สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1371 จับตาดู
ตอนที่ 1371 จับตาดู
“ข้ารู้แล้ว ลุงเหาไม่ต้องเป็นห่วง” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “ข้าไปก่อนนะ…”
“ขอรับ คุณหนูใหญ่เดินทางระวังนะขอรับ…” พ่อบ้านเหายืนส่งไป๋ชิงเหยียนจากไปอยู่หน้าประตูจวน เมื่อรถม้าของไป๋ชิงเหยียนหายลับไปจากสายตาเขาจึงเดินเข้าไปในจวนไป๋ จากนั้นเตรียมซ่อมแซมตกแต่งจวนใหม่เพื่อต้อนรับคุณชายไป๋ชิงอวี๋ ไป๋ชิงฉี ไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋ชิงอวิ๋นกลับมา
ชุนเถาใช้พัดโบกให้ไป๋ชิงเหยียนเบาๆ อยู่ในรถม้าพลางกล่าวเสียงเบา “แม่ทัพเกาดีขึ้นมากแล้ว คุณหนูใหญ่จะได้หายห่วงเสียทีเจ้าค่ะ”
“ใช่” ไป๋ชิงเหยียนรับคำยิ้มๆ “เมื่อพวกจิ่นซิ่วกลับมาเจอแม่ทัพเกาพวกนางต้องดีใจมากแน่ๆ”
“น่าเสียดายที่นายท่านไม่สามารถกลับมาได้แล้ว…” ชุนจือบ่นพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อคิดได้ว่าถ้อยคำนี้อาจทำให้ไป๋ชิงเหยียนเสียใจจึงเปิดม่านออกดูบรรยากาศนอกรถม้าแทน “คุณหนูใหญ่ ดูสิเจ้าคะ อากาศร้อนเพียงนี้ก็ยังมีคนเดินไปเดินมาบนถนนอย่างครึกครื้น นี่ล้วนเป็นเพราะการปกครองของคุณหนูใหญ่นะเจ้าคะ”
“ชุนจือของพวกเราเริ่มรู้จักประจบแล้ว” แม้ไป๋ชิงเหยียนจะกล่าวเช่นนี้ ทว่า นางก็ยังมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้าตามที่ชุนจือบอก
ทันใดนั้นบุรุษซึ่งทำทรงผมเหมือนคนต้าโจว สวมกวานหยกไว้บนศีรษะเดินผ่านรถม้าของไป๋ชิงเหยียนไป ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนกระตุกวูบทันที
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น!
“หยุดรถ!” รอยยิ้มของไป๋ชิงเหยียนหายไปทันที “เว่ยจง!”
เว่ยจงรับคำ เขารีบสั่งให้คนบังคับม้าหยุดม้าลง จากนั้นเดินไปที่หน้าต่างรถม้าของไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่…”
ไป๋ชิงเหยียนแหวกผ้าม่านออกเล็กน้อย จากนั้นกล่าวกับเว่ยจงเสียงเบาหวิว เว่ยจงรับคำ “ขอรับคุณหนูใหญ่!”
