สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 25 ตอนที่ 743 การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ในเวลานี้ จู่ๆ ด้านข้างพุ่มไม้ก็มีเสียงดังขึ้น
ทุกคนต่างมองหาที่มาของเสียง ท่ามกลางความมืดสลัว พวกเขาเห็นเส้นผมสีขาวหิมะเป็นอันดับแรก
ตามด้วยร่างในชุดสีเขียวขาดวิ่น
เป็นชายชราผู้นั้น
ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาอดขมวดคิ้วไม่ได้
ไม่คิดเลยว่าเขาจะยังมีชีวิตรอด
อย่างไรก็ตาม เขาเป็นผู้ฝึกเวท ทั้งยังมีวรยุทธ์แข็งแกร่ง แม้แต่พวกเขายังสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น ตำหนักใต้ดินแห่งนี้ยังเป็นแหล่งกบดานของชายชรา เขาจะยอมปล่อยให้ตนเองตายอยู่ข้างในโดยง่ายได้อย่างไร?
เมื่อเป็นเช่นนี้ คงไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้อันดุเดือดในครั้งต่อไป
แววตาของจิ้นหนานเฟิงและคนอื่นๆ ปรากฏความระมัดระวังระดับสูงสุด ในมือของพวกเขาจับอาวุธไว้แน่น
ชายชราลุกขึ้นและซวนเซออกมาจากพุ่มไม้ เมื่อเขาเห็นซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยา และคนอื่นๆ อย่างชัดเจน แววตาพลันปรากฏความดุดัน
“หึ ส่งจงซีจือและมู่หรงอวิ๋นไห่มา แล้วข้าจะพิจารณาไว้ชีวิตพวกเจ้า”
ชายชราพูดพลางรวบรวมพลังเสวียนชี่เป็นก้อนขนาดใหญ่
ซูจิ่นซีก้าวลงจากร่างของสัตว์เทพกิเลนอย่างใจเย็น ดวงตาของนางเรียบเฉย
ระบบถอนพิษเลื่อนขั้นสำเร็จแล้ว ในเวลานี้ มู่หรงอวิ๋นไห่และจงซีจือนอนหลับอย่างปลอดภัยอยู่ในระบบถอนพิษ
“ไม่ต้องพูดจาโอ้อวด ไม่ว่าอย่างไร ที่นี่ก็คืออาณาจักรเทียนเหอ วันนี้ผู้ใดไม่ปล่อยผู้ใดยังไม่แน่ชัด! ”
แม้ชายชราจะเป็นผู้ฝึกพลังเสวียนชี่ ทว่าหลังจากต่อสู้แบบตัวต่อตัวหลายครั้ง ซูจิ่นซีมั่นใจว่านางสามารถต่อสู้ได้ทัดเทียมกับชายชรา
ดวงตาของชายชรากลายเป็นสีแดงฉาน พลังเสวียนชี่ทั่วทั้งร่างค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ พลังอันทรงอานุภาพนั้นแผ่ปกคลุมต้นไม้ใบหญ้าจนเกิดเสียงดังกรอบแกรบ ลมหนาวพัดมาอย่างกะทันหัน
ซูจิ่นซีถือกระบี่เฟิ่งอวี่ ส่วนเยี่ยโยวเหยาถือกระบี่เสวียนหยวน ไม่นานนัก ทั้งสองก็พุ่งเข้าไปโจมตีพร้อมกัน
พลังรอบตัวคนทั้งสามทรงพลังอย่างมาก จิ้นหนานเฟิงและคนอื่นๆ ต้องการเข้าไปช่วย ทว่าพวกเขาไม่สามารถใช้พลังอันใดได้เลย
สถานการณ์ในดินแดนต้องห้ามสกุลจงดุเดือดอย่างมาก ไม่นานนัก จงรุ่ยอันและจงเทียนโย่วก็พาองครักษ์และลูกศิษย์ของสกุลจงมาถึงที่เกิดเหตุ
เมื่อพวกเขาเห็นซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาต่อสู้กับชายชราก็พากันตกใจ
แววตาของจงเทียนโย่วทอประกายความยินดี “พี่อวิ๋นไค! ”
ทว่าเมื่อเห็นสถานการณ์ของซูจิ่นซีอย่างชัดเจน ความปีติในดวงดวงตาก็ค่อยๆ มืดมนและกลายเป็นความกังวล เขาต้องการเข้าไปช่วย ทว่าไม่สามารถช่วยอันใดได้เลย เช่นเดียวกับจิ้นหนานเฟิงและคนอื่นๆ
