สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 20 ตอนที่ 574 คนที่ต่อสู้
อู๋จุนชักสีหน้าใส่มู่หรงอวิ๋นไห่ แสดงท่าทางราวกับเห็น ‘คนปัญญาอ่อน’
แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าทางนี้เป็นประตูทางออกจริงหรือไม่ ทว่าเขาเชื่อแม่นางพิษน้อยอย่างไร้เงื่อนไข ยกเว้นทุกคนที่สงสัยแม่นางพิษน้อย
แม้คนผู้นั้นจะเป็นบิดาของแม่นางพิษน้อยและมู่หรงฉีสหายรักของเขา
ซูจิ่นซีไม่สนใจอันใดนัก นางอธิบายให้มู่หรงอวิ๋นไห่ฟังอย่างอดทน “ไม่ผิดพลาดแน่นอน ที่นี่มีอากาศไหลเวียนอยู่หนาแน่น ต้องเป็นตำแหน่งทางออกเป็นแน่ เพียงแต่… ”
“เพียงแต่อันใด? ” มู่หรงอวิ๋นไห่เห็นซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย จึงเกิดความรู้สึกไม่ดีนัก
“เพียงแต่เสียงอีกด้านเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ”
“หรือว่าฝั่งตรงข้ามประตูมีสิ่งมีพิษ? ”
มู่หรงอวิ๋นไห่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาถูกกักขังอยู่ที่นี่มานานหลายปีจนทำให้เขาหวาดกลัว ตอนนี้ หากไม่ออกไปจากที่นี่ ใจของเขาคงไม่อาจสงบลงได้ ทั้งยังกลัวว่าจะเจอสิ่งกีดขวางทำให้เสียเวลา และกลัวว่าจะถูกเหล่าคนจากแคว้นไหวเจียงตามมาทัน
หากสามารถรับมือกันคนเหล่านั้นและหลบหนีไปได้อย่างราบรื่นคงจะดีไม่น้อย ทว่าหากถูกจับกลับไปอีกครั้ง…
มู่หรงอวิ๋นไห่ไม่อาจจินตนาการได้ หากเขาต้องใช้ชีวิตในสถานที่มืดมนเช่นนี้ต่อไป จะมีผลลัพธ์อันใดตามมา
ดูเหมือนซูจิ่นซีจะเข้าใจท่าทางของมู่หรงอวิ๋นไห่
“วางใจได้ คนของแคว้นไหวเจียงไม่อาจตรวจพบร่องรอยของพวกเราได้รวดเร็วถึงเพียงนั้น สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่ พวกเขาเชื่อมั่นในถ้ำลับของตนเองอย่างมาก จึงไม่ได้จัดคนเฝ้ายามไว้มากนัก อีกทั้งคนที่เหลือก็ถูกฝังไว้ในถ้ำ รอให้พวกเขาขุดค้นซากปรักหักพัง และพบว่าท่านไม่อยู่ในนั้น เมื่อพวกเขาออกค้นหาอีกครั้ง พวกเราคงหนีไปจากที่นี่แล้ว”
ยิ่งไปกว่านั้น ซูจิ่นซียังรู้สึกว่าพวกคนจากแคว้นไหวเจียงคงไม่ขุดหาร่างของมู่หรงอวิ๋นไห่ และพวกเขาคงไม่สงสัยสิ่งใด เนื่องจากสถานที่เปียกชื้นแห่งนี้ หากจะถล่มลงมาหนึ่งครั้งหรือสองครั้งก็เป็นเรื่องปกติ
“แม่นางพิษน้อย จากการคาดเดาของเจ้า ฝั่งตรงข้ามประตูเสวียนจินคือสิ่งใด? ”
มันคงเป็นความสามารถของอาคมกำไลปี่อั้นหลังจากปรับระดับแล้ว สิ่งอื่นมีผลต่อการขัดขวางประสาทสัมผัสด้านการมองเห็นของซูจิ่นซี ทว่าประตูเสวียนจินที่อยู่ตรงหน้า กลับไม่สามารถขัดขวางนางได้
ซูจิ่นซีคิดว่า การเพิ่มความสามารถด้านการมองเห็น คงหมายถึงอุปกรณ์ที่เป็นโลหะ พูดได้ว่านางสามารถมองทะลุผ่านโลหะ และมองเห็นวัตถุที่อยู่ตรงข้ามได้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนความสามารถนี้ไม่ได้แข็งแกร่งนัก
เนื่องจากตอนที่นางมองทะลุผ่านประตูเสวียนจิน สิ่งที่อยู่ตรงข้ามยังคงเลือนรางอยู่เล็กน้อย นางมองเห็นเพียงความกว้าง ความยาว และเงามืดเท่านั้น
