สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1457 ไร้หัวใจ
ตอนที่ 1457 ไร้หัวใจ
ไป๋ชิงเจวี๋ยขี่ม้าขนาบข้างไป๋ชิงเหยียนพลางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองจินกว่านวันนี้ให้พี่สาวฟังอย่างละเอียดระหว่างเดินทางกลับเมืองจินกว่าน
“ชันสูตรศพแล้วขอรับ คนขายเนื้อผู้นั้นไม่ได้ถูกทรมานในคุกจนตาย เขาดื่มเหล้ามากเกินไป อีกทั้งได้รับบาดเจ็บภายในตอนที่วิ่งหนีคนของทางการจึงทำให้เลือดออกภายในร่างกายมากกว่าเดิม ทว่า เขาไม่ได้แสดงอาการในทันที เมื่อถูกจับขังคุกก็ไม่มีคนสนใจเขา เขาร้องว่าปวดหัว ทว่า ผู้คุมคุกไม่สนใจเขา สุดท้ายจึงเสียชีวิตขอรับ!” ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนรับคำ ขอเพียงไม่ใช่การทรมานก็แล้วไป ทว่า นางไม่รู้ว่าชาวบ้านจะรับได้กับผลชันสูตรเช่นนี้หรือไม่
“ภรรยาของคนขายเนื้อเป็นคนเลือกคนชันสูตรศพด้วยตัวเองเพื่อความยุติธรรม มือชันสูตรศพผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์มาก เขาเป็นคนเที่ยงตรง ไม่คดโกงดังนั้นชาวบ้านจึงเชื่อผลลัพธ์ที่ออกมาเช่นนี้ขอรับ”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
“คนที่เขียนคำร้องให้ภรรยาคนขายเนื้อและสอนให้นางกล่าวเช่นนี้เป็นบัณฑิตสี่คนขอรับ พวกเขามีตำแหน่งบัณฑิตของตัวเอง ทว่า ไม่ได้เข้าร่วมการสอบชุนเหวยครั้งที่ผ่านมา ข้าลองสืบดูแล้วพบว่ามีบัณฑิตในต้าเหลียงมากมายที่ไม่ยอมเข้าร่วมการสอบชุนเหวยครั้งที่ผ่านมาขอรับ บางคนรอดูสถานการณ์ก่อน บางคนยังอยากกอบกู้แคว้นต้าเหลียงคืน บางคนไม่ยอมรับต้าโจว บางคนดูถูกที่จักรพรรดิของต้าโจวเป็นเพียงสตรี พวกเขาคิดว่าบัลลังก์ของต้าโจวไม่มั่นคงจึงไม่อยากเสียเวลาสอบตอนนี้ขอรับ” ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวเสียงมั่นคง “แม้บัณฑิตสี่คนนี้จะไม่ใช่คุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ ทว่า พวกเขามาจากตระกูลบัณฑิต พวกเขากำลังรอดูว่าต้าเหลียงจะกอบกู้แคว้นคืนได้หรือไม่ พวกเขาคิดว่าบัลลังก์ของพี่หญิงใหญ่ไม่มั่นคง ทว่า พวกเขาไม่ได้ติดต่อหรือยุ่งเกี่ยวกับคนของแคว้นตงอี๋ แต่ก็เป็นไปได้ว่ามีคนยุยงให้พวกเขาทำเช่นนี้ข้าจึงสืบเรื่องนี้ต่อขอรับ”
“ข้าสืบต่อจนพบว่าคนที่จงใจยุยงชาวบ้านให้เดือดดาลคือเถ้าแก่โรงสุราแห่งนั้นขอรับ เขาถูกจับขังคุกเช่นเดียวกัน ข้าจับตัวคนของโรงสุราไปทั้งหมด มีสองคนยอมสารภาพความจริงแล้ว ส่วนคนที่เหลือไม่ยอมเปิดปากกล่าวสิ่งใดทั้งสิ้นขอรับ” ไป๋ชิงเจวี๋ยเอ่ยถามไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่จะรอให้ลุงผิงมาถึงแล้วสอบสวนพวกเขาเองหรือจะให้ใช้วิธีรุนแรงเปิดปากพวกเขาดีขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ตอบ นางถามเพียง “เจ้าพบฟ่านอวี้กานที่รักษาตัวอยู่ในเมืองแล้วหรือไม่”
