สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 55 ทำให้เรื่องแย่ลงกว่าเดิม
หงเชี่ยวใจเต้นรัว นางรู้อยู่แล้วว่าไป๋ชิงเหยียนร้ายกาจ เดิมทีตั้งใจว่าเมื่อกล่าวจบจะฆ่าตัวตาย
ไป๋ชิงเหยียนจะได้แก้ต่างสิ่งใดไม่ได้อีก แต่ผู้ใดจะไปคิดว่านางจะถูกจับตัวไว้เสียก่อน นางเริ่มหวาดหวั่นขึ้นมาทันที
ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้ที่หญิงชรานำมาวางให้ ยื่นเตาอุ่นมือส่งให้ชุนเถาพลางกำชับให้นางเติมถ่านลงไปใหม่ จากนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างไม่รีบร้อน “จากถ้อยคำที่เจ้ากล่าวออกมา เจ้าต้องการใส่ร้ายหาว่าข้าลอบมีสัมพันธ์กับเหลียงอ๋องใช่หรือไม่”
หงเชี่ยวใจเต้นอย่างรุนแรง ไม่เอ่ยตอบคำถามของไป๋ชิงเหยียนเอาแต่ร้องไห้ “คุณหนูใหญ่ องค์ชายทรงกินไม่ได้นอนไม่หลับก็เพราะคุณหนูเลยนะเจ้าคะ สี่วันก่อนพระองค์เสด็จมาหาคุณหนูด้วยพระองค์เอง แต่ท่านก็ไม่ยอมพบพระองค์! หากเป็นเช่นนี้ต่อไปบ่าวเกรงว่าองค์ชายจะทรงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหวเจ้าค่ะ!”
“จิ่นถง สั่งให้ผู้ดูแลไปที่จวนเหลียงอ๋องหน่อยเถิด หากเหลียงอ๋องมิได้ประชวรหนักก็เชิญพระองค์เสด็จมาที่นี่สักหน่อย สาวใช้ของจวนเหลียงอ๋องมาก่อความวุ่นวายที่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกงเช่นนี้ หากเหลียงอ๋องประชวรหนักจนเสด็จมามิได้ ข้าคงต้องเชิญองค์หญิงใหญ่เสด็จไปที่จวนเหลียงอ๋องด้วยพระองค์เองเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย” หญิงสาวกล่าวกับไป๋จิ่นถงด้วยท่าทีแข็งกร้าว จากนั้นหันไปยิ้มให้หงเชี่ยว ท่าทีใจกว้างราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ของข้า ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจน!”
หงเชี่ยวกำลังจะเอ่ยขึ้นแต่กลับโดนไป๋ชิงเหยียนตัดบทเสียก่อน “แต่ว่า แม่นางหงเชี่ยวกล่าวว่าเมื่อสี่วันก่อนเหลียงอ๋องเสด็จมาที่จวนไป๋ด้วยพระองค์เอง เช่นนั้นพระองค์คงมิได้ประชวรหนักมาก น่าจะเสด็จมาที่นี่ได้”
ดวงตาเป็นประกายของไป๋ชิงเหยียนฉายแววเฉียบคม หงเชี่ยวขนลุกซู่ไปทั้งร่างกับรอยยิ้มเยือกเย็นของไป๋ชิงเหยียน นางรู้สึกหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก
เหลียงอ๋องส่งคนมากับหงเชี่ยวด้วย เมื่อคนผู้นั้นเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีจึงรีบเผ่นกลับไปรายงาน
เหลียงอ๋อง
ผู้ดูแลของจวนเจิ้นกั๋วกงไปที่จวนเหลียงอ๋องเร็วกว่าที่คาดคิดมาก คนของเหลียงอ๋องเพิ่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าจวนเจิ้นกั๋วกงให้เหลียงอ๋องฟังจบ ด้านนอกก็รายงานว่าผู้ดูแลของจวนเจิ้นกั๋วกงขอเข้าพบ
เหลียงอ๋อง
เหลียงอ๋องนั่งหลับตาอยู่หน้าเตาผิง โกรธที่หงเชี่ยวไม่ทำตามแผนที่วางไว้ นางรีบร้อนอยากใส่ร้ายว่าไป๋ชิงเหยียนลอบมีความสัมพันธ์กับเขามากเกินไปจนทำให้เรื่องทุกอย่างยิ่งแย่ลง
เหลียงอ๋องรู้ว่าหงเชี่ยวจงรักภักดีจนยอมตายเพื่อเขาได้ แต่จัดการเรื่องอย่างใช้ความวู่วามจนเรื่องแย่ลงก็ถือว่าไร้ความสามารถ
หวนนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่ไป๋ชิงเหยียนทำให้จงหย่งโหวโมโหจนสีหน้าบูดเบี้ยวอยู่หน้าจวนจงหย่งโหว เรื่องที่หญิงสาวจัดการกับลูกอนุของท่านลุงสองกลางถนน อีกทั้งเรื่องงานเลี้ยงในวัง หากเหลียงอ๋องต้องรับมือกับไป๋ชิงเหยียนในตอนนี้ ชายหนุ่มไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
หากตอนนี้ตู้จือเวยอยู่ด้วยก็คงดี เขายังสามารถปรึกษากับตู้จือเวยได้ว่าควรทำเช่นไร! ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บตึงบริเวณบาดแผลเหมือนว่าเลือดจะซึมออกมาอีกครั้ง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
เมื่อสงบลงแล้วลองพิจารณาใคร่ครวญดูอย่างถี่ถ้วน เหลียงอ๋องสั่งให้ถงจี๋ช่วยเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้
ตอนนี้เขาควรฟื้นความสัมพันธ์กับไป๋ชิงเหยียน ไม่ใช่ฝืนบังคับให้นางมาอยู่กับเขา
อย่างไรเสียเรื่องที่เขาอ่อนแอไร้ความสามารถก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว เขาไม่กลัวที่จะทำตัวอ่อนแอต่อหน้าไป๋ชิงเหยียน ขอเพียงแค่ยืนกรานว่าตนชอบพอไป๋ชิงเหยียนจริงๆ แต่เป็นหงเชี่ยวเองที่ไปล่วงเกินไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
เดิมทีเหลียงอ๋องไม่อยากเข้าไปพัวพันกับจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างเปิดเผยเช่นนี้ เพราะภายภาคหน้าเขาอาจเดือดร้อนไปด้วย ทว่า บัดนี้…เขาคิดมากไม่ได้แล้ว ป่าวประกาศเรื่องที่เขาชอบพอไป๋ชิงเหยียนให้รับรู้กันทั่ว อย่างมากก็แค่อาศัยความอ่อนแอของตัวเองเข้าวังคุกเข่าอ้อนวอนให้ฝ่าบาทพระราชทานงานสมรสให้ ต่อให้
ไป๋ชิงเหยียนใจกล้าเพียงใดก็มิกล้าขัดราชโองการแน่นอน!
เหลียงอ๋องคลุมเสื้อคลุมตัวใหญ่ เพิ่งตระหนักได้ว่าตนเองพึ่งพาอาศัยตู้จือเวยมากเกินไป เมื่อตู้จือเวยตายไปเขาจึงเหมือนโดนตัดแขนไปข้างหนึ่ง เขาต้องหาเวลาไปเสาะหาที่ปรึกษาคนใหม่เสียแล้ว
ไม่นาน พ่อบ้านของจวนเหลียงอ๋องและผู้ติดตามข้างกายเหลียงอ๋องอันได้แก่ ถงจี๋และเกาเซิง ไปถึงหน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างรวดเร็ว
เห็นว่าหน้าจวนเจิ้นกั๋วกงเต็มไปด้วยชาวบ้านที่มาดูเรื่องสนุกมากมาย พ่อบ้านของจวนเหลียงอ๋องรีบทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “ขออภัยขอรับคุณหนูใหญ่ไป๋ บ่าวคือพ่อบ้านของจวนเหลียงอ๋อง บ่าวอบรมสั่งสอนคนใช้ในจวนได้ไม่ดี สร้างความลำบากให้คุณหนูใหญ่แล้ว บ่าวจะจับตัวนางกลับไปเดี๋ยวนี้ขอรับ!”
“ช้าก่อน…” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางพ่อบ้านจวนเหลียงอ๋องพลางถามยิ้มๆ “เหลียงอ๋องเล่า”
“องค์ชายเสด็จมาได้ครึ่งทางก็กระอักเลือดออกมาขอรับ ตอนนี้ถูกส่งกลับจวนไปแล้ว คุณหนูต้องการให้องค์ชายเสด็จมารับตัวคนด้วยพระองค์ให้ได้หรือขอรับ หากองค์ชายทรงเป็นอันใดขึ้นมา เกรงว่าคุณหนูใหญ่คงรับผิดชอบไม่ไหวหรอกขอรับ!” ถงจี๋ทำแก้มพองลมจ้องไปที่ไป๋ชิงเหยียนเขม็ง เกลียดสตรีใจร้ายผู้นี้ยิ่งนัก
หญิงสาวไม่ชายตามองถงจี๋แม้แต่น้อย แค่บ่าวรับใช้ข้างกายคนหนึ่งของเหลียงอ๋อง นางไม่คิดจะใส่ใจ
