สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 12 ตอนที่ 343 พิษหมุดกร่อนรักกำเริบ
เมื่ออาคมกำไลปี่อั้นถูกเปิดจนถึงระดับสูงสุด บริเวณโดยรอบต่างเต็มไปด้วยเสียง ‘หวืด หวืด’ ของสมุนไพรกินคน เบื้องหน้ายังมีปากขนาดใหญ่ที่อ้าค้างอย่างกระหายเลือดของเหล่าสมุนไพรกินคนจำนวนมาก
คราแรก สมุนไพรกินคนหวาดกลัวสัตว์เทพกิเลนที่อยู่ในถ้ำด้านหลังของซูจิ่นซี พวกมันต่างไม่กล้าเข้าใกล้ ทว่าหลังจากที่สมุนไพรกินคนจำนวนหนึ่งที่มีลำตัวสีแดงพบว่าสัตว์เทพกิเลนในถ้ำไม่มีการเคลื่อนไหว จึงกล้าหันมาโจมตีซูจิ่นซี
แววตาของซูจิ่นซีปรากฏความเย็นชา ใบหน้าเต็มไปด้วยความระแวดระวัง นางใช้ระบบถอนพิษครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อค้นหาสมุนไพรที่ใช้จัดการกับสมุนไพรกินคน ทว่าทุกครั้งที่หาเจอ แม้จะรับมือกับสมุนไพรกินคนที่อยู่ตรงหน้าได้ชั่วคราว แต่ไม่นานสมุนไพรกินคนเหล่านั้นก็กลายพันธุ์ เร่งให้สมุนไพรกินคนขยายพันธุ์กลายเป็นสมุนไพรกินคนที่มีจำนวนมากยิ่งขึ้น
ซูจิ่นซีไม่มีวรยุทธ์ อาวุธเพียงอย่างเดียวในมือคือสมุนไพร ทว่าสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ เท่ากับเป็นการใช้น้ำแก้วเดียวดับไฟที่ไหม้รถทั้งคัน ไม่มีประโยชน์อันใดเลย
ซูจิ่นซีกัดฟันกรอด กล่าวสาบานในใจว่าครั้งนี้หากรอดชีวิตออกไปได้ ต่อไปจะต้องหาโอกาสเรียนวิชาการต่อสู้ให้ได้ นางจะต้องเป็นผู้ที่มีวรยุทธ์ขั้นสูง เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า ต่อไปนี้นางต้องไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้อีก
ซูจิ่นซีค่อยๆ ถอยหลังเข้าไปภายในถ้ำที่มีสัตว์เทพกิเลนอาศัยอยู่
แม้ตัวคนจะเข้าไปในถ้ำแล้ว ทว่ามีสมุนไพรกินคนตัวหนึ่งที่มีขนาดของหัวเท่ากับครึ่งหนึ่งของร่างกายซูจิ่นซีและมีความสูงประมาณห้าจั้ง เหมือนว่ามันจะไม่เกรงกลัวสัตว์เทพกิเลนแม้แต่น้อย สมุนไพรกินคนตัวนั้นเดินตามติดซูจิ่นซีอย่างต่อเนื่องไม่ยอมปล่อย มันตามนางเข้ามาภายในถ้ำ
เมื่อซูจิ่นซีใช้ยาพิษ สมุนไพรกินคนตัวนั้นก็กลายพันธุ์และขยายพันธุ์เป็นสมุนไพรกินคนจำนวนมาก ในชั่วพริบตาก็เกิดสมุนไพรกินคนตัวใหม่ออกมาจำนวนมาก และดูเหมือนมันจะไม่กลัวสัตว์เทพกิเลนแล้ว
ในช่วงเวลาความเป็นความตาย ซูจิ่นซีไม่ลดละความพยายามและไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย
ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้ ชีวิตย่อมมีความหวัง ความกลัวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
“จิ่นซี! ” ทันใดนั้น เสียงของเยี่ยโยวเหยาก็ดังขึ้นที่ปากถ้ำ
เยี่ยโยวเหยากลับมาแล้ว!!!