ความกว้างยาวนั้นคล้ายภาพคนอยู่บ้าง ทว่านางไม่รู้สึกถึงลมหายใจของมนุษย์ ทั้งระบบถอนพิษยังส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่อง เตือนว่าเป็นสารพิษที่นางคุ้นเคยอย่างมาก
“เป็นศพพิษ! ” ซูจิ่นซีมั่นใจยิ่งนัก
“ศพพิษ? ” อู๋จุนขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นจึงดึงแส้ยาวสีแดงออกมาจากข้างเอว
หากเป็นศพพิษจริง คงเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด
ศพพิษพวกนี้รับมือได้ไม่ง่ายนัก
“ศพพิษ? ” ดวงตาของมู่หรงอวิ๋นไห่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พวกเขา… พวกเขาพัฒนาศพพิษได้แล้วจริงๆ หรือ? ”
ซูจิ่นซีมองมู่หรงอวิ๋นไห่ด้วยสายตาซับซ้อน ทว่านางยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอันใด
ก่อนหน้านี้ซูจิ่นซีไม่มีวรยุทธ์ เมื่อเจอศพพิษ นางจึงทำได้เพียงใช้ยาพิษเพื่อรับมือ ซึ่งมีประสิทธิภาพไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ นางไม่เพียงมีวรยุทธ์ ทว่ายังใช้พลังสยบมังกรภายในร่างเพื่อจัดการกับศพพิษเหล่านั้นได้อีกด้วย อย่างน้อยก็ไม่ต้องหดหัว
ซูจิ่นซีค่อยๆ เหยียดมือขวาออกมาอย่างเชื่องช้า ลำแสงสีขาวสว่างจ้า ทันใดนั้น กระบี่คมกริบก็ปรากฏขึ้นในมือ
มันคือกระบี่จื๋ออิ่งที่นางแย่งมาจากมือของยวี่จี ตอนที่นางรับมือกับสัตว์เทพซื่อฉิงในตำหนักเสวียนปิงก่อนหน้านี้
อู๋จุนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ต่อสู้ที่ตำหนักเสวียนปิง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าซูจิ่นซีเก็บกระบี่จื๋ออิ่งไว้
เมื่อมองไปที่กระบี่จื๋ออิ่งอันเจิดจ้า ดวงตาสดใสพลันส่องประกายลุกวาว “แม่นางพิษน้อย ไม่เลวเลยทีเดียว กระทั่งการต่อสู้เจ้าก็ยังเตรียมพร้อมถึงเพียงนี้ ทั้งยังเป็นกระบี่จื๋ออิ่งอีกด้วย! เจ้าได้มันมาตั้งแต่เมื่อใด? พี่จุนยังคิดจะมอบกระบี่ล้ำค่าให้เจ้าสักเล่ม! ”
ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ทว่าไม่พูดอันใด นางถือกระบี่จื๋ออิ่งไว้ในมือ พลางกวัดแกว่งไปมาอย่างสง่างาม จากนั้นจึงเก็บกระบี่ไว้ข้างหลังและพลิกมือซ้าย ทันใดนั้น ขวดแก้วขวดหนึ่งก็ปรากฏบนฝ่ามือ
ภายในขวดแก้วบรรจุของเหลวชนิดพิเศษ ยาชนิดนี้เป็นยาที่ซูจิ่นซีเคยใช้ตอนอยู่ที่สกุลซู ในตอนนั้น นางและซูอวี้ไปที่หอโอสถสกุลซูเพื่อนำยาสมุนไพรมาช่วยชีวิตอนุปี้ ทว่าฮั่วซื่อกลืนกุญแจของหอโอสถเข้าไป ขณะที่หมดหนทาง ซูจิ่นซีได้ใช้ยาชนิดนี้ละลายประตูเสวียนจินของหอโอสถ
ประตูที่อยู่เบื้องหน้ามีวัสดุเป็นเหล็กเสวียนจินเหมือนกัน ในเมื่อหากลไกไม่เจอ ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับซูจิ่นซี
อู๋จุนเห็นขวดแก้วในมือซูจิ่นซี ดวงตาของเขาเป็นประกาย และพูดชมเชยว่า “แม่นางพิษน้อย ทำได้ดีมาก! ” เมื่อพูดจบ เขาก็ถอยไปอยู่ด้านข้าง
แม้มู่หรงอวิ๋นไห่ไม่รู้ว่าซูจิ่นซีจะทำสิ่งใด ทว่าเพื่อไม่เป็นการขวางทางนาง เขาจึงถอยออกไปด้านข้าง
ซูจิ่นซีค่อยๆ เทยาในขวดแก้วลงบนประตูเสวียนจิน จากนั้น เสียงโลหะหลอมละลายก็ดังขึ้น โลหะเสวียนจินที่เปื้อนยาถูกหลอมละลายกลายเป็นของเหลว และค่อยๆ ไหลลงสู่พื้น
ได้ผลดั่งที่คาดไว้จริงๆ!
