สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 22 ตอนที่ 644 สวรรค์ลงโทษ มีบุตรไม่ได้
นางเป็นหญิงชราสูงวัยที่มีผมสีขาวราวหิมะ เบ้าตาลึก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอยตามกาลเวลา คอและผิวหนังชั้นนอกเหี่ยวย่น ทั้งยังผอมบางจนหนังหุ้มกระดูก มองครั้งแรก รูปร่างของนางดูดุร้าย ชวนให้คนหวาดกลัว
หญิงชรามองไม่เห็น ทว่าโสตประสาทกลับดีอย่างมาก ซูจิ่นซีเพิ่งเดินมาถึงประตูห้องลับ หญิงชราก็พูดขึ้นว่า “คนจากอนาคต ในที่สุดเจ้าก็มา ข้ารอเจ้าอยู่ที่นี่มาห้าร้อยปีแล้ว”
คนจากอนาคต?
ห้าร้อยปี?
ซูจิ่นซีตกใจจนพูดไม่ออก
หญิงชราผู้นี้ดูออกว่าซูจิ่นซีข้ามเวลามาจากโลกอนาคต ทว่าเมื่อห้าร้อยปีก่อน นางรู้ได้อย่างไรว่าซูจิ่นซีข้ามเวลามา?
เป็นไปได้อย่างไร?
หญิงชราเบื้องหน้าทำให้ซูจิ่นซีนึกถึงวันที่นางได้พบกับเฒ่าซุน ตอนอยู่ที่คุกหลวงของแคว้นจงหนิง
เมื่อเฒ่าซุนเห็นนาง ดูเหมือนเขาจะรู้ว่านางไม่ใช่คนจากโลกนี้ ทว่าข้ามมิติมาจากโลกอนาคต
หรือว่าหญิงชรากับเฒ่าซุนจะมีดวงตาหยินหยางเหมือนกัน?
ซูจิ่นซีกำลังงุนงง ทันใดนั้น หญิงชราก็ยื่นมือไปทางซูจิ่นซี “มานี่สิ… เด็กน้อย มานี่”
ซูจิ่นซีเดินไปหาหญิงชรา และนั่งลงตรงหน้านาง
หญิงชราคว้ามือของซูจิ่นซี พลางลูบกระดูกทุกส่วนบนร่างของซูจิ่นซีอย่างละเอียด สุดท้ายก็คลำใบหน้าของนาง
แม้หญิงชราจะมองไม่เห็นใบหน้าของซูจิ่นซี ทว่าดูเหมือนการสัมผัสเช่นนี้ จะทำให้นางรู้ได้ว่าซูจิ่นซีมีหน้าตาเป็นอย่างไร
“อืม ร่างนี้ไม่เลวจริงๆ … ไม่เลว… คุณชาย เป็นคุณชายจริงๆ ดูไม่ผิดแน่… ”
ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว นางยิ่งสับสนมากกว่าเดิม คุณชายที่หญิงชราพูดถึงคือใคร?
ทว่านางยังไม่ทันได้ไขความกระจ่าง
หญิงชราก็ออกแรงกุมมือมากขึ้นเล็กน้อย “คุณหนูเล็กฟังข้า ข้าอยู่ได้อีกไม่นาน ท่านต้องจดจำสิ่งที่ข้าพูดไว้ให้ดี จดจำไว้ให้ดี! ”
“จิตวิญญาณของท่านในตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ ชีวิตถูกกำหนดให้พบกับหายนะครั้งใหญ่ บนโลกนี้มีเพียงสำนักแพทย์เทียนอีกับคุณชายจิ่วเท่านั้นที่สามารถช่วยท่านแก้ไขหายนะครั้งใหญ่นี้ได้ ดังนั้น หลังจากที่ข้าตาย ท่านต้องนำกระดูกข้าไปที่ทะเลอู๋ว่าง ตามหาหญ้าเสินเซียน หลังจากนั้นไปหาคุณชายที่หุบเขาเทียนอีก่อนฤดูหนาว! ”
คุณหนูเล็ก?
หญิงชราผู้นี้เป็นบ่าวรับใช้ของมารดานางหรือ?
บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?
วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ถูกลิขิตให้เผชิญหายนะครั้งใหญ่?
ดูเหมือนที่ประตูคุกหลวง เฒ่าชุนก็เคยพูดเช่นนี้
เมื่อเห็นซูจิ่นซีใจลอย หญิงชราจึงบีบมือนางแน่นขึ้น “คุณหนูต้องจำไว้ให้แม่น นำกระดูกของข้าไปที่ทะเลอู๋ว่าง และตามหาหญ้าเสินเซียน ก่อนถึงฤดูหนาวต้องไปสำนักแพทย์เทียนอี ต้องไปก่อนฤดูหนาว! วิญญาณของคุณหนูตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ หากฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้วยังไม่สามารถจัดการอย่างเหมาะสม วิญญาณของคุณหนูจะแตกสลาย เช่นนั้น ความพยายามตลอดหลายปีมานี้ของคุณชายจะศูนย์เปล่า! ”
แท้จริงแล้ว ซูจิ่นซีรู้สึกตกใจอย่างมาก เดิมที นางรู้สึกว่าเรื่องราวในอดีตที่เห็นในอาคมกำไลปีอั้นเป็นเรื่องเท็จ ไม่ใช่เรื่องจริง ทว่าวันนี้ เมื่อได้ยินหญิงชราพูด นางยิ่งมั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง
ไม่รู้ว่าหญิงชราพบอันใดเข้า มือทั้งสองข้างที่จับมือซูจิ่นซีไว้พลันเคลื่อนไปยังแขนของซูจิ่นซี ก่อนจะบีบกระดูกข้อมือของซูจิ่นซีอย่างแรงถึงสองครั้ง ทั้งดวงตายังปรากฏความตื่นตระหนก
“สายไปแล้วหรือ? คุณชายช้าไปก้าวหนึ่งหรือ? ”
ซูจิ่นซีไม่เข้าใจที่หญิงชราพูด “สายอันใด? ”
ท่าทางของหญิงชราดูสิ้นหวัง “ข้าอยู่ที่นี่มาห้าร้อยปีแล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องราวด้านนอกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวง ไม่คิดเลยว่า… โชคชะตายากลิขิต คุณชายวางแผนไว้นับพันปี ทว่าสุดท้าย เรื่องราวกลับอยู่เหนือการควบคุมของคุณชาย”
ซูจิ่นซียิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ คิ้วของนางขมวดเข้าหากันแน่น สีหน้าสับสนเป็นอย่างมาก
“คุณหนูเล็กฟังข้า ท่านไม่สามารถกลับชาติมาเกิดพร้อมกับรัชทายาทเสวียนเยี่ยได้ ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกสวรรค์ลงโทษ! และไม่สามารถมีบุตรได้! ”
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
สวรรค์ลงโทษ?
ลงโทษอันใด?
เหตุใดถึงมีบุตรไม่ได้?
“คุณหนูเล็ก จงซีจือมารดาของท่าน ในปีนั้น เป็นเพราะนางให้กำเนิดท่าน นางจึงต้องจากไปเพราะสวรรค์ลงโทษ ท่านเป็นสิ่งที่คุณชายทุ่มเทสติปัญญาและกำลังกว่าพันปี เพื่อดึงตัวท่านมาจากโลกอีกสามพันปีข้างหน้า ท่านไม่อาจทำให้คุณชายผิดหวัง และไม่สามารถทำให้ความทุ่มเทตลอดหลายปีของเขาต้องสูญเปล่า”
เป็นเพราะให้กำเนิดนาง จงซีจือ มารดาของนางจึงจากไปเพราะสวรรค์ลงโทษ?
