สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1441 ตัดสินใจแน่วแน่
ตอนที่ 1441 ตัดสินใจแน่วแน่
“ต่งซือถูกล่าวถูกต้อง ฝ่าบาทได้โปรดพิจารณาอีกครั้งด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยปู้จิ้งรีบกล่าว
“ที่จักรพรรดิในอดีตไปออกรบเพราะพวกเขาต้องการให้ใต้หล้ารับรู้ว่าเขาคือคนที่สวรรค์เลือก คือคนที่สวรรค์ปกป้อง คือคนที่มีความสามารถครบทุกด้าน! ทว่า ฝ่าบาททรงเป็นเทพแห่งสงครามของต้าโจวแล้ว ระบอบการปกครองใหม่ของฝ่าบาทเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านอย่างแท้จริง ชาวบ้านทรงสรรเสริญว่าพระองค์คือจักรพรรดิผู้ทรงคุณธรรมแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดของต้าโจว ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องเสด็จไปเองแม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ!”
“พี่หญิง ท่านคือจักรพรรดินีของต้าโจว ท่านจะทิ้งแคว้นไปได้อย่างไรขอรับ” ไป๋ชิงอวี๋กล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “ข้าไม่เห็นด้วยขอรับ”
“นั่นสิขอรับพี่หญิงใหญ่ ข้าไม่เห็นด้วยเหมือนกันขอรับ” ไป๋ชิงฉีกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย
“เช่นนั้น…ข้าจะยังได้ไปหรือไม่เจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อถาม
ไป๋ชิงเจวี๋ยเอื้อมมือเขกศีรษะของไป๋จิ่นจื้อเบาๆ เพื่อสื่อให้น้องสาวหยุดกล่าว จากนั้นหันไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “พี่หญิงใหญ่ ข้าไปกับเสี่ยวซื่อสองคนก็พอแล้วขอรับ แคว้นตงอี๋เป็นเพียงแคว้นเล็กๆ เท่านั้น พี่หญิงใหญ่ควรให้โอกาสข้ากับเสี่ยวซื่อแสดงความสามารถให้สมกับตำแหน่งอ๋องที่ได้รับบ้างขอรับ”
ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวด้วยสีหน้าร้อนรนเช่นกัน “เรื่องสำนักตรวจสอบไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้ามอบให้หลู่ไท่เว่ยจัดการแทนก็ได้เจ้าค่ะ ส่วนวั่งเกอ…เขาต้องเข้าใจว่าแม่ของเขากำลังทำเพื่อต้าโจว ให้ข้าไปเถิดเจ้าค่ะพี่หญิงใหญ่”
ไป๋ชิงเหยียนฟังคำเกลี้ยกล่อมของบรรดาน้องๆ แล้วหยิบป้ายทองขึ้นมาถือไว้ในมือหลวมๆ หญิงสาวนึกถึงถ้อยคำสั่งเสียที่หานเฉิงอ๋องฝากเฉิงหย่วนจื้อมาบอกนางว่าชาติหน้ายินดีเกิดมารับใช้นางอีกครั้งแล้วรู้สึกปวดใจมาก นางเอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า “พี่รู้สึกผิดต่อหานเฉิงอ๋อง”
“กระหม่อมทราบว่าฝ่าบาททรงเจ็บปวดกับการจากไปของหานเฉิงอ๋อง ทว่า ฝ่าบาทคือจักรพรรดินีของต้าโจว ไม่ใช่เด็กสาวเลือดร้อนเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ฝ่าบาทจะตัดสินพระทัยด้วยอารมณ์ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ” หลู่ไท่เว่ยโค้งกายคำนับขอให้ไป๋ชิงเหยียนถอนรับสั่งโดยไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนกล่าวสิ่งใดอีก
หลู่ไท่เว่ยไม่ใช่ลุงของไป๋ชิงเหยียนเหมือนต่งชิงผิง เขามักกลั่นกรองถ้อยคำอย่างดีทุกครั้งก่อนกล่าวออกไป การกล่าวว่าไป๋ชิงเหยียนตัดสินใจด้วยอารมณ์ถือเป็นการบังอาจมากแล้ว
