สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 16 ตอนที่ 478 ทูตแคว้นต่างๆ มาร่วมงาน จะมีเขาด้วยหรือไม่?
- Home
- สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน
- เล่มที่ 16 ตอนที่ 478 ทูตแคว้นต่างๆ มาร่วมงาน จะมีเขาด้วยหรือไม่?
สิ่งของเหล่านี้เป็นของดีจริงๆ ทว่าสมุนไพรหลายชนิดกลับมีฤทธิ์ขัดกัน
มองผิวเผินล้วนเป็นยาสมุนไพรบำรุง ทว่าไม่เป็นผลดีต่ออาการบาดเจ็บของซูจิ่นซีก่อนหน้านี้
เนื่องจากสมุนไพรที่หลิงเซียวจวิ้นจู่นำมาล้วนเป็นของล้ำค่าหายาก หมอทั่วไปยากที่จะพบกับปัญหาเหล่านี้
หลิงเซียวจวิ้นจู่เห็นซูจิ่นซีไม่ตอบสนองอันใดอยู่พักหนึ่ง “ท่านหมอซู? ”
ซูจิ่นซีไม่พูดสิ่งใด ทำเพียงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างใจเย็น “ทำให้จวิ้นจู่ต้องลำบากแล้ว ทว่า… อาการบาดเจ็บของกระหม่อมเกือบหายดีแล้ว”
“เช่นนั้นหรือ? ท่านหมอซูเก็บยาสมุนไพรเหล่านี้ไว้เถิด! อย่างไรเสีย สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นยาบำรุง หากรับประทานเพียงเล็กน้อยก็จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย”
ยาสมุนไพรล้ำค่าเหล่านี้ ปกติแล้วไม่อาจพบตามร้านยาทั่วไปได้โดยง่าย
ซูจิ่นซีย่อมรับไว้อย่างแน่นอน
แม้ตอนนี้นางจะไม่ได้ใช้ ทว่าผู้อื่นอาจต้องใช้มัน!
ร่างกายของอู๋จุนยังอ่อนแออยู่มาก นางสามารถเลือกยาสมุนไพรเหล่านี้ออกมาบางส่วนเพื่อให้เขาบำรุงร่างกาย
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระหม่อมก็ไม่เกรงใจ ขอบพระทัยจวิ้นจู่”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร! ท่านหมอซูเป็นสหายของพี่ฉี ก็เหมือนเป็นสหายของหลิงเซียว คราวหลังหากท่านหมอซูต้องการสิ่งใดหรือต้องการความช่วยเหลือใด ก็เอ่ยปากกับข้าได้ทันที ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ ข้าต้องไม่ปฏิเสธแน่นอน”
ซูจิ่นซียกยิ้มมุกปากเล็กน้อยและพยักหน้า
หลังจากนั้น หลิงเซียวจวิ้นจู่ก็มาหาซูจิ่นซีอีกหลายครั้ง
บางครั้งก็มาพาซูจิ่นซีไปซื้อของด้วยกัน บางครั้งก็มาเรียกซูจิ่นซีไปช่วยงานที่หอโอสถสกุลจง ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งหนึ่งนางยังเชิญซูจิ่นซีไปรักษาอาการของสัตว์เลี้ยงที่จวนจวิ้นจู่
โดยส่วนใหญ่ ขอเพียงไม่ทำให้งานของซูจิ่นซีล่าช้า ทั้งยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงเซียวจวิ้นจู่กับมู่หรงฉี ซูจิ่นซีก็ตามไปเกือบทุกครั้ง
ทว่าซูจิ่นซียังคงนึกระแวดระวังหลิงเซียวจวิ้นจู่
เรื่องที่ผิดปกติย่อมแฝงด้วยความโหดร้าย ต่อให้เก่งกาจเพียงใดก็ต้องระมัดระวัง
ในโลกนี้มีสิ่งใดบ้างที่ได้มาเพียงฝ่ายเดียว?
