สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1396 ผิดหวังที่สุด
ตอนที่ 1396 ผิดหวังที่สุด
“หลังจากที่ข้าได้ขึ้นครองราชย์ข้าเอาแต่คิดมาโดยตลอดว่าเหตุใดข้าจึงขึ้นมานั่งบนบัลลังก์นี้ได้ ข้าอยากเป็นจักรพรรดิที่ทรงคุณธรรม ทว่า จักรพรรดิที่ทรงคุณธรรมเป็นเช่นใดกัน”
ไป๋ชิงเหยียนชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว
“ประการแรกต้องทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดีได้!”
หญิงสาวชูนิ้วเพิ่มอีกนิ้ว
“ประการที่สองไม่ทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรม ประการที่สาม ไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเพราะสงคราม ไม่ทำให้พวกเขาต้องพลัดพรากหรือสูญเสียครอบครัว จักรพรรดิที่สามารถสร้างสันติสุขให้ใต้หล้าได้ถึงจะเรียกว่าจักรพรรดิที่ทรงคุณธรรม!”
“การรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งต้องใช้สงครามอย่างเดียวเท่านั้นหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองแม่ทัพทุกคน
“ข้าเป็นคนคิดเรื่องเดิมพันครั้งนี้ขึ้นมาเอง! ข้าอยากเสียสละผลประโยชน์ส่วนน้อยเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า!”
“สิ่งใดคือผลประโยชน์ส่วนน้อยกัน! มันคือแคว้นต้าโจว สิ่งที่พวกเจ้าคิดว่ายิ่งใหญ่ที่สุดคือผลประโยชน์ส่วนน้อยในสายตาของข้า!”
น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนหนักแน่น
“สิ่งใดคือคุณธรรมกัน! มันคือการสร้างใต้หล้าที่สงบสุข ทำให้ชาวบ้านทั่วหล้าอยู่อย่างสงบสุข เหตุใดแคว้นที่ยิ่งใหญ่ต้องทำร้ายชีวิตของผู้อื่นเพื่อแย่งชิงแคว้นของผู้อื่นมาเป็นแคว้นของตัวเองด้วย เหตุใดเราจะใช้วิธีการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองเพื่อรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งอย่างปรองดองไม่ได้กัน พวกเราอยากรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งเพื่อให้ชาวบ้านมีชีวิตที่สุขสบายและสงบสุขไม่ใช่หรือ”
เฉิงหย่วนจื้อหยัดแผ่นหลังขึ้นราวอยากกล่าวสิ่งใดออกมา ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเขา
“ข้ารู้ว่าเจ้าอยากกล่าวสิ่งใด! เจ้ากลัวต้าโจวพ่ายแพ้ หากต้าโจวพ่ายแพ้ก็แสดงว่าระบอบการปกครองของต้าเยี่ยนดีกว่าต้าโจว ต้าโจวของพวกเรายอมแพ้จากใจจริง! เจ้ากลัวว่าหากต้าเยี่ยนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้พวกเขาจะไม่ยอมจำนนต่อพวกเราแต่โดยดี ถึงเวลานั้นเหล่าขุนนางในราชสำนักและทหารอย่างพวกเจ้าจะโทษว่าข้าทำผิดครั้งยิ่งใหญ่ที่นำแคว้นไปเดิมพันจนชาวบ้านและบ้านเมืองเดือดร้อนใช่หรือไม่”
เฉิงหย่วนจื้อถูกไป๋ชิงเหยียนมองออกจึงพยักหน้ารัว
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงกล้าเดิมพันกับต้าเยี่ยน”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเสิ่นเหลียงอวี้และแม่ทัพคนอื่นๆ
“เพราะข้ายังมีแม่ทัพที่กล้าหาญและจงรักภักดีอย่างพวกเจ้าอยู่ข้างกาย ถึงแม้ทำผิดพลาดไปข้าก็ไม่กลัว เฉิงหย่วนจื้อ เสิ่นเหลียงอวี้ หลังจากสงครามที่หนานเจียงในรัชศกเซวียนเจียจบลงทหารกองทัพไป๋ของเราเหลืออยู่ไม่มากแล้ว พวกเจ้าสองคนตามข้าไปทำสงครามที่หุบเขาเวิ่ง พวกเจ้าเป็นคนที่มีความดีความชอบยิ่งใหญ่! แม่ทัพหลิ่วผิงเกาแห่งค่ายทหารอันผิง แม่ทัพหวังจินแห่งค่ายทหารเฟยสยง แม่ทัพหลิวเคยห้ามไม่ให้ข้าออกจากเมืองไปช่วยเหลือเกาอี้จวินในสงครามที่ต้าเหลียง ทว่า พวกเจ้าสองคนนำทัพติดตามข้าออกไปช่วยเหลือคน!”
