สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1500 กังวลจนว้าวุ่นใจ
คืนนั้นฮองเฮาของตงอี๋แอบส่งคนไปพบผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนที่นอกวังโดยใช้เส้นทางลับของวังหลวง แม้ตอนนี้ฮองเฮาตงอี๋จะตัดสินใจได้แล้ว ทว่า นางยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี นางเดินไปมาอย่างกระสับกระส่ายอยู่ในตำหนักด้วยความว้าวุ่นใจ
วันนี้ขุนนางในราชสำนักตงอี๋ถกเถียงกันอย่างรุนแรง บางคนคิดว่าควรให้ทหารของต้าเยี่ยนมาตั้งค่ายทหารในแคว้นตงอี๋ เช่นนี้ต้าเยี่ยนจะได้คานอำนาจของต้าโจวได้ ตงอี๋จึงจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
มิเช่นนั้นหากปล่อยให้ต้าโจวเป็นใหญ่ในแคว้นตงอี๋อยู่ฝ่ายเดียว ตงอี๋ก็จะตกอยู่ในการควบคุมของต้าโจวฝ่ายเดียว ตอนนี้ต้าเยี่ยนกับต้าโจวกำลังเดิมพันระหว่างแคว้นกัน สองแคว้นต้องหาทางทำให้ตงอี๋สร้างปัญหาให้อีกแคว้นเพื่อที่แคว้นตัวเองจะรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายหลังแน่นอน
ขุนนางบางคนกล่าวว่าต้าเยี่ยนเคยแทงข้างหลังแคว้นพันธมิตรมาก่อน แม้ผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนจะกล่าวว่าหากต้าโจวแพ้เดิมพันต้าโจวอาจถอยหนีมาที่ตงอี๋ ทว่า หากต้าเยี่ยนเป็นฝ่ายแพ้เดิมพันเอง ต้าเยี่ยนก็อาจจะทำให้ตงอี๋กลายเป็นทางรอดของพวกเขาเช่นเดียวกัน ตอนนี้ต้าโจวแข็งแกร่งกว่าต้าเยี่ยน โอกาสที่ต้าโจวจะชนะมีมากกว่า
ฮองเฮาตงอี๋สับสนมาก นางคิดถึงบุตรชายของตัวเอง ขณะเดียวกันก็นึกถึงแคว้นตงอี๋ทั้งแคว้นเช่นเดียวกัน
นางกำนัลข้างกายของฮองเฮาเห็นเจ้านายของตัวเองกำลังวุ่นวายใจและมีสีหน้าตื่นตระหนกจึงหันไปไล่ขันทีและนางกำนัลคืนอื่นๆ ออกไปจากห้อง ส่วนนางเดินเข้าไปใกล้ฮองเฮาพลางกล่าวเสียงเบา
“ฮองเฮา พระองค์จะทรงหวาดหวั่นไม่ได้นะเพคะ”
ใบหน้าซีดเผือดที่เด่นชัดท่ามกลางแสงไฟของฮองเฮาเต็มไปด้วยคำว่าหวาดกลัวและทำสิ่งใดไม่ถูก นางพยายามคุมมือที่สั่นระริกไม่หยุดของตัวเองพลางกำชายกระโปรงแน่น
“หากองค์ชายเจ็ดไม่ได้อยู่ในกำมือของต้าโจวข้าคงไม่หวาดกลัวถึงเพียงนี้ ทว่า ตอนนี้องค์ชายเจ็ดอยู่ที่ต้าโจว อีกทั้งยังมีแม่กู่อยู่ในตัวของเขาอีก ข้าเสี่ยงส่งคนออกไปพบผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเช่นนี้ หากถูกต้าโจวจับได้ขึ้นมา… ข้ากลัวว่าองค์ชายเจ็ดจะเป็นอันตราย!”
