สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1505 ภูมิใจ
ตอนที่ 1505 ภูมิใจ
ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนและไทเฮาของตงอี๋นั่งอยู่ที่บนที่นั่งถัดจากจักรพรรดิต้าโจวและจักรพรรดิตงอี๋คนละฝั่ง
ท่าป๋าเย่ายกจอกเหล้าตรงหน้าขึ้นคารวะไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนในฐานะเจ้าบ้าน “ตอนนี้ตงอี๋ค่อนข้างลำบากจึงต้อนรับทุกคนได้เพียงเท่านี้ หวังว่าจักรพรรดินีต้าโจวและผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนจะไม่ถือสา”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ “เป็นเรื่องสมควรแล้ว จักรพรรดิตงอี๋ไม่ต้องเกรงใจ ฝ่าบาทยังได้รับบาดเจ็บและอายุยังน้อย ไม่จำเป็นต้องดื่มเหล้าให้พวกเรา”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางดื่มเหล้าในมือจนหมด
เซียวหรงเหยี่ยนชูเหล้าขึ้นเล็กน้อย จากนั้นกล่าวขึ้น “ข้าไม่สะดวกดื่มเหล้า หวังว่าจักรพรรดิตงอี๋จะไม่ถือสา”
ท่าป๋าเย่าพยักหน้า จากนั้นกล่าวขึ้น “จักรพรรดินีต้าโจวและผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนเห็นความลำบากของตงอี๋แล้ว วันนี้เรามีเรื่องบางอย่างอยากขอร้องท่านทั้งสอง…ตงอี๋จะขอชดเชยค่าชดเชยที่รับปากไว้ให้หมดภายในสามปีได้หรือไม่ หากต้องจ่ายทีเดียวทั้งหมดเกรงว่าตงอี๋คงแบกรับภาระนี้ไม่ไหว”
นี่คือเรื่องที่ท่าป๋าเย่าปรึกษากับเหล่าขุนนางของตงอี๋เรียบร้อยแล้ว เดิมทีขุนนางตงอี๋ไม่อยากให้จักรพรรดิองค์ใหม่ของพวกเขาก้มหัวขอร้องแคว้นอื่น ทว่า ท่าป๋าเย่ากลับกล่าวว่าศักดิ์ศรีของเขาเทียบกับแคว้นตงอี๋ทั้งแคว้นไม่ได้แม้แต่น้อย หากแคว้นดับสูญจะมีศักดิ์ศรีไปเพื่ออันใดกัน
ท่าป๋าเย่ากล่าวคำนี้ออกมาจากใจของตัวเอง แคว้นต้าเว่ยดับสูญแล้ว จักรพรรดิของต้าเว่ยอย่างเขาไม่มีศักดิ์ศรีเหลือแล้วเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ขุนนางตงอี๋คิดว่าเมื่อจักรพรรดิองค์น้อยของตงอี๋ขึ้นครองราชย์ในช่วงที่ตงอี๋มีแต่ปัญหาเช่นนี้ พวกเขาคงทำได้เพียงพึ่งพาไทเฮาเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าเด็กคนนี้จะทำให้พวกเขาต้องมองเขาใหม่ ทายาทที่เกิดจากฮองเฮาแตกต่างจากโอรสองค์อื่นๆ จริงๆ
ตอนนี้ขุนนางในราชสำนักของตงอี๋มีทั้งคนของต้าโจวและคนที่ยอมรับในตัวท่าป๋าเย่าอย่างแท้จริง
ท่าป๋าเย่ารู้ดีว่าไทเฮาต้องฝืนยอมรับบุตรชายตัวปลอมอย่างเขามากเพียงใด หากเขาคือไทเฮาของตงอี๋เขาจะหาทางจับจักรพรรดิตัวปลอมขังไว้โดยไม่ปล่อยให้เขาทำร้ายตัวเอง จากนั้นหาตัวปลอมมาแทนที่บัลลังก์ของเขา ให้คนผู้นั้นสวมหน้ากากและควบคุมราชสำนักตงอี๋ไว้ในมือของตัวเองแทน
ดังนั้นท่าป๋าเย่าต้องควบคุมราชสำนักตงอี๋ให้อยู่ในมือของตัวเองให้ได้ทั้งหมด ให้ราชสำนักตงอี๋ขาดเขาไม่ได้ เช่นนี้ไทเฮาจะได้ไม่กล้าสับเปลี่ยนตัวเขา
ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าท่าป๋าเย่าต้องการเข้าไปอยู่ในใจของขุนนางทุกคนของราชสำนักตงอี๋ให้ได้ นางรู้สึกภูมิใจมาก นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “เอาอย่างนี้…ชดใช้มาหกส่วนก่อน อีกสี่ส่วนชดใช้ภายในสองปีได้หรือไม่”
“ต้าเยี่ยนไม่ได้มั่งคั่งเหมือนต้าโจว ทว่า ก็สามารถยอมถอยให้ได้เช่นกัน แต่เรื่องการตั้งค่ายทหารในตงอี๋ ข้าให้เวลาตงอี๋ได้ปรึกษากันแล้ว ไม่ทราบว่าได้ข้อสรุปเช่นไร” เซียวหรงเหยี่ยนแกว่งจอกเหล้าในมือเล่น ทว่า ไม่คิดถอดหน้ากากออกเพื่อดื่มเหล้าแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาไม่เห็นค่าเหล้าของแคว้นตงอี๋
ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางพี่เขยของตัวเองแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปสื่อให้พี่ชายเจ็ดของตัวเองมองเช่นเดียวกัน พี่เขยของนางสามารถแสดงบทบาทการใช้อำนาจกดดันและข่มขู่คนได้เป็นอย่างดีจนจับพิรุธไม่ได้แต่น้อย! แสดงได้ดีกว่าน้องเจ็ดไป๋จิ่นเซ่อของพวกนางอีก นางควรให้น้องหญิงเจ็ดได้มาเห็นความเก่งกาจของพี่เขยของตัวเองจริงๆ
ไม่รู้เหตุใดจู่ๆ ไป๋จิ่นจื้อจึงนึกถึงเหลียงอ๋องของราชวงศ์ต้าจิ้นขึ้นมา นางมองดูพี่เขยของตัวเองในตอนนี้ นางรู้สึกว่าเขาแสดงเก่งกว่าเหลียงอ๋องเสียอีก แค่ดูบารมีของผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนในวันนี้ก็ไม่มีผู้ใดคาดถึงแล้วว่าเขาจะคือคนเดียวกับพี่เขยผู้อ่อนโยนของนาง
หากไป๋จิ่นจื้อไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเซียวหรงเหยี่ยนแล้วมีคนมาบอกนางว่าผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนคือเซียวหรงเหยี่ยนนางคงชกคนผู้นั้นสักหมัด นางจะคิดว่าคนผู้นั้นคิดว่านางโง่ถึงได้มาหลอกกันเช่นนี้!
“เรื่องการตั้งค่ายทหาร…” จักรพรรดิตงอี๋วางเหล้าในมือลงบนโต๊ะ เขาปฏิบัติต่อศัตรูของตัวเองอย่างนอบน้อม จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ “หากต้าเยี่ยนอยากตั้งค่ายทหารในตงอี๋ ตงอี๋ก็คงขัดไม่ได้ ทว่า ต้าเยี่ยนนำทหารมามากเกินไปหรือไม่ ที่สำคัญการให้ตงอี๋ออกค่าเบี้ยเลี้ยงทหารเหล่านั้นดูจะเกินไปสักนิด”
“เมื่อวานข้าบอกกับไทเฮาของตงอี๋ชัดเจนแล้วว่าจะไม่ยอมถอยในเรื่องนี้เด็ดขาด…” เซียวหรงเหยี่ยนวางจอกเหล้าลงบนโต๊ะอย่างแรง จากนั้นเอนกายพิงเก้าอี้พลางมองไปทางไทเฮา “จักรพรรดิตงอี๋ยังเด็ก ไทเฮามีความเห็นเช่นไร”
“ไทเฮาไม่สามารถแทรกแซงเรื่องในราชสำนักได้ เหตุใดผู้สำเร็จราชการต้องสร้างความลำบากใจให้เสด็จแม่ด้วย” ท่าป๋าเย่าใช้กฎที่คนของวังหลังไม่สามารถเข้ามายุ่งเรื่องในราชสำนักได้ปกป้องมารดาของตัวเอง ทว่า ความจริงแล้วเขาต้องการบอกให้ขุนนางในราชสำนักตงอี๋ฟัง วันหน้าท่าป๋าเย่าไม่อยากให้ไทเฮากลายเป็นผู้สำเร็จราชการเพื่อควบคุมเขาเพียงเพราะเขาอายุยังน้อย
