สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1466 ผลลัพธ์
ตอนที่ 1466 ผลลัพธ์
คนของไป๋ชิงเหยียนลอบสืบเรื่องของซื่อหลางกรมการคลังอย่างลับๆ ครอบครัวของคนผู้นี้ไม่ได้ถูกสังหารทั้งครอบครัวเหมือนที่เขาบอกกับหลิ่วหรูซื่อจริงๆ ตอนนี้ครอบครัวของเขายังปลอดภัยดีทุกคน
ไป๋ชิงเจวี๋ยกำชับเขาก่อนออกเดินทางมายังที่นี่แล้วว่าเมื่อมาถึงยังไม่ต้องรีบร้อนไปพบซื่อหลางกรมการคลังผู้นั้น ให้เขาสืบเรื่องในราชสำนักของตงอี๋อย่างละเอียดเสียก่อนว่ามีขุนนางตระกูลใดถูกประหารทั้งตระกูลตอนที่องค์ชายสองก่อกบฏในวังหลวงบ้างหรือไม่ จากนั้นค่อยสืบเรื่องของซื่อหลางกรมการคลังอย่างละเอียด
หากไม่มีครอบครัวขุนนางคนใดถูกประหารทั้งตระกูลตอนที่องค์ชายสองก่อกบฏในวังหลวง อีกทั้งครอบครัวของซื่อหลางกรมการคลังยังปลอดภัยดีทั้งตระกูลก็แสดงว่าซื่อหลางกรมการคลังแปรพรรคเข้าร่วมกับฮองเฮาของตงอี๋จริง ส่วนฮองเฮาก็ยืมมือของซื่อหลางกรมการคลังผู้นี้หลอกใช้ต้าโจวจริง ไป๋ชิงเจวี๋ยให้เขานำเครื่องแทนตัวขององค์ชายเจ็ดไปหาซื่อหลางกรมการคลังผู้นั้น
เมื่อเขาสืบเรื่องทุกอย่างจนกระจ่างชัดแล้วเขาจึงรอให้ถึงช่วงเวลากลางคืน จากนั้นจึงนำจี้อายุยืนขององค์ชายเจ็ดของแคว้นตงอี๋ไปพบซื่อหลางกรมการคลัง แสร้งทำเป็นเชื่อว่าซื่อหลางกรมการคลังยังจงรักภักดีต่อต้าโจวอยู่ ให้ซื่อหลางกรมการคลังหาทางเกลี้ยกล่อมฮองเฮาให้ได้
วันต่อมาฮูหยินของซื่อหลางกรมการคลังจึงเข้าวังไปพบฮองเฮาที่ถูกขังอยู่ในวังหลวง
ฮองเฮาถือเป็นสตรีที่มีความสามารถคนหนึ่ง องค์ชายใหญ่ถูกสังหารไปแล้ว ทว่า ฮองเฮาที่นำราชโองการปลอมยัดใส่ใต้หมอนของอดีตจักรพรรดิของตงอี๋กลับมีชีวิตรอดอยู่จนถึงทุกวันนี้ นอกจากนางจะถูกจับตามองทุกความเคลื่อนไหวแล้ว นางยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติในวังหลวง เพียงแค่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นไทเฮาเท่านั้น
องค์ชายสองได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิแล้ว เขาคิดว่าฮองเฮาไม่ได้เป็นภัยต่อเขาอีกต่อไป ที่สำคัญฮองเฮาคืออาของสตรีที่เขารักมากที่สุด ตอนที่ฮองเฮายังสาวนางเคยเมตตาปกป้องคนรักขององค์ชายสองเอาไว้ดังนั้นองค์ชายสองจึงไม่ได้สังหารฮองเฮาทิ้ง
เมื่อฮองเฮาเปิดถุงเครื่องหอมที่ฮูหยินของซื่อหลางกรมการคลังนำมาให้นางเพื่อช่วยให้นางหลับสบายและเห็นจี้อายุยืนที่อยู่ในนั้น ดวงตาของฮองเฮาไหววูบเล็กน้อย นางนำถุงหอมไปแขวนไว้ที่เอวของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นกล่าวยิ้มๆ
“ฮูหยินมีน้ำใจแล้ว ถุงหอมดูประณีตมาก ฮูหยินคงเย็บมันด้วยตัวเองแน่นอน”
“ฝีมือหม่อมฉันมีเพียงเท่านี้ หวังว่าถุงหอมจะช่วยให้ฮองเฮาหลับสบายขึ้นเพคะ”
ฮูหยินของซื่อหลางกรมการคลังกล่าวกับฮองเฮาเสียงเบาด้วยความอ่อนโยน