เยี่ยโยวเหยาวางหนานกงหว่านเอ๋อร์ที่หมดสติและร่างกายเต็มไปด้วยเลือดลงบนพื้น ก่อนจะยกกระบี่ฟันไปทางสมุนไพรกินคนที่โจมตีซูจิ่นซี ทว่าเมื่อกระบี่ฟันลงไป สมุนไพรกินคนก็เริ่มขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทางเดินแคบๆ ภายในถ้ำอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรกินคน อีกทั้งผนังถ้ำยังต่ำมาก ทำให้หัวของสมุนไพรกินคนบางตัวติดอยู่กับผนังด้านบน เยี่ยโยวเหยาจึงไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้
เยี่ยโยวเหยาคาดไม่ถึงว่า การที่เขาออกไปครั้งนี้จะทำให้ซูจิ่นซีตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ดวงตาเคร่งขรึมเย็นชาราวกับน้ำแข็งหมื่นปีพลันปรากฏความรู้สึกตำหนิตนเอง
ขวับ ขวับ ขวับ ขวับ…
แม้จะรู้ว่าการฟาดฟันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด ทั้งยังเร่งให้สมุนไพรกินคนขยายพันธุ์จำนวนมาก ทว่าเยี่ยโยวเหยายังกวัดแกว่งกระบี่อย่างต่อเนื่อง
เขาใช้ความเร็วในการฟันกระบี่แข่งกับความเร็วในการขยายพันธุ์ของสมุนไพรกินคน วางแผนฟาดฟันเพื่อเปิดเส้นทางให้สามารถเข้าไปใกล้ซูจิ่นซีได้ แต่ก็ไร้ประโยชน์
ในค่ำคืนที่มืดมิด เยี่ยโยวเหยากวัดแกว่งกระบี่อย่างบ้าคลั่ง ไม่หยุดพัก
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเวลานี้ ในใจของเขาหวาดกลัวเพียงใด และไม่มีผู้ใดรู้ว่าเวลานี้ ภายในใจของเขามีความหวาดกลัวมากที่สุด อย่างที่ในชีวิตนี้ไม่เคยหวาดกลัวมาก่อน
ราวกับว่าทุกสิ่งกลายเป็นความว่างเปล่า ในใจของเขามีเพียงคำสามคำ ซูจิ่นซี… ซูจิ่นซี… ซูจิ่นซี…
หากความหวาดกลัวทำให้คนบ้าคลั่ง ตอนนี้เขาคงกลายเป็นปีศาจไปแล้ว
ซูจิ่นซี…
‘ครืน… ’
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังหนักแน่นเหมือนฟ้าดินถล่มลงมา ภายในถ้ำพลันสั่นสะเทือน
สถานการณ์เช่นนี้ เยี่ยโยวเหยาคุ้นเคยอย่างมาก มันเกิดจากเปลวเพลิงเหมันต์ของสัตว์เทพกิเลน
‘ครืน… ’
เกิดแรงสั่นสะท้านอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เสียงนั้นดังมากจนทำให้หูอื้อ
หินภายในถ้ำตกลงมา ทั้งเศษหินจำนวนมากก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความโกลาหล เยี่ยโยวเหยามองเห็นฝั่งตรงข้ามที่ขวางกั้นด้วยสมุนไพรกินคนอย่างชัดเจน ขณะที่ซูจิ่นซีกำลังเผชิญหน้ากับอันตราย ร่างของสัตว์เทพกิเลนที่เปล่งประกายด้วยเปลวเพลิงเหมันต์พลันวิ่งเข้าหาซูจิ่นซี มันใช้ปากคาบนางและวิ่งหายเข้าไปภายในถ้ำ
“อ้าก… ”
เยี่ยโยวเหยาเงยเหน้าส่งเสียงคำรามดุดัน เสียงนั้นดังสนั่นแฝงไปด้วยความเดือดดาลสุดขีด ราวกับดังไปถึงแดนสวรรค์ชั้นเก้า เขารวบรวมพลังทั้งหมดในร่าง
เหล่าสมุนไพรกินคนภายในถ้ำ รวมถึงสมุนไพรกินคนบางส่วนที่อยู่นอกถ้ำ ถูกเสียงคำรามดุดันของเยี่ยโยวเหยาทำให้แตกกระจาย ทันใดนั้น บริเวณโดยรอบของเยี่ยโยวเหยาก็เต็มไปด้วยผงสีเขียวและสีแดง เป็นฝุ่นผงของสมุนไพรกินคนที่แตกกระจายแล้ว
ทว่าผ่านไปชั่วครู่ เมื่อฝุ่นผงเหล่านั้นตกลงบนพื้น มันก็เริ่มขยายพันธุ์อีกครั้ง กลายเป็นสมุนไพรกินคนจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
