สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 19 ตอนที่ 553 แม่นมฮวา ท่านอ๋องอยู่ที่ใด
ซูจิ่นซีเงยหน้ามองอู๋จุน “อู๋จุน เจ้าเดิมพันกับข้าดีหรือไม่? ”
ท่าทางของซูจิ่นซีดูเอาจริงเอาจังอย่างมาก ทำให้อู๋จุนตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาได้สติอีกครั้ง “แม่นางพิษน้อย เจ้าจะเดิมพันสิ่งใดกับพี่จุน? ”
“เดิมพันกับข้า หากข้าสามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ ต่อไปนี้ชีวิตของเจ้าต้องเป็นของข้า จะเป็นหรือตาย ข้า ซูจิ่นซีต้องเป็นผู้กำหนด”
อู๋จุนตอบโดยไม่ต้องหยุดคิด “แม่นางพิษน้อย ชีวิตของพี่จุนเป็นของเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพี่จุนล้วนเป็นของเจ้า”
หลังสิ้นเสียงพูด ซูจิ่นซีก็ประคองอู๋จุนเดินออกจากถ้ำ
เดิมทีนางคิดจะเรียกสัตว์เทพกิเลนออกมา เพื่อให้สัตว์เทพกิเลนพาพวกนางลงจากเขา ทว่าเพิ่งเดินออกจากถ้ำ นางก็ตกตะลึงอย่างมาก ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่ได้สติ
นี่มันเกิดอันใดขึ้น?
เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?
นึกไม่ถึงว่าต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม ต้นหญ้า และดอกไม้ในดินแดนต้องห้ามของสกุลจงจะกลายเป็นภูเขาหิมะที่สลับซับซ้อนสุดสายตา!
ซูจิ่นซีไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง นางหลับตาลงและลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพที่เห็นเบื้องหน้ายังคงเป็นภูเขาหิมะอันไร้จุดสิ้นสุด
ซูจิ่นซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นางไม่ตอบสนองต่อสิ่งใด จนกระทั่งได้ยินเสียงไออย่างหนักของอู๋จุน จึงได้สติกลับมาอีกครั้ง
“อู๋จุน ดูเหมือนจะมีคนสร้างภาพลวงตาให้พวกเราแล้ว”
การตอบสนองแรกหลังจากได้สติกลับมา ซูจิ่นซีรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นภาพมายา
ก่อนหน้านี้ ตอนอยู่ที่หุบผาราชันพิษ นางก็เคยเจอภาพมายาเช่นนี้ ทว่าตอนนั้นนางมีเยี่ยโยวเหยาอยู่เคียงข้าง ทั้งนางยังสามารถมองภาพมายาตามตำแหน่งหยินหยางของธาตุทั้งห้า และหาวิธีรับมือได้
ทว่าภาพที่อยู่เบื้องหน้านี้…
ซูจิ่นซีวิเคราะห์เกี่ยวกับธาตุทั้งห้าตามที่เยี่ยโยวเหยาเคยสอนก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เกี่ยวข้องกับธาตุทั้งห้า อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซีไม่เข้าใจเกี่ยวกับภาพมายา นางจึงไม่อาจคิดหาวิธีรับมือ
ซูจิ่นซีหันกลับไปมองอู๋จุนที่อยู่ข้างกายอีกครั้ง… หากอู๋จุนมีวิธีรับมือ เขาคงเอ่ยปากพูดแล้ว
ชั่วขณะหนึ่ง ซูจิ่นซีแทบจะหมดหวัง
ทำอย่างไรดี?
ควรทำอย่างไรดี?
หากมีนางเพียงผู้เดียว นางจะรั้งอยู่ในภาพมายานานเท่าใดก็ย่อมได้ ทว่าข้างกายยังมีอู๋จุนที่ตกอยู่ในอันตราย และอาจตายได้ทุกเมื่อ!
