สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1480 สหายรัก
ตอนที่ 1480 สหายรัก
“รับบัญชาขอรับ!”
“รับบัญชาขอรับ!”
เสิ่นเหลียงอวี้และเฉิงหย่วนจื้อขี่ม้าพาคนจากไปทำตามคำสั่งทันที
แม่ทัพคุ้มกันเมืองรู้เพียงว่ากองทัพไป๋กำลังบุกโจมตีเมืองกวาตู้ เขาสั่งคนไปรายงานเรื่องนี้ให้คนทางเมืองหลวงทราบแล้ว ทว่า เขานึกไม่ถึงเลยว่ากองทัพไป๋จะบุกโจมตีเมืองหลิ่วกวนด้วยเช่นนี้
ตอนนี้เมืองกวาตู้ที่ไม่ได้กำลังเสริมจากเมืองหลิ่วกวนเสียทีถูกไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋จิ่นจื้อยึดครองได้สำเร็จแล้ว
เมื่อจับเป็นแม่ทัพคุ้มกันเมืองและขุนนางในเมืองกวาตู้ได้สำเร็จไป๋จิ่นจื้อรู้สึกไม่สบอารมณ์มาก หลู่หยวนเผิงที่ขี่ม้าอยู่ข้างไป๋จิ่นจื้อก็ไม่พอใจเช่นเดียวกัน เขาหันไปทางซือหม่าผิง
“เหตุใดตงอี๋จึงกล้าเหิมเกริมกับต้าโจวถึงเพียงนี้กัน เป็นเพราะความหน้าหนาและหน้าไม่อายของพวกนั้นอย่างนั้นหรือ ฝีมือแย่ขนาดนี้ยังกล้ายั่วยุต้าโจวอีก สมองของจักรพรรดิตงอี๋มีแต่น้ำหรืออย่างไรกัน!”
หลู่หยวนเผิงเตรียมตัวสำหรับสงครามวันนี้มานานมาก เขาอยากแก้แค้นให้พี่สาวและหานเฉิงอ๋องด้วยตัวเองจึงพยายามรวบรวมสติและกำลังใจอย่างเต็มที่ ทว่า เมื่อทหารตงอี๋เห็นธงประจำของทัพไป๋พวกเขากลับหวาดกลัวจนเกิดความวุ่นวายภายในกันเองเสียก่อน ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนยามที่เขาเตรียมไปออกล่าสัตว์ ทว่า สัตว์กลับกระโดดลงมาในย่ามของเขาเอง เขาไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกในตอนนี้เช่นไรจริงๆ
หลู่หยวนเผิงกล่าวถ้อยคำที่ไป๋จิ่นจื้อคิดไว้ออกมาพอดี ไป๋จิ่นจื้อขมวดคิ้วแน่น จากนั้นกล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“หานเฉิงอ๋องเสียชีวิตด้วยน้ำมือแคว้นเล็กเช่นนี้อย่างนั้นหรือ! มิน่าพี่หญิงใหญ่จึงรับไม่ได้เช่นนี้”
“แคว้นตงอี๋ไม่ได้โง่”
ซือหม่าผิงยืนเอามือไขว้หลังพลางกล่าวกับคนทั้งสอง
“แคว้นตงอี๋ติดทะเลทั้งสี่ด้าน ดังนั้นทหารเรือจึงเป็นทหารที่แข็งแกร่งที่สุดของตงอี๋ ทหารบกของพวกเขาย่อมอ่อนแอกว่าเป็นธรรมดา! ตอนนี้ต้าโจวกำลังเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยน หากแพ้เดิมพันจักรพรรดินีต้าโจวต้องยกแคว้นให้ต้าเยี่ยนดังนั้นจักรพรรดิตงอี๋จึงคิดว่าจักรพรรดินีของพวกเราไม่มีทางเปิดศึกกับตงอี๋เพราะถูกยั่วยุอย่างแน่นอน เขาจึงได้ทำตัวเหิมเกริมเช่นนี้”
ไป๋จิ่นจื้อชะงักฝีเท้ามองไปทางซือหม่าผิง นางเคยได้ยินพี่ชาย พี่หญิงรองและพี่หญิงใหญ่กล่าวเช่นนี้เหมือนกัน
พี่หญิงใหญ่กล่าวว่าหากครั้งนี้ต้าโจวไม่ทำลายตงอี๋ให้สิ้นซากตงอี๋ต้องหาทางตักตวงผลประโยชน์จากต้าโจวไม่สิ้นสุดแน่นอน ขณะเดียวกันเขาจะพยายามหาทางขัดขวางไม่ให้ต้าโจวชนะเดิมพันกับต้าเยี่ยนเพราะตงอี๋กลัวว่าหากต้าโจวชนะเดิมพันต้าโจวจะหันมาจัดการแคว้นเล็กอย่างตงอี๋
ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางซือหม่าผิงด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“ใช้ได้นี่ซือหม่าผิง พี่สาวและพี่ชายของข้าล้วนกล่าวเช่นนี้! ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนฉลาด ทว่า ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจ้าจะฉลาดเทียบเท่าพวกพี่ๆ ของข้าเช่นนี้!”
