สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 192 ฝากบอก
ตอนที่ 192 ฝากบอก
ตอนที่รถม้าของเซียวหรงเหยี่ยนเดินทางมาถึงแคว้นหนานเยี่ยนอย่างเปิดเผยในฐานะพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า ชายหนุ่มมาทันตลาดนัดแรกของต้นปีนี้พอดี
แสงอรุณแรกของวันส่องผ่านก้อนเมฆสะท้อนเมืองทั้งเมืองอร่ามเป็นสีทองงดงาม
รถม้าของเซียวหรงเหยี่ยนพุ่งผ่านแสงอรุณในยามเช้าเข้าไปยังตัวเมือง เสียงขายของอึกทึกครึกโครมจากภายนอกดังแว่วเข้ามาในรถม้า ชายหนุ่มแหวกม่านรถม้าเปิดออกดูเล็กน้อย สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาคือตลาดในเมืองที่ครื้นเครง แตกต่างจากต้าเยี่ยนลิบลับ
ภายในเมืองเขตชายแดนของหนานเยี่ยน บ้างเป็นคนสูงศักดิ์สวมเสื้อผ้าไหมราคาแพง บ้างเป็นชาวบ้านที่สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีทาสที่ถูกขังอยู่ในกรงเพื่อนำมาขายอีกต่างหาก
คนขายของโอ้อวดสินค้าของตัวเองว่าเป็นสินค้าชั้นเลิศให้แก่พ่อค้าที่ขี่ม้าเข้ามาในเมืองอย่างไม่เกรงกลัว พ่อค้าที่จับจองตำแหน่งที่ดีที่สุดในตลาดได้ก่อนผู้ใดกลัวว่าตำแหน่งของตัวเองยังเด่นไม่มากพอจึงชูสินค้าของตัวเองขึ้นสูง ปากพร่ำพรรณนาหวังดึงดูดพ่อค้า และบรรดานายท่านผู้สูงศักดิ์
สตรีวัยกลางคนที่เกล้าผมสูงกับสตรีวัยกลางคนที่คล้องตะกร้าอยู่ที่แขนทะเลาะกันจนหน้าแดงก่ำเพื่อเงินเพียงสองสามตำลึง
ทุกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้น และเสียงโหวกเหวกโวยวาย นี่คือความเจริญรุ่งเรืองและวุ่นวายซับซ้อนที่ยากจะพบได้ในต้าเยี่ยนในตอนนี้ ช่างน่าอิจฉาเสียจริง
เซียวหรงเหยี่ยนซึ่งสวมคลุมเสื้อขนจิ้งจอกก้าวลงมาจากรถม้า ชายหนุ่มเดินทอดน่องไปอย่างเชื่องช้า ข้างกายมีองครักษ์พกดาบคอยคุ้มกันอยู่สิบกว่าคน ดูเป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่มาก สิ่งนี้ดึงดูดให้คนขายของพากันถลาเข้าไปโอ้อวดสินค้าหายากของตัวเองกล้าๆ กลัวๆ หวังให้เซียวหรงเหยี่ยนสนใจสินค้าล้ำค่าของพวกเขา แต่ก็หวาดกลัวองครักษ์ข้างกายของเซียวหรงเหยี่ยนเช่นเดียวกัน
เซียวหรงเหยี่ยนเดินดูสินค้าในตลาดไปตลอดทาง หากชายหนุ่มถูกใจสินค้าของร้านใดก็แทบเหมาหมดทั้งร้าน
ผู้คนเห็นว่าเซียวหรงเหยี่ยนใจป้ำถึงเพียงนี้ ต่างลดความหวาดกลัวที่มีต่อองครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนลงไปไม่น้อย ยื่นสินค้าของตัวเองผ่านหน้าองครักษ์ไปให้เซียวหรงเหยี่ยนได้เชยชม
ขนาดคนขายทาสยังถลาไปด้านหน้าพลางตะโกนขายของอย่างอดไม่ได้
“คุณชายซื้อทาสสาวกลับไปสักคนสองคนดีหรือไม่เจ้าคะ! ยังสาวๆ ทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ!”
