สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 24 ตอนที่ 705 บุรุษของกงจู่ ผู้ใดกล้า
ขณะที่ซูจิ่นซีกำลังพักอยู่ในโรงเตี๊ยมที่เจ้าเมืองจัดเตรียมไว้ให้ เมฆสีแดงก้อนหนึ่งก็ลอยมาเหนือศีรษะ
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ นางนั่งไขว้ขาพลางรินชาและจิบแผ่วเบา
อู๋จุนในชุดสีแดงพราวระยับน่าดึงดูดเหาะลงมาจากบนหลังคาด้านนอก เขาเหาะเข้ามาในห้องซูจิ่นซีและนั่งลงฝั่งตรงข้าม ทั้งยังแย่งจอกชาในมือของนางมาดื่มอย่างไร้มารยาท
ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว “อู๋จุน มีขอบเขตหน่อยได้หรือไม่? นั่นข้าดื่มไปแล้ว! ”
อู๋จุนเลิกคิ้วภายใต้หน้ากากเย็นชา “พี่จุนไม่ถือสา! ”
“ทว่าข้าถือ! ”
อู๋จุนหรี่ตาเรียวยาวของเขาลง และยื่นใบหน้าของตนไปหาซูจิ่นซี “แม่นางพิษน้อย พี่จุนคิดถึงเจ้าแทบบ้า เจ้าคิดถึงพี่จุนบ้างหรือไม่? ”
ซูจิ่นซีเอนตัวไปข้างหลังด้วยใบหน้าเรียบเฉย นางเหยียดนิ้วชี้จิ้มลงบนอกของอู๋จุน และดันเขากลับไป “หากไม่มีขอบเขตก็ช่วยมีเส้นแบ่งบ้าง บุรุษสตรีไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน อยู่ห่างจากข้าหน่อยเถิด”
“แม่นางพิษน้อย พี่จุนได้ยินมาว่าระหว่างเจ้ากับคนผู้นั้นมีความแค้นบัญชีเลือดที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ หากเจ้าหย่าขาดกับเยี่ยโยวเหยาแล้ว ก็มาแต่งงานกับพี่จุนเถิด! พี่จุนจะดูแลเจ้าอย่างดี! ”
ซูจิ่นซีจิบชาโดยไม่พูดสิ่งใด
อู๋จุนคิดว่าความเงียบของซูจิ่นซีคือไม่ต่อต้าน อย่างน้อยตัวเขาก็ยังมีโอกาส จึงใช้จังหวะนี้พูดต่อ
“พี่จุนยังได้ยินอีกว่า เสด็จพ่อของเจ้ารับสั่งให้เจ้าอภิเษกกับเป่ยถางเย่แห่งแคว้นเป่ยอี้ แต่งกับเป่ยอี้จะไปสนุกอันใด? บุรุษของสกุลเป่ยถางไม่มีอันใดดีแม้แต่น้อย พวกเขาล้วนซับซ้อน หากเจ้าแต่งกับพี่จุน สิ่งที่เป่ยถางเย่และเยี่ยโยวเหยาทำได้ พี่จุนก็สามารถทำให้เจ้าได้เช่นกัน”
“โอ้? ” ซูจิ่นซีเลิกคิ้ว “ทำอันใดได้บ้าง? ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าอู๋จุน เขาโน้มตัวไปด้านหน้าซูจิ่นซี รอยยิ้มในดวงตาเผยความคิดสกปรก
“เจ้าว่าอย่างไร? ”
“ไสหัวไป! ”
ซูจิ่นซีทุบหน้าอกอู๋จุนอย่างไม่ลังเล
อู๋จนล้มลงกับพื้นพลางยกมือกุมหน้าอก พลางขมวดคิ้วมองไปที่ซูจิ่นซี
“แม่นางพิษน้อย เจ้าจะฆ่าพี่จุนหรือ? หากพี่จุนตายไป ผู้ใดจะดูแลเจ้า! ”
ซูจิ่นซีคิ้วกระตุกอย่างแรง “ไสหัวไป! ”
อู๋จุนไม่เพียงไม่ไปเท่านั้น ทว่าเขายังปีนขึ้นมานั่งลงตรงข้ามซูจิ่นซี “แม่นางพิษน้อย ไม่เจอกันหลายเดือน วรยุทย์ของเจ้าดูพัฒนาขึ้น ทั้งยังแข็งแกร่งอย่างมาก! บอกพี่จุนสิ ในเวลาอันสั้นนี้ เจ้าไปที่ใดมา? พบเจออันใดมาบ้าง? ”
“เกี่ยวอันใดกับเจ้าด้วย? ”
“มันไม่เกี่ยวอันใดกับพี่จุน ทว่าพี่จุนต้องการเกี่ยวข้องกับเจ้า! ”
เขาพูดพลางหรี่ตาลงและโน้มตัวเข้าหาซูจิ่นซีอีกครั้ง
“ถังเป่าอวี้ เจ้ามันไร้สำนึก โง่เง่าเต่าตุ่น คนเฮงซวย เจ้าออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้! ”
ทันใดนั้น เสียงของถังเสวี่ยก็ดังขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายของอู๋จุนพลันแข็งทื่อ