ซือหม่าผิงตะลึงไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำชมจากไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นยกยิ้มมุมปากขึ้นพลางใช้มือลูบศีรษะของไป๋จิ่นจื้อเบาๆ ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปสบตากับไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นกล่าวขึ้น
“คนตระกูลไป๋ล้วนโดดเด่นมีความสามารถ เหตุใดเกาอี้อ๋องจึงไม่ฉลาดเหมือนฝ่าบาทเลยสักนิด”
ไป๋จิ่นจื้อถลึงตาใส่ซือหม่าผิง
“ซือหม่าผิง เจ้ามันปากร้าย! ชาตินี้เจ้าไม่มีทางหาภรรยาได้แน่ๆ เจ้าต้องอยู่กับหลู่หยวนเผิงไปตลอดชีวิต!”
“เกี่ยวอันใดกับข้ากัน! ข้ายังอยากแต่งงานอยู่นะ!”
ใบหูของหลู่หยวนเผิงเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย
“ผู้ใดอยากอยู่กับซือหม่าผิงไปตลอดชีวิตกัน”
ไป๋จิ่นจื้อจับผมม้าของตัวเองให้เข้าที่ จากนั้นชี้ไปทางซือหม่าผิงและหลู่หยวนเผิงอย่างข่มขู่
“หากพวกเจ้าคนใดกล้าแตะต้องหัวของข้าอีก ข้าจะลงโทษพวกเจ้าโทษฐานลบหลู่เบื้องสูง!”
ไป๋จิ่นจื้อกล่าวจบก็ถือดาบเดินจากไปทันที ระหว่างทางยังเอาแต่พึมพำด้วยความโมโห
“พี่หญิงใหญ่บอกว่านายสองคนนั่นมีใจให้ข้า ข้าว่ามีใจเป็นศัตรูล่ะสิไม่ว่า! สองคนนั้นอยู่ด้วยกันไปเถิด อย่าไปทำร้ายสตรีคนอื่นเลย!”
ซือหม่าผิงเห็นท่าทีโมโหของไป๋จิ่นจื้อจึงหลุดยิ้มออกมาอย่างคุมไม่อยู่
“เหตุใดเจ้าต้องยั่วโมโหนางด้วย”
หลู่หยวนเผิงขมวดคิ้วยุ่ง จากนั้นก้มมองมือที่เปื้อนเลือดของตัวเอง
“ข้าชอบลูบศีรษะนาง ที่นี่อดลูบแล้ว!”
ซือหม่าผิงใช้มือคล้องคอหลู่หยวนเผิงพลางรั้งร่างของเขามาใกล้ จากนั้นกล่าวอย่างสบายอารมณ์
“หากเจ้าชอบเกาอี้อ๋องก็ไม่ต้องกลัวว่าผู้อื่นจะหาว่าเจ้าเป็นหนูตกถึงข้าวสารหรอก เจ้ารีบกลับไปบอกให้ท่านปู่ของเจ้าไปสู่ขอนางเสีย เสี่ยวซื่องดงามขึ้นเรื่อยๆ เจ้าไม่กลัวมีคนแย่งนางไปจากเจ้าอย่างนั้นหรือ”
ใบหูของหลู่หยวนเผิงแดงก่ำ ทั้งๆ ที่คิดตามคำของซือหม่าผิง ทว่า ปากยังคงแข็งเช่นเคย
“เป็นไปไม่ได้ เสี่ยวซื่อเป็นสตรีตัวปลอม นอกจากข้าชอบแล้ว…”
หลู่หยวนเผิงตระหนักได้ว่าตัวเองเผลอหลุดปากใบหน้าจึงแดงก่ำขึ้นทันที เขารีบชี้ไปทางซือหม่าผิง
“พวกเราเป็นสหายสนิทกัน เจ้าห้ามกล่าวเรื่องนี้ออกไปเด็ดขาดนะ!”