มีผู้ใดบ้างที่ปฏิบัติดีต่อเจ้าโดยไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝง?
ต้องมีอันใดผิดปกติเป็นแน่ นางต้องป้องกันไว้ก่อน
สองสามวันต่อมา ซูจิ่นซีกำลังนั่งเล่นหมากรุกกับมู่หรงฉีอยู่ในเรือน อู๋จุนยังคงนอนเอนตัวชื่นชมทิวทัศน์บนชายคา ทันใดนั้น อวิ๋นจิ่นก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
เมื่อซูจิ่นซีและมู่หรงฉีเห็นท่าทางของอวิ๋นจิ่น ทั้งคู่ต่างวางหมากที่อยู่ในมือทันที “หมอหลวงอวิ๋น เป็นอย่างไร? มีความคืบหน้าเรื่องดอกไม้ปีศาจแล้วใช่หรือไม่? ”
อู๋จุนลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย และหันไปมองทางอวิ๋นจิ่น
ท่าทางของอวิ๋นจิ่นดูอบอุ่นอ่อนโยน ราวกับสามารถละลายน้ำแข็งทั้งโลกใบนี้ได้
“ทูลพระชายา มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดอกไม้ปีศาจจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
“รีบพูดเร็ว สิ่งนั้นปรากฏขึ้นที่ใด? ”อู๋จุนถามขึ้นก่อน
ซูจิ่นซีและมู่หรงฉีต่างรอฟังคำตอบอย่างเงียบงัน รอให้อวิ๋นจิ่นเอ่ยปาก
อวิ๋นจิ่นหันไปมองอู๋จุนที่อยู่บนหลังคาด้วยสายตานอบน้อม “สองวันมานี้ กระหม่อมตรวจสอบพบว่า ตำแหน่งที่ดอกไม้ปีศาจปรากฏตัวขึ้นครั้งสุดท้ายและครั้งก่อนหน้านี้ ล้วนอยู่ที่เมืองเย่หลิน ดังนั้น จากการคาดคะเนของกระหม่อม ตำแหน่งที่ดอกไม้ปีศาจจะปรากฏตัวในครั้งนี้ ต้องอยู่ที่เมืองเย่หลินอีกเช่นกัน”
“เมืองเย่หลิน? ” ดูเหมือนมู่หรงฉีจะคิดสิ่งใดได้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ทำไมหรือ? ” ซูจิ่นซีมองมู่หรงฉี
“มิน่าเล่า องครักษ์รายงานว่าช่วงนี้มีคนแปลกหน้าจำนวนมากเข้ามาที่เมืองเย่หลิน คิดว่าคงมาตามหาดอกไม้ปีศาจเป็นแน่”
“เร็วๆ นี้หรือ? ” ซูจิ่นซีฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก นางสามารถจับใจความสำคัญในคำพูดได้ “เหตุใดคนจำนวนมากจึงเดินทางมาพร้อมกัน? หรือว่าดอกไม้ปีศาจจะปรากฏตัวขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว? พวกเขาแน่ใจได้อย่างไร? ”
มู่หรงฉีส่ายศีรษะ ครู่หนึ่งก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาของเขาพลันเปล่งประกาย “อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีงานเทศกาลร้อยบุปผาประจำปีของแคว้นหนานหลี หรือว่าดอกไม้ปีศาจนั่น จะปรากฏขึ้นในวันเทศกาลร้อยบุปผา? ”