เวลานี้ สำหรับนางแล้ว ทุกวินาทีที่ผ่านไปไม่ได้สูญเสียเพียงเวลา ทว่ายังมีชีวิตอู๋จุนเป็นเดิมพันอีกด้วย
ครู่หนึ่ง เสียงของอู๋จุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “แม่นางพิษน้อย เชื่อฟังข้า จะเป็นหรือตายล้วนเป็นโชคชะตา ครั้งนี้นับเป็นโชคชะตาของพี่จุนแล้ว! ”
“หุบปาก! ” ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของอู๋จุน ซูจิ่นซีก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดุดัน “อู๋จุน เมื่อการเดิมพันเริ่มต้นขึ้น ชีวิตของเจ้าไม่ได้เป็นของเจ้าเพียงผู้เดียว ดังนั้นเจ้าหุบปากเสีย! ”
หลังจากพูดจบ ซูจิ่นซีก็ไม่หันไปมองอู๋จุนอีก นางมองสถานการณ์โดยรอบ และประคองอู๋จุนเดินไปบนพื้นหิมะขาวโพลน
นางจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ เยี่ยโยวเหยาเคยพูดว่า ภาพมายาจะเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของผู้ที่ติดอยู่ในภาพมายา ดังนั้น นางต้องการทดลอง ไม่แน่ว่าเหตุการณ์เบื้องหน้าที่ไม่มีเบาะแสใดๆ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของภาพมายา นางอาจพบความผิดปกติบางอย่างก็เป็นได้
เป็นดั่งที่คิดไว้ หลังจากที่ซูจิ่นซีกับอู๋จุนเหยียบลงบนพื้นหิมะ ภาพมายาก็เกิดการเปลี่ยนแปลง จากภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสุดสายตา กลายเป็นทุ่งหญ้าอันไร้ที่สิ้นสุด
ทุกหนทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและนกกระจิบโบยบิน ห่างออกไปเป็นพงหญ้ารกครึ้ม ลมพัดใบหญ้าให้พลิ้วไหว มองเห็นวัวและแกะตัวน้อยในทุ่งหญ้าได้เลือนราง
ซูจิ่นซีมองอย่างละเอียด นางรู้สึกคุ้นเคยกับภาพเบื้องหน้านี้ เมื่อมองอย่างชัดเจนจะเห็นว่าคล้ายกับทุ่งหญ้าในคฤหาสน์นอกเมืองเย่หลินของเยี่ยโยวเหยา
ภาพเบื้องหน้าที่คล้ายกัน ทำให้ซูจิ่นซีนึกถึงเหตุการณ์ในคืนวันนั้น คืนที่มีหิ่งห้อยและผีเสื้อโบยบินเต็มท้องฟ้า บรรยากาศอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นเร่าร้อน ความรัก และความหลงใหลที่ห่างหายไปนาน
“แม่นางพิษน้อย เจ้าเป็นอันใด? รู้สึกไม่สบายตรงไหน…ใช่หรือไม่? ” อู๋จุนมองซูจิ่นซีด้วยท่าทีงุนงง
ซูจิ่นซีมองอู๋จุนพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
แววตาภายใต้หน้ากากเย็นชาของอู๋จุนเต็มไปด้วยความสงสัย เขามองซูจิ่นซีอย่างเจ็บปวด “เห็นใบหน้าแดงก่ำของเจ้าแล้ว หากรู้สึกไม่สบายที่ใด พวกเราก็หยุดพักสักครู่เถิด อย่างไรเสีย… พี่จุนก็ยังไม่ตาย”
ใบหน้าแดงก่ำ?
ซูจิ่นซีรีบจับใบหน้าของตนเอง ก่อนจะพบว่ามันร้อนอย่างมาก นางจงใจเอ่ยบ่ายเบี่ยงเล็กน้อย “ไม่… ไม่มีเรื่องอันใด บางทีเมื่อครู่อาจหนาวเกินไป ตัวจึงร้อนขึ้นมาชั่วขณะ สักครู่ก็จะดีขึ้นเอง”
หนาวหรือ?
อู๋จุนยิ่งสงสัยมากขึ้น
แม้ภาพมายาเมื่อครู่จะเป็นภาพภูเขาหิมะที่ไกลสุดสายตา ทว่ากลับมีอุณหภูมิปกติ เขาไม่รู้สึกหนาวแม้แต่น้อย!
อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซีไม่รู้ว่าอู๋จุนกำลังคิดสิ่งใด ทั้งนางยังไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดมากนัก เนื่องจากจิตใจของนางอยู่ในภาพมายา นางครุ่นคิดเพียงว่าจะทำอย่างไร นางต้องแข่งกับเวลาและหาโอกาสพาอู๋จุนออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ไม่นานนัก ซูจิ่นซีก็พบว่า แม้ทุ่งหญ้าที่อยู่เบื้องหน้าจะเหมือนกับทุ่งหญ้าที่คฤหาสน์ของเยี่ยโยวเหยา ทว่ายังมีจุดที่แตกต่าง
ตัวอย่างเช่น… บริเวณคฤหาสน์ของเยี่ยโยวเหยาไม่มีวัวและแพะ ทุ่งหญ้าเบื้องหน้าเจริญเติบโตยิ่งกว่าทุ่งหญ้าที่คฤหาสน์เล็กน้อย นอกจากนั้น ภูเขาในที่แห่งนี้ยังสูงน้อยกว่าภูเขาที่คฤหาสน์
เหตุใดภาพมายาจึงปรากฏภาพเช่นนี้?