“ฮองเฮาทรงกังวลจนว้าวุ่นพระทัยไปเองเพคะ”
นางกำนัลกล่าวกับฮองเฮาเสียงเบา
“ฮองเฮาทรงตรัสเองว่าความจริงต้าโจวก็กลัวว่าองค์ชายเจ็ดจะทรงเป็นอันใดไปเช่นเดียวกัน ต้าโจวนำชีวิตขององค์ชายเจ็ดมาบีบบังคับฮองเฮาที่จะทรงเป็นไทเฮาในวันข้างหน้า ต้าโจวย่อมรู้ดีว่าหากองค์ชายเจ็ดทรงเป็นอันใดไปต้าโจวจะไม่มีสิ่งใดควบคุมพระองค์ได้อีกเพคะ”
“เจ้ากล่าวถูกแล้ว ทว่า นั่นคือโอรสของข้า…”
ฮองเฮาน้ำตาคลอ
“ข้ากลัวว่าเขาจะถูกทรมาน กลัวว่าต้าโจวจะทรมานเขาแทนที่จะสังหารเขา!”
“บ่าวคิดว่าจักรพรรดินีต้าโจวไม่ใช่คนที่จะใช้วิธีต่ำช้าเช่นนั้นเพคะ”
นางกำนัลเอ่ยปลอบฮองเฮา
“นางให้ลูกชายของข้าถูกพิษของแม่กู่ นางยังมีสิ่งใดน่าเชื่อถืออีก! ยิ่งไปกว่านั้นข้ากำลังลอบติดต่อกับผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนลับหลังนาง หากถูกต้าโจวจับได้ เจ้าคิดว่านางจะไม่ให้บทเรียนข้าอย่างนั้นหรือ!”
“ฮองเฮาทรงสบายพระทัยได้เพคะ พระองค์ให้ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนพักอยู่ที่จวนของผิงอ๋อง ผู้อื่นไม่รู้ทางลับของวังหลวง ฮองเฮาทรงส่งคนสนิทที่ไว้ใจได้ไปพบผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน เรื่องนี้ไม่มีทางถูกต้าโจวจับได้แน่นอนเพคะ ต่อให้ถูกจับได้ ขอเพียงพระองค์ทรงไม่ยอมรับ หากต้าโจวไม่มีหลักฐานก็ไม่มีทางทำอันใดองค์ชายเจ็ดแน่เพคะ แม้ตอนนี้ฮองเฮาจะทรงเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทว่า ต้าโจวย่อมรู้ดีว่าคนที่จนตรอกสามารถทำได้ทุกอย่าง พวกเขาไม่มีทางทำอันใดองค์ชายเจ็ดหากไม่มีหลักฐานแน่นอนเพคะ!”
ฮองเฮาของตงอี๋ฉลาดถึงเพียงนี้เหตุใดนางจะไม่เข้าใจเรื่องนี้กัน แม้จะเข้าใจ ทว่า ในฐานะมารดานางจะไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของบุตรชายแท้ๆ ของตัวเองได้อย่างไรกัน นางไม่มีทางสบายใจแน่นอนหากนางไม่เห็นบุตรชายของตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้า
“ฮองเฮา…”
ขุนทีสวมชุดดำคนหนึ่งลอบเดินเข้ามาด้านในตำหนักอย่างเงียบเชียบ เขาทำความเคารพฮองเฮา จากนั้นกล่าวขึ้น
“ท่านผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเดินทางมาด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮองเฮากำหมัดแน่น
“ว่าอย่างไรนะ!”
ขันทีก้มหน้ารายงานฮองเฮาเสียงเบาหวิว
“บ่าวไปพบผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยน ผู้สำเร็จราชการเดาได้ว่าบ่าวแอบออกไปด้วยทางลับของวังหลวง เหมือนเขาจะทราบอยู่แล้วว่าวันนี้ฮองเฮาต้องส่งคนไปพบเขาจึงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายรอมาเข้าเฝ้าฮองเฮาเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮาคลายมือที่กำชายกระโปรงอยู่ออก ผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนผู้นี้เป็นคนฉลาดยิ่งนัก นางควบคุมสติของตัวเองแล้วกล่าวขึ้น
“เชิญเขาเข้ามาได้”
นางกำนัลข้างกายของฮองเฮากล่าวขึ้น
“บ่าวจะให้คนคุ้มกันที่นี่อย่างแน่นหนา จะไม่ให้ผู้ใดเข้ามาแน่นอนเจ้าค่ะ”
“ไปเถิด”
ฮองเฮาพยักหน้ารับ นางถอนหายใจยาวออกมา จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้พลางมองไปทางประตูด้วยมาดของฮองเฮา
เซียวหรงเหยี่ยนในชุดสีดำทั้งสุดสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำและผูกสายคาดเอวหยกขาวเดินเข้ามาในตำหนัก เมื่อเดินเข้ามาเรียบร้อยเขาจึงปลดหมวกเสื้อคลุมออก เมื่อใบหน้าหล่อเหลาที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากกระทบโดนแสงไฟริบหรี่ในตำหนักจึงยิ่งทำให้ร่างของเขาดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เมื่อประตูตำหนักถูกปิดลงเซียวหรงเหยี่ยนจึงทำความเคารพฮองเฮาของตงอี๋
“คารวะฮองเฮา!”