เสียงคำรามอันยาวนานของเยี่ยโยวเหยา ทำให้เกิดเสียงสะท้อนภายในถ้ำอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน
แม้เขาจะเงยหน้าอ้าปากค้าง หลังจากเปล่งเสียงออกมาสุดเสียงแล้วก็ตาม
ผ่านไปครู่ใหญ่ เมื่อเยี่ยโยวเหยากลับมายืนตัวตรง เหล่าสมุนไพรกินคนที่กระหายเลือดทั้งหมดต่างตกใจกลัว พากันถอยหลังห่างจากเขาไปหนึ่งจั้ง
เส้นผมยาวของเยี่ยโยวเหยาที่มัดไว้พลันสยายออก พลิ้วไสวอย่างอิสระท่ามกลางลมหนาวที่พัดเข้ามาภายในถ้ำ ด้านหลังของเขาเป็นแสงจันทร์ที่ลอดผ่านเข้ามาจากปากถ้ำ แม้เยี่ยโยวเหยาจะยืนหันหลังให้แสงจันทร์ ทว่ารอบตัวเขาและใบหน้ากลับสว่างขึ้นอย่างชัดเจน
ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม รูปร่างดั่งเทพบรรจงแกะสลักอย่างปราณีต คิ้วดกดำงดงาม สันจมูกโด่งราวกับต้นสนสูงริมหน้าผา ริมฝีปากงดงามทว่าเย็นชาดั่งคมกระบี่
เห็นได้ชัดว่าเยี่ยโยวเหยายังเป็นบุรุษคนเดิมผู้แสนเย็นชาเยือกเย็น ทว่าใบหน้าหล่อเหลาคมสันที่ซูจิ่นซีเคยหลงใหล ในเวลานี้กลับปรากฏท่าทีแปลกประหลาดแฝงความดุดันโหดร้าย ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน ทั้งมีท่าทางดั่งจอมปีศาจกระหายเลือด
ดวงตาลึกซึ้งยิ่งทวีความลึกลับหนาวเหน็บไร้ความอบอุ่น มันไม่ใช่สีดำขลับแล้ว ทว่ากลายเป็นสีแดงโลหิต เปลวเพลิงสีโลหิตปรากฏขึ้นบนหน้าผาก ส่องประกายความกระหายเลือด แม้จะเพิ่มความสง่างามให้กับใบหน้าคมสันที่ดูราวกับไม่ใช่มนุษย์ ทว่าเป็นดั่งจอมปีศาจ หากจ้องเป็นเวลานานอาจถูกดูดจิตวิญญาณไปก็เป็นได้
มือขวาของเยี่ยโยวเหยาถือกระบี่ มือซ้ายปล่อยไว้ข้างกายตามธรรมชาติ ใจกลางฝ่ามือมีไอสีดำลอยออกมาดั่งไอพิษของงูศักดิ์สิทธิ์ แม้จะถูกปกปิดด้วยหนังมนุษย์ชั้นเลิศที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ทว่าหลังจากที่หนังมนุษย์ไม่สามารถยับยั้งผลการสะท้อนกลับของหมุดกร่อนรักได้ จึงปรากฏไอสีดำลอยออกมาจากฝ่ามือ
เยี่ยโยวเหยาถือกระบี่ยาวแนบข้างกาย ค่อยๆ หันไปทางสมุนไพรกินคนที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาสีแดงโลหิตกวาดมองไปที่เหล่าสมุนไพรกินคน
เดิมทีสมุนไพรกินคนที่มีท่าทีดุดัน เนื่องจากอาศัยการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วและบ้าคลั่ง ทว่าตอนนี้ความว่องไวของมันเป็นเหมือนกับคนทั่วไป พวกมันต่างก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว
ทว่าตอนนี้ เยี่ยโยวเหยาจะให้โอกาสพวกมันหลบหนีหรือขวางทางได้อย่างไร?
เยี่ยโยวเหยากลายเป็นปีศาจเพื่อความรัก ในใจเขามีความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้ทั้งโลกและสวรรค์จะขัดขวาง เขาก็ยอมนองเลือดเพื่อช่วยซูจิ่นซีกลับมาให้ได้
ขวับ ขวับ ขวับ ขวับ ขวับ…
แม้ความเร็วในการกวัดแกว่งกระบี่ของเยี่ยโยวเหยาจะเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ ทว่ากลับทวีความโหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้น ทั้งทวีความดุดันและไอสังหารอันมหาศาล
แสงจันทร์ด้านนอกถ้ำถูกเมฆดำเข้ามาปกคลุมอย่างเชื่องช้า ท้องฟ้ามืดมิดเต็มไปด้วยไอสังหาร