สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 227 แผนการชั่วร้าย
ตอนที่ 227 แผนการชั่วร้าย
ไป๋ชิงเหยียนฉลาดหลักแหลมและเจ้าแผนการ หลี่จือเจี๋ยไม่อยากปล่อยให้ไป๋ชิงเหยียนมีเวลาตั้งตัว ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ เขาจะนำศพที่เพิ่งเสียชีวิตเหล่านี้ไปขอคำอธิบายจากองค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นที่โยวหวาเต้า!
เขาจะดูสิว่า…จักรพรรดิของแคว้นต้าจิ้นจะไม่หวาดระแวงในตัวขุนนางดังเช่นที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวไว้จริงหรือไม่!
ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งตามเสิ่นชิงจู๋ไปยังเส้าหยางจวิ้นทั้งหมด ส่วนหญิงสาวพาทหารค่ายหู่อิงกลับไปยังค่ายทหารที่โยวหวาเต้า
ระหว่างทาง หญิงสาวเตรียมซักซ้อมกับทหารยอดฝีมือของค่ายหู่อิงไว้หมดแล้ว หากกลับไปถึงโยวหวาเต้า ให้บอกกับทุกคนว่านางเป็นคนส่งไป๋จิ่นจื้อและเสิ่นเหลียงอวี้ไปสำรวจสถานการณ์ที่ชิวซานกวนว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ ปรากฏว่าเมื่อไป๋จิ่นจื้อและเสิ่นเหลียงอวี้ไปถึง พวกเขาเห็นคนแต่งกายด้วยชุดของชาวต้าจิ้นเดินเข้าออกอย่างลับๆ ล่อๆ อยู่ในโรงเตี๊ยมของเมืองชิวซานกวน พวกเขาสงสัยจึงลอบเข้าไปสืบ
นึกไม่ถึงว่าคนเหล่านั้นจะรู้ตัวเสียก่อน พวกเขาสู้รบกับคนเหล่านั้น คนเหล่านั้นก่อไฟเผาโรงเตี๊ยมเพื่อดึงดูดความสนใจของทหารซีเหลียงที่คุ้มกันเมืองชิวซานกวน ทหารซีเหลียงและคนกลุ่มนั้นร่วมมือกันต่อสู้กับพวกเขา โชคดีที่ไป๋ชิงเหยียนนำคนไปช่วยพวกเขาไว้ได้ทันการ
พวกเขาห้ามแพร่งพรายเรื่องทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่ง ไป๋ชิงอวิ๋น เซียวรั่วไห่และเสิ่นชิงจู๋ออกมาแม้แต่คำเดียว
ครั้งนี้ไป๋ชิงเหยียนไม่มีเวลาจัดการเก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเวลานำศพของทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งและทหารของค่ายหู่อิงกลับมา ในเมื่อเป็นเช่นนี้…ก็ต้องรายงานเรื่องนี้กับองค์รัชทายาทโดยครึ่งจริงครึ่งเท็จ อ้างว่าคนของหลี่จือเจี๋ยปลอมตัวเป็นทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่ง เช่นนี้จะได้ป้องกันหลี่จือเจี๋ยใช้เรื่องศพของทหารหน่วยกล้าตายและทหารค่ายหู่อิงมาสร้างปัญหา
ช่วงฟ้าใกล้สว่าง ทหารที่คุ้มกันอยู่ที่ทางเข้าของโยวหวาเต้าเห็นไป๋ชิงเหยียนนำทหารค่ายหู่อิงที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาที่ค่ายก็ตกตะลึง รีบเปิดประตูให้พวกเขาเข้าไปด้านใน
เซียวรั่วเจียงที่เอาตัวป้องกันดาบแทนไป๋จิ่นจื้อจนตัวเองถูกฟันเข้าที่บ่าใบหน้าซีดเผือด ชายหนุ่มฝืนขี่ม้ากลับมายังค่าย เมื่อม้าศึกวิ่งเข้าไปในค่ายทหาร เขาพลัดตกลงมาจากหลังม้าอย่างหมดแรง
“เร็ว! รีบไปตามหมอทหารมาเร็วเข้า!” ทหารต้าจิ้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
“เซียวรั่วเจียง!” ไป๋ชิงเหยียนลงมาจากหลังม้า สั่งให้คนแบกเซียวรั่วเจียงไปยังกระโจมของหมอทหารเพื่อรักษาบาดแผล
ไป๋ชิงเหยียนมองตามแผ่นหลังของเซียวรั่วเจียงซึ่งชุ่มไปด้วยเลือด กัดฟันแน่น หันไปกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อและทหารยอดฝีมือของค่ายหู่อิง ”พวกเจ้ารีบไปทำแผลก่อนเถิด ข้าจะไปพบองค์รัชทายาท!”
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า นางเป็นห่วงเซียวรั่วเจียงจึงรีบวิ่งตามไปดู
เสิ่นเหลียงอวี้ที่ร่างกายมีบาดแผลก้าวไปด้านหน้าพลางกล่าวขึ้น “บาดแผลของข้าไม่เป็นอันใดมาก ข้าจะไปพบองค์รัชทายาทกับเสี่ยวไป๋ไซว่ขอรับ! ข้าเป็นคนไปถึงชิวซานกวนก่อน มีเพียงข้าที่สามารถเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ชิวซานกวนให้องค์รัชทายาทฟังได้อย่างละเอียดขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงพยักหน้า พาเสิ่นเหลียงอวี้มุ่งหน้าไปยังกระโจมขององค์รัชทายาท
องค์รัชทายาทเข้านอนแล้ว เฉวียนอวี๋เห็นไป๋ชิงเหยียนที่ชุดเกราะเปื้อนไปด้วยเลือดและเสิ่นเหลียงอวี้แห่งค่ายหู่อิงที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลเดินตรงเข้ามาจึงรีบออกมาต้อนรับ “แม่ทัพไป๋ นี่ท่าน…”
“ข้ามีเรื่องด่วนต้องรายงานให้องค์รัชทายาททราบ! ชิวซานกวนเกิดเรื่องแล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดคารวะเฉวียนอวี๋
เฉวียนอวี๋ตะลึง รีบหมุนตัวกลับเข้าไปปลุกองค์รัชทายาทที่อยู่ในกระโจมใหญ่
องค์รัชทายาทถูกปลุกให้ตื่นอย่างสะลึมสะลือ เมื่อได้ยินเฉวียนอวี๋รายงายว่าไป๋ชิงเหยียนและเสิ่นเหลียงอวี้กลับมาโดยที่เลือดท่วมตัว ชิวซานกวนมีสิ่งผิดปกติ องค์รัชทายาทหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
องค์รัชทายาทคลุมเสื้อคลุมตัวหนา สั่งให้คนจุดไฟให้สว่างแล้วเชิญไป๋ชิงเหยียนและเสิ่นเหลียงอวี้เข้ามา
ไป๋ชิงเหยียนและเสิ่นเหลียงอวี้เดินเข้าไปในกระโจมโดยมีไอหนาวติดกายเข้าไปด้วย ชุดเกราะของทั้งคู่เปื้อนไปด้วยเลือดจนองค์รัชทายาทตกใจ
“องค์ชาย ชิวซานกวนมีสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น
“เฉวียนอวี๋รีบประคองแม่ทัพไป๋ขึ้นมา! เรียกพวกแม่ทัพจางตวนรุ่ยมาด้วย!” องค์รัชทายาทไม่เข้าใจเรื่องสงคราม ในเมื่อชิวซานกวนมีสิ่งผิดปกติ เขาจำต้องเรียกบรรดาแม่ทัพทั้งหลายมาร่วมฟังด้วย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายองค์รัชทายาทจึงเอ่ยสำทับขึ้น “เชิญฟางเหล่า เริ่นซื่อเจี๋ยและฉินซ่างจื้อมาด้วย!”
