สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 27 ตอนที่ 807 คงไม่ง่ายเช่นนั้นกระมัง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องออกไป และต้องออกไปโดยเร็วที่สุด เพราะไม่มีเวลาเหลือสำหรับซูจิ่นซีอีกแล้ว
หลังผ่านไปครู่ใหญ่ เยี่ยโยวเหยาก็เดินพลังเรียบร้อย ซูจิ่นซีรีบเดินไปด้านข้างเยี่ยโยวเหยา
“เยี่ยโยวเหยา ท่านรู้สึกอย่างไร”
ใบหน้าซีดขาวของเยี่ยโยวเหยาปรากฏเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อย เขาส่ายศีรษะให้ซูจิ่นซี “ข้าไม่เป็นอันใดมาก! ”
จากนั้นเขาก็มองไปยังบริเวณโดยรอบ “เจ้าพบเบาะแสอันใดหรือไม่? ”
ซูจิ่นซีส่ายศีรษะ “ไม่มี ทว่าตอนนี้ยืนยันได้เพียงอย่างเดียวคือ ที่นี่คือโลกอีกใบหนึ่งภายในดินแดนลึกลับเสวียนคง หากสืบไปถึงต้นกำเนิด สถานที่แห่งนี้ควรเป็นเหมือนกับดินแดนลึกลับเสวียนคง เป็นดวงจิตเทพที่ซีหวังหมู่ทิ้งเอาไว้”
“ประคองข้าลุกขึ้น! ”
ซูจิ่นซีช่วยพยุงเยี่ยโยวเหยาลุกขึ้น เยี่ยโยวเหยาตรวจสอบบริเวณโดยรอบอย่างละเอียด ทว่านอกจากเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนแล้ว ยังมีภูเขาไร้จุดสิ้นสุดที่อยู่ไกลออกไป ทว่านอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีสิ่งใดอีกเลย
ไม่นานนัก ท่านเทพก็เดินพลังเรียบร้อย ทว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะวิญญาณที่กระจัดกระจายของอวิ๋นเชวี่ย ทำให้เขาบาดเจ็บ อาการของเขาย่ำแย่อย่างมาก
ซูจิ่นซีให้เขาทานยาวิเศษอีกหนึ่งเม็ด ทั้งยังใช้สมุนไพรล้ำค่าจำนวนหนึ่ง อาการของท่านเทพจึงดีขึ้นเล็กน้อย ทว่าจิตของเขาไม่สู้ดีนัก ดูเหมือนว่าเขาไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่
ซูจิ่นซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ที่นี่เป็นอีกโลกหนึ่งภายในดินแดนลึกลับเสวียนคง สถานการณ์ควรคล้ายกับดินแดนลึกลับเสวียนคง ท่านคงรู้วิธีออกไป! ”
ท่าทางของท่านเทพราวกับตกตะลึง ดวงตาว่างเปล่า ไร้ซึ่งความคิดใดๆ
ซูจิ่นซีกล่าวต่อ “ท่านทานยาวิเศษของข้าไปแล้ว และท่านยังบอกว่ายาวิเศษเป็นสิ่งของล้ำค่ามากสำหรับอาณาจักรเทียนเหอ น้ำใจครั้งนี้ ท่านต้องตอบแทน”
ซูจิ่นซีไม่ใช่แม่พระใจงาม นางไม่เคยทำสิ่งใดโดยไร้เป้าหมาย ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเทพไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับนาง ดังนั้นยาวิเศษนี้ นางไม่ได้ให้ไปเปล่าๆ
อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าหลังจากที่นางพูดจบ แววตาเศร้าโศกของท่านเทพจะมองผ่านสายตาของซูจิ่นซีชั่วพริบตา ก่อนจะตกลงไปในสระแห่งความตายที่ไร้ซึ่งชีวิตอีกครั้ง
“เทพอย่างข้าไม่ได้ขอร้องให้เจ้าช่วยเหลือ ข้าจะเป็นอย่างไร เกี่ยวอันใดกับเจ้า? ”
ซูจิ่นซีตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ทว่าในไม่ช้า นางก็ยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา
“เจ้าจะตายหรือไม่ แน่นอนว่าไม่เกี่ยวอันใดกับข้า ทว่ามันไม่เกี่ยวอันใดกับอวิ๋นเชวี่ยเช่นนั้นหรือ? ”
ทันใดนั้น แววตาของท่านเทพก็ทอประกายเล็กน้อย และมองมาที่ซูจิ่นซี “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ”
“ความหมายตามตัวอักษร! ”
ซูจิ่นซีพูดเบาๆ และไม่ให้ความสนใจท่านเทพอีกเลย นางเดินกลับมายืนด้านข้างเยี่ยโยวเหยาและพูดว่า “เยี่ยโยวเหยา ข้าขอตรวจชีพจรอีกครั้ง! ”
เยี่ยโยวเหยาพยักหน้า ซูจิ่นซีจึงตรวจชีพจรให้เยี่ยโยวเหยาอีกครั้ง แม้จะยืนยันแล้วว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต ทว่านางยังคงถ่ายเทพลังภายในให้เยี่ยโยวเหยา
ท่านเทพขบคิดคำพูดของซูจิ่นซีอย่างละเอียด เขารู้สึกว่าต้องมีความหมายแอบแฝงเป็นแน่ จึงอดถามไม่ได้ “แม่นางน้อย ประโยคเมื่อครู่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ”
ซูจิ่นซีไม่ชายตามองท่านเทพแม้แต่น้อย “ข้าพูดไปแล้ว ความหมายตามตัวอักษร ท่านเทพไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ ก็อย่าทำให้พวกเราพลอยลำบากไปด้วย หากท่านอยากตายนักก็เชิญตามสบาย! ทว่าอย่าทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน อย่าทำให้ที่นี่ต้องสกปรก พวกเรายังต้องพักฟื้นอยู่ที่นี่! ”
ท่านเทพขมวดคิ้วแน่น ทว่าเขายังระมัดระวังตนเองมาก ซูจิ่นซีหัวเราะเยาะ เขาก็ไม่มีท่าทีโกรธเคือง ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า “เจ้าทำอันใดกับอวิ๋นเชวี่ยหรือ? ”
ซูจิ่นซียังคงมีท่าทีเฉยเมยกับเขา
สีหน้าของท่านเทพปรากฏความขุ่นเคือง ทว่าหลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาจึงกวาดสายตาไปรอบๆ ด้วยท่าทางนิ่งขรึมอีกครั้ง “เจ้าตัวแสบ เจ้าบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะพาพวกเจ้าออกไปจากที่นี่”
ภายในใจของซูจิ่นซีพลันลิงโลด สิ่งที่นางต้องการ… คือเรื่องนี้
ทว่าหลังจากทำสำเร็จ ใบหน้าของนางกลับไม่แสดงความสุขใจใดๆ
“ท่านเทพมีสายเลือดอันสูงส่ง ข้าสองสามีภรรยาคงรับความปรารถนาครั้งนี้ไม่ไหว เชิญท่านเถิด! ”
ท่านเทพมีท่าทางสงบนิ่ง เขาขมวดคิ้วเครียดพลางยกยิ้มมุมปาก “แม่นางน้อย เจ้าคิดจะเล่นแง่กับคนอย่างข้าหรือ หึ แม้ข้าจะอยู่มานับหมื่นปี ทว่าในด้านสายเลือดแล้ว เจ้าทั้งสองสูงศักดิ์กว่ามาก ข้าจะเทียบกับพวกเจ้าได้อย่างไร? อย่าถ่วงเวลาอีกเลย ดินแดนลึกลับเสวียนคงถูกทำลายไปแล้ว ที่นี่เป็นเพียงอีกโลกหนึ่งในดินแดนลึกลับเสวียนคง มันมีโอกาสพังทลายเหมือนดินแดนลึกลับเสวียนคงได้ทุกเมื่อ หากล่าช้าไปกว่านี้ เจ้าทั้งสองคนต้องถูกฝังไปพร้อมกับข้าที่นี่เป็นแน่”
ซูจิ่นซีเห็นท่าทีจริงใจของท่านเทพที่ไม่มีทางกลับคำพูดเป็นแน่ นางจึงหยิบปิ่นปักผมออกมาจากอาคมกำไลปี่อั้น
เมื่อท่านเทพเห็นปิ่นปักผมในมือของซูจิ่นซี ท่าทางของเขาพลันสดใสขึ้นมา ร่างกายเริ่มสั่นเทาทีละน้อยเพราะความตื่นเต้น