อวิ๋นจิ่นพูดเสริมว่า “กระหม่อมก็คิดเช่นนั้น ระยะเวลาของเทศกาลร้อยบุปผาคือเดือนห้า ไม่ว่าอุณหภูมิหรือความชื้นล้วนเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของดอกไม้ปีศาจ อีกทั้ง จู่ๆ ก็มีผู้คนจำนวนมากมาที่เมืองเย่หลิน คิดว่าคงไม่ใช่ข่าวลือที่ไร้มูลความจริง”
“เทศกาลร้อยบุปผาจัดขึ้นในวันใด? ” ซูจิ่นซีถาม
“อีกเจ็ดวันข้างหน้า” มู่หรงฉีตอบ
“ดูแล้ว พวกเราคงต้องเตรียมตัวให้ดี อีกเจ็ดวันข้างหน้า อาจมีการต่อสู้ที่ยากลำบากเกิดขึ้น”
ซูจิ่นซีหรี่ตาลง แววตาเผยให้เห็นความนัย ‘ต้องทำได้’
“ไปเอาแผนที่ป้องกันเมืองมา! ” มู่หรงฉีเอ่ยกับองครักษ์ที่อยู่ด้านข้าง
องครักษ์ตอบรับ จากนั้นจึงรีบตรงไปทางห้องหนังสือของมู่หรงฉีทันที ไม่นานนักก็นำแผนที่ป้องกันเมืองออกมาหนึ่งแผ่น
มู่หรงฉีกางแผนที่ป้องกันเมืองลงบนโต๊ะหินในเรือนพักของซูจิ่นซี อวิ๋นจิ่นและคนอื่นๆ ต่างเข้ามาล้อมรอบ
ตอนนี้อู๋จุนไม่มีวรยุทธ์ ต่อให้กังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงไม่ลงมาจากชายคา ทำเพียงเอนตัวนอนอยู่บนหลังคาและหลับตาทั้งคู่
“เทศกาลร้อยบุปผาตรงกับวันพระราชสมภพของมหาอุปราชพอดี” มู่หรงฉีพูด “ตามธรรมเนียมปฏิบัติในวันพระราชสมภพของมหาอุปราชในปีที่ผ่านมา ทั้งในวังและนอกวังจะมีการสร้างระเบียง ไม่เพียงเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ทั้งบุ๋นบู๊เท่านั้นที่มาร่วมฉลอง ทว่ายังมีสามัญชน และทูตจากต่างแคว้นที่มาร่วมแสดงความยินดีเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของทูตจากต่างแคว้น ดังนั้นในอีกสองสามวันข้างหน้า จะมีการป้องกันเมืองอย่างเข้มงวด
ตรงนี้… ตรงนี้… และถนนที่มีตำแหน่งอยู่ใกล้ระเบียง เมื่อถึงเวลานั้นจะมีผู้คนออกมาอย่างเนืองแน่น ส่วนตรงนี้… ตรงนี้ และถนนเส้นนี้จะถูกปิดกั้น ไม่ให้บุคคลทั่วไปเดินผ่าน เพราะเป็นเส้นทางที่กั้นไว้สำหรับทูตจากต่างแคว้น และบุคคลสำคัญในราชสำนักเท่านั้น”
มู่หรงฉีชี้ไปบนแผนที่และอธิบายรายละเอียดเหตุการณ์ รวมถึงเงื่อนไขที่อาจเกิดขึ้นในวันเทศกาลร้อยบุปผา
“เมื่อถึงเวลานั้น ข้า หมอหลวงอวิ๋น ท่านหมอจง และจิ่นซี พวกเราจะแยกกันปฏิบัติการ ข้าต้องเข้าวังเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองของมหาอุปราช ดังนั้น เรื่องในวังสามารถมอบหมายให้ข้าจัดการได้ ส่วนด้านนอกวังให้แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือหมอหลวงอวิ๋นและจิ่นซี ข้าจะเตรียมป้ายคำสั่งพิเศษให้พวกเจ้า ถึงเวลานั้น ให้พวกเจ้าแต่งตัวเป็นทูต ปะปนไปกับคณะทูตและใช้เส้นทางพิเศษ ส่วนท่านหมอจง ข้าจะให้คนจำนวนหนึ่งแก่เจ้า ให้พวกเจ้าแต่งตัวและเดินปะปนกับผู้คนที่พลุกพล่าน ในเวลานั้น ทุกคนคงให้ความสนใจเหล่าดอกไม้และต้นไม้ในเทศกาลร้อยบุปผาเป็นพิเศษ มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ดอกไม้ปีศาจจะปรากฏขึ้นที่นั่น”