วันนี้ไป๋ชิงเหยียนมีเรื่องต้องจัดการมากมาย สงครามกำลังจะเกิดขึ้นนางต้องจัดการเรื่องหลายเรื่องด้วยตัวเองจึงยังไม่มีเวลาไปสอบถามฟ่านอวี้กานเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในแคว้นตงอี๋
ที่นางเลือกพักในเมืองจินกว่านแทนที่จะพักในค่ายทหารของกองทัพไป๋เพราะนางไม่อยากให้ทหารเรือรู้สึกว่าพวกเขาคือคนนอกจนรู้สึกไม่ดีต่อจักรพรรดินีอย่างนาง สงครามใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ตอนนี้ความสามัคคีรวมใจเป็นหนึ่งของทหารทุกคนคือสิ่งสำคัญที่สุด
อีกเหตุผลคือไป๋ชิงเจวี๋ยรายงานนางตอนพบกันว่าจับสายลับได้แล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดคือไป๋ชิงเหยียนอยากพบหน้าฟ่านอวี้กานที่รักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในเมืองจินกว่านเพื่อสอบถามว่าเกิดสิ่งใดขึ้นที่แคว้นตงอี๋กันแน่
ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงตัดสินใจกลับมาพักในเมืองจินกว่าน
ไป๋ชิงเจวี๋ยไปพบบัณฑิตทั้งสี่คนด้วยตัวเอง ชายหนุ่มรู้สึกว่าบัณฑิตสี่คนนั้นเป็นคนกล้าหาญ ทว่า พวกเขาหยิ่งทะนงและไม่ค่อยเห็นผู้อื่นอยู่ในสายตาไปสักนิด ประกอบกับพวกเขาเป็นคนอารมณ์ร้อนดังนั้นจึงถูกหลอกใช้อย่างง่ายดาย
“พี่หญิงใหญ่ อาเจวี๋ยมีเรื่องอยากขอร้อง อาเจวี๋ยอยากได้ตัวบัณฑิตสี่คนนั่นขอรับ” ใบหน้าของไป๋ชิงเจวี๋ยมีรอยยิ้มอ่อนโยน “เมื่อพี่หญิงใหญ่พบหน้าบัณฑิตทั้งสี่คนแล้ว หากพี่หญิงใหญ่อนุญาต อาเจวี๋ยอยากพาบัณฑิตสี่คนนี้เดินทางกลับเมืองหลวงของต้าโจวพร้อมกับเราด้วยขอรับ วันหน้าพวกเขาจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านคนอื่นอีกขอรับ!”
ไป๋ชิงเจวี๋ยไม่เพียงแต่ไปพบหน้าบัณฑิตทั้งสี่คนเท่านั้น ชายหนุ่มยังเดิมพันกับพวกเขาด้วยว่าจักรพรรดินีต้าโจวจะทำสงครามกับตงอี๋หรือไม่ ไป๋ชิงเจวี๋ยเดิมพันว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะนำทัพออกรบด้วยตัวเอง
ไป๋ชิงเจวี๋ยรับปากพวกเขาว่าหากพวกเขาชนะเดิมพันเขาจะปล่อยตัวพวกเขาไป ทว่า หากบัณฑิตเหล่านั้นแพ้…พวกเขาต้องยอมกลายเป็นคนของไป๋ชิงเจวี๋ย
“ได้ แล้วแต่เจ้า…” ไป๋ชิงเหยียนรับปาก นานๆ ทีไป๋ชิงเจวี๋ยจะเจอคนที่ถูกใจ หากบัณฑิตมีความสามารถเหล่านั้นยอมเข้าร่วมกับไป๋ชิงเจวี๋ย วันหน้าราชสำนักต้าโจวจะมีคนมากความสามารถไว้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
ไป๋ชิงเจวี๋ยเป็นคนที่สุขุมและรอบคอบในบรรดาคุณชายตระกูลไป๋ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงไม่ได้เป็นห่วงน้องชายคนนี้มากนัก
“ตอนนี้ตำแหน่งนายอำเภอของเมืองจินกว่านว่างอยู่ ข้าเลื่อนที่ปรึกษาของนายอำเภอขึ้นมารับหน้าที่นี้ชั่วคราวโดยพละการ เมื่อจบสงครามกับแคว้นตงอี๋ค่อยให้กรมขุนนางส่งคนใหม่มารับตำแหน่งแทน ข้ารู้สึกว่าที่ปรึกษาคนนี้ไม่เลวนัก ได้ยินคนของจวนว่าการกล่าวว่าตอนที่นายอำเภอสั่งให้พวกเขาไปจับตัวชาวบ้านเหล่านั้นมาเพราะกลัวเกิดเรื่องใหญ่ที่ปรึกษาคนนี้พยายามห้ามเขาแล้ว ทว่า ห้ามไม่ได้ขอรับ!”
