สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 23 ตอนที่ 670 วิญญาณสามภพสามชาติ เคราะห์ความเป็นความตาย
เด็กสาววิ่งไปหาคนผู้นั้น ดวงตาของนางไม่อาจปกปิดความดีใจ ความผูกพัน และความห่วงหาอาวรณ์ได้
เด็กชายที่ยืนอยู่ในระยะไกลพลันเข้าใจอันใดบางอย่าง เขากำตราประทับในมือแน่น
เขาเคยเห็นท่าทางเช่นนั้นของเด็กสาวมาก่อน ทุกครั้งยามที่เสด็จแม่พบเสด็จพ่อ พระองค์ก็มีท่าทางเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจแล้วว่าจะให้ซีเอ๋อร์เป็นพระชายา ชั่วชีวิตนี้ไม่เปลี่ยนใจ แม้คนผู้นั้นจะเป็นท่านราชครู เขาก็ไม่ยอม
รัชทายาทยืนเอามือไพล่หลัง เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงเด็กน้อย ทว่ากลับทำท่าทางเป็นผู้ใหญ่ เขาเดินไปด้านข้างเด็กสาว และวางตราประทับลงบนมือของนางอีกครั้ง
“ซีเอ๋อร์! ชีวิตนี้ เจ้าคือฮองเฮาที่รัชทายาทหมิงเต๋อเช่นข้าเลือก ในอนาคต ข้าจะปกครองแผ่นดิน ทำให้เจ้าเจิดจรัสไปจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้า หากเจ้าไม่ตอบรับ ชีวิตนี้ วังหลังคงมีเพียงชื่อ ข้าจะไม่รับสนมแม้แต่ผู้เดียว วันนี้ ข้าขอสาบานว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
ในเวลานั้น ซีเอ๋อร์ยังไม่รู้ถึงความสำคัญของคำสาบาน
นางยกสองมือเท้าสะเอว และตอบกลับอย่างแน่วแน่ว่า “รัชทายาท พระองค์อย่าล้อเล่นกับหม่อมฉันเลย ชีวิตนี้ ซีเอ๋อร์จะไม่มีวันอภิเษกกับพระองค์! ”
“แล้วชาติหน้าเล่า! ”
ซีเอ๋อร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นางเงยหน้าสบตาจิ่วหรง
ชาติหน้าหรือ?
ไกลเท่าใด?
……
ภาพเปลี่ยนไปเป็นเหตุการณ์อื่น ไม่มีซีเอ๋อร์ มีเพียงจิ่วหรงและรัชทายาทหมิงเต๋อ
ในตอนนี้ ดูเหมือนเวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว รัชทายาทหมิงเต๋อเติบใหญ่ จากเด็กชายตัวเล็กกลายเป็นบุรุษเต็มตัว
คิ้วราวคมดาบ ใบหน้ากว้างและมั่นคงราวกับใบมีด บุคลิกเคร่งขรึมโดดเด่น
“รัชทายาท พระองค์ไม่สามารถอภิเษกกับซีเอ๋อร์ได้”
“เพราะเหตุใด? ”
รัชทายาทหมิงเต๋อไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน หรือว่า แม้แต่ท่านราชครูก็ชอบซีเอ๋อร์?
ไม่!
เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าคำตอบที่ได้ยินจะกลายเป็น “เพราะซีเอ๋อร์ตัวจริงตายไปตั้งแต่ห้าร้อยปีก่อนแล้ว คนที่พระองค์เห็นในวันนี้ เป็นเพียงรากบัวที่อาจารย์สร้างขึ้น นางไม่มีชีวิต ไม่มีวิญญาณ และมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”
ใช่ อยู่ได้อีกไม่นาน รอจนรากบัวเสื่อมสลาย ซีเอ๋อร์ก็จะจบชีวิตลง จากนั้น จิ่วหรงก็จะใช้รากบัวสดสร้างนางขึ้นมาอีกครั้ง ตลอดห้าร้อยปีมานี้ ไม่รู้ว่าเขาสร้างไปกี่อันแล้ว
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่? ไม่จริง ไม่ใช่ความจริง”
รัชทายาทหมิงเต๋อไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ทันใดนั้น เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเงยหน้าจ้องมองดวงตาของจิ่วหรง “ท่านราชครู ท่านบอกว่าห้าร้อยปีหรือ? ”
“ใช่ ห้าร้อยปี! เดิมที พระองค์คือจักรพรรดิฝูซี ก่อนจะกลับชาติมาเกิดเป็นรัชทายาทเสวียนเยี่ยในสมัยซีโจว ซีเอ๋อร์เป็นเทพธิดาเผ่าเม้ย นางรับพระบัญชาจากเทพีซีหวังหมู่แห่งเขาคุนหลุน ให้มาพิทักษ์สกุลจิ่นอีโหวจากรุ่นสู่รุ่น
เมื่อห้าร้อยปีก่อน เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิด ซีเอ๋อร์ได้สังเวยชีวิตบูชาหยินหยาง วิญญาณของนางจึงกระจัดกระจาย เพื่อรวบรวมวิญญาณของซีเอ๋อร์ พระองค์ได้ใช้พลังโอรสแห่งสวรรค์จนร่างสลาย หนึ่งร้อยปีต่อมา จึงกลับชาติมาเกิดเป็นรัชทายาทหมิงเต๋อองค์ปัจจุบัน”
ขณะที่จิ่วหรงฟื้นความทรงจำในอดีตชาติของรัชทายาทหมิงเต๋อ ทุกเรื่องราวในชาติก่อนพลันปรากฏซ้ำในความคิดของรัชทายาทหมิงเต๋อราวกับภาพยนตร์
ดวงตาสุกสกาวที่เปี่ยมไปด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของรัชทายาทหมิงเต๋อ แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิดหนักอึ้ง และยิ่งทวีความดำมืดมากขึ้น
ท้ายที่สุด รัชทายาทหมิงเต๋อก็ถามว่า “จิ่วหรง ปีนั้นข้าบอกเจ้าว่า ต้องช่วยชีวิตซีเอ๋อร์ให้ได้ ตอนนี้ วิญญาณอีกสองดวงของซีเอ๋อร์ที่กระจายอยู่บนโลก เจ้าหาเจอหรือไม่? ”
ท่าทางของจิ่วหรงยังคงสงบนิ่งดังเดิม ดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอันใดอยู่ “วิญญาณหนึ่งดวงอยู่กับพระองค์ ส่วนอีกดวง… จนตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด”
จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด?
ด้วยความสามารถของจิ่วหรง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหาไม่พบ เว้นเสียแต่ว่า วิญญาณดวงนั้นไม่ได้อยู่ในที่แห่งนี้หรือห้วงเวลานี้
เมื่อครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ แววตาของรัชทายาทหมิงเต๋อก็แปรเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ล้ำลึก
“ข้าจะคิดหาวิธีตามหาวิญญาณอีกดวงของซีเอ๋อร์ และนำวิญญาณดวงที่อยู่กับข้ามอบให้เจ้า! จิ่วหรง คำพูดของข้าในปีนั้น ไม่ว่าต้องแลกสิ่งใดก็ตาม เจ้าต้องช่วยซีเอ๋อร์กลับมาให้ได้ เจ้าติดหนี้นาง! ”
แสงประหลาดวาบผ่านแววตาของจิ่วหรง ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดว่า “พระองค์ทราบหรือไม่ หากคิดจะนำวิญญาณนั้นออกจากร่าง ต้องแลกด้วยสิ่งใด? ”
แน่นอนว่าเขารู้!
รัชทายาทหมิงเต๋อยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา ทว่าไม่ได้พูดหัวข้อนี้ต่อ
“จิ่วหรง ข้าต้องการพบซีเอ๋อร์”
จิ่วหรงรู้ว่าซีเอ๋อร์ที่รัชทายาทหมิงเต๋อพูดถึง ไม่ใช่เทพธิดา แต่เป็นหุ่นรากบัวซีเอ๋อร์
ทันทีที่พูดจบ รัชทายาทหมิงเต๋อก็ไม่รอให้จิ่วหรงตอบสนอง เขาเดินออกจากประตู และหายไปในค่ำคืนอันมืดมิด
จิ่วหรงมองแผ่นหลังมั่นคงที่เดินจากไป แววตาของเขาปรากฏความโดดเดี่ยวและอ้างว้างที่ตกตะกอนเป็นเวลานาน ดูเหมือนว่า ความเศร้าโศกเสียใจอันเป็นนิรันดร์นั้นไม่ลดน้อยลงแม้แต่น้อย
เขาใช้เวลาร้อยปีในการชุบชีวิตซีเอ๋อร์ขึ้นมา เพราะหนี้ที่ติดค้างซีเอ๋อร์ในตอนนั้น ต่อให้ต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขาก็ไม่ปริปากบ่น
ทว่ารัชทายาทเล่า?