ไป๋ชิงเหยียนลดม่านลง รถม้าเคลื่อนตัวอีกครั้ง เว่ยจงมองส่งรถม้าจากไปแล้วจากไปเช่นเดียวกัน
“คุณหนูใหญ่ มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ชุนเถาเห็นสีหน้าของไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนไป แววตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
นางคิดไม่ถึงเลยว่าซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจะบุกมาถึงเมืองหลวงของต้าโจวเช่นนี้
หนานเจียงมีอาฉี อาอวี๋และพวกจิ่นซิ่วอยู่ พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นบุกมาได้แน่นอน แสดงว่าซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นพบแม่น้ำที่ไป๋จิ่นถงเคยค้นพบและเดินทางอ้อมมาจากทางนั้นแน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด จากนั้นกล่าวกับคนบังคับม้าด้านนอก “บังคับม้าไปยังท้ายซอย”
ไม่นานคนบังคับม้าจึงขับมาถึงท้ายซ้อย
“องครักษ์ลับไป๋อยู่ที่ใด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น
ไม่นานไป๋ชิงเหยียนก็เห็นเงาที่นอกหน้าต่าง องครักษ์ลับสามสี่คนคุกเข่าอยู่นอกรถม้า “คุณหนูใหญ่รับสั่งมาได้เลยขอรับ”
“ซิงเฉินไปหนานเจียงแล้ว ตอนนี้ผู้นำคือผู้ใด” ไป๋ชิงเหยียนแหวกม่านรถม้าออกเล็กน้อย
“ข้าเหว่ยซู่ขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนมองเหว่ยซู่พลางกล่าวขึ้น “พาคนครึ่งหนึ่งตามเว่ยกงกงไป หากคนที่เว่ยกงกงจับต่อต้านจงสังหารทิ้งทันที อีกครึ่งหนึ่งไปดูที่สุสานของสามีข้าว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่”
“ขอรับ”
“ส่งคนไปที่จวนหานเฉิงอ๋องบอกให้เขาออกเดินทางไปยังแถบชายทะเลเดี๋ยวนี้! บอกเขาว่าอย่าป้องกันแต่แคว้นตงอี๋เท่านั้น ให้ระวังแคว้นเทียนเฟิ่งที่คิดขึ้นมาบนฝั่งทางทะเลด้วย!”
ไป๋ชิงเหยียนลดม่านลง จากนั้นกล่าวกับคนบังคับม้า “กลับวังเถิด”
รถม้าเคลื่อนตัวอีกครั้ง ชุนเถาและชุนจือนั่งนิ่งอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนอย่างสงบเสงี่ยม ไม่รบกวนความคิดของไป๋ชิงเหยียน
มาถึงเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดรับรู้…ช่างเก่งกาจจริงๆ
ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดแน่น ต้าโจวและต้าเยี่ยนกำลังจะแข่งขันด้วยระบอบการปกครอง ทว่า จักรพรรดิของแคว้นเทียนเฟิ่งกลับมาปรากฏตัวที่เมืองหลวงของต้าโจวเช่นนี้ ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นคิดจะทำสิ่งใดกันแน่
เมื่อไป๋ชิงเหยียนกลับถึงเมืองหลวงจึงให้คนส่งจดหมายไปให้ฉินหล่างที่เมืองหานหนึ่งฉบับ นางส่งแผนที่ที่จิ่นถงเคยมอบให้นางก่อนหน้านี้ไปให้ฉินหล่างเพื่อเตรียมรับมือด้วย จากนั้นเขียนจดหมายบอกน้องชายและน้องสาวที่อยู่หนานเจียงว่าซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเดินทางมาถึงเมืองหลวงของต้าโจวแล้ว ให้พวกเขาเตรียมรับมือให้พร้อม
ขณะที่ไป๋ชิงเหยียนกำลังอ่านฎีกาอยู่ในตำหนักเว่ยจงซึ่งจัดการเรื่องของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเสร็จเรียบร้อยกลับมารายงานไป๋ชิงเหยียนในวังหลวง “ข้าจับตัวซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นและลูกน้องของเขารวมทั้งหมดสิบสามคนขังไว้ในคุกเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทว่า ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นดูไม่ได้ต่อต้านข้าแม้แต่น้อย อีกไม่นานเขาคงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเพื่อขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