“ในเมื่อเหลียงอ๋องทรงบาดเจ็บหนักจนเสด็จมาไม่ได้ เช่นนั้นข้าฝากเหล่าเวิง[1] ไปทูลเหลียงอ๋องด้วย!” หญิงสาวถือเตาอุ่นมือพลางลุกขึ้น ยืนอยู่บนบันไดสูงทอดมองไปยังพ่อบ้านจวนเหลียงอ๋อง เอ่ยขึ้น “เมื่อสี่วันก่อนข้าขายบ่าวรับใช้ไปทั้งหมดสามสิบเก้าคน ชุนเหยียน สาวใช้ข้างกายของข้าโดนโบยห้าสิบทีจนตอนนี้ยังลุกจากเตียงมิได้ ผู้อื่นไม่รู้สาเหตุ! แต่วันนี้ข้าจะกล่าวกับเหล่าเวิงที่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกงให้ชัดเจน…”
สายตาของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปที่ยอดฝีมืออย่างเกาเซิง กล่าวออกมาด้วยสีหน้าถมึงทึง “เหลียงอ๋องซื้อตัวบ่าวรับใช้ห้าคนของจวนข้า ลอบสืบเรื่องส่วนตัวของข้าจากสาวใช้ในเรือนใน ดังนั้นท่านแม่ของข้าจึงตีขาของบ่าวทั้งห้าจนหักและขายออกไปยกครัวเรือน ส่วนชุนเหยียน…ข้าเห็นแก่ที่นางเติบโตมากับข้าตั้งแต่เล็กและยังเคยช่วยชีวิตสาวใช้คนสำคัญของข้า ข้าจึงไว้ชีวิตนางสักครั้ง”
พ่อบ้านของเหลียงอ๋องเหงื่อซึมไปทั้งร่าง ถงจี๋ก็ยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างร้อนตัว
“เมื่อครู่แม่นางผู้นี้กล่าวว่าเหลียงอ๋องทรงมอบป้ายหยกให้ข้าแต่ข้าไม่รับ เสด็จมาหาแต่ข้าก็ไม่ยอมมาพบ เพระเหตุใดกัน!” หญิงสาวขึ้นเสียงสูง สีหน้าเคร่งขรึมเย็นชาพลางกล่าวกับพ่อบ้าน “แม้ข้าจะเป็นสตรี แต่ข้าอ่านตำราปราชญ์มาตั้งแต่เด็ก รู้ธรรมเนียมการรักนวลสงวนตัว รู้ว่าต้องทำทุกสิ่งอย่างถูกทำนองคลองธรรม! หากเหลียงอ๋องมีใจให้ข้า สามารถส่งผู้ใหญ่มาสอบถามว่าข้าหมั้นหมายแล้วหรือไม่ หากยังมิได้หมั้นหมาย…ค่อยส่งแม่สื่อมาสู่ขอ! เมื่อบิดามารดาเป็นผู้เลือกคู่ให้ ไป๋ชิงเหยียนจะไม่ปฏิเสธสักคำ! นี่คือการเคารพให้เกียรติ!”
“แต่เจ้าดูการกระทำของเหลียงอ๋อง ซื้อตัวบ่าวรับใช้ของข้า สืบเรื่องส่วนตัวของข้าจากสาวใช้ข้างกาย ให้สาวใช้ของข้ามาตามข้าไปพบหลายต่อหลายครั้ง ข้าอดทนไม่รู้ตั้งกี่หนเพื่อรักษาเกียรติของท่านย่าและราชวงศ์ นึกว่าการขายบ่าวรับใช้ออกไปจะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว ขอแค่จวนเจิ้นกั๋วกงและตัวข้า
ไป๋ชิงเหยียนรักษาเกียรติของตนเองไว้ก็มิมีสิ่งใดต้องหวาดกลัว แต่ข้านึกไม่ถึงจริงๆ ว่าองค์ชายจะใช้วิธีต่ำช้าโดยการสั่งให้สาวใช้ของจวนเหลียงอ๋องสละชีวิตนางเพื่อหวังทำลายชื่อเสียงความบริสุทธิ์ของข้าเช่นนี้!”
“ท่าน…” เมื่อได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน ถงจี๋โมโหเป็นอย่างมาก เขากล่าวขึ้น “คุณหนูใหญ่ไป๋เข้าข้างตัวเองเกินไปหรือไม่ขอรับ เหลียงอ๋องของบ่าวเป็นถึงองค์ชายของราชวงศ์ ต้องการสตรีนางใดก็ได้ เหตุใดต้องมาหลงใหลท่านเพียงผู้เดียว องค์ชายของบ่าวทรงไม่รังเกียจที่คุณหนูใหญ่ไป๋มีบุตรยาก เหตุใดคุณหนูใหญ่ถึงยังยโสโอหังเช่นนี้อีกขอรับ!”
“ถงจี๋! ถอยออกไป!” พ่อบ้านจวนเหลียงอ๋องหน้าขาวซีด
“เช่นนี้แสดงว่าเหลียงอ๋องคิดว่าข้ามีบุตรยาก หากทำลายชื่อเสียงของข้าได้ ข้าคงทำได้เพียงแต่งเข้าจวนเหลียงอ๋องเพียงหนทางเดียวใช่หรือไม่” สีหน้าของหญิงสาวถมึงทึง รัศมีน่าหวาดหวั่น “รบกวนเหล่าเวิงกลับไปทูลเหลียงอ๋องด้วยว่าคนตระกูลไป๋ยอมหักไม่ยอมงอ! ไป๋ชิงเหยียนขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้ ชาตินี้ข้ายอมแต่งงานกับหมูกับหมาที่ใดก็ได้ แต่จะมิยอมแต่งงานกับคนถ่อยเช่นนี้เด็ดขาด!”
[1] เหล่าเวิง คำเรียกผู้ชายวัยชรา