“ข้าไม่ได้ตัดสินใจเดินทางไปทำลายแคว้นตงอี๋ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ” ไป๋ชิงเหยียนวางป้ายคำสั่งทองลงบนโต๊ะ จากนั้นเงยหน้ามองหลู่ไท่เว่ย ต่งซือถู เว่ยปู้จิ้งและบรรดาน้องๆ ของตัวเอง นางกล่าวขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น “หานเฉิงอ๋องคืออ๋องต้าเหลียงที่ยอมจำนนกับต้าโจว ขุนนางและแม่ทัพของต้าโจวอาจดูถูกเขา ทว่า ตอนนั้นหานเฉิงอ๋องยอมจำนนเพราะไม่อยากให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนเพราะสงครามอีกดังนั้นเขาจึงมีความสำคัญและอิทธิพลมากในใจของทหารเรือและชาวบ้านต้าเหลียง”
ขอบตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว “ครั้งนี้หานเฉิงอ๋องสละชีพปกป้องชาวประมงและขุนนางของต้าโจวให้กลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย ทหารเรือทั้งหมดเสียชีวิตลงกลางทะเล! พวกเจ้าคิดว่าชาวบ้านซึ่งเคยเป็นชาวบ้านของต้าเหลียงจะไม่โกรธแค้นอย่างนั้นหรือ! ทหารเรือที่ต้าโจวใช้อยู่ตอนนี้คือทหารเรือเก่าของต้าเหลียงที่ไม่ได้มีใจเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเราตั้งแต่แรก หานเฉิงอ๋องเป็นคนเดินทางไปยังชายฝั่งทะเล หานเฉิงอ๋องใช้ฐานะของเขาควบคุมทหารเรือเหล่านั้น เขาเป็นคนปกป้องชาวบ้านแถบชายทะเล!”
“ตอนนี้ตงอี๋ประกาศกร้าวว่าให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวอย่างข้าเดินทางไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาด้วยตัวเอง พวกเจ้าคิดว่านี่เป็นเพียงคำขู่ของตงอี๋อย่างนั้นหรือ หานเฉิงอ๋องสละชีพปกป้องขุนนางและชาวประมงของต้าโจวเอาไว้ หากข้าไม่เดินทางไปเองเหล่าทหารเรือและชาวบ้านแถบชายฝั่งทะเลจะไม่ผิดหวังในตัวข้าอย่างนั้นหรือ”
หลู่ไท่เว่ยอยากกล่าวสิ่งใดออกมาอีก ทว่า ไป๋ชิงเหยียนยกมือห้ามเขาไว้เสียก่อน นางรู้ดีว่าหลู่ไท่เว่ยต้องการจะกล่าวสิ่งใด
“ข้าไม่ได้อยากให้ทุกคนคิดว่าข้ามีความสามารถรอบด้าน ไม่ได้คิดว่ามีเพียงข้าไปเท่านั้นต้าโจวจึงจะรบชนะ ข้าไปเพราะความจงรักภักดีของหานเฉิงอ๋อง ไปเพราะต้องการซื้อความจงรักภักดีของทหารเรือและชาวบ้านแถบชายทะเลที่กลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวแล้ว ทว่า ยังคิดถึงราชวงศ์ต้าเหลียงอยู่ตลอดเวลา! ให้พวกเขาได้เห็นว่าจักรพรรดินีของต้าโจวเดินทางไปแก้แค้นให้หานเฉิงอ๋องด้วยตัวเอง จักรพรรดินีของต้าโจวเห็นทหารเรือของต้าเหลียงเป็นทหารของต้าโจว เห็นชาวบ้านแถบชายทะเลเป็นชาวบ้านของต้าโจว!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวแต่ละคำออกมาอย่างชัดเจน “โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้หานเฉิงอ๋องเสียชีวิตเพราะปกป้องชาวบ้าน ชาวบ้านและทหารเรือคงกำลังเสียใจมาก ราชสำนักต้าโจวต้องแสดงจุดยืนให้พวกเขาเห็น การที่จักรพรรดินีของต้าโจวเดินทางไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาเองตามคำบอกของตงอี๋คือการแสดงจุดยืนที่ดีที่สุดของราชสำนักต้าโจว”
ไป๋ชิงเหยียนรู้นานแล้วว่าความสามัคคีปรองดองของทุกคนในแคว้นและการได้ใจชาวบ้านคือสิ่งสำคัญที่สุด นางคิดว่าคนเป็นจักรพรรดิไม่ควรอยู่รับภาษีของชาวบ้านแต่ในวังหลวง แต่ควรไปปรากฏตัวในสงครามเพื่อปกป้องชาวบ้านของตัวเอง
เช่นนี้ใจของชาวบ้านจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับต้าโจว เป็นหนึ่งเดียวกับนาง เช่นนั้นคนทั้งแคว้นจึงจะมีใจเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง
ท่านปู่เคยสอนนางว่าหากผู้นำกล้าเสี่ยงอันตรายอยู่ด่านหน้าสุด เหล่าทหารจะยิ่งมีกำลังใจฮึกเหิมเพื่อเอาชนะสงครามให้ได้!