“ตู้ซานเป่า! แม้เจ้าจะมีความผิดเรื่องที่ทำให้แม่ทัพชราชุยซานจงบุกมาล้อมเมืองเจียงจือ ทว่า เรารู้ดีว่าเจ้าเป็นแม่ทัพที่กล้าหาญและจงรักภักดีของต้าโจว!”
เมื่อหลิ่วผิงเกา หวังจิน ตู้ซานเป่าได้ยินไป๋ชิงเหยียนคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนขอบตาของพวกเขาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“ส่วนพวกเจ้า หลู่หยวนเผิง ซือหม่าผิง! พวกเจ้าคือทหารกล้าและมีความสามารถของต้าโจวที่ข้าคาดหวังไว้สูง”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางแม่ทัพทุกคน
“ต้าโจวมีทหารอย่างพวกเจ้าอยู่ ต่อให้การรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งด้วยสันติวิธีของข้าจะเป็นวิธีที่ผิดก็มิเป็นอันใด ขอเพียงมีพวกเจ้าอยู่ต้าโจวก็ยังสามารถทำสงครามกับต้าเยี่ยนได้ พวกเจ้าคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ข้าไม่กลัวความผิดพลาด ทหารกองทัพต้าโจวและกองทัพไป๋สูญเสียมามากพอแล้ว แม่น้ำจิงเคยนองไปด้วยเลือดของเหล่าทหารไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง! ต่อให้การเดิมพันด้วยแคว้นจะมีความเสี่ยงสูง ทว่า ขอเพียงมีประโยชน์ต่อชาวบ้านและทหารข้าก็อยากจะลองดูสักครั้ง!”
แผ่นหลังที่เคยหลัดตรงของพวกเฉิงหย่วนจื้อค่อยๆ หดลงทีละนิด
“ข้ารู้ดีว่าพวกเจ้าไม่พอใจที่ข้ามอบอำนาจในการควบคุมทหารเรือให้หานเฉิงอ๋องเพราะต้าเหลียงเคยเป็นดินแดนที่พวกเจ้าเอาชนะมาได้ ในสายตาของพวกเจ้าหานเฉิงอ๋องเป็นคนไม่มีความกล้า เป็นองค์ชายของต้าเหลียงที่ออกมายอมจำนนต่อต้าโจวแทนบิดาของตัวเอง พวกเจ้าจึงดูถูกเขา พวกเจ้าคิดว่าเขาไม่คู่ควรที่จะนำทัพไปทำสงคราม!”
ไป๋ชิงเหยียนหยุดสายตาอยู่ที่ร่างของหลิ่วผิงเกา
“ใช่หรือไม่”
หลิ่วผิงเกาคือคนที่ไม่พอใจที่สุดที่ไป๋ชิงเหยียนมอบทหารเรือให้หานเฉิงอ๋อง เขากำหมัดแน่นพลางก้มหน้าต่ำลง
“พวกเจ้าจงจำไว้ว่าต้าเหลียงกลายเป็นดินแดนของต้าโจวแล้ว ชาวบ้านของต้าเหลียงเป็นชาวบ้านของต้าโจวแล้ว เราเป็นคนแต่งตั้งองค์ชายของต้าเหลียงเป็นหานเฉิงอ๋อง เขาคือชาวบ้านและขุนนางของต้าโจวเช่นเดียวกัน!”
ไป๋ชิงเหยียนยืนเอามือไขว้หลังมองไปทางแม่ทัพทุกคน
“นอกจากหานเฉิงอ๋องแล้ว พวกเจ้าในที่นี้มีผู้ใดเคยนำทัพทหารเรือมาก่อนบ้าง พวกเจ้าเคยแต่นำทัพออกรบบนที่ราบ ป่าลึก ผู้ใดรู้จักแคว้นตงอี๋ดีไปกว่าหานเฉิงอ๋องอีก!”
“ใช้อาวุธให้เหมาะสมกับสถานการณ์ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด! พวกเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจกัน!”
ไป๋ชิงเหยียนขึ้นเสียงสูงอย่างควบคุมโทสะไม่อยู่
“ทำสัญญาเรียบร้อย ประกาศราชโองการไปแล้ว ทว่า แม่ทัพอย่างพวกเจ้ากลับออกมาจากค่ายทหารโดยพลการ มารวมตัวกันก่อความวุ่นวาย คิดบุกวังหลวงเพื่อบีบให้ข้ายกเลิกราชโองการ พวกเจ้ามีศีรษะกี่หัวกันถึงกล้าบีบให้สัญญาระหว่างจักรพรรดิของสองแคว้นกลายเป็นของเล่น กล้าบีบให้จักรพรรดิยกเลิกราชโองการเช่นนี้!”
