สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 20 ตอนที่ 595 พิษประหลาดที่น่าสะพรึงกลัว!
หลังจากทุกคนจากไป เทียบกับถนนด้านนอกที่คึกคักมีชีวิตชีวา ภายในโรงน้ำชากลับเงียบสงัด
เถ้าแก่และเด็กรับใช้ของโรงน้ำชาพากันตกใจและแอบซ่อนอยู่ใต้โต๊ะไม่กล้าออกมา
หลังจากตกตะลึงไปชั่วครู่ ซูอวี้จึงเดินไปหาซูจิ่นซี แม้เขาจะดีใจอย่างมากที่ได้เจอซูจิ่นซี ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าซูจิ่นซีกลับไม่กล้าแสดงออกมากเกินไป
ทำเพียงตะโกนด้วยความยินดีว่า “พี่สาว! ”
ซูจิ่นซียื่นมือออกไปลูบศีรษะของซูอวี้ด้วยความเคยชิน “ไม่เจอกันหลายเดือน เจ้าสูงขึ้นอีกแล้ว! ”
ไม่กี่เดือนที่ใดกัน เกือบจะหนึ่งปีแล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อซูจิ่นซีลูบศีรษะของซูอวี้ด้วยความเคยชิน ซูอวี้จะตอบสนองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก และพูดทัดทานไปว่าตนเองไม่ใช่เด็กเล็กแล้ว
ทว่าครั้งนี้ ซูอวี้กลับไม่ได้เอ่ยอันใด ทำเพียงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ทำให้ซูจิ่นซีไม่คุ้นชินอยู่บ้าง
ซูจิ่นซียังมองหลานเยวี่ยหลีที่ยืนอยู่ด้านหลังของซูอวี้
หลานเยวี่ยหลีเดินมาด้านหน้าและกล่าวทักทายซูจิ่นซี แต่เนื่องจากมีเถ้าแก่และเด็กรับใช้ของโรงน้ำชาขัดจังหวะอยู่ด้านหลัง นางจึงไม่ได้เรียกซูจิ่นซีว่าพระชายา
“พี่สาว ที่นี่วุ่นวายเสียแล้ว มิสู้พวกเราเปลี่ยนไปที่อื่นกันเถิด! ” ซูอวี้พูด
“ไม่จำเป็น น้ำชาที่นี่ไม่เลว ด้านบนยังมีที่ว่าง พวกเราไปด้านบนกันเถิด! ”
“ดี! ”
ซูจิ่นซีสั่งให้หลินเฟิงหัวหน้าองครักษ์ ช่วยเถ้าแก่และเด็กรับใช้นำศพที่อยู่บนพื้นไปส่งที่ว่าการ ก่อนจะพาซูอวี้และหลานเยวี่ยหลีขึ้นไปชั้นบน
หลินเฟิงได้รับคำสั่งจากเยี่ยโยวเหยาให้ปกป้องซูอวี้ แม้คำสั่งของพระชายาจะสำคัญมาก ทว่าเขากังวลว่าตนเองจะละเลยต่อหน้าที่! เดิมทีเขาคิดจะทิ้งองครักษ์สองนายไว้คุ้มครองซูอวี้และซูจิ่นซี ทว่าตอนที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูด เขากลับรู้สึกถึงลมหายใจอันคุ้นเคยที่อยู่โดยรอบบริเวณ จึงรู้ว่าต้องเป็น JX และคนอื่นๆ ที่ติดตามข้างกายพระชายาเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใด
เวลานี้ ชั้นบนของโรงน้ำชาไม่มีผู้ใดแม้แต่คนเดียว เนื่องจากความโกลาหลของหลิงเซียวจวิ้นจู่
เถ้าแก่และเด็กรับใช้ที่อยู่ด้านล่างจะไม่ขึ้นมาชั่วขณะ พวกเขาจึงสนทนากันได้โดยไม่ต้องระมัดระวังสิ่งใด
หลังจากรอเด็กรับใช้มาเปลี่ยนน้ำชาใหม่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงพูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบาอีกครั้ง
ทว่าเรื่องที่พูดกันกลับเป็นเรื่องของหอโอสถสกุลซูเป็นส่วนใหญ่ ทั้งยังมีเรื่องการทำสงครามของแคว้นจงหนิงและแคว้นซีอวิ๋น
แม้ซูอวี้จะเป็นผู้นำสกุลซู ทว่าสกุลซูยังเป็นตระกูลพ่อค้า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนัก จึงไม่รู้เรื่องราวการทำสงครามระหว่างทั้งสองแคว้น ทำให้พูดสิ่งใดได้ไม่มากนัก
หลานเยวี่ยหลีนั่งเงียบอยู่ด้านข้าง ไม่พูดสิ่งใด