สิ้นเสียงของเว่ยจง ขันทีเล็กคนหนึ่งเดินเข้ามารายงานว่าจิ่งจ้าวอิ่นขอเข้าเฝ้าไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย “นี่อย่างไร เขาเปิดเผยฐานะของตัวเองเรียบร้อยแล้ว”
เว่ยจงพยักหน้า “ฝ่าบาทจะให้เข้าเฝ้าหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ให้เข้ามาได้” ไป๋ชิงเหยียนปิดฎีกาลง จากนั้นสั่งให้ชุนเถาหยิบฎีกาฉบับใหม่มาให้นาง
ชุนเถาซึ่งคุกเข่าอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนรีบกางฎีกาฉบับใหม่ให้คุณหนูใหญ่ของตัวเอง จากนั้นนั่งคุกเข่านิ่งอยู่ด้านข้างอย่างสงบเสงี่ยม
จิงจ้าวอิ่นเดินเข้ามาในตำหนัก เขาทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวขึ้น “ฝ่าบาท วันนี้กระหม่อมได้รับคำสั่งจากเว่ยกงกงให้จับคนกลุ่มหนึ่งขังคุก คนผู้นั้นอ้างว่าตัวเองคือจักรพรรดิของแคว้นเทียนเฟิ่ง เคยรู้จักกับฝ่าบาทมาก่อน เขาให้กระหม่อมนำของสิ่งนี้มามอบให้ฝ่าบาท กล่าวว่าเมื่อฝ่าบาททอดพระเนตรจะเข้าพระทัยเอง กระหม่อมจึงบังอาจนำของสิ่งนี้มาถวายฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
จิงจ้าวอิ่นกล่าวจบจึงชูหยกจักจั่นขึ้นเหนือศีรษะ
เว่ยจงเห็นไป๋ชิงเหยียนยังคงก้มหน้าอ่านฎีกาในมืออยู่จึงเดินลงไปรับหยกจักจั่นมาจากจิงจ้าวอิ่นด้วยตัวเอง จากนั้นนำไปมอบให้ไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาท…”
ไป๋ชิงเหยียนเขียนตัวอักษรตัวสุดท้ายลงในฎีกา นางวางฎีกาลงด้านข้าง จากนั้นกวาดสายตามองหยกจักจั่นในมือของเว่ยจงแวบหนึ่งแล้ววางพู่กันในมือลง นางรับหยกจักจั่นจากเว่ยจงมาพิจารณาอย่างละเอียด จากนั้นเอ่ยถามเว่ยจง “ตอนเจ้าส่งคนไปจับพวกเขา พวกเขาเห็นเจ้าอย่างนั้นหรือ”
“บ่าวไม่ได้ปรากฏตัว บ่าวมั่นใจว่าพวกเขาไม่มีทางเห็นหน้าบ่าวพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงรีบกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนนำหยกจักจั่นไปใกล้แสงตะเกียงเพื่อพิจารณาดูลวดลายของตัวหยกอย่างละเอียด หยกจักจั่นชิ้นนี้ใสละเอียดเหมือนหยกจักจั่นที่เซียวหรงเหยี่ยนเคยมอบให้นางไม่มีผิดเพี้ยน
ชุนเถามองเห็นหยกจักจั่นจึงเบิกตาโพลง…
นี่มันหยกจักจั่นของนายท่านเขยไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงไปอยู่ในมือของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นของแคว้นเทียนเฟิ่งได้
นายท่านเขยของพวกนางคืออ๋องเก้าแห่งแคว้นต้าเยี่ยนไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงมีจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนเฟิ่งโผล่ขึ้นมาอีกคนเช่นนี้กัน
ใจของชุนเถาเต็มไปด้วยคำถาม ทว่า เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนกำลังพิจารณาหยกจักจั่นชิ้นนั้นอย่างตั้งใจจึงไม่ได้ถามสิ่งใดออกไป
เมื่อไป๋ชิงเหยียนแน่ใจแล้วว่าหยกจักจั่นชิ้นนี้คือหยกจักจั่นของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจริงๆ จึงเอ่ยถามต่อ “ผู้ที่ให้เจ้านำหยกจักจั่นนี้มามอบให้ข้ายังฝากสิ่งใดมาถึงข้าอีกหรือไม่”
จิงจ้าวอิ่นคือคนฉลาด เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนถามเช่นนี้จึงมั่นใจแล้วว่าคนผู้นั้นคือจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนเฟิ่งจริงๆ “ทูลฝ่าบาท จักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนเฟิ่งต้องการเข้าเฝ้าฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนก้มมองหยกจักจั่นในมือนิ่ง จากนั้นกล่าวกับเว่ยจง “เว่ยจง เจ้าจงตามจิงจ้าวอิ่นไปรับตัวจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนเฟิ่งออกมาจากคุก พาเขาไปพักที่โรงเตี๊ยมสักระยะ ให้คนจับตาดูพวกเขาไว้ให้ดี เมื่อมีความเคลื่อนไหวใดๆ ให้รีบมารายงานข้าทันที”