“เส้นด้ายที่นำมาเย็บถุงหอมใบนี้ได้มาจากต้าโจว ทว่า น่าเสียดายที่สองแคว้นไม่ได้ค้าขายกันอีกเลยตั้งแต่ที่หานเฉิงอ๋องเสียชีวิตลง ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใดเพคะ ของส่วนใหญ่ที่ตงอี๋ใช้ล้วนมาจากต้าโจวทั้งสิ้น ฮองเฮาคงไม่ทราบว่าเครื่องประทินโฉมที่หม่อมฉันใช้ล้วนเป็นของจากเมืองหลวงของต้าโจวทั้งสิ้น เมื่อก่อนไม่เคยซื้อตุนไว้เพราะคิดว่าสามารถหาซื้อได้เรื่อยๆ ตอนนี้หม่อมฉันใช้เกือบหมดแล้ว หากรู้เช่นนี้คงให้คนไปซื้อตุนไว้แล้วเพคะ”
ฮองเฮาฟังเข้าใจแล้วว่าต้าโจวเป็นคนส่งจี้อายุยืนมาที่นี่ ที่สำคัญคนจากเมืองหลวงของต้าโจวเป็นคนพบตัวองค์ชายเจ็ด คงเป็นคนของตระกูลไป๋ของราชวงศ์ต้าโจวแน่นอน!
ฮองเฮาเริ่มเป็นกังวลขึ้นมา นางไม่รู้ว่าบุตรชายของนางถูกคนของต้าโจวจับได้หรือเดินทางไปมอบตัวกับต้าโจวเอง แม้จะตกอยู่ในกำมือของต้าโจวเหมือนกัน ทว่า สถานการณ์ไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ย่อมไม่เหมือนกัน
“ฝ่าบาททรงเป็นคนกำหนดสถานการณ์ของสองแคว้น ทว่า อีกไม่นานก็คงกลับมาเป็นปกติ ตอนนี้ต้าโจวกำลังเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนอยู่ หากพวกเขาทำพลาดแม้เพียงนิดเดียวเท่ากับเป็นการมอบแคว้นของตัวเองให้แก่ต้าเยี่ยนทันที”
ฮองเฮากล่าวพลางยกชาจิบมาจิบยิ้มๆ ดูเหมือนไม่ใส่ใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย
เมื่อฮูหยินของซื่อหลางกรมการคลังจากไป ฮองเฮายังคงปลูกดอกไม้ของตัวเองอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน เมื่อถึงเวลานอนกลางวันจึงหยิบถุงหอมออกมาเปิดดูอีกครั้ง จากนั้นเทจี้อายุยืนออกมาจากถุงหอม ด้านในมีเศษกระดาษอยู่อีกแผ่น เมื่อกางออกดู…ด้านในเขียนไว้ว่าตอนนี้องค์ชายเจ็ดอยู่ในกำมือของไป๋ชิงเหยียน อีกไม่นานไป๋ชิงเหยียนจะยกทัพบุกมาทำลายแคว้นตงอี๋ ต้าโจวหวังว่าฮองเฮาจะหาทางเปิดประตูเมืองตงอี๋ให้ต้าโจวตอนที่กองทัพของต้าโจวบุกมาถึงแผ่นดินของตงอี๋ หลังจากนั้นต้าโจวจะช่วยสนับสนุนองค์ชายเจ็ดขึ้นครองบัลลังก์ตงอี๋แทน
หากฮองเฮาเปิดประตูเมืองให้กองทัพต้าโจวไม่ได้จนกองทัพต้าโจวเสียหายหรือสูญเสียหนัก ต้าโจวจะทำลายล้างตงอี๋ให้สิ้นซาก
ฮองเฮาอ่านจบจึงหวั่นวิตกขึ้นมาทันที ต้าโจวกำลังเดิมพันกับต้าเยี่ยนอยู่ จักรพรรดินีต้าโจวจะยกทัพมาโจมตีตงอี๋จริงๆ อย่างนั้นหรือ
ทว่า ฮูหยินของซื่อหลางกรมการคลังเป็นคนส่งข่าวนี้ให้นาง ข่าวไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
สำหรับฮองเฮาแล้วนี่คือโอกาส ทว่า ไม่ใช่โอกาสที่ปลอดภัย…
ทว่า นางไม่มีเวลาลังเลหรือคิดทบทวนเพราะบุตรชายที่นางรักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองอยู่ในกำมือของต้าโจว หากนางหาทางเปิดประตูเมืองตงอี๋ให้ต้าโจวตอนต้าโจวมาถึงแผ่นดินตงอี๋ไม่ได้ บางทีบุตรชายของนางอาจจะไม่รอด
ต้าโจวไม่ได้ส่งจี้อายุยืนมาเพื่อแสดงความจริงใจ พวกเขาส่งมาข่มขู่นางต่างหาก!