ในไม่ช้า ค่ำคืนอันมืดมิดที่สว่างด้วยแสงไฟจากระยะไกลและแสงจันทร์บนฟ้า ก็ถูกปกคลุมด้วยบรรยาอากาศดำมืด
พวกเขาเห็นเพียงร่างของซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยา และชายชราผลุบๆ โผล่ๆ เหาะขึ้นเหาะลงไม่หยุด ภายใต้อากาศสีดำที่ราวกับหมอกและเมฆปั่นป่วน
เมื่อเห็นดังนั้น ฝ่ามือของพวกเขาก็ชื้นไปด้วยเหงื่อ
ในตอนแรก การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายยังยากที่จะบอกได้ว่าผู้ใดได้เปรียบ ทว่าในไม่ช้า ทุกคนก็รู้สึกได้ว่าซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยามีบางอย่างผิดปกติ
ใจกลางเมฆหมอกสีดำ ทั่วทั้งร่างของซูจิ่นซีพลันเปล่งแสงสีทองระยิบระยับ
ชายชราซัดพลังเสวียนชี่อันแข็งแกร่งใส่กลางอกของซูจิ่นซีอย่างรุนแรง ทว่ากลับถูกแสงที่อยู่รอบตัวของซูจิ่นซีดึงพลังฝ่ามือไว้ ทำให้เขาไม่สามารถถอนฝ่ามือออกไปได้
ในไม่ช้า ใบหน้าของชายชราก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยว
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกันแล้ว สถานการณ์ของซูจิ่นซีก็ไม่ใคร่จะดีเท่าไรนัก ใบหน้าของนางซีดเผือด ดวงตาว่างเปล่าไร้แวว ร่างกายแขวนลอยกลางอากาศ ดูอ่อนแรงอย่างมาก
เยี่ยโยวเหยาที่อยู่ด้านข้างต้องการเข้าไปช่วยซูจิ่นซี ทว่าเมื่อเข้าไปใกล้นาง คาดไม่ถึงว่าเขาจะถูกซูจิ่นซีดูดพลังฝ่ามือ สถานการณ์ของเขาไม่ได้ดีไปกว่าชายชราแม้แต่น้อย
ผู้ที่มีความรู้ด้านวรยุทธ์เพียงเล็กน้อยก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่า ซูจิ่นซีกำลังดูดพลังภายในของชายชราและเยี่ยโยวเหยา
ทว่าพลังภายในของชายชราดูจะไม่สอดคล้องกับพลังเดิมของนาง จึงส่งผลทำให้เกิดการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่ชายชราและเยี่ยโยวเหยาเท่านั้นที่จะตกอยู่ในอันตรายจากการถูกดูดพลังภายใน ทว่าซูจิ่นซีเองก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
ยากที่จะจินตนาการได้ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเกิดอันใดขึ้น
จิ้นหนานเฟิงและคนอื่นๆ พยายามเข้าใกล้คนทั้งสามอีกครั้ง ทว่าทันทีที่พวกเขาเข้าใกล้ ก้อนพลังสีดำมืดก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนต้องถอยกลับมา เกือบสูญเสียชีวิตไปกว่าครึ่ง
“ท่านอ๋อง พระชายา… ”
“ท่านอ๋อง พระชายา… ”
“พี่อวิ๋นไค… ”
“กงจู่… ”
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างมองดูคนทั้งสามด้านบนที่ตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขากระวนกระวายใจราวกับมดบนกระทะร้อน
จงเทียนโย่วพยายามเข้าใกล้ซูจิ่นซีหลายครั้ง ทว่าทุกครั้งก็ถูกพลังที่แข็งแกร่งซัดจนกระเด็นตกลงบนพื้น หลังจากความพยายามหลายครั้ง ในไม่ช้า เขาก็ได้รับบาดเจ็บไปทั่วร่าง และกระอักเลือดออกมาจนหมดสติ
ทำอย่างไรดี?