เขาติดหนี้อันใดซีเอ๋อร์? ถึงต้องแลกด้วยชีวิตถึงสองชาติภพ?
ทันใดนั้น จิ่วหรงก็รู้สึกไม่สบายใจ
แท้จริงแล้ว ความรู้สึกไม่สบายใจนั้นเคยเกิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ตอนที่ซีเอ๋อร์ใช้ชีวิตของตนสังเวยบูชาหยินหยาง
ไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักจะรู้สึกว่าโชคชะตาของเขากับซีเอ๋อร์ได้สิ้นสุดลงแล้ว ตั้งแต่ห้าร้อยปีก่อนที่นางสังเวยชีวิต
ซีเอ๋อร์สังเวยชีวิตตนเองเพื่อช่วยฉ่ายเวย ส่วนเขาถูกลิขิตให้มีชีวิตอยู่และเสียใจไปชั่วนิรันดร์ อย่าพูดว่าเป็นเวลาร้อยปีเลย แม้จะเป็นเวลานับพันปี กงล้อแห่งกาลเวลาที่หมุนผิดก็ไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก
……
ในห้องทรงอักษรของพระราชวังตะวันออก ท่ามกลางแสงไฟกะพริบ ซีเอ๋อร์กำลังจัดการกับเอกสารและตำรา
รัชทายาทหมิงเต๋อยืนอยู่ใต้ต้นเหอฮวานที่อยู่ไกลออกไป พลางมองร่างอันงดงามผ่านทางหน้าต่าง ดวงตาของเขาปรากฏความผูกพันลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ดอกเหอฮวานบานสะพรั่ง เบิกบานเปรมปรีดิ์
ทั้งชาติก่อนและชาตินี้ เขาไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่ตนเองกับซีเอ๋อร์ได้อยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตาม ในฐานะโอรสแห่งสวรรค์ และฐานะจักรพรรดิในอนาคต เขากลับต้องการมากยิ่งขึ้น
เขาค่อยๆ เดินไปยังประตูห้องทรงอักษรทีละก้าว
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ซีเอ๋อร์จึงหันกลับมาทำความเคารพ “องค์รัชทายาท”
โดยปกติแล้ว รัชทายาทหมิงเต๋อต้องให้ซีเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนเสียก่อน ทว่าวันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรักลึกซึ้ง เขาค่อยๆ เดินไปด้านข้างซีเอ๋อร์ ประคองมือนาง และดึงนางเข้าสู่อ้อมกอดของตน
ซีเอ๋อร์พยายามหลีกเลี่ยง ทว่านางถูกกักขังด้วยพลังความเอาแต่ใจของรัชทายาทหมิงเต๋อ
“อย่าขยับ! ”
เขาวางคางของตนลงบนศีรษะของซีเอ๋อร์ พลางหลับตาทั้งสองข้าง
เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าคือหุ่นรากบัว ทว่าใจของเขาไม่เคยพอ
“ซีเอ๋อร์ ศิลาสามชาติเป็นผู้กำหนดบุพเพสันนิวาสบนโลก ชีวิตนี้ เมื่อผ่านสะพานไน่เหอ ข้าต้องสลักชื่อของเจ้ากับข้าลงบนศิลาสามชาติ เพื่อกำหนดบุพเพสันนิวาสของพวกเราในชาติหน้า ไม่ว่าการกลับชาติมาเกิดจะเป็นอย่างไร ข้าต้องได้พบเจ้าเป็นคนแรก และแต่งเจ้าเป็นภรรยา ไม่มีวันปล่อยมือ”
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด รัชทายาทหมิงเต๋อยังคงไม่ปล่อยตัวนาง
ทั้งสองสวมกอดกันแน่น กาลเวลาที่ล่วงเลยราวกับถักทอเรียงร้อยเข้าด้วยกัน ภายใต้แสงเทียนและแสงจันทร์ที่สอดประสานผ่านทางหน้าต่าง ราวกับจะผนึกรวมกันเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
จนกระทั่ง… พลังของจิ่งหรงที่ใช้สร้างหุ่นรากบัวสลายหายไป คนที่อยู่เบื้องหน้าเขาจึงค่อยๆ กลายเป็นฝุ่นผงที่มองไม่เห็น
รัชทายาทหมิงเต๋อเดินออกมาจากห้องทรงอักษรอย่างเชื่องช้า ภายใต้แสงจันทร์ที่ทอประกาย จังหวะก้าวอันหนักอึ้งเหยียบย่างลงบนเคราะห์แห่งความเป็นความตายอีกเส้นทางหนึ่ง