สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1497 สวามิภักดิ์เป็นรัฐบรรณาการ
ตอนที่ 1497 สวามิภักดิ์เป็นรัฐบรรณาการ
ภายในตำหนักใหญ่ คนของตงอี๋นำสัญญาพันธมิตรกับต้าเยี่ยนที่ฮองเฮาและองค์ชายเจ็ดปรึกษากันก่อนหน้านี้ให้ไป๋ชิงเหยียนอ่านก่อน จากนั้นจึงนำไปมอบให้ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน
เซียวหรงเหยี่ยนมองดูสัญญาพันธมิตรครู่ใหญ่ จากนั้นจึงเอื้อมมือไปรับมาถือไว้ ชายหนุ่มหัวเราะออกมาก่อนที่จะเปิดอ่านสัญญาฉบับนี้ จากนั้นกล่าวขึ้น “ฮองเฮาและองค์ชายเจ็ดทรงรู้จักบุญคุณคนเสียจริง ต้าโจวสนับสนุนให้องค์ชายเจ็ดขึ้นครองราชย์ ตงอี๋ถึงกับมอบสัญญาพันธมิตรระหว่างต้าเยี่ยนและตงอี๋ให้ต้าโจวดูเลยหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนคลี่ยิ้มออกมา “ผู้สำเร็จราชการคิดมากไปแล้ว ฮองเฮากับองค์ชายเจ็ดร่างสัญญาพันธมิตรกับต้าเยี่ยนเสร็จตั้งแต่ก่อนที่ผู้สำเร็จราชการจะมาถึงแล้ว เราบังเอิญเห็นเข้าคิดว่าพวกเขาแบ่งผลประโยชน์ให้ต้าเยี่ยนน้อยไปหน่อยจึงให้พวกเขาแก้ไขใหม่ ทว่า หากเพิ่มแล้วตงอี๋ต้องชดเชยให้ต้าโจวตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ตงอี๋กลัวว่าจะเกิดปัญหาจนชาวบ้านแคว้นตงอี๋พลอยเดือดร้อนไปด้วย ชาวบ้านเหล่านั้นล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน “ผู้สำเร็จราชการน่าจะรู้ดีว่าเราทนเห็นชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้ ดังนั้นทั้งๆ ที่ตอนแรกสามารถตัดสินผลแพ้ชนะกับต้าเยี่ยนได้อย่างง่ายดาย ทว่า เรากลับเลือกที่จะเดิมพันแคว้นแทน! ครั้งนี้เราจะลดค่าชดเชยที่ตงอี๋ต้องจ่ายให้ต้าโจวเพื่อที่พวกเขาจะได้เพิ่มผลประโยชน์ให้ต้าเยี่ยนมากขึ้น ฮองเฮาและองค์ชายเจ็ดจึงให้เราดูสัญญาอีกรอบ”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง กระหม่อมเข้าใจจักรพรรดินีต้าโจวผิดไปแล้ว!” เซียวหรงเหยี่ยนก้มศีรษะให้ไป๋ชิงเหยียนเล็กน้อย
“ต้าเยี่ยนยกทัพมาที่นี่เพื่อเป็นกำลังหนุนให้ต้าโจว ต้าโจวจะปล่อยให้ต้าเยี่ยนมาเสียเที่ยวได้อย่างไรกัน” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มกว้างกว่าเดิม
เซียวหรงเหยี่ยนเข้าใจความหมายที่ไป๋ชิงเหยียนต้องการสื่อ หญิงสาวต้องการจะสื่อว่าตอนนี้ตงอี๋อยู่ในการควบคุมของต้าโจว ต้าเยี่ยนควรรู้จักพอ
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวถ้อยคำเหล่านี้กับขุนนางของตงอี๋ตอนอ่านสัญญาพันธมิตรระหว่างตงอี๋กับต้าเยี่ยนแล้ว การที่ต้าโจวยินดีสละผลประโยชน์ของตัวเองให้ต้าเยี่ยนก็เท่ากับต้าโจวจะปกป้องตงอี๋จากต้าเยี่ยน เหล่าขุนนางของตงอี๋จะไม่ดีใจได้อย่างไรกัน
พวกเขาดีใจจนลืมเรื่องที่ต้าโจวยกทัพบุกมาโจมตีตงอี๋ไปเสียสนิท ไม่ว่าอย่างไรองค์ชายสองก็เป็นคนเริ่มก่อน เขาสังหารหานเฉิงอ๋องของต้าโจวและประกาศกร้าวว่าจะโยนร่างของหานเฉิงอ๋องให้สุนัขกินหากจักรพรรดินีต้าโจวไม่เดินทางมารับร่างของหานเฉิงอ๋องด้วยตัวเอง
