สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1421 ต่างได้ประโยชน์
ตอนที่ 1421 ต่างได้ประโยชน์
หลู่เฟิ่งหลางเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของหลิ่วหรูซื่อจึงเอ่ยถามขึ้น “ใต้เท้า ก่อนเดินทางมาที่นี่ฝ่าบาททรงมีรับสั่งอย่างอื่นอีกหรือไม่เจ้าคะ หากเราทำสัญญาพันธมิตรกับตงอี๋ไม่ได้ พวกเราควรทำเช่นไรต่อไปเจ้าคะ ใต้เท้าควรบอกให้พวกเรารับรู้ก่อน พวกเราจะได้เตรียมตัวถูกเจ้าค่ะ”
หลู่เฟิ่งหลางเคารพนับถือไป๋ชิงเหยียนมาก ไป๋ชิงเหยียนคือจักรพรรดินีผู้สถาปนาแคว้นต้าโจวขึ้นมา หญิงสาวทำเรื่องที่ผู้อื่นไม่เคยทำสำเร็จและไม่เคยคิดทำสำเร็จหลายเรื่องภายในระยะเวลาเพียงแค่สองปี หลู่เฟิ่งหลางรู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนมีแผนสำรองรับมือกับเรื่องต่างๆ มาโดยตลอดดังนั้นนางจึงมั่นใจว่าครั้งนี้ไป๋ชิงเหยียนมีแผนการอื่นเช่นเดียวกัน ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางฝากความหวังไว้ที่การเสนอผลประโยชน์และข่มขู่แคว้นตงอี๋เพียงอย่างเดียวแน่นอน
หลิ่วหรูซื่อก้มหน้าจ้องเปลวไฟในตะเกียงตรงหน้านิ่ง…
ไป๋ชิงเหยียนมีงานอื่นให้เขาทำจริงๆ หากแคว้นต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งลงมืออย่างชัดเจน หญิงสาวให้เขาใช้สมบัติและของล้ำค่าที่นำมาในครั้งนี้ช่วยสนับสนุนให้องค์ชายใหญ่ของแคว้นตงอี๋ได้ขึ้นครองราชย์
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว แคว้นต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งกำลังหาทางสนับสนุนให้องค์ชายสองได้ขึ้นครองราชย์อย่างไม่คิดปิดบัง หลิ่วหรูซื่อคงไม่อาจปิดบังเด็กสองคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเขาควรร่วมแรงร่วมใจกันคิดหาวิธีถึงจะถูก
“ตอนนี้แคว้นตงอี๋คงกำลังหวาดกลัวอยู่เหมือนกัน กองทัพไป๋ของต้าโจวเดินทางมาถึงชายฝั่งแล้ว พวกเขาแค่คิดว่าทหารเรือภายใต้การนำของหานเฉิงอ๋องซึ่งเคยเป็นองค์ชายของต้าเหลียงไม่น่าจะสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกับต้าโจวของพวกเราดังนั้นจึงอยากลองหยั่งเชิงดูเท่านั้น” หลิ่วหรูซื่อนั่งคุกเข่าอยู่หน้าโต๊ะ เขากล่าวกับหลู่เฟิ่งหลางและฟ่านอวี้กานอย่างไม่รีบร้อน “ดังนั้นพวกเราจะใช้สมบัติล้ำค่าที่พวกเรานำมาทั้งหมดสนับสนุนให้องค์ชายใหญ่ซึ่งมีความเคารพยำเกรงต้าโจวได้ขึ้นครองราชย์แทน”
หลู่เฟิ่งหลางและฟ่านอวี้กานสบตากันแวบหนึ่ง พวกเขาหยัดกายตรง พยายามรวบรวมสติของตัวเองให้ได้มากที่สุด “พวกเราจะ…แทรกแซงการชิงบัลลังก์ของแคว้นอื่นหรือเจ้าคะ”