สกุลหลานเป็นผู้รับใช้ของจักรวรรดิต้าฉินมาหลายชั่วอายุคน สุดท้ายแล้ว คนของสกุลหลานก็มีสายเลือดของจักรวรรดิต้าฉิน ซูจิ่นซีเป็นพระชายาของเยี่ยโยวเหยา ดังนั้นในใจของหลานเยวี่ยหลีแล้ว ซูจิ่นซีจึงมีความสำคัญพอๆ กับเยี่ยโยวเหยา
อีกทั้งซูจิ่นซียังเคยช่วยชีวิตนางมาก่อน ดังนั้นในสายตาของนาง ภาพลักษณ์ของซูจิ่นซีจึงยิ่งเพิ่มความสำคัญมากขึ้นไปอีก
เป็นธรรมดาที่นางจะรู้สึกว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ นางไม่ควรเอ่ยปากพูดสิ่งใด
อย่างไรก็ตาม ซูอวี้และซูจิ่นซีไม่ได้คุยกันนานนัก เนื่องจาก จู่ๆ ระบบถอนพิษของซูจิ่นซีก็ส่งเสียงแจ้งเตือน แสดงว่ามีสารพิษเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ ทันใดนั้น ทางด้านล่างก็มีเสียงดังขึ้น
คราแรกเป็นเสียงของสตรีผู้หนึ่ง
“เสี่ยวเอ้อ เอาชาที่ดีที่สุดในโรงน้ำชาของพวกเจ้ามากาหนึ่ง! ”
จากนั้นก็มีเสียงของบุรุษดังขึ้น “องค์หญิง พวกเราขึ้นไปข้างบนกันเถิด! กระหม่อมได้กลิ่นคาวเลือด ช่างโชคร้ายเสียจริง”
ดูเหมือนเสียงของชายผู้นั้นจะฟังดูคุ้นหูอยู่บ้าง
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย นางค่อยๆ เปิดอาคมกำไลปี่อั้น จากนั้นจึงได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่งเดินอย่างเชื่องช้าเข้ามาใกล้บันได
เถ้าแก่โรงน้ำชารีบวิ่งตรงไปที่ชายผู้นั้น “คุณชายทั้งหลาย ด้านบนมีแขกจองเต็มแล้ว หากท่านทั้งสองรู้สึกว่าชั้นล่างไม่ค่อยสะอาด เชิญเปลี่ยนไปที่โรงน้ำชาอื่นก่อนเถิด! โรงน้ำชาหงซานที่อยู่ตรงข้ามก็ไม่เลว! ชาของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าร้านของเรา”
ก่อนหน้านั้น ตอนที่ซูจิ่นซีและซูอวี้ย้ายไปด้านบน พวกเขาได้จองชั้นบนไว้ทั้งชั้นแล้วจริงๆ
“องค์หญิง เช่นนั้นพวกเราไปที่อื่นดีหรือไม่? ” บุรุษผู้นั้นกล่าว
น้ำเสียงของสตรีผู้นั้นฟังดูคมชัดกังวานดั่งระฆัง ทว่ามีความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่บางส่วน “วันนี้ข้าจะต้องดื่มชาที่ชั้นบนของโรงน้ำชาแห่งนี้ให้ได้ นอกจากข้าจะดื่มชาแล้ว ข้ายังต้องการตรวจดูว่า เทพเทวดาองค์ใดที่ขวางทางองค์หญิงอย่างข้า กล้าแย่งสถานที่กับข้า”
ทันทีที่สิ้นเสียงพูด ซูจิ่นซีก็ได้ยินเสียงรองเท้าเดินขึ้นบันได
เนื่องจากใต้พื้นบันไดเป็นโพรง ดังนั้นเสียงเหยียบขั้นบันไดจึงง่ายต่อการจับสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่าง เสียงรองเท้าที่เหยียบขึ้นมานั้น ไม่เหมือนเสียงรองเท้าทั่วไป
รองเท้ามีความหนาเล็กน้อย วัสดุที่ใช้ค่อนข้างหนา และบางส่วนอาจมีการตกแต่งด้วยโลหะ
รองเท้าเช่นนี้ สตรีแคว้นหนานหลีและแคว้นจงหนิงไม่สวมใส่แน่นอน แม้ซูจิ่นซีจะไม่รู้จักแคว้นเป่ยอี้และแคว้นซีอวิ๋นมากนัก ทว่านางสามารถแยกแยะและคาดเดาได้ว่า เหตุผลที่รองเท้าต้องตกแต่งด้วยโลหะก็เพื่อบรรจุยาพิษ
มีเพียงชาวไหวเจียงเท่านั้น
แคว้นไหวเจียงมีองค์หญิงเพียงองค์เดียวคือ ไหวชิ่งกงจู่ ซึ่งเป็นพระธิดาองค์เล็กของฮ่องเต้
เมื่อเป็นเช่นนั้น จากการใช้สรรพนามเรียกขานและคำพูดของบุรุษผู้นั้น ก็สามารถแยกแยะสถานะของเขาได้อย่างง่ายดายว่าคนผู้นั้นคือ กูสือซาน ราชครูแห่งแคว้นไหวเจียง
ซูจิ่นซีเคยพบหน้าเขามาก่อน
