สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 23 ตอนที่ 665 เสี่ยงมาก! เฉียดฉิว!
ขณะที่กระบี่เสวียนหยวนกำลังจะแทงลำคอของฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง พลังภายในอันแข็งแกร่งก็จู่โจมเข้ามา มีคนผู้หนึ่งดึงฮูหยินเตี๋ยเมิ่งออกจากคมกระบี่
ทว่ากระบี่เสวียนหยวนยังคงเฉือนผ่านลำคอของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งอย่างหวุดหวิด ทิ้งคราบเลือดเป็นรอยบาดลึก กระบี่นี้เกือบบั่นคอฮูหยินเตี๋ยเมิ่งเสียแล้ว
ถังอ้าวเทียนพยุงตัวฮูหยินเตี๋ยเมิ่งและใช้มือกดไปยังบาดแผลที่เลือดไหลไม่หยุด
“โยวอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย! ”
เยี่ยโยวเหยาดึงกระบี่เสวียนหยวนกลับมา พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไสหัวไป! ”
ถังอ้าวเทียนรีบสั่งองครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง “ยังไม่ถอยไปอีก! ”
องครักษ์หลีกทางให้เยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ทว่าฮูหยินเตี๋ยเมิ่งไม่ยอม “ถังอ้าวเทียน ท่านยังเป็นลูกผู้ชายอีกหรือ? ”
เคราของถังอ้าวเทียนกระตุกอย่างรุนแรง บางครั้งเขาก็ตามใจฮูหยินเตี๋ยเมิ่งจนนางติดเป็นนิสัย ทว่าตอนนี้ เขาไม่อาจตามใจนางได้!
“เป็นสตรี ยุ่งเรื่องระหว่างบุรุษให้น้อยหน่อย! ”
ทันใดนั้น ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งก็ระเบิดอารมณ์ นางผลักถังอ้าวเทียนอย่างแรง “ถังอ้าวเทียน เจ้าปีกกล้าขาแข็งแล้วหรือ? บนหัวของข้ายังมีสถานะเป็นฮูหยินถัง! ในวันที่ข้า ชิวเตี๋ยเมิ่งยังไม่ตาย ข้ายังมีสิทธิ์มีเสียงในสกุลถัง! ”
พูดจบ ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งก็มองไปที่เยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ด้วยแววตาเย็นชา “พลธนู หน้าไม้พร้อม ฟังคำสั่งข้า ยิงเข้าไป! ”
‘พรึบ พรึบ พรึบ… ’
เพียงชั่วพริบตา ลูกธนูและหน้าไม้ก็ยิงตรงไปยังเยี่ยโยวเหยา มู่หรงฉี และอวิ๋นจิ่นราวกับห่าฝน
ยังไม่จบอีกหรือ!
ดวงตาของเยี่ยโยวเหยาทอประกายด้วยไอสังหาร เขารีบใช้กระบี่เสวียนหยวนปัดป้อง อวิ๋นจิ่นประคองตัวมู่หรงฉี และใช้มืออีกข้างป้องกันไว้เช่นกัน
ไอสังหารภายในแววตาของเยี่ยโยวเหยายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เขาถือกระบี่เสวียนหยวนโจมตีฮูหยินเตี๋ยเมิ่งอีกครั้ง ถังอ้าวเทียนรีบวางตัวฮูหยินเตี๋ยเมิ่งลง และเข้าต่อสู้พัวพันกับเยี่ยโยวเหยา
ถังอ้าวเทียนในฐานะเจ้าสำนักถังเหมิน ฝีมือการต่อสู้ของเขาย่อมเก่งกล้ายากคาดเดา ทว่าในยุทธภพ สำนักถังเหมินมักถ่อมตัวเสมอมา และไม่มีผู้ใดให้ความสนใจกับวิชาการต่อสู้ของสำนักถังเหมิน
เพียงชั่วพริบตา ถังอ้าวเทียนก็ต่อสู้กับเยี่ยโยวเหยาไปสามกระบวนท่าแล้ว
เยี่ยโยวเหยาใช้กระบี่เสวียนหยวน ทั้งยังสำเร็จวิชายุทธจิ่วเซียวขั้นที่เก้าแล้ว ถังอ้าวเทียนสามารถรับมือได้สูงสุดเพียงสามกระบวนท่าเท่านั้น