“ตอนนี้คงไม่ใช่แค่เรื่องการชิงบัลลังก์แล้ว” หลิ่วหรูซื่อเงยหน้าขึ้นมองไปทางลูกศิษย์ทั้งสองคนด้วยแววตาจริงจัง “หากข้าเดาไม่ผิดจักรพรรดิของตงอี๋คงใกล้ไม่ไหวแล้ว! วันนี้ตอนที่เขาเรียกพวกเราเข้าเฝ้า ข้าสังเกตเห็นในช่วงสุดท้ายว่าเขาแทบทรงตัวไม่อยู่แล้ว ขันทีข้างกายของจักรพรรดิตงอี๋แสร้งทำเป็นนำชาไปให้ ทว่า แท้จริงแล้วเขาเข้าไปช่วยประคองจักรพรรดิตงอี๋ให้ทรงตัวนั่งบนบัลลังก์มังกรได้ต่างหาก! เมื่อประชุมราชการเช้าเสร็จ ขันทีสองคนช่วยประคองเขาออกไปจากตำหนัก แม้จะดูเหมือนเดินด้วยตัวเอง ทว่า แท้จริงแล้วแทบจะเป็นการลากออกไป”
หลิ่วหรูซื่อรู้ดีว่าภาระในการมาแคว้นตงอี๋ในครั้งนี้ของเขาหนักอึ้งดังนั้นเขาจึงสังเกตรายละเอียดทุกอย่างรอบตัว
“ในเมื่อพวกเราจะช่วยให้องค์ชายใหญ่ของตงอี๋ได้ขึ้นครองราชย์ สิ่งแรกที่พวกเราควรทำก็คือการทำข้อตกลงกับองค์ชายใหญ่ก่อน…ไม่ใช่ดันทุรังสนับสนุนเขาขึ้นครองราชย์โดยที่เขาไม่เต็มใจ พวกเราต้องทำข้อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์กับองค์ชายใหญ่เสียก่อน!” หลู่เฟิ่งหลางคือหลานสาวของหลู่ไท่เว่ยนางจึงจับประเด็นสำคัญได้และกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “ใต้เท้าทราบหรือไม่เจ้าคะว่าขุนนางในราชสำนักคนใดอยู่ข้างองค์ชายใหญ่บ้าง ขุนนางใหญ่ข้างกายของจักรพรรดิตงอี๋คือผู้ใด เขาวางตัวเป็นกลางหรือเอนเอียงไปทางองค์ชายองค์ใด ขุนนางที่ควบคุมทหารรักษาพระองค์ของจักรรพรรดิตงอี๋คือผู้ใด พวกเราต้องรู้รายละเอียดทั้งหมดนี่เสียก่อนเพื่อความไม่ประมาทเจ้าค่ะ!”
หากจักรพรรดิตงอี๋ใกล้ไม่ไหวแล้วอย่างที่หลิ่วหรูซื่อกล่าวจริงๆ แคว้นตงอี๋อาจเกิดการกบฏขึ้น พวกนางต้องเตรียมรับมือไว้ก่อน
องค์ชายสองแห่งตงอี๋ที่อยากได้บัลลังก์ล้ำค่านั้นคงเตรียมการสำหรับเรื่องนี้มานานแล้ว ทูตของแคว้นต้าโจวอย่างพวกนางคงลงมือทำสิ่งใดในแคว้นตงอี๋ได้อย่างยากลำบากแน่นอน!
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ พวกเรามีสายลับที่แฝงตัวอยู่ในราชสำนักตงอี๋ พวกเราสามารถลอบติดต่อกับองค์ชายใหญ่ผ่านเขาได้!” น้ำเสียงของหลิ่วหรูซื่อยังคงเรียบนิ่ง “ตอนนี้พวกเราถูกจับตามองอยู่คงทำสิ่งใดไม่ได้มากนัก พวกเราจะลอบติดต่อกับองค์ชายใหญ่อย่างลับๆ ส่วนภายนอก…”
หลิ่วหรูซื่อชะงักคำกล่าว จากนั้นมองไปทางฟ่านอวี้กาน
ฟ่านอวี้กานรีบโค้งกายคำนับหลิ่วหรูซื่อ “ใต้เท้ามีสิ่งใดสามารถสั่งมาได้เลยขอรับ ศิษย์จะทำให้เต็มที่ที่สุดขอรับ!”