อู๋จุนสบถเสียงต่ำ “ให้ตายเถิด! นางเด็กนี่ จริงๆ เลย ไปที่ใดก็เจอแต่นาง ”
อย่างไรก็ตาม ยามที่หันไปหาซูจิ่นซี ใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใส
“แม่นางพิษน้อย พี่จุนไปจัดการคนก่อกวนประเดี๋ยว หลังจากจัดการถังเสวี่ยเด็กช่างตื้อนั่นเสร็จแล้ว พี่จุนจะมาหาเจ้าอีกครั้ง! ”
ทันทีที่พูดจบ ร่างสีแดงก็หายวับไปไม่เหลือแม้เงา
ซูจิ่นซีมองไปยังทิศทางที่อู๋จุนจากไป พลางขมวดคิ้วมุ่น
อู๋จุนคิดกำจัดถังเสวี่ยเด็กน้อยผู้นั้น?
เห็นได้ชัดว่ามีบางเรื่องที่นางไม่เข้าใจ อู๋จุนไม่ต้องการเผชิญหน้ากับถังเสวี่ยโดยตรง เขากำลังเล่นซ่อนหากับนาง!
หากคิดกำจัดถังเสวี่ย เพียงพูดให้ชัดเจนต่อหน้าด้วยวาจาที่รุนแรงเล็กน้อย หรือส่งถังเสวี่ยไปยังหุบเขาร้อยบุปผา เขาก็คงไม่ถูกไล่ตามทั้งวันแล้วกระมัง?
ทว่าเรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวอันใดกับนาง
ซูจิ่นซีไม่อยากเก็บมาใส่ใจมากนัก
ช่วงเย็น เจ้าเมืองหม่านเยวี่ยได้เตรียมอาหารเย็นไว้ที่จวน และส่งคนมาเชิญซูจิ่นซีไปรับประทานอาหารร่วมกัน
ได้ยินมาว่าเขาเชิญมู่หรงฉี และมู่หรงอ้าวเทียน ผู้บัญชาการทัพใหญ่ที่เดินทัพมาทางตะวันตก คนผู้นี้เป็นคนสกุลมู่หรงสายนอก ทั้งยังเป็นนายทหารที่กรำศึกในสนามรบมานานหลายปี
นอกจากนั้นยังมีแม่ทัพอีกหลายท่านที่มาร่วมงานเลี้ยง พวกเขาอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของมู่หรงอ้าวเทียน ทั้งหมดล้วนมาจากสกุลมู่หรงสายนอก เป็นผู้มีเกียรติในสนามรบ และมีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูง
ซูจิ่นซีไม่เหมาะจะจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้ และนางก็เกียจคร้านเกินกว่าจะรับมือ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ไป
นางทานมื้อเย็นที่ห้องและรีบเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้น มู่หรงอ้าวเทียนและเจ้าเมืองหม่านเยวี่ยจัดการนัดหมายให้ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาได้หารือเรื่องสำคัญทางการทหารของทั้งสองแคว้น
อีกฝ่ายให้เกียรติแคว้นหนานหลีโดยให้จัดสถานที่นัดพบที่นี่
มู่หรงอ้าวเทียนจัดสถานที่นัดพบบนเนินเขาเลี่ยววั่งพอ
สถานที่แห่งนี้ รอบด้านไม่มีภูเขา ไกลสุดลูกหูลูกตาไม่มีสิ่งกีดขวาง ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถซุ่มโจมตีได้
ซูจิ่นซีตามกองทัพมาถึงเนินเขาเลี่ยววั่งพอ
ทว่ารออยู่นาน คนจากจงหนิงก็ยังไม่มา
ในที่สุด เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น แม่ทัพท่านหนึ่งของมู่หรงอ้าวเทียนก็เริ่มอดทนไม่ไหว
“ให้ตายเถิด เจ้าลูกหมาเยี่ยโยวเหยาเล่นแง่กับพวกเราหรือ! ทุกคนมาถึงที่นี่ตั้งแต่ยามเฉิน พูดเสียดิบดีว่าพบกันยามเฉิน นี่พวกเรารอมานานเท่าใดแล้ว? ข้ายืนรอจนขาชา”
เมื่อแม่ทัพนายนั้นเริ่มพูด คนที่เหลือก็วิพากษ์วิจารณ์ตามกันเป็นระลอก
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วมุ่น
ดวงตาที่จ้องมองไปยังแม่ทัพนายนั้น ทอประกายเย็นยะเยือก
บุรุษของซูจิ่นซี ผู้ใดคิดจะต่อว่าก็ทำได้หรือ?