แม้ยังไม่เห็นตัวคน ทว่าซูจิ่นซีรู้รายละเอียดของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
นอกจากนั้น ทันทีที่รองเท้าของไหวชิ่งกงจู่เหยียบลงที่ขั้นบันได เถ้าแก่ของโรงน้ำชาก็รีบพุ่งเข้าไปขัดขวางอยู่เบื้องหน้าไหวชิ่งกงจู่อย่างไม่คิดชีวิต
“แขกท่านนี้ ต้องขออภัยจริงๆ วันนี้ต้องขออภัยจริงๆ แม้แขกที่อยู่ชั้นบนของโรงน้ำชาจะไม่ใช่แขกผู้สูงศักดิ์ ทว่าอำนาจที่หนุนหลังของเขานั้น ข้าน้อยไม่อาจล่วงเกินได้จริงๆ ท่านลูกค้าทั้งสองไปโรงน้ำชาอื่นก่อนดีกว่า ไปร้านอื่นเถิด! วันนี้ร้านของข้าปิดแล้ว ข้าขอมอบชาที่ดีที่สุดของร้านนี้จำนวนสองกล่องให้แก่ท่านทั้งสอง เพื่อเป็นของขวัญแทนคำขอโทษ”
เถ้าแก่พูดพลางหันไปส่งสัญญาณให้เด็กรับใช้ เด็กรับใช้จึงรีบวิ่งไปนำกล่องใบชามา
แม้เถ้าแก่ของโรงน้ำชาจะไม่รู้สถานะของซูจิ่นซี ทว่าก่อนหน้านี้ ตอนที่ซูอวี้เดินเข้ามาในโรงน้ำชา เขาไม่ได้ปิดบังสถานะของตนเอง เถ้าแก่โรงน้ำชาที่มีสายตาเฉียบคมจึงทราบอย่างชัดเจนว่า เขาคือผู้นำสกุลซูแห่งแคว้นจงหนิง
แม้สกุลซูจะเป็นตระกูลพ่อค้าเล็กๆ ในแคว้นจงหนิง และเปิดเพียงหอโอสถเท่านั้น ทว่าพวกเขาเป็นบ้านเดิมของพระชายาโยวอ๋อง เป็นเครือญาติกับจวนโยวอ๋องแห่งแคว้นจงหนิง
พระชายาโยวอ๋องเป็นผู้ใด?
นางเป็นนางปีศาจแสนเย็นชาและโหดเหี้ยม เป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่โยวอ๋อง ผู้ที่มีอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวแห่งอาณาจักรเทียนเหอ ให้ความโปรดปราน ทั้งยังเป็นผู้ที่พระองค์รักมาก
ด้วยอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของผู้นำสกุลซู เถ้าแก่โรงน้ำชาจะกล้าล่วงเกินหรือ?
แม้เขาจะเห็นสถานะที่ไม่ธรรมดาของหญิงและชายที่อยู่เบื้องหน้าแล้ว ทว่าเขายังไม่กล้า!
เสี่ยวเอ้อเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว รีบนำกล่องใบชาสองกล่องเข้ามา
เถ้าแก่รับไว้พลางแย้มยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยื่นให้ไหวชิ่งกงจู่ “ท่านลูกค้า ท่านโปรดรับไว้ นี่คือไป่ซานจวินหลาน เป็นใบชาที่ดีที่สุดของร้านข้า หากท่านดื่มแล้วรู้สึกดี เมื่อท่านมาที่ร้านของข้าในคราวหน้า ข้ายินดีมอบให้ท่านอีก”
ไหวชิ่งกงจู่มองใบชาที่อยู่ในมือเถ้าแก่ สายตาค่อยๆ เลื่อนไปที่ใบหน้าใส่ใจของเขา ทันใดนั้น แววตาของนางก็เปล่งประกายไอสังหารเย็นยะเยือก นางยกมือขึ้น ใบชาที่อยู่ในมือของเถ้าแก่ก็ลอยออกไป
“ใครอยากได้ใบชาผุพังของเจ้ากัน เจ้าคิดว่ากงจู่อย่างข้าจะมาขออาหารที่ร้านกระจอกๆ ของเจ้าหรือ? ”
ทันทีที่กล่องใบชาลอยออกไป ร่างของเถ้าแก่ผู้นั้นก็ลอยออกไปชนกับโต๊ะอย่างแรง
เมื่อตกลงบนพื้น เถ้าแก่พลันส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าสลดใจ จากนั้นแก้มของเขาก็ค่อยๆ บวมขึ้นอย่างน่ากลัว
แก้มของเขายิ่งกลมมากขึ้น ลิ้นที่อยู่ในปากราวกับถูกบางอย่างดึงออกมา มันค่อยๆ ยืดยาวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ จนมีความยาวประมาณหนึ่งชุ่น
ขณะเดียวกัน ระบบถอนพิษของซูจิ่นซีก็แจ้งเตือนอย่างรุนแรง พร้อมทั้งแสดงระดับของสารพิษที่ใช้
เถ้าแก่โรงน้ำชาถูกพิษอันใด? เหตุใดจึงแปลกประหลาดเช่นนี้?