สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 28 ตอนที่ 837 มาเอาชีวิตเจ้า
แท้จริงแล้ว ตงหลิงหวงเองก็ไม่คาดคิดเช่นกัน ท้ายที่สุดยาวิเศษเม็ดนี้ก็ได้ช่วยชีวิตตงหลิงจวิ้นไว้
ก่อนออกจากหุบเขาหลูเหว่ย เจ้าหุบเขาฉู่ได้มอบยาวิเศษสองเม็ดนี้เพื่อขอบคุณนางกับมู่หรงฉี ในขณะเดียวกันก็เพื่อปิดปากพวกเขา ไม่ให้พวกเขาแพร่งพรายเรื่องของหุบเขาหลูเหว่ยต่อคนภายนอก
ในเวลานั้น มู่หรงฉีไม่ต้องการยาวิเศษที่เป็นส่วนของเขา ดังนั้นยาวิเศษทั้งสองเม็ดจึงอยู่ที่ตัวนาง
ทว่าเวลาผ่านมานานแล้ว อีกทั้งเมื่อครู่ยังเกิดสถานการณ์คับขัน ทำให้นางลืมไปเสียสนิท
นางไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร หากเมื่อครู่ยาคืนวิญญาณไม่ได้หล่นลงมาโดยบังเอิญ
ตอนนี้ตงหลิงจวิ้นดีขึ้นมากแล้ว “ท่านพี่ ท่านได้ยาวิเศษนี้มาจากที่ใดหรือ? ”
ในเมื่อรับปากเจ้าหุบเขาฉู่แล้ว นางไม่มีทางบอกผู้อื่นเกี่ยวกับหุบเขาหลูเหว่ยเป็นแน่ แม้จะเป็นตงหลิงจวิ้นก็ตาม
“เรื่องนี้ข้าจะอธิบายให้เจ้าภายหลัง ข้าจะพยุงเจ้าไปนอนบนเตียงก่อน” ตงหลิงหวงพูดพลางชำเลืองมองศพที่นอนอยู่บนพื้นข้างหลังนาง “คนเหล่านี้ต้องจัดการให้เรียบร้อย ในเมื่อพระสนมน่าหลานส่งคนมาทำร้ายเจ้า อีกสักครู่ต้องส่งคนมาสืบแน่นอน
เรื่องนี้ยังไม่จบ ศึกที่ยากกว่านี้ พวกเราต้องฝ่ามันไปให้ได้”
ในแคว้นตงเฉิน สกุลน่าหลานเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากเช่นกัน วรยุทธ์ของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าสกุลตงหลิงเลย
วรยุทธ์ของพระสนมน่าหลานเทียบเท่ากับตงหลิงหวง
เมื่อครู่ที่ตงหลิงหวงช่วยชีวิตตงหลิงจวิ้น ทำให้นางสูญเสียพลังภายในไปพอสมควร หากน่าหลานเยียนหลานมาจริง ๆ ตงหลิงหวงไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับมือนางได้หรือไม่
หลังจากตงหลิงหวงประคองตงหลิงจวิ้นขึ้นนอนบนเตียงแล้ว นางก็รีบจัดการศพบนพื้นด้วยน้ำยาชนิดพิเศษเพื่อไม่ให้ทิ้งร่องรอย
เป็นจริงดั่งที่คาดไว้ ไม่นานนัก เสียงของพระสนมน่าหลานกับนางกำนัลสองสามคนก็ดังมาจากข้างนอก
“เกิดอันใดขึ้น? ภายในเรือนไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เหตุใดถึงไม่มีผู้ใดสักคน? ” น้ำเสียงของพระสนมน่าหลานฟังดูขุ่นเคืองเล็กน้อย
แม่นมหลี่ นางกำนัลข้างกายพระสนมกล่าวด้วยความเคารพ “แม่นมเฝิงนี่ก็จริงๆ เลย บอกว่าเสร็จเรื่องแล้วจะกลับมารายงานให้พระสนมทราบ กลับหายเงียบไปเสีย บางทีนางอาจไปเล่นพนันอยู่ที่ใดสักแห่งเพคะ พระสนมต้องจัดการนางให้ได้นะเพคะ! ”
“พอได้แล้ว ไปดูสิว่าเด็กนั่นตายหรือไม่? ”