เมื่อไป๋ชิงเหยียนขึ้นนั่งบนบัลลังก์ของจักรพรรดิ นางคิดว่าวิธีการซื้อความจงรักภักดีของทหารและชาวบ้านคือวิธีเดียวกัน ขอเพียงนางไม่เอาแต่เสพสุขอยู่แต่ในวังหลวง ขอเพียงนางเดินทางไปเสี่ยงอันตรายที่สงครามด่านหน้า นางจะได้ใจของชาวบ้านทุกคน!
ไป๋ชิงเหยียนไม่ใช่จักรพรรดิที่จะทำตามแบบแผนของจักรพรรดิที่แล้วมา นางจะสร้างการปกครองในรูปแบบของตัวเองขึ้นมา
“พวกเจ้าคิดว่าเหตุใดข้าจึงต้องการแคว้นต้าเหลียง พวกเราต้องการเมืองของต้าเหลียงอย่างนั้นหรือ เปล่าเลย…พวกเราต้องการชาวบ้านของต้าเหลียง! ชาวบ้านคือรากฐานของแคว้น ใจของชาวบ้านคือสิ่งสำคัญที่สุดเหมือนกับที่ตอนนี้เสิ่นเทียนจือกำลังซื้อใจชาวบ้านของต้าเยี่ยนอยู่!” ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเสียงดัง “ไม่ต้องเถียงกันเรื่องนี้แล้ว ข้าขอมอบหมายงานในราชสำนักให้ฮู่กั๋วอ๋อง เจิ้นกั๋วอ๋อง ฝู่กั๋วอ๋อง ซิ่งกั๋วอ๋อง หลู่ไท่เว่ยและต่งซือถูช่วยกันดูแล”
“พรุ่งนี้เช้าจงกั๋วอ๋องและเกาอี้อ๋อง…” ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดแน่น “ออกเดินทางไปยัง…ตงอี๋พร้อมข้า!”
“ไป๋ชิงเจวี๋ยรับบัญชาขอรับ!”
“ไป๋จิ่นจื้อรับบัญชาเจ้าค่ะ!”
การที่ไป๋ชิงเหยียนจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ทำให้หลู่ไท่เว่ยเตรียมรับมือไม่ทัน “พรุ่งนี้กระชั้นชิดเกินไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ความเร็วของกองทัพคือเรื่องสำคัญ ข้าให้เว่ยจงส่งคนไปถ่ายทอดคำสั่งให้ทหารสามหมื่นนายของค่ายหย่วนผิงเดินทางไปเสริมทัพที่ชายฝั่งแล้ว พวกข้าจะเร่งขี่ม้าเร็วเดินทางออกจากเมืองหลวงไปสมทบกับพวกเขาโดยเร็วที่สุด!” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลู่ไท่เว่ย “หากต้องการกำลังเสริมเพิ่ม ข้าจะส่งคนมาบอก”
ไป๋ชิงเหยียนสั่งคนไปเคลื่อนย้ายทหารค่ายหย่วนผิงก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาในวังหลวงแสดงว่าหญิงสาวตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
“ข้าจะเขียนจดหมายไปสั่งให้จี้ถิงอวี๋ จ้าวหร่านและกองทัพซั่วหยางกลับมายังเมืองหลวงขอรับ!” ไป๋ชิงฉีกล่าว
“สงครามทางทะเลไม่ต้องการพวกเขา” ไป๋ชิงเหยียนหันไปกล่าวกับไป๋ชิงฉี “ให้พวกเขาคุ้มกันด่านที่นั่นให้ดี อย่าปล่อยให้แคว้นเทียนเฟิ่งก่อเรื่องอันใดขึ้นก่อนที่ต้าโจวจะทำลายล้างตงอี๋ดับสูญเด็ดขาด!”
“ขอรับ!” ไป๋ชิงฉีรับคำ
“พวกเจ้าค่อยบอกกับขุนนางในราชสำนักหลังจากข้าเดินทางไปยังตงอี๋แล้ว ควบคุมสถานการณ์ในราชสำนักให้ได้” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลู่ไท่เว่ยและคนอื่นๆ