สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 207 ติดกับ
ตอนที่ 207 ติดกับ
สายตาของไป๋ชิงเหยียนจับจ้องไปยังค่ายทหารของซีเหลียงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ พอเซียวรั่วเจียงกลับมา ให้เขาไปหาอาเจวี๋ยที่เมืองเหมิงดีกว่า อาเจวี๋ยเป็นคนฉลาด เขาต้องทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้แน่ เซียวรั่วเจียงแกะรอยตามสัญลักษณ์ไปก็จะพบตัวอาเจวี๋ยแล้ว
องครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนขึ้นไปบนหลังม้า ขณะเตรียมจากไป เขาบังเอิญพบกับไป๋จิ่นจื้อที่ขี่ม้ากลับมาพอดี
ไป๋จิ่นจื้อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนยืนอยู่หน้าค่ายทหารจึงโบกมือให้ไป๋ชิงเหยียนอย่างดีใจ “พี่หญิงใหญ่ พี่หญิงใหญ่เจ้าคะ ข้าทำให้ผิงอันยอมรับข้าเป็นนายได้แล้วเจ้าค่ะ!”
องครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนตะลึง ไป๋จิ่นจื้อควบม้าเฉียดผ่านเขาไป…
นั่นมันม้าหายากที่เจ้านายของเขามอบให้คุณหนูใหญ่ไป๋ไม่ใช่หรือ! หรือว่า…จดหมายที่เจ้านายเขาเขียนถึงคุณหนูใหญ่ไป๋ครั้งที่แล้ว สารภาพไปแล้วว่าเจ้านายเขามีใจให้คุณหนูสี่ตระกูลไป๋ คุณหนูใหญ่ไป๋จึงมอบม้าขาวตัวนั้นให้คุณหนูสี่ไป๋!
ไป๋ชิงเหยียนมองไป๋จิ่นจื้อที่กำลังมีความสุข ใบหน้าของหญิงสาวอ่อนโยนและอบอุ่น ไม่มีไอสังหารแม้แต่น้อย
เรื่องอาเจวี๋ยยังมีชีวิตอยู่ รอให้รบชนะศึกหนานเจียงในครั้งนี้ก่อนแล้วค่อยบอกเสี่ยวซื่อก็แล้วกัน
เซียวรั่วเจียงถือกล่องที่บรรจุศีรษะไว้ด้านใน พาทหารจำนวนหนึ่งมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของซีเหลียง
อวิ๋นพั่วสิงกำลังวางแผนว่าคืนนี้จะบุกโจมตีค่ายทหารต้าจิ้นอย่างไรดีอยู่ในกระโจมแม่ทัพใหญ่ จู่ๆ ก็มีทหารมารายงานว่าไป๋ชิงเหยียนส่งคนนำของขวัญอำลามาให้เขา
อวิ๋นพั่วสิงคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นสั่งให้ทหารพาคนเข้ามา
เมื่ออวิ๋นพั่วสิงเห็นว่าเป็นชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนและเป็นคนตัดศีรษะลูกชายของเขา อวิ๋นพั่วสิงขบกรามแน่นเพื่อข่มความอาฆาต
แม่ทัพแต่ละคนที่อยู่ในกระโจมล้วนมีสีหน้าเคียดแค้น ท่าทีเดือดดาลเป็นอย่างมาก ราวกับว่าขอแค่อวิ๋นพั่วสิงมีคำสั่ง พวกเขาจะสังหารเซียวรั่วเจียงทันที
สีหน้าของเซียวรั่วเจียงสงบนิ่ง เขารับกล่องมาจากทหารที่ยืนอยู่ทางด้านหลังพลางส่งให้อวิ๋นพั่วสิงอย่างนอบน้อม “เสี่ยวไป๋ไซว่ของข้ากล่าวว่าในเมื่อแม่ทัพใหญ่อวิ๋นเตรียมพากองทัพซีเหลียงถอยทัพกลับไปจัดการเรื่องวุ่นวายในแคว้นซีเหลียง เสี่ยวไป๋ไซว่จึงมีของขวัญอำลามามอบให้แม่ทัพใหญ่อวิ๋นขอรับ แม่ทัพใหญ่อวิ๋นจะได้ไม่ต้องคิดสั้นโดยการบุกเข้าไปแย่งชิงในค่ายทหารต้าจิ้น”
อวิ๋นพั่วสิงกำขอบโต๊ะน้ำชาแน่น จ้องไปที่กล่องไม้สีแดงเขม็ง รู้ว่ากล่องนั้นบรรจุศีรษะของบุตรชายเอาไว้ แววตาของเขาวาวโรจน์ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น จ้องไปทางเซียวรั่วเจียงนิ่งๆ เดาว่าไป๋ชิงเหยียนคงส่งเซียวรั่วเจียงมาหยั่งเชิงเขา
มือที่กำแน่นของอวิ๋นพั่วสิงค่อยๆ คลายออก เขากล่าวเสียงรอดไรฟัน “ฝากขอบคุณเสี่ยวไป๋ไซว่ของพวกเจ้าด้วย บอกนางว่าอย่าลืมสัญญาในอีกสามปีของเรา! สามปีหลังจากนี้…ข้าจะมาตัดศีรษะของนางด้วยตัวข้าเอง!”