“พวกเจ้าใช้ความตายบีบเรา! หากวันนี้เราไม่ยอมตกลงพวกเจ้าก็จะคุกเข่าต่อไปเช่นนี้! หากพวกเจ้าตายไป…กองทัพไป๋และกองทัพต้าโจวจะผิดหวังในตัวเราหรือไม่ พวกเจ้าจะเอาใจออกห่างจักรพรรดิอย่างเราหรือไม่ หากต้าโจวของพวกเราไม่มีความสามัคคีปรองดอง พวกเราจะเอาชนะศัตรูได้อย่างนั้นหรือ พวกเจ้าเคยคิดถึงเรื่องเหล่านี้บ้างหรือไม่!”
กลุ่มของเฉิงหย่วนจื้อเม้มปากแน่น
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวต่อ
“หากเราอยากเก็บชีวิตของพวกเจ้าไว้และยอมยกเลิกสัญญาที่ทำกับต้าเยี่ยนเท่ากับต้าโจวผิดคำพูดต่อใต้หล้า! หากเราเปลี่ยนแปลงราชโองการยึดอำนาจทางทหารคืนจากหานเฉิงอ๋องเราจะสูญเสียใจของชาวบ้านต้าเหลียงไปทันที! ชาวเมืองต้าเหลียงจะคิดว่าต้าโจวไม่เห็นพวกเขาเป็นชาวบ้านต้าโจว ต้าเหลียงจะเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอน พวกเจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือไม่!”
“กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
“ผิดไปแล้ว พวกเจ้าสำนึกผิดจริงๆ อย่างนั้นหรือ!”
“พวกกระหม่อมไม่ควรมาคุกเข่าที่หน้าวังหลวงเพื่อบีบให้ฝ่าบาทยกเลิกสัญญา ไม่ควรสงสัยการใช้งานคนของฝ่าบาท ไม่ควรใช้ความตายบีบบังคับฝ่าบาท ฝ่าบาทได้โปรดลงโทษพวกกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ซือหม่าผิงตะโกนขึ้นเสียงดัง
คนอื่นๆ รีบยอมรับผิดตามซือหม่าผิงทันที
“หากวันนี้เป็นผู้อื่นมานั่งคุกเข่าอยู่ที่นี่ พวกเขาควรต้องโทษข้อหาก่อความวุ่นวายและคิดเปลี่ยนแปลงราชโองการของจักรรพรรดิแน่นอน! ทว่า พวกเจ้าไม่เหมือนคนอื่น พวกเจ้าคือคนที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้าในสงคราม คือคนที่ข้าเชื่อใจและให้ความสำคัญที่สุด ทว่า พวกเจ้ากลับเชื่อคำยุยงของผู้อื่น คิดใช้ความตายมาบีบบังคับข้าที่นี่เช่นนี้!”
ไป๋ชิงเหยียนมองหน้าทุกคน
“พวกเจ้าลองถามใจตัวเองดูว่ามีครั้งใดที่ข้าไม่เคยไขข้องสงสัยให้พวกเจ้าบ้าง ไม่ว่าพวกเจ้าสงสัยสิ่งใดข้าพร้อมตอบพวกเจ้าอย่างละเอียดทุกครั้ง ข้าไม่ได้ขึ้นมานั่งบัลลังก์แห่งนี้เพื่ออุดปากของพวกเจ้า ไม่ใช่เพื่อข่มเหงรังแกพวกเจ้า ไม่ได้คิดสังหารพวกเจ้าหากพวกเจ้าคิดต่างจากข้า! ข้าแค่ไม่อยากเห็นโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นกับทหารคนใดของต้าโจวอีกแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการให้พวกเจ้าใช้ความตายเพื่อแสดงจุดยืนของตัวเอง พวกเจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากจริงๆ…”
“วันนี้พี่หญิงเดินทางไปยังค่ายทหารเพราะรู้ว่าแม่ทัพทุกคนไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น พี่หญิงอยากไปอธิบายให้พวกเจ้าเข้าใจ ทว่า นึกไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะมาที่ประตูอู่เต๋อเช่นนี้”
ไป๋ชิงอวี๋มองไปทางเสิ่นเหลียงอวี้และเฉิงหย่วนจื้อที่มีสีหน้าสำนึกผิด