ตอนนี้จักรพรรดินีต้าโจวส่งองค์ชายเจ็ดกลับมาให้พวกเขา อีกทั้งยอมสละผลประโยชน์ของต้าโจวให้ต้าเยี่ยนก็ถือว่ามากพอแล้ว
ฮองเฮาของตงอี๋กำผ้าเช็ดหน้าในมือที่วางอยู่บนหน้าตักแน่น
เซียวหรงเหยี่ยนคลี่สัญญาออกอ่าน แม้ค่าชดเชยจะไม่มาก ทว่า ถือว่าพอสมเหตุสมผลอยู่
“ในเมื่อจักรพรรดินีต้าโจวทรงทอดพระเนตรแล้วย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวยิ้มๆ เขาหันไปสั่งให้เยว่สือนำสัญญาพันธมิตรที่ตนเขียนขึ้นไปให้ฮองเฮาและองค์ชายเจ็ดของตงอี๋ดู “นี่คือสัญญาพันธมิตรที่ข้าเขียนขึ้นมา เมื่อองค์ชายเจ็ดขึ้นครองราชย์และลงนามในสัญญาเรียบร้อย ต้าเยี่ยนจะยกทัพกลับต้าเยี่ยนทันที”
“ให้สวามิภักดิ์ต่อต้าเยี่ยนและให้ทหารต้าเยี่ยนมาตั้งค่ายทหารในตงอี๋อย่างนั้นหรือ” ฮองเฮาเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนอย่างไม่อยากเชื่อ
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย เซียวหรงเหยี่ยนเขียนสัญญาฉบับนี้ขึ้นใหม่หลังจากที่เขาเดาได้ว่าไป๋ชิงเหยียนอาจสลับตัวองค์ชายเจ็ดของแคว้นตงอี๋ให้คนของตัวเองขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิตงอี๋แทน
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ต้องการให้ตงอี๋ยอมสวามิภักดิ์เป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยนจริงๆ ทว่า ตงอี๋ต้องยอมให้ทหารของต้าเยี่ยนตั้งค่ายทหารอยู่ในตงอี๋ เช่นนี้ต้าเยี่ยนจึงจะมีโอกาสควบคุมตงอี๋ได้บ้าง
เซียวหรงเหยี่ยนเสนอเรื่องการสวามิภักดิ์เพื่อที่จะได้มีเรื่องต่อรองกับตงอี๋ ให้ตงอี๋ยอมรับเรื่องการตั้งค่ายทหารของต้าเยี่ยนเท่านั้น
“จะทำเช่นนี้ได้อย่างไร! พวกเราสวามิภักดิ์ต่อต้าโจวแล้ว”
“นั่นน่ะสิ มีแคว้นใดเคยสวามิภักดิ์กับสองแคว้นบ้าง”
ขุนนางของตงอี๋พากันวิพากษ์วิจารณ์ คนต้าเยี่ยนที่รู้ภาษาตงอี๋ใช้มือป้องปากเตรียมรายงานให้เซียวหรงเหยี่ยนฟัง ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนยกมือห้ามไว้เสียก่อน คนผู้นั้นจึงถอยไปยืนอยู่ข้างเยว่สือ
“ข้าไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ต้าโจวปฏิบัติต่อตงอี๋เป็นอย่างดี ทว่า ทหารเรือของตงอี๋กลับทำให้หานเฉิงอ๋องและทหารเรือจำนวนมากของต้าโจวต้องเสียชีวิต ต้าเยี่ยนของพวกเราสู้ต้าโจวไม่ได้ ทว่า กองทัพใหญ่ทั้งแคว้นของต้าเยี่ยนยังสามารถทำลายล้างแคว้นตงอี๋ได้อยู่!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวออกมาเป็นภาษาตงอี๋ ทุกคนคาดไม่ถึง “ต้าเยี่ยนของพวกเราก็เป็นห่วงชีวิตของทหารเช่นเดียวกัน ต้าโจวเคยประสบชะตากรรมเช่นนั้นมาก่อน ต้าเยี่ยนจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน”
“นั่นคือเรื่องที่องค์ชายสองของตงอี๋ก่อไว้! ตอนนี้เขาถูกประหารไปแล้ว องค์ชายเจ็ดของข้าจะขึ้นครองราชย์แทน ต้าเยี่ยนเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ช่างเกินไปจริงๆ ตงอี๋สวามิภักดิ์ต่อต้าโจวแล้ว จะไม่มีทางสวามิภักดิ์ต่อต้าเยี่ยนอีกเด็ดขาด เป็นไปไม่ได้!” ขุนนางตงอี๋กล่าวขึ้นเสียงดังลั่นด้วยความโมโห