ฮองเฮาเป็นสตรีที่ใจเย็นและควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเกิดปัญหาร้ายแรงเพียงใดนางก็จะหาทางรอดให้ตัวเองและบุตรชายได้ทุกครั้ง
ทว่า ครั้งนี้นางจนปัญญาแล้วจริงๆ
ที่ก่อนหน้านี้หลู่เฟิ่งหลางมาเสนอแผนการให้นางเพราะต้าโจวคิดว่าไม่ว่าอย่างไรต้าโจวก็จะมีบุตรชายของนางอยู่ในกำมือใช่หรือไม่ ต่อให้นางไม่อยากร่วมมือนางก็ทำสิ่งใดไม่ได้
เมื่อบุตรชายของนางขึ้นครองราชย์เขาต้องกลายเป็นจักรพรรดิหุ่นเชิดของต้าโจวแน่นอน ทว่า มิเป็นอันใด ขอเพียงบุตรชายของนางได้ขึ้นครองราชย์ ถึงเวลานั้นสถานการณ์อาจเปลี่ยนไป สิ่งสำคัญในตอนนี้คือหาทางให้บุตรชายของนางขึ้นครองราชย์ให้ได้เสียก่อน หากขึ้นครองราชย์ไม่ได้ก็ไม่มีทางแก้ไขสิ่งใดได้อีก
ฮองเฮากำหมัดแน่น นางเกิดความหวังขึ้นในใจอีกครั้ง นางเริ่มมีเป้าหมายในชีวิตขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
เรือรบชุดที่สองที่เสิ่นชิงจู๋นำมาที่เมืองจินกว่างมาถึงเร็วกว่าที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เดิมทีทุกคนคิดว่าเรือชุดที่สองคงมาถึงในวันที่สิบ เดือนสิบ ทว่า เรือมาถึงตั้งแต่วันที่แปด เห็นได้ชัดว่าเสิ่นชิงจู๋พยายามเร่งเดินทางอย่างสุดความสามารถเช่นเดียวกัน
ตอนที่เสิ่นชิงจู๋มารายงานตัวกับไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเจวี๋ยเอ่ยถามขึ้น
“ในเมื่อเรือรบมาถึงก่อนกำหนดพวกเราจะออกเดินทางก่อนกำหนดเลยหรือไม่ขอรับพี่หญิงใหญ่ อีกไม่เกินสามวันกองทัพเรือของเราคงเปิดศึกกับทหารเรือของตงอี๋แล้ว เมื่อทหารเรือของตงอี๋ต้านทานไม่ไหวพวกเขาต้องไปขอกำลังเสริมจากตงอี๋มาเพิ่มแน่ขอรับ เมื่อพวกเราออกเดินทางล่วงหน้าพวกเราจะได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย จากนั้นเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด
“ให้แม่ทัพเฉิงเตรียมพร้อม ให้แม่ทัพหลิ่วผิงเกาช่วยขนเสบียงขึ้นไปบนเรือ เราจะออกเดินทางเช้าวันพรุ่งนี้…”
“ขอรับ!”
ไป๋ชิงเจวี๋ยรับคำ จากนั้นเดินไปบอกข่าวดีกับเฉิงหย่วนจื้อด้วยตัวเอง เฉิงหย่วนจื้อคงอยากทำลายแคว้นตงอี๋เต็มที่แล้ว
“ชิงจู๋ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเสิ่นชิงจู๋จบก็หันไปทางไป๋จิ่นจื้อ
“เสี่ยวซื่อ เจ้าให้คนขนยาของท่านหมอหงขึ้นไปเรือที ท่านหมอหงปรุงยาออกมาได้เท่าใดก็นำไปเท่านั้น”
“เจ้าค่ะ!”
เมื่อไป๋จิ่นจื้อได้ยินคำว่าสงครามเลือดในกายจึงพุ่งพล่านขึ้นทันที สาวน้อยวิ่งออกไปด้านนอกอย่างกระปรี้กระเปร่า