“โยวอ๋องโปรดไว้ชีวิต กระหม่อมไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ หวังว่าโยวอ๋องจะไม่ถือสาหาความ”
“นางเป็นเพียงสตรีนางหนึ่งไม่ใช่หรือ? ”
ตั้งแต่ซูจิ่นซีปรากฏตัว ในสายตาของโยวอ๋องก็มีสตรีเพียงผู้เดียวในโลกนี้
แน่นอนว่าก่อนที่ซูจิ่นซีจะปรากฏตัว ในใต้หล้า ไม่มีสตรีนางใดอยู่ในสายตาของโยวอ๋องแม้แต่น้อย
นี่เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดและอับจนหนทางเสียจริง
ถังอ้าวเทียนที่พยายามต่อต้านเยี่ยโยวเหยากำลังจะสิ้นหวัง
กระบี่เสวียนหยวนแทงเข้าที่หน้าอกของถังอ้าวเทียนดัง ‘ฉึก’ ขณะเดียวกัน เสียงร้องด้วยความตกตะลึงก็ดังมาจากด้านนอกประตู “ท่านพ่อถัง! ”
ถังเสวี่ยร้องตะโกนและวิ่งมายังข้างกายของถังอ้าวเทียน นางช่วยพยุงตัวถังอ้าวเทียน และมองไปทางมารดาที่ได้รับบาดเจ็บ
“ท่านพ่อถัง ท่านแม่ นี่มันเกิดอันใดขึ้น? ”
ตั้งแต่เล็กจนโต ถังเสวี่ยไม่เคยเห็นท่านพ่อและท่านแม่ ได้รับบาดเจ็บมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก ทั้งพวกเขายังถูกเยี่ยโยวเหยาทำร้าย
ถังเสวี่ยเข้าใจดีถึงความโหดเหี้ยมของเยี่ยโยวเหยา น้ำตาของนางพลันไหลอาบสองแก้ม
นางกลัวเยี่ยโยวเหยามากที่สุด และกลัวว่าท่านพ่อท่านแม่จะไม่กล้าร้องขอชีวิตต่อเยี่ยโยวเหยา นางจึงทำได้เพียงมองมู่หรงฉีด้วยดวงตาเศร้าโศก
ฉีอ๋องและพี่เป่าอวี้เป็นสหายกัน หวังว่าพี่ฉีจะเห็นแก่พี่เป่าอวี้ที่เป็นสหาย และร้องขอความเมตตาต่อโยวอ๋องสักครั้ง
ทว่ามู่หรงฉีที่ได้รับบาดเจ็บไม่อาจพูดสิ่งใดได้ ทั้งเขายังมองไม่เห็นแววตาขอร้องของถังเสวี่ย
อย่างไรก็ตาม เป็นอวิ๋นจิ่นที่มองเห็น “แม่นางถังเสวี่ย พระชายาและรัชทายาทแห่งแคว้นตงเฉินถูกคนทำร้ายด้วยวิชามนตร์ดำของพ่อมด พวกเราทั้งสามคนจำเป็นต้องมาที่สกุลถังเพื่อตามหาวิธีช่วยชีวิต หากสำนักถังเหมินให้การช่วยเหลือ ทำให้พวกข้าทั้งสามสามารถช่วยชีวิตพระชายาและรัชทายาทแห่งแคว้นตงเฉินได้ ก็นับเป็นบุญคุณที่พระชายาและเชื้อพระวงศ์แห่งแคว้นตงเฉินได้ติดค้างไว้ บุญคุณครั้งนี้ หากวันหน้ามีโอกาส พวกนางต้องตอบแทนสำนักถังเหมินแน่นอน”
แท้จริงแล้ว คำพูดของอวิ๋นจิ่นนับเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก
ประการแรก เป็นการเตือนเยี่ยโยวเหยาว่า จุดประสงค์ที่พวกเขามาที่นี่ ก็เพื่อช่วยชีวิตซูจิ่นซีและตงหลิงหวง และพวกเขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว
ประการที่สอง เป็นการบอกถังอ้าวเทียนและฮูหยินเตี๋ยเมิ่งถึงผลร้ายที่จะตามมา หากพวกเขายังล่วงเกินเยี่ยโยวเหยาแห่งแคว้นจงหนิง และแคว้นตงเฉิน คิดว่าถังอ้าวเทียนและฮูหยินเตี๋ยเมิ่งคงมีทางเลือกที่ชาญฉลาด
นอกจากนั้น เป็นการบอกฮูหยินเตี๋ยเมิ่งอย่างชัดเจนว่าพวกเขามาครั้งนี้เพื่อช่วยชีวิตซูจิ่นซี หากเห็นแก่ฐานะของจงซีจือ ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งย่อมไม่ขัดขวางแน่นอน!