“จักรพรรดิองค์ใหม่ของตงอี๋ทรงมีความเห็นเช่นไร” เซียวหรงเหยี่ยนหันไปมององค์ชายเจ็ดที่สวมหน้ากากนั่งอยู่บนบัลลังก์เหนือฮองเฮา พลางเปลี่ยนคำเรียกเขา
ท่าป๋าเย่าหันไปมองเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ “ตงอี๋สวามิภักดิ์ต่อต้าโจวแล้วย่อมได้รับความคุ้มครองจากต้าโจว จักรพรรดินีต้าโจวคงไม่มีทางเห็นด้วยกับข้อเสนอไร้เหตุผลของผู้สำเร็จราชการ ที่สำคัญตอนนี้ต้าเยี่ยนกำลังเดิมพันแคว้นกับต้าโจวอยู่ ไม่ว่าตงอี๋จะสวามิภักดิ์ต่อต้าเยี่ยนหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ อีกสามปีหลังจากนี้ตงอี๋ก็จะสวามิภักดิ์ต่อแคว้นที่ชนะเดิมพันอยู่ดี”
ท่าป๋าเย่าละสายตาจากร่างของเซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางเหล่าขุนนางที่ยืนอยู่กลางท้องพระโรง จากนั้นกล่าวต่อ “ไม่ว่าอย่างไรแคว้นตงอี๋ก็เป็นเพียงแคว้นบรรณาการอยู่ดี ทว่า ตงอี๋จะเป็นแคว้นบรรณาการของแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุด!”
คำกล่าวของท่าป๋าเย่าทำให้คนฟังฟังไม่ออกว่าเขาอยากให้ต้าโจวหรือต้าเยี่ยนชนะการเดิมพันกันแน่ ทว่า เป็นคำกล่าวที่สมเหตุสมผลและแฝงไปด้วยคำยุยงให้ต้าเยี่ยนและต้าโจวแตกคอกันเอง ขุนนางตงอี๋ฟังแล้วรู้สึกสบายใจมาก นึกไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดิองค์น้อยของพวกเขาจะไม่ใช่คนอ่อนแออย่างที่พวกเขาคิดไว้
ขุนนางของตงอี๋มองไปทางจักรพรรดิองค์ใหม่ของพวกเขาที่นั่งอยู่ใกล้ไป๋ชิงเหยียนราวกับว่ากำลังเห็นความหวังครั้งใหม่
องค์ชายเจ็ดของพวกเขาเหมาะสมที่จะเป็นจักรพรรดิยิ่งกว่าที่พวกเขาคิดไว้เสียอีก!
“ใช่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรตงอี๋ก็เป็นเพียงแคว้นบรรณาการเท่านั้น ทว่า ต่อให้เป็นเช่นนั้นพวกเราก็จะเป็นรัฐบรรณาการของแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุด! หากผู้สำเร็จราชการอยากได้แคว้นตงอี๋เป็นรัฐบรรณาการก็จงชนะการเดิมพันในอีกสามปีนี้ด้วย ถึงเวลานั้นพวกเราจะยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยนด้วยความเต็มใจ!”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ต้าโจวคือแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุดดังนั้นพวกเราจึงเลือกสวามิภักดิ์ต่อต้าโจว ทว่า ต้าเยี่ยนแข็งแกร่งหรืออ่อนแอคงต้องรอดูกันในอีกสามปีให้หลัง”
ฮองเฮาของตงอี๋ก้มศีรษะให้เซียวหรงเหยี่ยนเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม จากนั้นถามขึ้น “ผู้สำเร็จราชการได้ยินคำของจักรพรรดิตงอี๋และขุนนางของตงอี๋แล้วใช่หรือไม่”
เซียวหรงเหยี่ยนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล ข้าคิดตามคำของจักรพรรดิตงอี๋และขุนนางดูแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล”
ไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่กลางตำหนักเปลี่ยนท่านั่งเล็กน้อยพลางมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน…