สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 332 สังหาร
ตอนที่ 332 สังหาร
หรือว่านี่คือการข่มขู่องค์หญิงหลี่เทียนฟู่แห่งซีเหลียงของพระชายาเอกหรือรัชทายาทอย่างนั้นหรือ
ภายในจวนหรูหราโอ่อ่าของรัชทายาท โคมไฟและผ้าไหมสีแดงถูกแขวนประดับอยู่ตามชายหลังคากระเบื้อง มองดูเป็นสิริมงคล ทว่า ทุกอย่างกลับเงียบสงัดจนน่าแปลกใจ
หลี่เทียนฟู่ไม่ได้สนใจว่างานแต่งงานของตนจะหรูหราหรือไม่ นางมาที่นี่ในวันนี้เพื่อแก้แค้นให้ลู่เทียนจัว…
ดวงตาแดงฉานของหลี่เทียนฟู่จ้องไปยังทุกคนที่นั่งอยู่ในโถงหลักผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงซึ่งถูกสวมทับด้วยมงกุฎงาม นางก้าวเข้ามาในจวนรัชทายาทด้วยใจที่พร้อมตาย!
หลี่เทียนฟู่เป็นคนส่งข่าวเรื่องมือลอบสังหารรัชทายาทไปให้ไป๋ชิงเหยียนที่จวนเอง
หากไป๋ชิงเหยียนมา หลี่เทียนฟู่จะถือโอกาสนี้สังหารไป๋ชิงเหยียน!
ทว่า หากไป๋ชิงเหยียนไม่มา นางก็จะสังหารรัชทายาทแทน จากนั้นบอกกับแขกทุกคนในงานว่านางส่งข่าวเรื่องการลอบสังหารรัชทายาทให้ไป๋ชิงเหยียนแล้ว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ยอมมาที่งาน เช่นนี้ฮ่องเต้ย่อมโทษไป๋ชิงเหยียนแน่นอน
ต่อให้นางลอบสังหารไม่สำเร็จ ทว่า นางในฐานะองค์หญิงที่ถูกส่งมาแต่งงานเชื่อมไมตรีของซีเหลียงลอบลงพระชนม์รัชทายาทงานแต่งงานเช่นนี้ ต้าจิ้นจะปล่อยซีเหลียงไว้อย่างนั้นหรือ
ซีเหลียงต้องถูกบังคับให้ทำสงครามและเป็นสงครามที่ต้องจนสุดชีวิต!
นางต้องการให้ซีเหลียงทั้งแคว้นแก้แค้นแทนลู่เทียนจัว!
ในใจของหลี่เทียนฟู่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง
นางเป็นธิดาสายหลักที่เกิดจากฮองเฮาเช่นเดียวกัน เสด็จพี่ถูกเสด็จพ่ออุ้มไว้ในอ้อมแขน สอนให้หัดเขียนหนังสือด้วยตัวของท่านเอง ส่วนนางทำได้เพียงเรียนตามเสด็จพี่ ทว่า สู้เสด็จพี่ไม่ได้สักอย่าง
เสด็จพี่กลายเป็นจักรพรรดินีของซีเหลียง ทว่า นางกลับถูกส่งตัวมาแต่งงานเชื่อมไมตรี
นางเกลียดความลำเอียงของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ เกลียดเสด็จพี่ที่ส่งนางมาแต่งงานเชื่อมไมตรี
ทว่า นางเกลียดศัตรูของลู่เทียนจัวอย่างไป๋ชิงเหยียนมากกว่า!
บัดนี้ลู่เทียนจัวตายไปแล้ว ทว่า เขายังแก้แค้นไม่สำเร็จ…
เช่นนั้นความปรารถนาในชีวิตนี้ของหลี่เทียนฟู่ก็คือการแก้แค้นแทนลู่เทียนจัว สังหารไป๋ชิงเหยียน และทำลายล้างตระกูลไป๋จนไม่เหลือแม้แต่ผู้เดียว!
เช่นนี้นางถึงจะจากไปหาลู่เทียนจัวได้อย่างสบายใจ
หลี่เทียนฟู่มองเห็นไป๋ชิงเหยียนซึ่งนางอยู่ข้างกายของพระชายาเอกผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดง ดวงตาสีแดงฉานของหลี่เทียนฟู่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นคลุ้มคลั่งขึ้นเรื่อยๆ
หญิงสาวจ้องไปยังไป๋ชิงเหยียนเขม็ง มือค่อยๆ ขยับไปจับดาบเทียนซือซึ่งผูกอยู่บริเวณเอว ดาบเทียนซือเป็นดาบล้ำค่าของซีเหลียง ใบมีดบางราวกับปีกของจักจั่น โค้งงอราวกับเชือก ทว่า แข็งแรงคมกริบราวกับเหล็ก
ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยน้ำชาลงบนถาดสีดำของสาวใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกาย สายตาหยุดอยู่ที่ป้ายหยกซึ่งห้อยลงมาจากเอวของหลี่เทียนฟู่ หญิงสาวจัดเครื่องแต่งกายเล็กน้อย จากนั้นหันไปกล่าวกับพระชายาเอกเสียงแผ่วเบา
“พระชายาต้องรับน้ำชาจากเช่อเฟย เหยี่ยนนั่งอยู่ตรงนี้คงไม่เหมาะสมเพคะ”
พระชายาเอกนึกไม่ถึงว่าไป๋ชิงเหยียนจะรู้จักมารยาทถึงเพียงนี้ นางพยักหน้าให้ยิ้มๆ จากนั้นเอื้อมมือไปแตะเบาๆ ที่หลังมือของไป๋ชิงเหยียนอย่างสนิทสนิม “ลำบากเจ้าแล้ว…”
ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นไปยืนอยู่ด้านข้าง มองดูหลี่เทียนฟู่เดินเข้ามาด้านในห้องโถง
องครักษ์ที่คอยคุ้มกันรัชทายาทค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้รัชทายาทอีกนิด
หลี่เทียนฟู่คาราวะรัชทายาทและพระชายาเอกอย่างนอบน้อม เห็นนางกำนัลข้างกายของพระชายาเอกเตรียมชาสำหรับให้นางใช้คาราวะพระชายาเอกไว้เรียบร้อย หมัวมัวข้างกายของพระชายาวางที่รองเข่าให้นางอย่างใส่ใจรายละเอียด
หลี่เทียนฟู่หลุบตามองไปยังพระชายาเอก ดวงตาเกี้ยวกราดมองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างเคียดแค้น ขณะที่นางกำนัลกำลังพยุงให้นางคุกเข่าลง จู่ๆ หลี่เทียนฟู่ก็ล้วงดาบเทียนซือออกมาจากเอวของนางอย่างรวดเร็ว…
ฉินซ่างจื้อสังเกตความเคลื่อนไหวของหลี่เทียนฟู่อยู่ตลอดเวลา ดวงตาของเขาเปล่งประกายเยือกเย็น ตวาดเสียงดังลั่น “คุ้มครององค์รัชทายาท!”
สิ้นเสียง ภายในห้องโถงต่างตกใจระคนหวั่นวิตก
บรรดาองครักษ์ชักดาบออกมาจากฝัก คุ้มกันรัชทายาทอยู่ทางด้านหน้า แขกที่นั่งอยู่ในห้องโถงส่งเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ บางคนก้มหลบอยู่หลังเก้าอี้ บางคนวิ่งหนีอันตรายออกไปจากห้องโถง
พระชายาเอกที่ไม่รู้เรื่องอันใดมาก่อนเบิกตาโพลง เมื่อเห็นหลี่เทียนฟู่ยกดาบขึ้นสูง นางกรีดร้องพลางหลบไปอยู่ในอ้อมกอดของหมัวมัวข้างกาย
หมัวมัวผู้นั้นนึกว่าหลี่เทียนฟู่จะลอบสังหารพระชายาเอกจึงกอดพระชายาไว้ในอ้อมกอดแน่น ใช้แผ่นหลังคุ้มครองพระชายาอย่างกล้าหาญ
หลี่จือเจี๋ยตกตะลึง เขาพุ่งไปหาหลี่เทียนฟู่พลางตะโกนเสียงดังลั่น “องค์หญิง ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนเห็นว่านางกำนัลที่อยู่ด้านหลังของหลี่เทียนฟู่ต่างชักมีดสั้นที่ซ่อนไว้ออกมาแล้วพุ่งตรงมายังนาง
ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวนิ่งขรึมลง ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วพลางปลดถุงทรายที่พันอยู่รอบแขนออก…
เหล่าองครักษ์ล้วนอารักขาอยู่ข้างกายของรัชทายาท หญิงสาวไม่มีอาวุธอันใดทิ้งสิ้น ทว่า ดาบเทียนซือในมือของหลี่เทียนฟู่กำลังพุ่งตรงมาที่นาง
มีเจตนาฆ่านางอย่างชัดเจน!
สองสายตาประสานกันกลางอากาศ สายตาเยือกเย็นของไป๋ชิงเหยียนราวกับราดน้ำมันไปที่ใจซึ่งสุมไปด้วยไฟแค้นของหลี่เทียนฟู่ นางจำได้…ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนยิงธนูไปยังลำคอของลู่เทียนจัว สายตาของนางสงบเยือกเย็นเหมือนตอนนี้ไม่มีผิดเพี้ยน
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนเบี่ยงกายหลบดาบที่หลี่เทียนฟู่แทงมา นางกำนัลของหลี่เทียนฟู่ลอบใช้มีดสั้นโจมตีนางจากทางด้านหลัง หญิงสาวเบี่ยงกายหลบ มีดเคลือบยาพิษนั่นเฉียดไหล่ของไป๋ชิงเหยียนไปอย่างหวุดหวิด
มีดคมเคลือบยาพิษ ช่างเป็นการสังหารที่รีบร้อน และโหดร้ายอย่างที่สุด หญิงสาวขยับกายหนีไปมาราวกับปลาไหล หากหยุดขยับแม้แต่นิดเดียวนางอาจตายได้
ดาบอ่อนของหลี่เทียนฟู่พุ่งตรงมายังร่างของไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง บรรดานางกำนัลที่ติดตามหลี่เทียนฟู่มาจากซีเหลียงต่างพากันพุ่งเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่คิดชีวิต
ท่ามกลางความวุ่นวาย องค์ชายมู่หรงลี่แห่งแคว้นต้าเยี่ยนลุกขึ้นยืนพลางถอยหลังหนีท่ามกลางความคุ้มครองของเหล่าองครักษ์ เด็กชายกำดาบที่เอวแน่น สายตามองไปยังร่างของเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยแห่งซีเหลียงที่พุ่งตรงไปหาหลี่เทียนฟู่เพื่อหวังจะหยุดยั้งการกระทำของหญิงสาว
เรื่องมาถึงขั้นนี้ ผู้ใดยังดูไม่ออกอีกว่าหลี่เทียนฟู่พุ่งเป้าไปยังเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่
ไป๋ชิงเหยียนมองดูดาบแหลมคมที่พุ่งตรงมายังทุกจากทุกทิศทาง หญิงสาวคว้าแจกันดอกไม้สีขาวซึ่งวางประดับอยู่บนที่สูงหวังจะใช้เป็นที่กำบัง ขณะที่มีดเคลือบยาพิษอยู่ห่างจากนางไม่ถึงคืบ จู่ๆ ไหล่ของนางก็ถูกกระชากอย่างแรงจนร่างทั้งร่างปะทะกับอ้อมกอดอันอบอุ่นและหนาราวกับกำแพง
“คุ้มกันเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่!” รัชทายาทเบิกตาโพลงพลางตะโกนลั่น
เยว่สือชักดาบเข้าไปร่วมสู้รบในความชุลมุนแล้ว
เซียวหรงเหยี่ยนประคองร่างของไป๋ชิงเหยียนให้เบี่ยงกายหลบ ชายชุดยาวของเขาถูกดาบฟันจนขาดวิ่น ทว่า เขากลับคุ้มครองไป๋ชิงเหยียนไว้ทางด้านหลังเขาอย่างปลอดภัย ดวงตาของชายหนุ่มนิ่งขรึม เขาเห็นนางกำนัลคนหนึ่งของซีเหลียงฝ่าวงล้อมของเยว่สือพุ่งตรงมาทางนี้
มู่หรงลี่หยิบดาบที่แขวนอยู่ที่เอวออกมาแล้วโยนไปทางไป๋ชิงเหยียน ตะโกนเสียงดังลั่น “เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่รับดาบขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนจับข้อมือของนางกำนัลผู้นั้นไว้ด้วยมือข้างเดียว จากนั้นยกเท้าถีบไปที่อกของนางกำนัลอย่างแรง ไป๋ชิงเหยียนขยับออกมาจากทางด้านหลังของเซียวหรงเหยี่ยน เอื้อมมือไปรับดาบที่มู่หรงลี่โยนมาให้ ขณะที่เซียวหรงเหยี่ยนจับข้อมือของนางกำนัลไว้แน่นพลางใช้มีดแทงไปที่หัวใจของนาง ไป๋ชิงเหยียนตวัดดาบคมลงบนศีรษะของนางกำนัลผู้นั้นเช่นเดียวกันจนเลือดสดกระเซ็นออกมา
“ให้ตายเถอะ เหตุใดข้าจึงไม่รู้มาก่อนเลยว่าฝีมือการต่อสู้ของสหายเซียวเก่งกาจถึงเพียงนี้!”
ซือหม่าผิงเบิกตาโพลง แววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
รัชทายาทที่อยู่ท่ามกลางความคุ้มครองของเหล่าองครักษ์หยิบดาบจากองครักษ์ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด จากนั้นโยนไปทางเซียวหรงเหยี่ยน “หรงเหยี่ยนรับดาบ!”
เซียวหรงเหยี่ยนรับดาบแล้วเงยหน้าสบกับดวงตานิ่งขรึมของไป๋ชิงเหยียน หญิงสาวส่ายหน้าให้เซียวหรงเหยี่ยนเล็กน้อยโดยไม่เป็นที่ผิดสังเกต
ฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนคือพ่อค้า เขาอยู่เมืองหลวงมานานถึงเพียงนี้แต่ไม่เคยแสดงฝีมือของตัวเองให้ผู้อื่นรับรู้ กระทั่งซือหม่าผิงยังประหลาดใจ หากวันนั้นเซียวหรงเหยี่ยนเปิดเผยฝีมือของเขาเพราะนาง มันไม่เป็นผลดีต่อตัวชายหนุ่มเอง