เซียวรั่วเจียงหรี่ตาแคบลง แสร้งทำเป็นลอบสำรวจอวิ๋นพั่วสิงด้วยท่าทีนิ่งๆ ทว่า แม่ทัพที่อยู่ในกระโจมกลับชักดาบออกมา ดวงตาแดงฉาน “ขี้ข้าแคว้นต้าจิ้นยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
เซียวรั่วเจียงละสายตา จากนั้นพาทหารต้าจิ้นเดินจากไป
อวิ๋นพั่วสิงสั่งให้คนนำกล่องศีรษะของบุตรชายมาวางตรงหน้าเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขาไม่กล้าเปิดกล่องออก ยกมือทาบไปบนกล่องทั้งน้ำตา เมื่อเงยหน้าขึ้นดวงตาเต็มไปด้วยไอสังหาร ความโกรธแผ่กระจายจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เขากล่าวขึ้น “คืนนี้ ผู้ใดตัดศีรษะของไป๋ชิงเหยียนได้ ข้าจะตบรางวัลให้หนึ่งหมื่นตำลึง!”
ทหารซีเหลียงต่างคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น กล่าวเสียงรอดไรฟัน “ท่านแม่ทัพใหญ่วางใจได้ขอรับ! พวกข้าจะแก้แค้นให้คุณชายและคุณชายน้อยเองขอรับ!”
หลังจากทหารซีเหลียงทานอาหารจนอิ่มท้อง พระอาทิตย์ยังไม่ทันลับขอบฟ้า แม่ทัพบางส่วนเริ่มพากองทัพครึ่งหนึ่งถอยทัพไป
ไม่นาน ทหารหน่วยลาดตระเวนของซีเหลียงก็มารายงานว่ากองทัพต้าจิ้นเริ่มถอยทัพกลับไปยังเมืองเฟิ่งแล้ว
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของอวิ๋นพั่วสิงเป็นประกายราวกับเปลวไฟ จ้องไปยังค่ายทหารของต้าจิ้นที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “หลานสาวของไป๋เวยถิงเมื่อเทียบกับปู่ของนางแล้วยังประมาทอยู่มาก! นางนึกว่าซ้อมรบเพียงครั้งเดียว ชนะศึกเพียงครั้งเดียวจะทำให้ข้าหวาดกลัวหรืออย่างไร! นางคิดว่าจะส่งผู้ใดก็ได้มาหยั่งเชิงความคิดของข้าว่าจะถอยทัพจริงหรือแสร้งถอยทัพได้ง่ายๆ เช่นนั้นหรือ นางใจกล้าถึงขนาดให้ทหารต้าจิ้นถอยทัพกลับเมืองเลยหรือ…”
ตกกลางคืน เสียงน้ำไหลกลบเสียงความเคลื่อนไหวทุกอย่าง แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียน แม่ทัพสือพานซานนำทหารล้อมขนาบซ้ายขวาของค่ายทหารซีเหลียงเอาไว้อย่างเงียบเชียบ จากนั้นรอฟังคำสั่งอย่างสงบ
ค่ายทหารต้าจิ้นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสว่างไสว อวิ๋นพั่วสิงนั่งอยู่ในกระโจมลอบสังเกตความเคลื่อนไหวของแม่น้ำฝั่งตรงข้าม
“รายงาน…” ทหารซีเหลียงคุกเข่าอยู่หน้ากระโจม กล่าวรายงานอวิ๋นพั่วสิง “ทหารจำนวนหนึ่งของแคว้นต้าจิ้นออกจากค่ายทหารมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดขอรับ”
ได้ยินดังนี้ ตาข้างขวาของอวิ๋นพั่วสิงกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุ “ไปสืบมาว่าพวกมันไปทำสิ่งใด”
ภายในระยะเวลาที่ธูปหมดลงสองสามดอก มีคนมารายงานสองสามครั้ง…ทหารแคว้นต้าจิ้นทยอยออกจากค่ายทหารไปกว่าสามร้อยนายแล้ว
อวิ๋นพั่วสิงรู้สึกไม่สงบ ความรู้สึกหวาดกลัวในตัวไป๋ชิงเหยียนค่อยๆ คืบคลานจากเท้าไปยังช่วงขา จนเสียวไปถึงสันหลัง เขากัดฟันถาม “สายลับที่ส่งไปสืบว่าทหารต้าจิ้นไปทำสิ่งใดกลับมาแล้วหรือไม่”
“เรียนแม่ทัพใหญ่ ยังไม่กลับมาขอรับ!”