เป็นดั่งที่คิดไว้ ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งกล่าวด้วยความประหลาดใจ “จิ่นซีได้รับบาดเจ็บหรือ? ”
อวิ๋นจิ่นตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ใช่แล้ว ฮูหยินถัง พระชายาถูกวิชามนตร์ดำของพ่อมดทำร้าย ขณะนี้ พระองค์ไร้ซึ่งลมหายใจ พวกเราต้องรีบกลับไปช่วยชีวิตพระชายา หากกลับไปไม่ทันเวลา พระวรกายของพระชายาจะเน่าเปื่อย ไม่มีทางฟื้นคืนกลับมาได้อีก”
ทันใดนั้น ดวงตาของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งก็กลายเป็นสีแดง “ไม่มีลมหายใจหรือ? เกิดอันใดขึ้น พวกเจ้าพูดมาให้ชัดเจน จิ่นซีเสียชีวิตแล้วหรือ? ตอนนี้นางอยู่ที่ใด? ”
อวิ๋นจิ่นจงใจสร้างความอยากรู้ให้ฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง “ฮูหยินถัง หากท่านยังขัดขวาง คงไม่สามารถช่วยชีวิตพระชายาได้แล้วจริงๆ ”
ดวงตาของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งกลายเป็นสีแดงก่ำด้วยความตกตะลึง นางรีบเปิดทางและตะโกนต่อว่าองครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง “ยังไม่รีบเปิดทางอีก! ”
องครักษ์เปิดทางให้ เยี่ยโยวเหยาเดินนำไปก่อน จากนั้น อวิ๋นจิ่นจึงประคองมู่หรงฉีเดินตามไป
ตอนที่อวิ๋นจิ่นเดินผ่าน ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งรั้งอวิ๋นจิ่นไว้ “หมอหลวงอวิ๋น ได้ยินว่าวิชาแพทย์ของท่านล้ำเลิศ ท่านต้องช่วยแม่หนูจิ่นซี ต้องช่วยนางให้ได้! ”
“ฮูหยินถังโปรดวางใจ พวกเราต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตพระชายาแน่นอน! ”
“เช่นนั้นก็ดี เป็นเช่นนั้นก็ดี! ” ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งรีบปล่อยอวิ๋นจิ่นทันที
ถังอ้าวเทียนมองเงาด้านหลังของเยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ที่เดินจากไป พลางเช็ดเหงื่อด้วยความกังวลใจแทนสำนักถังเหมินและฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง
เฉียดฉิวจริงๆ !
วันนี้ โยวอ๋องเห็นแก่พระพักตร์ของพระชายาโยวอ๋อง จึงไว้ชีวิตฮูหยินเตี๋ยเมิ่งและสำนักถังเหมินครั้งหนึ่ง!
หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งคงจบชีวิตลงตั้งแต่โยวอ๋องลงมือครั้งแรกแล้ว เขาจะปล่อยให้นางรอดชีวิตไปได้อย่างไร?
โยวอ๋องคือผู้ใด?
กระบี่ในมือของเขาคือกระบี่เสวียนหยวน ทั้งเขายังฝึกฝนวิชายุทธจิ่วเซียว อย่าว่าแต่ปลิดชีวิตพวกเขาสองสามีภรรยาเลย อาศัยอำนาจของโยวอ๋องตอนนี้ ต่อให้ต้องเหยียบย่ำทำลายสำนักถังเหมินให้ราบเป็นหน้ากลอง เขาก็ทำได้
เมื่อนึกมาถึงเรื่องนี้ ถังอ้าวเทียนก็อดรู้สึกแผ่นหลังเย็นวาบไม่ได้ เขาเดินไปยังข้างกายฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง และโอบไหล่ของนาง
ดวงตาของฮูหยินเตี๋ยเมิ่งยังคงทอประกาย ทันใดนั้น นางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะคว้าแขนของถังอ้าวเทียน “พวกเขายังไม่ได้บอกว่าตอนนี้จิ่นซีอยู่ที่ใด! ” จากนั้นจึงหันไปพูดกับถังเสวี่ย “ถังเสวี่ย เจ้ารีบตามไปถามมาเร็ว! ”
ถังเสวี่ยตอบรับคำ นางกำลังจะไล่ตามไป แต่กลับถูกถังอ้าวเทียนห้ามไว้ “ช่างเถิด พวกเขาไปไกลแล้ว ด้วยวรยุทธ์ของถังเสวี่ย คงไม่มีทางตามทัน”
ยิ่งไปกว่านั้น จากคำพูดอันชาญฉลาดของอวิ๋นจิ่นเมื่อครู่ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พวกเขารู้ ต่อให้ถังเสวี่ยไล่ตามไปทัน ก็ไม่แน่ว่าจะได้คำตอบจากปากของพวกเขาทั้งสาม
“ทำอย่างไรดี? ” ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งกังวลใจอย่างมาก
ขณะนั้น หัวหน้าองครักษ์ของถังอ้าวเทียนเพิ่งเดินออกมา หลังจากเข้าไปตรวจสอบตำหนักใต้ดิน “เจ้าสำนัก ไข่มุกทะเลใต้พิภพหายไปแล้วขอรับ! ”