สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 27 ตอนที่ 803 ท่านเทพและอวิ๋นเชวี่ย
เมื่อมองร่างของอวิ๋นเชวี่ยค่อยๆ สลายกลายเป็นเถ้าถ่าน ความคิดของซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาก็ราวกับหวนคืนไปเมื่อพันปีก่อน จวนจิ่นอีโฮ่ว สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นคล้ายวันนี้มาก
ทั้งสองคนขมวดคิ้วพร้อมกัน
แววตาของเยี่ยโยวเหยานิ่งขรึมครู่หนึ่ง ความรู้สึกเจ็บปวดด้วยพละกำลังที่แม้แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึก เขาจับมือของซูจิ่นซีแน่น แน่นขึ้น แน่นยิ่งขึ้น ราวกับว่าเขากำลังบีบมือของซูจิ่นซีจนแหลกละเอียด
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าความคิดของซูจิ่นซีกลับล่องลอยไปไกล ดวงตาที่ทอประกายของนางพลันมืดสนิท คิ้วขมวดมุ่น เหมือนนางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่นิ้วของนางแม้แต่น้อย
การมองคนที่ตนเองรักสลายไปต่อหน้าต่อตา เดิมทีควรเจ็บปวดทุกข์ทรมานเพราะช่วยอันใดไม่ได้ เป็นความโหดร้ายและบีบคั้นหัวใจที่สุดในโลก ทว่าใบหน้าของท่านเทพกลับไม่แสดงถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย และไม่มีการเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งตัดพ้อ ร้องบอกว่าข้าช่วยอันใดไม่ได้ หรือวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ
เขายังคงมีท่าทางที่เหมือนกำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของอวิ๋นเชวี่ย ดวงตายังมองอวิ๋นเชวี่ยเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่เปลี่ยนแปลง
เวลาผ่านไปทุกนาทีทุกวินาที ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นรูปปั้น ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
จิตใจของเขาราวกับหวนคืนสู่ชายฝั่งทะเลวังตงไห่ติงเทียนในปีนั้น เมื่อหนึ่งหมื่นสามพันสี่ร้อยยี่สิบเอ็ดปีก่อน
นางคืออวิ๋นเชวี่ยตัวหนึ่งที่อยู่ชายฝั่งทะเลวังตงไห่ติงเทียน มีอิสระ ไร้เดียงสา และฉลาดหลักแหลม
เป็นเพียงอวิ๋นเชวี่ยที่แสนจะธรรมดาตัวหนึ่ง เหมือนหยดน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ธรรมดาจนไม่มีอันใดจะธรรมดาไปกว่านี้อีกแล้ว
ส่วนเขาคือพาหนะของจักรพรรดิฝูซีผู้ยิ่งใหญ่ในแดนสวรรค์ชั้นฟ้า มีสายเลือดเผ่ามังกรที่สูงส่ง ทุกคนต่างอิจฉา เขามักเดินทางเข้าออกวังตงไห่ติงเทียนพร้อมกับจักรพรรดิฝูซี รวบรวมผู้คนจากแดนเซียนและแดนเทพเพื่อสนทนาวิถีแห่งพระคัมภีร์