ทำอย่างไรดี?
ทำอย่างไรดี?
เห็นได้ชัดว่าซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยา และชายชราดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ ทว่าทุกอย่างกลับไร้ผล
เวลานี้ พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เว้นเสียแต่ให้ผู้ที่มีวรยุทธ์เหนือกว่าคนทั้งสาม ช่วยแยกพวกเขาออกจากกัน
ทว่าวรยุทธ์ของซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยา ทั้งอาณาจักรเทียนเหอไม่มีผู้ใดเทียบได้ ยิ่งไปกว่านั้น ชายชราเป็นผู้ฝึกพลังเสวียนชี่ เมื่อสำรวจไปทั่วอาณาจักรเทียนเหอ ไม่มีผู้ใดมีวรยุทธ์เทียบเคียงพวกเขาทั้งสามคนแม้แต่น้อย ในเวลานี้ ผู้ใดจะสามารถช่วยพวกเขาได้?
ขณะที่ทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน ไกลออกไป ภายใต้แสงจันทร์สว่างไสว ทันใดนั้น ร่างสีขาวราวหิมะก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเชื่องช้า
เบาบางและเลือนลาง…
เมื่อทุกคนมองเห็นร่างนั้น ภายในดวงตาของพวกเขาพลันปรากฏแสงสว่างราวกับมองเห็นฝนในหน้าแล้ง
ท่ามกลางฝูงชน ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “คนชุดขาว… ดู! เป็นคนชุดขาว หรือว่าเป็น… หรือว่าเป็นคุณชายจิ่ว… ”
เนื่องจากน้ำเสียงที่มีความตื่นเต้น ทุกคนจึงหันไปมองยังทิศทางของร่างนั้น
ม่านจันทราปกคลุม หมอกควันเบาบางจนมองใบหน้าของคนผู้นั้นไม่ชัดเจน มองเห็นเพียงร่างสูงใหญ่เลือนราง
แม้จะเห็นเพียงเลือนราง ทว่าสามารถมองออกว่ารูปร่างของคนผู้นั้นราวกับเทพเซียน
“เป็นคุณชายจิ่ว… เป็นคุณชายจิ่วแน่นอน… ”
“บนโลกนี้ นอกจากคุณชายจิ่ว จะมีผู้ใดที่มีรูปร่างดั่งเทพเซียนเช่นนี้อีก? ”
“ใช่แล้ว คุณชายจิ่ว… คุณชายจิ่ว… ”
“คุณชายจิ่ว รีบมาช่วยท่านอ๋องและพระชายาของพวกเราด้วยเถิด… ”
“คุณชายจิ่ว ได้โปรดช่วยกงจู่ของพวกเราด้วย… ”
จงรุ่ยอันและจงเทียนโย่วตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขามองไปที่ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาด้วยความดีใจ
จงเทียนโย่วกำลังจะพูดปลอบซูจิ่นซี ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของซูจิ่นซีเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำ ทันใดนั้น เขาก็มองไปที่คนชุดขาว ‘ราวกับเซียน’ ภายใต้แสงจันทร์
เสียง ‘เชว้ง’ ดังขึ้น ภายใต้แสงจันทร์นั้น ในมือของคนชุดขาวปรากฏกระบี่เล่มยาวส่องประกายระยิบระยับ
คนชุดขาวถือกระบี่ยาวและแทงไปที่กลางอกของซูจิ่นซี
เมื่อคนผู้นั้นเข้ามาใกล้ ทุกคนจึงมองเห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่เข้ามา ใช่คุณชายจิ่วเสียที่ใดกัน?
ทว่าคืออดีตมหาอุปราชของแคว้นหนานหลี มู่หรงเฟิง!!!
ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จงเทียนโย่วเท่านั้น ทว่าทุกคนที่อยู่บนพื้นต่างเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ใบหน้าของทุกคนพลันแข็งค้าง เปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทันราวกับถูกร่ายมนตร์
มู่หรงเฟิงมาได้อย่างไ?
เขาปรากฏตัวในเวลานี้ได้อย่างไร?
ทั้งยังเป็นเวลาวิกฤตเช่นนี้อีกด้วย?
หรือว่าเขาจะฉวยโอกาสนี้ล้างแค้นซูจิ่นซี?