ภายใต้แขนเสื้อกว้าง นิ้วเรียวงามอ่อนนุ่มของซูจิ่นซีหมุนวนอย่างเชื่องช้า ในมือของนางมีเม็ดยาสีขาวหิมะอยู่ไม่น้อย ก่อนจะเล็งออกไป…
ยาเม็ดนั้นถูกเล็งไปที่ก้นของแม่ทัพผู้นั้นอย่างเงียบงัน ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นแม้แต่น้อย
ทันใดนั้น บุรุษที่อวดดีเมื่อครู่ก็ล้มลงกับพื้น มือเท้าเกร็งสั่นเทาไม่หยุด ดวงตาเบิกกว้างมองท้องฟ้า น้ำลายฟูมปาก ทั้งยังพึมพำอันใดบางอย่างซ้ำไปซ้ำมา
ทุกคนพลันตื่นตระหนก “แม่ทัพมู่หรง นี่มันเกิดอันใดขึ้น? เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? ”
“แม่ทัพมู่หรง แม่ทัพมู่หรง…”
“หรือว่าโดนของเข้าแล้ว? ”
เพียงชั่วพริบตา บุรุษผู้นั้นก็ปัสสาวะราด
แม้จะมีบางคนที่เป็นห่วงเขา ทว่าหลายคนกลับเมินหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ทั้งยังถอยไปยืนห่างๆ ไม่กล้าเข้าใกล้
มู่หรงอ้าวเทียนรู้ว่าซูจิ่นซีมีทักษะวิชาแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ทว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้กงจู่ผู้มีฐานะสูงศักดิ์ต้องลดตัวลงไปตรวจอาการให้แม่ทัพที่ปัสสาวะราดได้!
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มู่หรงอ้าวเทียนก็ไม่ได้ปริปากอันใด เขาให้คนแบกแม่ทัพผู้นั้นออกไปอย่างช่วยไม่ได้
ไม่นานนัก บริเวณเนินเขาเลี่ยววั่งพอที่โกลาหลก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง มู่หรงฉีราวกับรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น จึงเหลือบตามองซูจิ่นซี
ทว่าสุดท้าย เขาก็ไม่ได้พูดอันใด และไม่ได้เปิดโปงซูจิ่นซี
ทุกคนรอต่อไปอีกครึ่งชั่วยาม ทว่ายังไม่มีผู้ใดจากแคว้นจงหนิงเดินทางมา
ขณะที่ทุกคนคิดว่าเยี่ยโยวเหยาผิดนัด และกำลังจะจากไป ทันใดนั้น องครักษ์นายหนึ่งของแคว้นจงหนิงก็ขี่ม้าตัวสูงเข้ามา
เขากล่าวว่า ท่านอ๋องไม่ชอบเนินเขาเลี่ยววั่งพอ เนื่องจากลมแรงและแดดร้อน จึงต้องการเปลี่ยนสถานที่นัดพบ
สถานที่คือโรงน้ำชาในเมืองเล็กๆ ทางทิศตะวันตกนอกประตูเมืองหม่านเยวี่ย
ในเวลาเดียวกัน โยวอ๋องได้ให้ผู้ส่งสารนำเสื้อคลุมมาให้ซูจิ่นซีหรือฉางอันกงจู่
ทั้งยังย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้กงจู่ดูแลสุขภาพตนเอง อย่าได้ต้องลมและตากแดดจัดเกินไป