ตอนนี้หลู่หยวนเผิงและซือหม่าผิงที่เคยเป็นคุณชายเจ้าสำราญกลุ่มเดียวกับเขาสร้างผลงานในกองทัพได้ด้วยความสามารถของตัวเองแล้ว บิดาของเขายังเป็นเพียงนักโทษ หากเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากใต้เท้าหลิ่ว…เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะกลายเป็นคนเช่นไร
ฟ่านอวี้กานเห็นความสำเร็จของหลู่หยวนเผิงและซือหม่าผิงมาโดยตลอดเขาจึงอยากสร้างผลงานด้วยความสามารถของตัวเองบ้าง เช่นนี้เมื่อพบหน้าสหายที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กเขาจะได้ไม่รู้สึกขายหน้า
“ตอนนี้ต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งต่างอยากสนับสนุนให้องค์ชายสองของตงอี๋ขึ้นครองราชย์ จงใช้ความสามารถของเจ้าเข้าไปตีสนิทองค์ชายสอง ได้ยินว่าองค์ชายสองชอบแอบไปยังหอนางโลม ทว่า ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ ข้ามอบหมายหน้าที่นี้ให้เจ้าก็แล้วกัน”
ความจริงแล้วองค์ชายสองไม่ได้แอบไปที่หอนางโลม เขาไปอย่างเปิดเผย ทว่า ทุกคนไม่กล้านำเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นเท่านั้น
คุณชายเจ้าสำราญอย่างฟ่านอวี้กานถนัดเรื่องเที่ยวเล่นเสเพลอยู่แล้ว ทว่า หลังจากที่ตระกูลฟ่านเกิดเรื่องขึ้นฟ่านอวี้กานได้แต่อ่านตำราเพื่อสอบขุนนาง ไม่ได้ไปสถานที่เหล่านั้นอีกเลย
หลิ่วหรูซื่อยื่นม้วนไม้ไผ่ซึ่งบันทึกความชอบและสถานที่ที่องค์ชายสองชอบไปให้แก่ฟ่านอวี้กาน จากนั้นเอ่ยถาม “มีเรื่องลำบากใจหรือไม่”
ฟ่านอวี้กานส่ายหน้า เขาหยิบม้วนไม้ไผ่ออกมาเปิดดู เขาพบว่าองค์ชายสองไปยังสถานที่เหล่านั้นโดยไม่มีกำหนดที่แน่นอน วันใดอยากไปที่ใดก็ไปที่นั่น
ฟ่านอวี้กานกวาดสายตาอ่านอย่างคร่าวๆ จนจบ เมื่อเห็นช่วงสุดท้ายของบันทึกที่เขียนไว้ว่าองค์ชายสองชอบฟังเสียงพิณเขาตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นเก็บม้วนไม้ไผ่แล้วส่งคืนหลิ่วหรูซื่อด้วยมือทั้งสองข้าง “ใต้เท้าหลิ่วไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ ข้าจะไปตีสนิทกับคุณชายเจ้าสำราญของแคว้นตงอี๋ก่อน หลังจากนั้นค่อยลอบตีสนิทกับองค์ชายสอง วันนี้ข้าจะออกไปเที่ยวเล่นยังที่สถานที่ที่องค์ชายสองชอบไปก่อนเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตขอรับ”
“ดี” หลิ่วหรูซื่อพยักหน้าพลางยื่นมือไปรับม้วนไม้ไผ่มา “พวกเราต้องเตรียมแผนสำรองให้พร้อม ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตีสนิทกับองค์ชายสองให้ได้ พวกเราสามารถเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ต้องการจากองค์ชายสองได้เช่นเดียวกัน ทว่า พวกเราต้องทำอย่างรอบคอบที่สุด ห้ามให้ผู้อื่นรู้เด็ดขาดว่าพวกเรากำลังเหยียบเรือสองแคม!”
หลิ่วหรูซื่อไม่ได้ต้องการเหยียบเรือสองแคมอย่างคนไร้แผนการ วันนี้เขามองออกว่าจักรพรรดิของตงอี๋ใกล้ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ฝ่ายองค์ชายใหญ่และองค์ชายสองคงกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดอย่างไม่มีผู้ใดยอมให้ผู้ใดแน่นอน…
ให้ฟ่านอวี้กานไปตีสนิทกับคุณชายเจ้าสำราญในเมืองหลวงไว้ก่อน หากวันหนึ่งเรื่องที่พวกเขาสนับสนุนทั้งองค์ชายใหญ่และองค์ชายสองหลุดออกไป เขาสามารถโทษได้ว่าเป็นความผิดของฟ่านอวี้กานที่ปิดปากไม่สนิท องค์ชายใหญ่จะคิดว่าองค์ชายสองต้องการยุแยงให้องค์ชายใหญ่ทะเลาะกับต้าโจว ส่วนองค์ชายสองก็จะคิดเช่นเดียวกัน