ซูจิ่นซีรีบเก็บปิ่นปักผมเข้าไปในอาคมกำไลปี่อั้น “อย่าเพิ่งตื่นเต้น สิ่งนี้เป็นของที่อวิ๋นเชวี่ยมอบให้ข้า เพื่อขอให้ท่านช่วยเหลือพวกเรา ทว่าข้าไม่คาดคิดว่ามันจะมีประโยชน์ เมื่อร่างของนางกำลังแตกสลาย ดวงวิญญาณของนางได้เข้ามาในสิ่งนี้
ทว่าท่านรู้ดี หากวิญญาณทั้งสามไม่สมบูรณ์ ทั้งยังไม่มีกายเนื้อ ย่อมไม่อาจรอดชีวิต”
ท่านเทพค่อยๆ เก็บสีหน้า แม้จะตื่นเต้นและดีใจอย่างมาก ทว่าเขาเก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ภายในใจ
“เจ้าตัวแสบ หากวิญญาณทั้งสามไม่สมบูรณ์ และไม่มีกายเนื้อ เช่นนั้นเจ้าอยู่รอดมาได้อย่างไร? ”
แม้ความหวังจะน้อยนิด ทว่าท่านเทพแสดงท่าทางราวกับมั่นใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดรู้ดีไปกว่าซูจิ่นซีแล้ว นางมีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ นางต้องลงแรงและสูญเสียไปมากเพียงใด
“ดวงวิญญาณของข้าไม่สมบูรณ์ ทว่าหากท่านต้องการให้นางมีชีวิตรอดเหมือนข้า เรื่องสำคัญประการแรกคือ พวกเราต้องออกไปจากที่นี่ก่อน”
สีหน้าของท่านเทพจริงจังอย่างมาก “แม่นางน้อย ข้าจะพาเจ้าออกไปจากที่นี่ และเจ้ามอบปิ่นปักผมนั้นให้ข้า”
แววตาของซูจิ่นซีปรากฏความเจ้าเล่ห์ “ข้าไม่เชื่อใจเจ้า ปิ่นปักผมนี้ฝากไว้กับข้าก่อน รอให้เจ้าพาพวกเราออกไปจากที่นี่ค่อยว่ากัน”
ท่านเทพแสดงสีหน้าขุ่นเคือง “เจ้ากำลังข่มขู่ข้าหรือ? ความอดทนของข้ามีจำกัด”
ทว่าคราวนี้ ซูจิ่นซียังไม่ทันเอ่ยปาก เยี่ยโยวเหยาก็ลืมตาขึ้นพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง “ความอดทนของข้าก็มีจำกัดเช่นกัน”
ท่านเทพขมวดคิ้ว เขามองเยี่ยโยวเหยาด้วยแววตาเคร่งขรึม และไม่คิดโต้เถียงอีก “ตกลง แม่นางน้อย ตกลงกันแล้ว ข้าพาเจ้าออกไปจากที่นี่ ส่วนเจ้าก็มอบปิ่นนั้นให้ข้า”
ซูจิ่นซีเก็บดวงวิญญาณของอวิ๋นเชวี่ย แท้จริงแล้ว นางทำเพื่อช่วยชีวิตอวิ๋นเชวี่ย ท่านเทพเป็นผู้ที่หวังจะให้อวิ๋นเชวี่ยมีชีวิตอยู่มากกว่านาง หลังออกไปจากที่นี่ นางก็ไม่มีเหตุผลที่จะเก็บดวงวิญญาณของอวิ๋นเชวี่ยไว้
“ท่านวางใจได้ สิ่งนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับข้า”
ไม่รู้ว่านางคิดมากเกินไปหรือเพียงเข้าใจผิด ซูจิ่นซีรู้สึกว่าท่านเทพผู้นี้ดูมีท่าทีหวาดกลัวเยี่ยโยวเหยาเล็กน้อย
ท่านเทพสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ใบหน้าที่แต่เดิมมีความมั่นใจและความหวังค่อยๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ซูจิ่นซีพูดด้วยท่าทางกังวลว่า “เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านมีวิธีหรือไม่? ท่านพาพวกเราออกไปได้หรือไม่? ”
ท่านเทพยังมีใบหน้าเคร่งขรึม “แม้สถานที่แห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนลึกลับเสวียนคง ทว่ามันถูกปิดผนึก พวกเราเข้ามาที่นี่ได้โดยบังเอิญ ยิ่งไปกว่านั้น ดินแดนลึกลับเสวียนคงถูกทำลายไปแล้ว หากคิดจะออกไปจากที่นี่คงไม่ง่ายเช่นนั้นกระมัง? ”