“ได้ยินว่าผู้สำเร็จราชการอยากพบหน้าข้าด้วยตัวเอง ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ”
ฮองเฮาพยักหน้าให้เซียวหรงเหยี่ยนนั่งลง
เซียวหรงเหยี่ยนก้มศีรษะให้ฮองเฮาเล็กน้อย จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้แล้วกล่าวต่อยิ้มๆ
“วันนี้ฮองเฮาเป็นคนส่งคนไปหาข้า ข้าก็แค่ไม่ชอบถ่ายทอดสิ่งใดผ่านคนกลางจึงมาที่นี่ด้วยตัวเอง”
“วันนี้ผู้สำเร็จราชการกล่าวว่าขีดกำจัดของต้าเยี่ยนคือเรื่องการตั้งค่ายทหารในตงอี๋ ทว่า ท่านกลับบอกให้ขุนนางของตงอี๋ปรึกษากันก่อนแล้วค่อยให้คำตอบท่านในวันพรุ่งนี้ ผู้สำเร็จราชการไม่ได้ต้องการใช้เวลาคืนนี้ปรึกษากับข้าอย่างนั้นหรือ”
ฮองเฮามองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ
“ผู้สำเร็จราชการกล่าวมาตามตรงเถิด ตอนนี้วังหลวงของตงอี๋ถูกคนของต้าโจวควบคุมไว้หมดแล้ว หากเราใช้เวลาสนทนากันนานเกินไปคงไม่ปลอดภัยนัก”
เซียวหรงเหยี่ยนลูบแหวนหยกขาวปานจื่อที่นิ้วโป้งของตัวเอง จากนั้นมองไปทางฮองเฮายิ้มๆ อย่างหยั่งเชิง
“องค์ชายเจ็ด…สบายดีหรือไม่”
ฮองเฮากำที่วางแขนแน่นในทันที ทว่า นางยังคงแสร้งยิ้มออกมาด้วยท่าทีปกติ
“วันนี้ผู้สำเร็จราชการพบหน้าเขาแล้วไม่ใช่หรือ”
นางกำนัลเดินเข้าไปรินน้ำชาให้เซียวหรงเหยี่ยนและฮองเฮา จากนั้นถอยกลับไปยืนอยู่ที่เดิม
เซียวหรงเหยี่ยนปลดหน้ากากบนใบหน้าออกวางไว้บนโต๊ะด้านข้าง เขาเผชิญหน้ากับฮองเฮาของตงอี๋ด้วยใบหน้าที่แท้จริงของตัวเอง ชายหนุ่มลอบใช้สายตาสำรวจอาการของฮองเฮา จากนั้นกล่าวขึ้นเสียงเรียบ
“องค์ชายเจ็ดช่างได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าได้ประจวบเหมาะเสียจริง เมื่อกลับมาสืบทอดบัลลังก์กลับทั้งเสียโฉม ทั้งเสียงแหบ ขอเพียงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า เด็กที่อายุเท่ากันก็สามารถสวมรอยเป็นองค์ชายเจ็ดได้ทุกคน เช่นนี้ขุนนางในราชสำนักตงอี๋ก็ไม่รู้แล้วว่าจักรพรรดิของพวกเขาคือองค์ชายเจ็ดตัวจริงหรือไม่”
ใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้มมีบาดแผลใดๆ ใบหน้าเขากลับคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางได้รูป รัศมีในแววตาเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของเพศบุรุษ ดวงตาคู่นั้นล้ำลึกและคมกริบราวจนไม่สามารถมองเห็นความรู้สึกในก้นบึ้งของดวงตาได้