อวิ๋นจิ่นและจงรุ่ยอันต่างไม่แสดงความคิดเห็นอันใด ทำเพียงพยักหน้าตอบรับ
อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซียังคงมีความกังวลใจ “พวกเราเพียงสี่คน น้อยไปหรือไม่? เมืองเย่หลินใหญ่โตถึงเพียงนั้น ในเทศกาลร้อยบุปผาคงมีดอกไม้นานาพันธุ์จำนวนมาก อาศัยพวกเราเพียงสี่คนคงไม่อาจตรวจดูได้ทั้งหมด ดังนั้น หากคิดจะตามหาดอกไม้ปีศาจ คงไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่แน่ว่าพวกเรายังไม่ทันหาเจอ ก็ถูกผู้อื่นแย่งชิงไปก่อนแล้ว”
“จุดนี้จิ่นซีวางใจได้ ข้ายังมีแผนการเตรียมไว้”
มู่หรงฉีพูดพลางยกมือขึ้น องครักษ์เงาในชุดดำยี่สิบกว่านายพลันปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าทันที พวกเขาคำนับมู่หรงฉี ซูจิ่นซีและคนอื่นๆ
มู่หรงฉีอธิบาย “คนเหล่านี้เป็นองครักษ์ระดับหนึ่งซึ่งมีฝีมือดีที่สุด พวกเขาได้รับการฝึกฝนอยู่ข้างกายข้า นอกจากนั้นยังมีองครักษ์ระดับสองอีกสี่สิบนาย เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะปลอมตัวเป็นคนธรรมดาและลอบปะปนเข้ามาในเมือง เพื่อค้นหาดอกไม้ปีศาจร่วมกับทุกคน ในวังยังมีคนของข้าเช่นกัน ข้าจะมีคำสั่งลับให้พวกเขาดูแลอย่างใกล้ชิด”
นึกไม่ถึงว่ามู่หรงฉีจะคิดได้อย่างรอบคอบเช่นนี้ ซูจิ่นซีมองมู่หรงฉีด้วยแววตาที่เปล่งประกายความนับถือ
เมื่อทุกคนไม่มีความคิดเห็นอื่นใด ดังนั้นเรื่องการตามหาดอกไม้ปีศาจในวันเทศกาลร้อยบุปผาจึงดำเนินการตามแผนการอันรอบคอบของมู่หรงฉี ส่วนอวิ๋นจิ่นก็วาดรูปดอกไม้ปีศาจให้ทุกคนได้เห็น
หลังจากที่ทุกคนได้เห็นแล้ว พวกเขามีความรู้สึกลึกๆ ว่ารูปร่างของดอกไม้ปีศาจเหมือนกับดอกโบตั๋น ดังนั้นมีความเป็นไปได้อย่างมากที่มันจะเติบโตและอยู่ร่วมกับดอกโบตั๋น เช่นนั้นขอบเขตการค้นหาของทุกคนจึงแคบลงมาอีก
อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซียังคงมีความกังวลเล็กน้อย เป็นเรื่องดีที่ลักษณะของดอกไม้ปีศาจกับดอกโบตั๋นมีความคล้ายคลึงกัน ทำให้ลดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง ทว่าดอกไม้ปีศาจกับดอกโบตั๋นมีลักษณะเหมือนกันเช่นนี้ ทั้งมันยังอยู่ปะปนกับดอกโบตั๋น ทำให้ค้นหาได้ยาก นอกจากนั้นสีของดอกยังเหมือนกันอีก หากสายตาไม่แหลมคม คงไม่มีทางหาเจอแน่นอน ข้อกังวลนี้ทำให้การตามหาดอกไม้ปีศาจยิ่งยากมากขึ้นไปอีก