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ต้าเยี่ยนก็ไม่มีสิ่งใดต้องกล่าวอีก!” เซียวหรงเหยี่ยนยกมือคารวะไป๋ชิงเหยียน
“ต้าเยี่ยนพาทหารมาแค่สามหมื่นนายเท่านั้น เราคิดว่าให้เขาตั้งค่ายทหารในตงอี๋ก็มิเป็นอันใด ทหารสามหมื่นนายจะโจมตีเมืองหลวงของตงอี๋ได้เชียวหรือ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวออกมายิ้มๆ “ไม่ว่าอย่างไรก็มีกองทัพของต้าโจวคอยดูอยู่ ตงอี๋คือแคว้นบรรณาการของต้าโจว หากต้าเยี่ยนบุกโจมตีตงอี๋โดยไม่มีสาเหตุต้าโจวจะยอมทนดูเฉยๆ อย่างนั้นหรือ”
“สามหมื่นนาย?” ไทเฮามองไปทางผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยน จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียน
“จักรพรรดินีต้าโจวฟังผิดแล้วหรือไม่ ต้าเยี่ยนต้องการนำทหารมาตั้งค่ายแปดหมื่นนายไม่ใช่หรือ”
ไป๋ชิงเหยียนกลับกล่าวยิ้มๆ “เราบอกว่าสามหมื่นนายก็คือสามหมื่นนาย! แม่ทัพเฉิงพาคนไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีทางผิดแน่นอน!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงหันไปมองเซียวหรงเหยี่ยน “ผู้สำเร็จราชการว่าจริงหรือไม่”
เซียวหรงเหยี่ยนหรี่ตาแคบ ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางกล่าวสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกมา ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในเมืองหลวงของตงอี๋เขาไม่ได้รับข่าวใดๆ จากทหารห้าหมื่นนายที่ตั้งค่ายทหารอยู่ที่ภูเขาริมแม่น้ำเฝ่ยชุ่ยเลย ไป๋ชิงเหยียนต้องเจอทหารห้าหมื่นนายเหล่านั้นและควบคุมพวกเขาไว้แล้วแน่นอน
ทว่า ตั้งแต่เมื่อใดกัน เดิมทีทหารห้าหมื่นนายคือสิ่งที่เขาใช้ข่มขู่ไทเฮาของตงอี๋ เขาตั้งใจซ่อนพวกเขาไว้ในภูเขา ไป๋ชิงเหยียนพบพวกเขาตั้งแต่เมื่อใดกัน
แม้จะตกใจ ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนซึ่งซ่อนใบหน้าอยู่ใต้หน้ากากยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกภูมิใจยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าอาเป่าของเขาจะเก่งกาจถึงเพียงนี้
“ดูเหมือนว่าฝ่าบาทจะคุมทหารห้าหมื่นนายของข้าไว้แล้ว…” น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนราบเรียบจนฟังไม่ออกว่ากำลังโมโหหรือมีความสุข
ไป๋ชิงเหยียนชูจอกเหล้าในมือไปทางเซียวหรงเหยี่ยน “ภูเขาริมแม่น้ำเฝ่ยชุ่ยคือสถานที่ที่ไม่เลวทีเดียว ผู้สำเร็จราชการเลือกที่ได้ดีมาก เช่นนั้นก็ให้ทหารต้าเยี่ยนตั้งค่ายทหารอยู่ที่นั่นก็แล้วกัน!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวสถานที่ที่ทหารต้าเยี่ยนใช้ซ่อนตัวออกมายิ้มๆ แม่ทัพต้าเยี่ยนต่างหันไปมองหน้าเซียวหรงเหยี่ยนด้วยความร้อนใจทันที