องค์ชายสามแห่งทะเลวังตงไห่ติงเทียนมีอุปนิสัยเจ้าชู้ ครั้งหนึ่งเมื่อองค์ชายสามออกไปนอกวัง เขาตกหลุมรักอวิ๋นเชวี่ยที่มีใบหน้าธรรมดา ไม่งดงามอันใดมากนัก และต้องการบังคับพานางเข้ามาในตำหนักหลิวหลีวังตงไห่ติงเทียน
อวิ๋นเชวี่ยยอมตายไม่ยอมจำนน จึงเกิดเหตุการณ์รุนแรง โชคดีที่นางได้พบกับมังกรไฟที่มาพร้อมกับจักรพรรดิฝูซี ซึ่งขณะนั้นกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่บนชายฝั่งทะเลวังตงไห่ติงเทียน มังกรไฟได้ช่วยชีวิตนางไว้ ด้วยเหตุนี้ องค์ชายสามจึงแค้นเคืองมังกรไฟเป็นอย่างมาก
อวิ๋นเชวี่ยมีสถานะต่ำต้อย เมื่อนางได้พบกับชนชั้นสูงอย่างองค์ชายสาม นางคิดว่าครั้งนี้ตนเองต้องมีเคราะห์และยากจะหนีพ้น จึงเตรียมปลิดชีพตนเองเพราะไม่ยินยอมทำตาม กลับไม่คาดคิดว่าขณะที่ตนเองกำลังอับจนหนทาง กลับมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยชีวิตนาง
ทันทีที่มังกรไฟปรากฏตัว นางก็ตกหลุมรักมังกรไฟตั้งแต่แรกเห็น
ต่อมา อวิ๋นเชวี่ยรู้ดีว่าทะเลวังตงไห่ติงเทียนมีอันตราย นางอาจพบองค์ชายสามได้ทุกเมื่อ ทว่าเพื่อที่จะได้พบกับมังกรไฟ นางจะมารอที่ชายฝั่งทะเลวังตงไห่ติงเทียนทุกวัน โดยหวังว่าจะได้พบมังกรไฟอีกครั้ง
เป็นอย่างที่นางปรารถนา นานๆ ครั้ง มังกรไฟจะมาที่ทะเลวังตงไห่ติงเทียนพร้อมกับจักรพรรดิฝูซี นางจึงได้พบกับมังกรไฟ ทว่านางทำได้เพียงมองจากระยะไกล มองขึ้นไปจากระยะไกล… มีบางครั้งที่มังกรไฟพักผ่อนอยู่บนชายฝั่งทะเลวังตงไห่ติงเทียนและพูดคุยกับนางเป็นครั้งคราว อวิ๋นเชวี่ยไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกภายในใจของนาง และไม่กล้าแสดงความคิดภายในใจออกมาทางสีหน้า
เพราะคนผู้นั้นสูงสง่าเกินไป โดดเด่นเกินไป เหมือนความเจิดจ้าบนท้องฟ้า
เขาไม่ต้องพูดอันใดและไม่ต้องทำอันใด ขอเพียงเขาอยู่ที่นั่น เขาก็กลายเป็นจุดสนใจแล้ว
ทว่าสิ่งที่อวิ๋นเชวี่ยไม่รู้คือ นางคิดว่านางเป็นเพียงหยดน้ำในมหาสมุทรที่ไร้ค่า ไม่โดดเด่นอันใด ขณะที่นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเก็บซ่อนหัวใจของนาง นางกลับเข้าไปอยู่ในหัวใจของมังกรไฟแล้ว
ทว่ามังกรไฟไม่สามารถอยู่กับนางได้ เขาไม่สามารถบอกความในใจกับนาง และไม่สามารถมอบสถานะใดๆ แก่นาง
แม้มังกรไฟจะเป็นเพียงพาหนะของจักรพรรดิฟฝูซี ทว่าเขาเป็นสายเลือดของเผ่ามังกรที่สูงส่ง
ราชาวังตงไห่ติงเทียนและจักรพรรดิฝูซีได้เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างกัน พวกเขาตั้งใจให้มังกรไฟหมั้นหมายกับบุตรสาวคนสุดท้องของเขา นั่นคือองค์หญิงเก้า แม้การสมรสครั้งนี้จะไม่มีการทำสัญญาระหว่างกัน ทว่าเรื่องนี้เทพเซียนสี่สมุทรล้วนทราบเป็นอย่างดี
