้หลิ่วหรูซื่อจนเต็มจอก หลิ่วหรูซื่อจับฐานจอกไว้เล็กน้อยพลางพยักหน้าให้นางกำนัลเพื่อสื่อว่าพอแล้ว จากนั้นจึงหันไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนต่อ “กระหม่อมรู้สึกว่าขุนนางฝ่ายต้าเยี่ยนดูเหมือนจะรู้จักเมืองต้าโจวที่พวกเราเสนอเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมืองที่เคยเป็นของแคว้นต้าเหลียง ดูเหมือนพวกเขาจะรู้จักเมืองนั้นดีกว่ากระหม่อมอีกพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท แคว้นต้าโจวของเรามีสายลับของต้าเยี่ยนอยู่พ่ะย่ะค่ะ!”
“แน่นอนอยู่แล้ว ต้าโจวก็มีสายลับอยู่ในแคว้นต้าเยี่ยนเหมือนกัน มิเช่นนั้นใต้เท้าหลิ่วจะรับรู้สถานการณ์ของเมืองต่างๆ ในต้าเยี่ยนอย่างละเอียดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางคีบขาหมูชิ้นหนึ่งขึ้นยิ้มๆ นางรู้ดีว่าเหตุใดต้าเยี่ยนจึงรู้เรื่องราวในต้าโจวละเอียดถึงเพียงนี้ ต้าเยี่ยนมีเซียวหรงเหยี่ยนอยู่ พวกเขาจะไม่รู้จักเมืองของต้าโจวอย่างละเอียดได้อย่างไรกัน
ก่อนหน้านี้ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าเซียวหรงเหยี่ยนมีสายลับมากมายในแคว้นต้าจิ้น ทว่า นางไม่รู้รายละเอียดสายลับของชายหนุ่มในแคว้นต้าเหลียง
เมื่อหลิ่วหรูซื่อเห็นท่าทีไม่เป็นกังวลของไป๋ชิงเหยียนจึงวางตะเกียบลง จากนั้นลุกขึ้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาทควรระวังเรื่องนี้ให้มากพ่ะย่ะค่ะ”
“ใต้เท้าหลิ่วไม่ต้องเป็นห่วง ข้ามอบหมายให้สำนักตรวจสอบเป็นคนสืบเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้พวกเขาพอได้ข้อมูลสายลับของต้าเยี่ยนมาบ้างแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับหลิ่วหรูซื่อยิ้มๆ “ที่สำคัญน้ำใสเกินไปก็ไร้ปลา[1] ดังนั้นบางทีพวกเราจำเป็นต้องผ่อนปรนบ้าง ไม่แน่คนพวกนั้นอาจมีประโยชน์กับเราในภายหลัง ใต้เท้าหลิ่วไม่ต้องเป็นห่วง”
[1] น้ำใสเกินไปก็ไร้ปลา หมายถึงคนที่เอาจริงเอาจังกับเรื่องทุกอย่างมากเกินไปอาจไม่มีคนคบและสร้างศัตรูได้