หนานเยี่ยนใช้การปกครองเก่าของต้าเยี่ยนก่อนที่จีโฮ่วจะปฏิรูปการปกครองใหม่ มีการค้าขายทาสกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะแทบชายแดนที่ค้าขายกันอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดทั้งสิ้น
เด็กน้อยที่ถูกล่ามเชือกไว้ที่คอเป็นที่หมายตาของผู้ซื้อ เขาโยนเงินให้คนขายทาสพลางจูงเชือกพาเด็กคนนั้นจากไป เด็กน้อยกล่าวภาษาของแคว้นต้าจิ้นซึ่งถูกขังอยู่ในกรงร้องไห้จบแทบขาดใจ มือทั้งสองข้างที่เปื้อนไปด้วยเลือดเขย่ากรงอย่างแรง อ้อนวอนขอให้ชายผู้นั้นซื้อตัวพวกเขาไปด้วย อย่าพรากเด็กน้อยไปจากนาง แต่นางกลับโดนคนขายทาสฟาดแส้ใส่อย่างแรง สตรีผู้นั้นได้แต่ร้องไห้มองตามเด็กน้อยไปอย่างทุกข์ทรมานราวกับเด็กน้อยผู้นั้นถูกสัตว์เดรัจฉานลากตัวไปก็ไม่ปาน
เซียวหรงเหยี่ยนเดินไปยังตลาดสำหรับค้าขายทาสโดยเฉพาะ บรรดาคนขายทาสตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่ ต่างลากทาสของตัวเองออกมาแนะนำ
“คุณชายดูสิขอรับ ทาสของเราแข็งแรงกำยำมากขอรับ!” พ่อค้าทาสลากทาสร่างกายกำยำสูงใหญ่ของตัวเองเดินตามเซียวหรงเหยี่ยนไป แนะนำทาสของตัวเองให้เซียวหรงเหยี่ยนผ่านองครักษ์ที่ถือดาบยืนขวางอยู่
“คุณชายซื้อกลับไปต้องได้แรงงานที่ดีแน่นอนขอรับ ให้เขาทำอันใดก็ได้ทั้งนั้นขอรับ!”
คนขายทาสบางคนกระชากทาสสาวของตัวเองออกมาพลางตะโกนเสียงดัง “คุณชาย! คุณชาย! ทาสสาวของเรางดงามมากขอรับ เห็นนางหน้าตาสกปรกมอมแมมเช่นนี้ ซื้อกลับไปล้างหน้าล้างตาจนสะอาดหมดจดก็ใช้ได้แล้วขอรับ! ที่สำคัญนางยังบริสุทธิ์อยู่ ให้นางคอยช่วยอุ่นเตียงก็ไม่เลวนะขอรับ!”
“ทาสสาวของข้าต่างหากที่บริสุทธิ์ยอดเยี่ยม คุณชาย! ทาสสาวของข้าอายุยังน้อยทุกคน ซื้อกลับไปสามารถอบรมได้ตั้งแต่เด็ก ให้พวกนางทำสิ่งใดก็ได้ล้วนแต่คุณชายจะสั่งเลยขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนมองดูความเคลื่อนไหวของทาสที่อยู่ในกรงอย่างละเอียด เขาฟังออกว่าทาสเหล่านี้คือคนของต้าจิ้นและต้าเยี่ยนที่ถูกคนค้าทาสจับมา
ทาสของต้าเยี่ยนส่วนใหญ่ผิวเหลืองซีด ร่างผอมซูบเซียว สีหน้าหมองคล้ำ ทาสของต้าจิ้นเอาแต่ร้องไห้อ้อนวอนขอให้คนขายทาสปล่อยพวกเขาไป
หนานเยี่ยนและซีเหลียงร่วมมือกันโจมตีต้าจิ้น ชาวบ้านแถบชายแดนของแคว้นต้าจิ้นคือคนที่เดือดร้อน!
ส่วนต้าเยี่ยนเพราะภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดติดต่อกันในปีที่แล้ว ทำให้ชาวบ้านอดอยาก ยอมขายตัวเป็นทาสเพื่อแลกกับการมีอาหารประทังชีวิต
เซียวหรงเหยี่ยนเดินผ่านตลาดค้าทาสไปยังตลาดค้าม้า บรรดาคนค้าทาสจึงแยกย้ายกันกลับไปขายทาสของตัวเองต่อตามเดิม
เซียวหรงเหยี่ยนมองเห็นม้าขาวตัวหนึ่งจากที่ไกลๆ ม้าขาวตัวนั้นร่างกำยำ ดูเหมือนจะพยศไม่น้อย ย่ำเท้าหมุนตัววนไปมาเป็นวงกลมจนพ่อค้าม้ายังควบคุมไม่อยู่ คนซื้อม้าเข้าไปจูงเชือกม้า แต่กลับโดนม้าขาวตัวนั้นสะบัดหนี คนซื้อม้าไม่ทันตั้งตัวจึงล้มลงกระแทกรั้วไม้อย่างแรง มือข้างหนึ่งจิ้มลงไปบนกองอุจจาระม้า
เมื่อเห็นม้าตัวนี้พยศถึงเพียงนี้ คนซื้อม้าพยุงตัวเองขึ้นมา ใบหน้าเขียวคล้ำ เช็ดมือที่เปื้อนอุจจาระม้าอย่างเดือดดาล ส่ายหน้าสื่อว่าไม่ต้องการม้าตัวนี้แล้ว!