ซูจิ่นซีตกใจจนพูดไม่ออก สิ่งที่หญิงชราพูดมีปริมาณข้อมูลที่มากเกินไป จากเรื่องเหตุการณ์ในชาติก่อน นางอาจเข้าใจเพียงเล็กน้อย ทว่าไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด
หลังจากตกตะลึงชั่วครู่ ดวงตาของซูจิ่นซีพลันทอประกาย นางต้องการสอบถามหญิงชรา ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้น หญิงชรากลับปล่อยมือนางและปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่องช้า
ซูจิ่นซีตื่นตระหนก นางรีบสะกิดหญิงชรา “ท่านผู้เฒ่า… ท่านผู้เฒ่า… ”
ทว่าหญิงชราไม่ได้ยินอันใดทั้งสิ้น
ร่างกายของนางเปล่งแสงสว่างระยิบระยับ แสงนั้นยิ่งสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ กายเนื้อบนร่างของนางค่อยๆ สลายหายไป หลังจากนั้นก็เหลือเพียงเถ้ากระดูก
ซูจิ่นซีทรุดตัวนั่งลงกับพื้น ดวงตาว่างเปล่า สติเหม่อลอย
แม้เยี่ยโยวเหยาจะไม่พูดอันใด ทว่านางรู้ว่าในใจของเยี่ยโยวเหยาปรารถนาที่จะมีทายาท
ภายในใจนางเองก็คาดหวังว่าจะมีทายาทเช่นกัน
เพียงแต่เวลานี้ ใต้หล้ายังไม่มั่นคง สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะมีทายาท
วันนั้นที่แม่นมฮวาเสนอให้พวกเขามีทายาท ซูจิ่นซีลองครุ่นคิดดูแล้ว รอเรื่องของแคว้นต่างๆ สงบลง รอให้รวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว และรอจนสถานการณ์มั่นคง นางจะดูแลร่างกายตนเองอย่างดี และให้กำเนิดทายาทแก่เยี่ยโยวเหยา
ตอนนั้นมู่หรงฉี ซูอวี้ จงเทียนโย่ว และอู๋จุน พวกเขาคงแต่งงานมีบุตรแล้วกระมัง?
ถึงเวลานั้น นางและพวกเขาจะพาเด็กๆ ไปท่องใต้หล้า ไปดูทัศนียภาพอันงดงามราวกับภาพวาด
ทว่าตอนนี้…
เหตุใดเรื่องราวจึงกลายเป็นเช่นนี้?
สวรรค์ลงโทษ? โชคชะตากำหนดไว้แล้ว? วิญญาณไม่สมบูรณ์?
นี่เป็นลิขิตของสวรรค์ที่มอบแก่มนุษย์หรือ?
ซูจิ่นซีอยู่ในห้องลับเป็นเวลานาน ทว่าฮูหยินเฒ่าหานไม่ได้รีบส่งคนมาตามนาง
เวลาล่วงเลยจนเย็นย่ำ ซูจิ่นซีนำกระดูกของหญิงชราใส่ไว้ในอาคมกำไลปี่อั้นและเดินออกมา
ฮูหยินเฒ่าหานต้องการให้ซูจิ่นซีอยู่รับประทานอาหารที่จวน จงเทียนโย่วและซูอวี้ยังมีเรื่องสำนักโอสถสกุลจงที่ต้องคุยกับซูจิ่นซี ซูจิ่นซีจึงรั้งอยู่ต่อ นางให้คนไปบอกเยี่ยโยวเหยาว่าคงไม่กลับไปแล้ว
หลังทานอาหารเย็นเรียบร้อย ซูจิ่นซี จงเทียนโย่ว และซูอวี้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากที่กวาดล้างสำนักโอสถสกุลจง
คฤหาสน์หลายสิบแห่ง สวนสมุนไพรกว่าร้อยไร่ ทั้งยังมีหอโอสถอีกสิบกว่าแห่งภายใต้ชื่อของสำนักโอสถสกุลจง ทั้งหมดนี้เป็นน้ำพักน้ำแรงตลอดหลายร้อยปีของบรรพบุรุษสกุลที่หลงเหลืออยู่
ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรื่องทรัพย์สินเหล่านี้ จงเทียนโย่วและซูอวี้เป็นผู้ออกความเห็น ส่วนซูจิ่นซีแก้ไขสิ่งที่ไม่เหมาะสม
เดิมที คืนนี้ซูจิ่นซีต้องการพักอยู่ที่สกุลจง กลับคาดไม่ถึงว่า หลังยามสองผ่านไป เยี่ยโยวเหยาจะมารับซูจิ่นซีที่จวนด้วยตนเอง