“อาเจวี๋ย เจ้าและพี่ชายสามของเจ้าสุขุมรอบคอบที่สุดในตระกูลของเราตั้งแต่เล็ก พี่วางใจให้เจ้าจัดการทุกอย่าง!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปยิ้มให้ไป๋ชิงเจวี๋ย
ไป๋ชิงเจวี๋ยพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีก
เขาอยากทำทุกอย่างที่เขาพอทำได้ อย่างน้อยจะได้แบ่งเบาภาระของพี่หญิงใหญ่ได้บ้าง
พวกเขาไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่เรื่องการทำให้แคว้นและจิตใจของชาวบ้านให้มั่นคงแทนพี่หญิงใหญ่ได้ พวกเขาทำได้เพียงช่วยเหลือพี่หญิงใหญ่ในเรื่องอื่นเท่านั้น เมื่อทุกคนในครอบครัวร่วมแรงร่วมใจกันตระกูลไป๋จะได้ดียิ่งขึ้นไป ต้าโจวจะได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ซือหม่าผิงและหลู่หยวนเผิงขี่ม้าขึ้นไปเคียงข้างม้าของไป๋จิ่นจื้อ พวกเขาทำเช่นนี้มาโดยตลอด หลู่หยวนเผิงกับซือหม่าผิงคือคุณชายเจ้าสำราญขึ้นชื่อของเมืองหลวง หลังจากที่ต้าโจวทำลายล้างซีเหลียงได้สำเร็จทุกคนต่างรู้ว่าหลู่หยวนเผิง ซือหม่าผิงและเกาอี้อ๋องคือสหายที่สนิทกันราวพี่น้อง เซี่ยอวี่จั่งและเว่ยจงจึงไม่ได้ขวางคนทั้งคู่
ทว่า ไม่รู้วันนี้ไป๋จิ่นจื้อเป็นอันใดไป ไม่ว่าซือหม่าผิงและหลู่หยวนเผิงจะกล่าววาจาน่าหนวกหูข้างหูของไป๋จิ่นจื้อเพียงใดสาวน้อยก็ไม่ปริปากกล่าวสิ่งใดสักคำ หากพี่หญิงใหญ่และพี่ชายเจ็ดไม่ได้ขี่ม้าช้าถึงเพียงนี้ไป๋จิ่นจื้อคงทะยานม้าหนีไปไกลแล้ว
“เสี่ยวซื่อตระกูลไป๋ เจ้าเป็นอันใดไป ก่อนพี่สาวของข้าเดินทางมาที่นี่เจ้ายังไปส่งนางอยู่เลย ตอนนี้พี่สาวของข้าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหตุใดเจ้าจึงดูไม่เป็นห่วงนางสักนิด!” หลู่หยวนเผิงกล่าวอย่างโมโห “เจ้าช่าง…ไร้หัวใจจริงๆ !”
“เจ้าน่ะสิไร้หัวใจ!” ไป๋จิ่นจื้อเกือบหลุดบอกข่าวของหลู่เฟิ่งหลางกับหลู่หยวนเผิงแล้ว ทว่า เมื่อเห็นท่าทีร้อนใจของหลู่หยวนเผิงนางจึงเงียบปากทันที ในเมื่อหลู่หยวนเผิงว่านางเป็นคนไร้หัวใจ นางก็จะไม่บอกข่าวของหลู่เฟิ่งหลางกับหลู่หยวนเผิง ให้เขาร้อนใจตายไปเลย!
ตอนนี้ต้าโจวหาตัวหลู่เฟิ่งหลางพบแล้ว ทว่า เรือสองลำปะทะกันอย่างรุนแรง ชาวประมงกลัวจะโดนทำโทษเนื่องจากแอบเอาเรือออกไปกลางทะเลโดยพละการ อีกทั้งพวกเขาไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของหลู่เฟิ่งหลางจึงไม่กล้าบอกกับทางการว่าพวกเขาช่วยเหลือคนเอาไว้และไม่กล้าเชิญหมอมารักษาอาการของนาง ตอนนี้หลู่เฟิ่งหลางยังไม่ได้สติ พี่หญิงใหญ่ให้คนพาหลู่เฟิ่งหลางไปรักษาตัวรอหมอหงในเมืองจินกว่านแล้ว เมื่อหมอหงมาถึงหลู่เฟิ่งหลางต้องหายดีได้แน่นอน…