ซูจิ่นซีคิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่เข้าใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ภาพมายานี้อยู่ในดินแดนต้องห้ามของสกุลจง หรือว่า ตอนนี้มีคนจงใจวางกับดักพวกเขา?
หากพื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในดินแดนต้องห้ามของสกุลจง เช่นนั้น เป็นไปได้ว่าภาพมายาเบื้องหน้าพวกเขาก่อนหน้านี้ ไม่เป็นความจริง ดังนั้น ภาพใดจึงเป็นภาพที่แท้จริงของดินแดนต้องห้ามกัน?
หากตอนนี้มีผู้วางแผนกักขังพวกเขาจริง เช่นนั้น คนผู้นั้นเป็นใคร?
ซูจิ่นซีครุ่นคิด และพบว่ามีจุดที่น่าสงสัยอยู่มาก
นางประคองอู๋จุนเดินต่อไปข้างหน้า ทันใดนั้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง กลายเป็นภาพเรือนชิงโยวในจวนโยวอ๋องที่พวกเขาเคยอยู่อาศัย
ครั้งนี้ ไม่มีพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก มันเป็นวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าเจิดจ้า
แม่นมฮวาเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมถาดในมือ ภายในเป็นชุดน้ำชาที่เยี่ยโยวเหยาใช้เป็นประจำ แม่นมฮวายกถาดนั้นเดินไปที่ศาลาร่มเย็น
ชุดน้ำชานี้ แม่นมฮวาเป็นผู้เก็บรักษามาโดยตลอด ปกติหากไม่มีคำสั่งจากเยี่ยโยวเหยา นางจะไม่นำออกมาง่ายๆ
หรือว่า… เยี่ยโยวเหยาจะอยู่ด้วย?
“แม่นมฮวา ท่านอ๋องอยู่ที่ใด? ” ซูจิ่นซีทราบดีว่าภาพเบื้องหน้าเป็นภาพมายา ทว่านางยังอดถามแม่นมฮวาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนแม่นมฮวาจะมองไม่เห็นซูจิ่นซี นางยืนอยู่ด้านข้างซูจิ่นซี แต่ไม่ตอบคำถามของนาง
ครู่หนึ่ง ลวี่หลีก็เดินออกมาจากเรือนอวิ๋นไค ในมือถือชุดของซูจิ่นซี เป็นชุดสีเหลืองขนห่านซึ่งปักลวดลายดอกแพร์
ชุดนี้เป็นชุดที่ซูจิ่นซีสวมใส่ยามเข้าเฝ้าฮองเฮาครั้งแรกหลังจากอภิเษกสมรสเข้าจวนโยวอ๋อง สำหรับซูจิ่นซีแล้ว ชุดนี้มีความหมายพิเศษอย่างยิ่ง ดังนั้นซูจิ่นซีจึงให้ลวี่หลีเก็บรักษาไว้ในหีบอย่างดี หากไม่มีคำสั่งจากนาง ลวี่หลีย่อมไม่กล้าเคลื่อนย้ายอย่างแน่นอน ทว่าเหตุการณ์ตรงหน้า… ลวี่หลีกำลังทำสิ่งใดกัน?
ซูจิ่นซีเห็นลวี่หลีกำลังควานหากรรไกร นางต้องการตัดเสื้อผ้าชุดนั้นหรือ?
ซูจิ่นซีพลันตื่นตระหนก นางรีบเดินไปด้านหน้าเพื่อห้ามปรามลวี่หลี และพยายามแย่งเสื้อชุดนั้นจากมือของลวี่หลี
ทว่าเมื่อยื่นมือออกไปสัมผัสแขนของลวี่หลี มือของซูจิ่นซีกลับตรงผ่านร่างของลวี่หลีไป ราวกับภาพมายาที่ควบแน่นไปด้วยหมอกควัน
นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ซูจิ่นซีมองความว่างเปล่าที่ฝ่ามือของนางด้วยความสับสน