สามคนนี้คือที่ปรึกษาขององค์รัชทายาท
ก่อนที่เรื่องจะแดงขึ้นมา สิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวออกไปจะมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก นี่คือผลดีต่อตัวนาง ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่ได้ห้ามเฉวียนอวี๋
ไม่นาน บรรดาแม่ทัพเดินเข้ามาในกระโจมอย่างรวดเร็ว ฟังสิ่งที่เสิ่นเหลียงอวี้บรรยายเกี่ยวกับชิวซานกวน
“วันนี้ข้าได้รับคำสั่งจากเสี่ยวไป๋ไซว่ให้พาทหารยี่สิบนายของค่ายหู่อิงไปสำรวจสถานการณ์ที่ชิวซานกวนพร้อมกับคุณหนูสี่ ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อไปถึงจะเห็นคนกลุ่มหนึ่งแต่งกายด้วยชุดของชาวต้าจิ้นเดินเข้าออกโรงเตี๊ยมในเมืองชิวซานกวนอย่างลับๆ ล่อๆ ข้ากับคุณหนูสี่รู้สึกผิดสังเกตจึงลอบนำคนเข้าไปสืบดู อยากจะรู้ให้แน่ชัดว่าคนเหล่านั้นต้องการทำสิ่งใดกันแน่ ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าจะโดนจับได้เสียก่อน คนกลุ่มนั้นมีฝีมือมาก ระมัดระวังตัวเองเป็นที่สุด! เดิมทีพวกข้าอยากจับเป็นมาสอบสวน ทว่า พวกนั้นกลับไม่กลัวทหารซีเหลียงจับได้ จุดไฟเผาโรงเตี๊ยมเพื่อดึงดูดความสนใจของทหารซีเหลียงที่คุ้มกันเมืองชิวซานกวน เมื่อทหารคุ้มกันเมืองมาถึง พวกมันกลับร่วมมือกับคนกลุ่มนั้นจัดการกับพวกข้า! ทหารยี่สิบนายตายไปเกือบครึ่ง ข้ากับคุณหนูสี่ก็เกือบเอาชีวิตไปทิ้งไว้ที่ชิวซานกวน หากไม่ใช่เพราะองค์รัชทายาทส่งเสี่ยวไป๋ไซว่มาช่วยไว้ได้ทัน พวกข้าคงไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว!”
เสิ่นเหลียงอวี้กล่าวว่าองค์รัชทายาทส่งไป๋ชิงเหยียนไปช่วยเสริมทัพ คำกล่าวนี้ฉลาดเป็นอย่างมาก ทำให้บรรดาแม่ทัพทั้งหลายไม่สงสัยติดใจใดๆ ทั้งสิ้น ต่างคิดว่าองค์รัชทายาทเป็นคนสั่งให้ค่ายหู่อิงไปสำรวจสถานการณ์ที่ชิวซานกวนเช่นเดียวกัน
ไป๋ชิงเหยียนเห็นเลือดของเสิ่นเหลียงอวี้หยดลงตามชายเสื้อของเขา จึงกล่าวขึ้น “แม่ทัพเสิ่นรีบไปทำแผลก่อนเถิด ข้าจะเล่าส่วนที่เหลือให้องค์รัชทายาทและแม่ทัพท่านอื่นฟังเอง!”