ซูจิ่นซีและอู๋จุนต่างดีใจ
ดวงตามู่หรงอวิ๋นไห่เปล่งประกาย
ซูจิ่นซียังคงเทยาที่เหลือลงบนประตูเสวียนจิน จนกระทั่งประตูเสวียนจินที่มีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งถูกหลอมละลาย จนมีพื้นที่กว้างพอให้คนสามารถผ่านไปได้
ซูจิ่นซียืนนิ่งไม่พูดอันใด นางหันไปมองที่อู๋จุน อู๋จุนเข้าใจในทันที เขาจับแส้ไหมสีแดงไว้ในมือและยืนอยู่ด้านข้างซูจิ่นซี
มู่หรงอวิ๋นไห่ไม่กล้าละสายตา เขาเดินมายืนอยู่อีกด้านหนึ่งของซูจิ่นซีเช่นกัน
“แม่นางพิษน้อย พี่จุนจะข้ามไปก่อน! ” พูดจบ อู๋จุนก็สะบัดเสื้อสีแดงเพลิงและเดินข้ามประตูไป
ซูจิ่นซีกำลังจะเดินตามอู๋จุนเข้าไป ทว่ามู่หรงอวิ๋นไห่กลับขวางนางไว้ “ให้ข้าไปก่อน! ”
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่านางไม่ได้พูดอันใด
มู่หรงอวิ๋นไห่ข้ามไปก่อน เขามองไปรอบๆ จากนั้นจึงหันมาพูดกับซูจิ่นซี “นางหนู ข้ามมา! ”
ซูจิ่นซีไม่ค่อยเต็มใจนัก
บุรุษสองคนนี้ เห็นนางเป็นอันใด?
คิดว่านางอ่อนแอถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?
หากพบเหตุการณ์อันตรายอย่างกะทันหัน อาศัยพลังภายในของนางในตอนนี้ นางย่อมสามารถจัดการได้ไม่ใช่หรือ?
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เบื้องหน้าไม่ปล่อยให้ซูจิ่นซีมีเวลาครุ่นคิดมากเกินไปนัก
เมื่อเดินเข้าไปในทางเดิน ระบบถอนพิษก็ส่งเสียงแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง เสียงเตือนนั้นทำให้ซูจิ่นซีรำคาญอย่างมาก อย่างไรเสีย ใช้เพียงอาคมกำไลปี่อั้น ซูจิ่นซีก็สามารถรับรู้กลิ่นของสารพิษได้ นางจึงปิดระบบถอนพิษเสีย
เบื้องหน้าเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ ซึ่งคล้ายกับถ้ำก่อนหน้านี้ ทว่ามีขนาดใหญ่กว่าและมีแสงไฟน้อยกว่า
ในพื้นที่ที่มีแสงไฟสลัว เสียงคำรามจากศพพิษดังขึ้นเป็นครั้งคราว จากนั้นศพพิษก็ค่อยๆ ปรากฏตัวให้เห็นท่ามกลางความมืดทีละตัว
ศพพิษเหล่านั้นแตกต่างจากศพพิษที่ซูจิ่นซีเคยพบ ศพพิษที่นางเคยพบ อย่างน้อยก็ใช้คนฝึกฝนขึ้นมา ยังมีความคล้ายคนอยู่บ้าง ยกเว้นการกระทำที่แข็งทื่อและการตอบสนองแบบเครื่องจักร นอกเหนือจากนั้นก็ไม่แตกต่างกับคนเท่าใดนัก
ทว่าเหล่าศพพิษที่อยู่ตรงหน้า มีความสูงมากกว่าคนทั่วไปอยู่มาก คาดคะเนด้วยสายตาแล้ว ยังมีความสูงกว่าเหยาหมิง (นักบาสเกตบอลของจีน) เสียอีก ร่างกายอยู่ในสภาวะกลายเป็นหิน ผิวหนัง ใบหน้า และลำตัวมีสีผิดปกติ ซีดขาวราวกับกระดาษ เนื่องจากไม่ได้รับแสงตลอดปี เบ้าตาจมลึกเหมือนโครงกระดูก ปากพ่นควันพิษสีเขียวออกมา
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วมุ่น พลางเปิดระบบถอนพิษเพื่อวิเคราะห์ส่วนประกอบของสารพิษ