พ่อค้าม้ารีบยิ้มประจบ “นายท่านเลือกม้าตัวอื่นของร้านเราดีหรือไม่ขอรับ ม้าตัวอื่นของร้านล้วนแข็งแรง และชื่อฟังทั้งนั้นขอรับ จริงๆ นะขอรับ! ท่านลองดูสิขอรับ ฟันของมัน ร่างของมัน ทั้งตลาดไม่มีร้านใดที่ขายม้าที่ทั้งถูกและดีเช่นนี้อีกแล้วนะขอรับ! ข้าจะลดให้ท่านอีกสักหน่อยขอรับ”
“ไม่ต้องแล้ว ข้าจะไปดูร้านอื่นก่อน!”
เมื่อพ่อค้าม้าเห็นว่ายื้อคนซื้อม้าไว้ไม่ได้ เขาจึงใช้แส้ฟาดไปที่ม้าตัวนั้นอย่างแรงด้วยความโมโห ม้าตัวนั้นตกใจจนยกเท้าหน้าขึ้น พ่นลมหายใจออกมาทางจมูกอย่างแรง เกือบกระชากเสาไม้ที่ผูกม้าตัวนั้นไว้ล้มลงมา
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เซียวหรงเหยี่ยนเห็นม้าตัวนี้จึงนึกถึงม้าจี๋เฟิงซึ่งเป็นม้าประจำตัวของไป๋ชิงเหยียนเมื่อหลายปีก่อนขึ้นมา ม้าจี๋เฟิงรวดเร็วประดุจสายลม เป็นม้าล้ำค่าที่หาได้ยาก ต่อมาได้ยินว่าม้าจี๋เฟิงปกป้องไป๋ชิงเหยียนจนเสียชีวิต หลังจากนั้นดูเหมือนว่าไป๋ชิงเหยียนจะไม่ได้เลี้ยงม้าอีกเลย
“เจ้าดูสิ! ดู! นี่มันกี่คนแล้ว! หากวันนี้ยังขายม้าพยศอย่างเจ้าไม่ได้ คืนนี้ข้าจะฆ่าเจ้าแล้วเอาเนื้อมาต้มกิน!” พ่อค้าม้ากล่าวกับม้าขาวอย่างเดือดดาล
“ม้าของร้านเจ้า…ข้าเหมาหมดเลย!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขึ้น
พ่อค้าม้าหันกลับไปมอง เห็นบุรุษสูงศักดิ์ท่าทางสง่างามผู้หนึ่งยืนยิ้มน้อยๆ ท่ามกลางแสงของรุ่งอรุณ ดูสุขุมและอ่อนโยนมาก
องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังเซียวหรงเหยี่ยนก้าวไปด้านหน้า ล้วงถุงเงินออกมาส่งให้พ่อค้าม้า “พอหรือไม่”
พ่อค้าม้าแหวกถุงเงินออกดู จากนั้นพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“พอขอรับ! พออยู่แล้วขอรับ! แต่ว่า…ม้าขาวตัวนั้นของข้าพยศมากนะขอรับ!”
“มิเป็นอันใด ข้าชอบม้าขาวตัวนี้มาก!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวพลางเดินไปหยุดอยู่หน้าม้าสีขาว ยกมือขึ้นน้อยๆ เตรียมลูบไปที่ขนของมัน ม้าขาวตัวนั้นถอยหลังหนีไปสองก้าวพลางพ่นควันขาวออกจากจมูกใส่เซียวหรงเหยี่ยน ร่างทั้งร่างแข็งทื่อต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด
รอยยิ้มของเซียวหรงเหยี่ยนมากขึ้นกว่าเดิม เป็นม้าที่พยศมากจริงๆ
เขาไม่อยากฝึกม้าตัวนี้ รู้สึกว่าม้าตัวนี้เหมาะกับไป๋ชิงเหยียนเป็นอย่างมาก
เซียวหรงเหยี่ยนชักมือที่ยื่นไปลูบขนของม้ากลับ หันไปกล่าวกับองครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างกาย
“สั่งให้คนนำม้าตัวนี้ไปมอบให้คุณหนูใหญ่ไป๋ที่เทียนเหมินกวน”
องครักษ์นิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ เดาว่าเป็นเพราะเซียวหรงเยี่ยนมีใจให้คุณหนูสี่ตระกูลไป๋จึงต้องการทำดีกับพี่หญิงใหญ่ของคุณหนูสี่ตระกูลไป๋อย่างนั้นกระมัง