เผ่าปีศาจ เผ่ามาร และเผ่าวิญญาณรวมตัวกันก่อกบฏ ราชาแห่งวังตงไห่ติงเทียนจึงนำทัพเทพเซียนสี่สมุทรเข้าช่วยเหลือเผ่ามังกรเพื่อควบคุมสถานการณ์การก่อกบฏ จักรพรรดิฝูซีให้ความสำคัญต่อราชาแห่งวังตงไห่ติงเทียนอย่างมาก มังกรไฟก็รู้ดีอยู่แก่ใจ และจักรพรรดิฝูซีก็เห็นความสำคัญของสัญญาสมรสนี้เช่นกัน
ดังนั้นเพื่อรักษาน้ำใจของราชาวังตงไห่ติงเทียน เขาไม่อาจละเมิดสัญญาการสมรสครั้งนี้
สิ่งที่เขาสามารถทำให้อวิ๋นเชวี่ยได้ มีเพียงการไม่รบกวน ไม่ทำให้ตื่นตระหนก พยายามอย่างเต็มที่เพื่อมองดูนางและอยู่กับนางให้ได้มากที่สุดในเวลาที่จำกัด
เมื่อทั้งสองได้พบกันบ่อยขึ้น จึงสนิทสนมกันมากขึ้น มังกรไฟมาพบอวิ๋นเชวี่ยบ่อยครั้ง ในที่สุดวันหนึ่ง องค์ชายสามก็พบความผิดปกติ
องค์ชายสามผู้ที่ไม่เคยตัดใจจากอวิ๋นเชวี่ย ใช้โอกาสนี้บังคับพาตัวอวิ๋นเชวี่ยกลับไปที่ตำหนักหลิวหลี บีบบังคับอวิ๋นเชวี่ยจนนางยอมตายเสียดีกว่า ในเวลานั้น นางบังเอิญได้พบกับมังกรไฟที่มาวังตงไห่ติงเทียนกับจักรพรรดิฝูซีอีกครั้ง เพื่อช่วยชีวิตอวิ๋นเชวี่ย มังกรไฟกับองค์ชายสามเกิดการปะทะกัน องค์ชายสามจงใจยั่วยุเขา และในระหว่างการต่อสู้ มังกรไฟได้ทำร้ายองค์ชายสามโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้องค์ชายสามได้รับบาดเจ็บจนพิการ
จักรพรรดิฝูซีและราชาแห่งวังตงไห่ติงเทียนทรงทราบเรื่องนี้ องค์ชายสามร้องทุกข์ต่อพระบิดาและจักรพรรดิฝูซี ทั้งยังเติมเชื้อไฟใส่ร้ายว่ามังกรไฟกับอวิ๋นเชวี่ยคบชู้กัน
ราชาแห่งวังตงไห่ติงเทียนทรงกริ้วอย่างมาก และหวังว่าจักรพรรดิฝูซีจะมอบความยุติธรรมให้แก่บุตสาวและบุตรชายของเขา จึงทรงรับสั่งให้มังกรไฟสังหารอวิ๋นเชวี่ยด้วยมือของเขาเอง
อย่างไรเสีย ราชาแห่งวังตงไห่ติงเทียนก็เป็นวีรบุรุษของเผ่ามังกร จักรพรรดิฝูซีไม่สามารถเพิกเฉยได้ ยิ่งไปกว่านั้น มังกรไฟเป็นฝ่ายผิดจริงๆ
ทว่าอวิ๋นเชวี่ยเป็นผู้บริสุทธิ์ จักรพรรดิฝูซีทำได้เพียงขับไล่อวิ๋นเชวี่ยออกจากชายฝั่งวังตงไห่ติงเทียนเพื่อปลอบใจราชาแห่งวังตงไห่ติงเทียน ก่อนจะให้มังกรไฟและองค์หญิงเก้าอภิเษกกันโดยเร็วที่สุด ทั้งยังมอบผลประโยชน์มากมายให้แก่วังตงไห่ติงเทียน
งานอภิเษกระหว่างมังกรไฟและองค์หญิงเก้าแห่งวังตงไห่ติงเทียนใกล้จะมาถึง ทว่าข่าวลือเกี่ยวกับมังกรไฟและอวิ๋นเชวี่ยกลับแพร่สะพัดไปทั่วสี่สมุทรแปดดินแดน ในที่สุด องค์หญิงเก้าก็ทรงทราบเรื่องนี้
องค์หญิงเก้าเกลียดอวิ๋นเชวี่ย ก่อนงานอภิเษก นางพยายามออกตามหาอวิ๋นเชวี่ยที่ถูกขับออกจากชายฝั่งวังตงไห่ติงเทียน โดยตั้งใจว่าจะไปสังหารนางให้สาแก่ใจ
เมื่อมังกรไฟรู้เรื่องนี้ก็รีบไปช่วยชีวิตอวิ๋นเชวี่ย แต่กลับถูกองค์ชายสามซึ่งมีความแค้นต่อมังกรไฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว วางแผนชั่ว ทำให้เขาทำร้ายองค์หญิงเก้า จนทำให้องค์หญิงเก้ากลับคืนสู่ร่างเดิม
ครั้งนี้มังกรไฟและอวิ๋นเชวี่ยสร้างปัญหาใหญ่ ราชาแห่งวังตงไห่ติงเทียนทรงกริ้วอย่างมาก และต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้แก่บุตรสาวตนเอง จึงรีบเข้าไปที่สระมรกต
จักรพรรดิฝูซีรู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ด้วยความโกรธ พระองค์จึงสร้างดินแดนลึกลับเสวียนคง ก่อนจะส่งมังกรไฟและอวิ๋นเชวี่ยเข้าสู่ดินแดนลึกลับเสวียนคง และทรงบัญชาให้พวกเขาคอยปกป้องดินแดนลึกลับแห่งนี้
คนหนึ่งเป็นเทพผู้พิทักษ์ดินแดนลึกลับ อีกคนเป็นสัตว์ภูตปกป้องดินแดนลึกลับเช่นกัน ไม่มีวันพบหน้ากันตลอดกาล
หากพวกเขาพบหน้ากัน สัตว์ภูตจะต้องสลายกลายเป็นผุยผง
ไม่คาดคิดว่า พวกเขาทั้งสองจะพิทักษ์ดินแดนลึกลับแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งหมื่นสามพันสี่ร้อยยี่สิบเอ็ดปีเต็ม
เหตุการณ์ในอดีตทั้งหมดราวกับปรากฏขึ้นเมื่อวาน ในที่สุด ดวงตาของท่านเทพก็กลับมาสู่สถานการณ์เบื้องหน้า เขาพลันตระหนักได้ว่าสตรีที่เขาเฝ้าคำนึงหามานานนับพันนับหมื่นปี ทั้งยังต้องการพบหน้าสักครั้ง นางไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว
สุดท้าย ดวงตาที่สงบนิ่งของเขาก็เริ่มปั่นป่วน กระแสน้ำเชี่ยวกราก น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น สายลมพัดแรง และในที่สุด พื้นผิวทะเลสาบที่สงบนิ่งก็กลายเป็นพายุทะเลอันบ้าคลั่ง
ดวงตาของเขาเป็นสีแดงฉาน ก่อนจะคำรามขึ้นไปบนฟ้าด้วยความเดือดดาล ภูเขาและแม่น้ำสั่นสะเทือน ดินแดนลึกลับเสวียนคงทั้งหมดเริ่มสั่นไหว
ซูจิ่นซีซวนเซไปมาอย่างรุนแรง เท้าของนางเกือบตกลงไปในลาวาที่กำลังลุกโชน
สีหน้าของเด็กน้อยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “แย่แล้ว ท่านเทพทรงเดือดดาลอีกแล้ว คราวนี้น่ากลัวกว่าเมื่อครู่มากทีเดียว เกรงว่าจิตของเขาคงเข้าสู่จิตมารแล้ว เขาอาจทำลายดินแดนลึกลับเสวียนคงแห่งนี้”
คนรักของเขาไม่อยู่แล้ว เขาจะเฝ้าอยู่ที่นี่ไปเพื่ออันใด? มิสู้เข้าสู่จิตมาร และทำลายทุกอย่างให้สิ้นซาก
ทำลายดินแดนลึกลับเสวียนคง?
แม้แต่ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาก็จะถูกทำลายไปด้วยไม่ใช่หรือ?
สีหน้าของซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาเปลี่ยนไปอย่างมาก