ใจของอวิ๋นพั่วสิงกระตุกวูบ ทว่า อวิ๋นพั่วสิงยังไม่ทันทำความเข้าใจว่าเหตุใดใจเขาถึงกระตุก…ด้านนอกกระโจมก็มีแสงไฟสีแดงพุ่งเข้ามาในค่ายทหารของซีเหลียง
ทหารหน่วยลาดตระเวนของซีเหลียงเห็นท้องฟ้าฝั่งขวาของค่ายทหารสว่างขึ้นเป็นวงกว้างท่ามกลางความมืด เขายังไม่ทันได้สติ ลูกธนูไฟดอกแรกก็พุ่งเข้ามาปักลงบนหอคอยไม้สูงที่ทหารลาดตระเวนยืนอยู่ หางธนูสั่นเล็กน้อย เปลวไฟสีแดงลุกลามไปทั่วบริเวณ…
ธนูไฟ! น้ำมัน!
“แย่แล้ว! ศัตรูบุกโจมตี! ลูกธนูติดไฟ!”
สิ้นเสียงของทหารหน่วยลาดตระเวน ธนูแหลมดอกหนึ่งแทงทะลุเสื้อผ้าของเขาจนติดไฟ เขาตะโกนร้องพลางปัดไฟที่ลามตามลำตัวออก จากนั้นพลัดตกลงมาจากที่สูง
อวิ๋นพั่วสิงนั่งอยู่ในกระโจม เขาได้ยินเสียงลูกธนูมากมายพุ่งผ่านลมเข้ามา แทงทะลุกระโจมน้อยใหญ่ในค่ายทหาร
อวิ๋นพั่วสิงชาวาบไปทั้งร่าง รู้สึกเหมือนมีมือใหญ่กำลังบีบลำคอเขาอยู่จนเขาเปล่งเสียงใดๆ ออกมาไม่ได้ทั้งสิ้น
ธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาในกระโจมของอวิ๋นพั่วสิง ด้านบนของกระโจมถูกธนูแทงทะลุขาดเป็นรูโหว่ เปลวไฟที่เล็กจนแทบมองไม่เห็นค่อยๆ ขยายเป็นวงกว้าง
“แม่ทัพใหญ่! ศัตรูใช้ไฟโจมตีขอรับ! กองกำลังไม่น้อย พวกมันบุกมาอย่างห้าวหาญ ข้าคุ้มกันแม่ทัพใหญ่ถอยทัพไปก่อนนะขอรับ!” แม่ทัพสองสามคนพุ่งเข้ามากลางกระโจม
อวิ๋นพั่วสิงได้สติ ตวาดออกมาเสียงดังลั่น “อย่าเปิดศึก! รีบถอยทัพไปยังภูเขาหลินชวน เร็วเข้า!”
อวิ๋นพั่วสิงถูกทหารองครักษ์ประคองออกมาจากกระโจม ใช้โล่ป้องกันลูกธนูเหล่านั้นไว้ เมื่อขึ้นไปบนหลังม้า อวิ๋นพั่วสิงมองไปยังที่ไกลๆ ที่เต็มไปด้วยคบเพลิงสีแดง จากนั้นมองไปยังทหารต้าจิ้นที่กำลังบุกเข้ามาในค่ายทหารของซีเหลียง ในใจรู้สึกตะลึงงัน
ไม่ใช่! กองกำลังของต้าจิ้นไม่ถูกต้อง!
กองทัพของต้าจิ้นที่บุกมาเหมือนจะมีมากสุดแค่สองร้อยนายเท่านั้น! แล้วทหารต้าจิ้นที่ถอยทัพออกจากค่ายทหารไปก่อนในวันนี้อยู่ที่ใดกัน!
ลำคอของอวิ๋นพั่วสิงตีบตัน รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก นึกถึงกองทัพใหญ่ของต้าจิ้นที่ถอยทัพออกจากค่ายทหารของต้าจิ้นในช่วงค่ำของวันนี้ เขาเดาว่าพวกนั้นคงกำลังรอเขาอยู่ที่ภูเขาหลินชวนใช่หรือไม่!
หลังจากโดนโจมตีด้วยไฟครั้งหนึ่ง ค่ายทหารซีเหลียงลุกลามไปด้วยเปลวเพลิง กองทัพต้าจิ้นกลับข้ามแม่น้ำจิงมาอย่างไม่รีบร้อน ชูธงเฮยฟานไป๋หมั่งขึ้นสูง ธงสะบัดไปมาตามแรงลม พวกเขาเดินเข้าไปในค่ายทหารซีเหลียงอย่างเป็นระเบียบ เสียงฆ่าฟันดังสนั่นไปทั่วบริเวณ