“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าก็ชอบเสี่ยวซื่อเหมือนกัน ข้าจะกล่าวออกไปได้อย่างไร กลับไปข้าจะขอร้องให้เซียงเสียจวิ้นจู่ญาติผู้น้องของข้าไปสู่ขอเสี่ยวซื่อให้ ข้าไม่กลัวผู้อื่นจะมองว่าข้าตกถังข้าวสาร ตอนนี้ตระกูลซือหม่าไม่ได้มีหน้ามีตาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ต่อให้ข้าไปเป็นสามีของอ๋อง…”
ซือหม่าผิงแสร้งกล่าวเรื่องอนาคตกกับหลู่หยวนเผิง
“ไม่แน่ตระกูลซือหม่าของข้าอาจกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งก็ได้!”
“เจ้านี่!” หลู่หยวนเผิงผลักร่างของซือหม่าผิงออก เขากำดาบที่เอวแน่นพลางกล่าวออกมาเสียงจริงจัง “ชักดาบออกมา!”
ซือหม่าผิงจับดาบแน่น จากนั้นยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“อยากสู้กับข้าเพื่อตัดสินว่าผู้ใดจะได้เป็นคนขอเสี่ยวซื่อแต่งงานอย่างนั้นหรือ”
“หากเจ้าอยากแต่งงานกับเสี่ยวซื่อก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน…”
หลู่หยวนเผิงแสร้งทำหน้าจริงจัง
“ผู้ใดก็ห้ามคิดไม่ซื่อกับเสี่ยวซื่อทั้งนั้น!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของซือหม่าผิงยังอยู่ ทว่า แววตาของเขาขรึมลงเล็กน้อย ชายหนุ่มชักดาบออกมา จากนั้นตวัดใส่หลู่หยวนเผิงอย่างรวดเร็ว ปรอยผมของหลู่หยวนเผิงหล่นลงบนพื้น
เมื่อหลู่หยวนเผิงเห็นดาบที่จ่ออยู่ที่ลำคอของตัวเองของซือหม่าผิงเริ่มมีเลือดซึมจึงเบิกตาโพลง แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชมและอิจฉา จากนั้นหัวเราะออกมาอย่างไม่คิดสิ่งใดมาก
“ซือหม่าผิง เจ้าเก่งกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน ข้ายังไม่ทันเห็นว่าเจ้าชักดาบออกมาเช่นไรดาบของงเจ้าก็จ่ออยู่ที่คอของข้าเสียแล้ว!”
หลู่หยวนเผิงชกหมัดไปที่หน้าอกของซือหม่าผิง
“ฝีมือระดับเจ้า ตระกูลซือหม่าต้องยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้งแน่นอน!”
หลู่หยวนเผิงเก็บดาบลง จากนั้นเอามือไปคล้องคอซือหม่าผิงพลางกล่าวเสียงเบา
“ท่านปู่บอกกับข้าว่าพี่สาวไป๋ให้ความสำคัญกับเจ้ามาก!”
ซือหม่าผิงเห็นรอยยิ้มที่ใสซื่อและบริสุทธิ์ของหลู่หยวนเผิงจึงเอื้อมมือผลักเขาออก เขาข่มไอสังหารในร่างลง เก็บดาบ จากนั้นเดินกอดอกไปด้านหน้า
“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่เห็นความสำคัญของข้า นางจะเห็นความสำคัญของตัวก่อปัญหาอย่างเจ้าอย่างนั้นหรือ!”
หลู่หยวนเผิงหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นวิ่งตามไปกอดคอซือหม่าผิงอีกครั้ง
“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนช่วยสะสางปัญหาให้ข้าทุกครั้งที่ข้าก่อเรื่อง สหายรักของข้า!”