“ไปเถิด!” องค์รัชทายาทพยักหน้าให้เสิ่นเหลียงอวี้
เสิ่นเหลียงอวี้จึงกำหมัดคารวะองค์รัชทายาทพลางเดินออกไปจากกระโจมใหญ่
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางองค์รัชทายาทพลางกล่าว “ขณะเจรจาสงบศึก เหยียนอ๋องแห่งซีเหลียงกล่าวอย่างมากความ ถึงขนาดใส่ร้ายว่าองค์รัชทายาทสั่งให้สาวใช้แฝงกายเข้าไปในกระโจม…ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการถ่วงเวลาการเจรจาเป็นวันอื่นแทน ส่วนเรื่องในเมืองชิวซานกวน กลุ่มคนยอดฝีมือที่แต่งกายด้วยชุดต้าจิ้นร่วมมือกับทหารของซีเหลียงไล่สังหารทหารค่ายหู่อิงที่ลอบไปสืบสถานการณ์ของค่ายทหารซีเหลียง ต้องมีเงื่อนงำอันใดแอบแฝงอยู่แน่พ่ะย่ะค่ะ”
จางตวนรุ่ยนึกถึงเรื่องที่หลี่จือเจี๋ยพยายามเลื่อนการเจรจาสงบศึกขณะอยู่ในกระโจมหลายครั้งหลายครา อ้างว่าค่อยเจรจากันต่อในวันพรุ่งนี้ ยิ่งนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองชิวซานกวน…เขาเริ่มหวาดระแวงขึ้นมาทันที
“ให้ตายสิ! ข้าว่าสุนัขรับใช้ของซีเหลียงยังโดนอัดไม่พอ! คงอยากโดนอีก! พวกเรากลัวพวกมันหรืออย่างไร ข้าจะอัดให้วิ่งกลับไปไม่ทันเลย!” แม่ทัพเจินเจ๋อผิงด่าออกมาอย่างโกรธแค้น
“บัดนี้สถานการณ์ภายในของซีเหลียงยังไม่มั่นคง ข้าคิดว่าหากพวกเขาต้องการทำศึกจริงๆ พวกเขาคงไม่เดินทางมาขอเจรจาสงบศึกเช่นนี้หรอก” ไป๋ชิงเหยียนแสร้งทำเป็นก้มหน้าใช้ความคิดจากนั้นกล่าวขึ้น “เกรงว่าซีเหลียงอาจมีแผนการชั่วร้ายอันใดแอบแฝงอยู่ ทว่า ข้ายังนึกไม่ออกว่าพวกเขาให้ยอดฝีมือแต่งกายด้วยชุดต้าจิ้นแอบแฝงอยู่ในเมืองชิวซานกวนเพื่อสิ่งใดกันแน่”
ฟางเหล่าซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างลูบเคราของตัวเองพลางกล่าวขึ้น “ในเมื่อแต่งกายด้วยชุดของต้าจิ้น ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับแคว้นต้าจิ้นของเราอย่างแน่นอน!”
จางตวนรุ่ยขบกรามแน่น “ซีเหลียงต้องการให้พวกนั้นทำสิ่งใดกันแน่”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “แม่ทัพเสิ่นอยากจับเป็นพวกนั้นมาสักคน ทว่า กองทัพซีเหลียงมาถึงเร็วเกินไป พวกเขารับมือไม่ทัน…จึงยังไม่เข้าใจว่าพวกนั้นต้องการทำสิ่งใดกันแน่”
“คงไม่ได้ส่งคนพวกนั้นมาลอบสังหารองค์รัชทายาทหรอกนะ!” แม่ทัพสือพานซานขมวดคิ้วพลางกล่าวออกมา “ซีเหลียงกล้าหรือ”
องค์รัชทายาทก็จับต้นชนปลายไม่ถูกเช่นเดียวกัน
ฉินซ่างจื้อเองก็ไม่เข้าใจ บัดนี้ภายในของซีเหลียงกำลังวุ่นวาย การเจรจาสงบศึกมีประโยชน์ต่อพวกเขาที่สุดแล้ว! เหตุใดพวกเขาต้องทำเช่นนี้ด้วย
“ในเมื่อคาดเดาจุดประสงค์ของพวกนั้นไม่ออก พวกเราเริ่มโจมตีก่อนดีหรือไม่” ฉินซ่างจื้อกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