“เพคะ! ”
แม่นมหลี่รีบเดินไปเปิดประตูห้องของตงหลิงจวิ้น
หลังจากเหลือบมองเพียงครั้งเดียว แม่นมหลี่ก็ตกตะลึง ทว่านางกำนัลที่อยู่ในแวดวงผู้ทรงอำนาจมาค่อนชีวิตย่อมคุ้นเคยกับภาพเหตุการณ์นองเลือด ในไม่ช้านางก็ยกยิ้มมุมปากประจบประแจง และหันหลังกลับมา
“ทูลพระสนม แม้แม่นมเฝิงไม่รู้จักแยกแยะ ทว่านางสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างเรียบร้อย คนตายแล้วเพคะ”
“แน่ใจหรือ? ”
สีหน้าพระสนมน่าหลานมีความสุข ทว่านางยังคงระมัดระวัง
“แน่ใจเพคะ มองจากสถานการณ์ น่าจะตายไปพักใหญ่แล้วเพคะ”
พระสนมน่าหลานแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ บ่าวรับใช้สองคนประคองนางเดินเข้าไปในห้องอย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ
เป็นจริงดั่งคาด ทันทีที่นางเดินเข้าไปก็เห็นว่าภายในห้องเต็มไปด้วยเลือด ตงหลิงจวิ้นกำลังนอนอยู่บนเตียงตาค้าง ใบหน้าถมึงถึง เลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วร่างกาย เพียงแรกเห็นก็รู้ว่าเป็นการตายที่ไม่เต็มใจและทรมานอย่างมาก
ใบหน้าของพระสนมน่าหลานซีดขาวเล็กน้อย ทว่าไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอย่างรวดเร็ว นางเดินเข้าไปหาตงหลิงจวิ้นทีละก้าว
ก่อนจะใช้ปลอกใส่เล็บที่นิ้วมือเรียวยาวค่อยๆ เกี่ยวใบหน้าที่ ‘ตายตาไม่หลับ’ ของตงหลิงจวิ้น และมองอย่างระมัดระวัง ราวกับกำลังดูสิ่งของอย่างละเอียด
“เหอะ เหอะ… หน้าตาก็ดูไม่เลว ทว่า… ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว เหตุใดเจ้าถึงดึงดันยอมตายดีกว่ายอมจำนน?
หากเจ้าเชื่อฟังข้าตั้งแต่แรก คงไม่ต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้?
ตงหลิงจวิ้น!
เจ้า! ก็เป็นเช่นเดียวกับมารดาผู้ต่ำต้อยของเจ้า ไม่รู้จักคิดให้ฉลาดกว่านี้ ช่างโง่ไปถึงแก่นกระดูกจริงๆ !
เดิมที ข้าเองไม่อยากทำอันใดเจ้า แม้เจ้าจะไม่เต็มใจเชื่อฟังข้า ทว่าข้ายังสงสารเจ้า
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ต่างออกไป ท่านอ๋องกำลังจะขึ้นครองบัลลังก์! หากเจ้าไม่ตาย เมื่อท่านอ๋องเป็นฮ่องเต้แล้ว เจ้าจะต้องแย่งตำแหน่งรัชทายาทกับทารกในครรภ์ของข้า
เจ้าคิดดูสิว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร”
พระสนมน่าหลานพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย ภายในแววตาที่ทอประกายนั้น นางกอดศีรษะของตงหลิงจวิ้นอย่างแผ่วเบาและวางไว้ในอ้อมแขนของนาง
แม่นมหลี่อดกล่าวเตือนไม่ได้ “พระสนมทรงระวัง จะทำร้ายทารกในครรภ์เพคะ! ”
พระสนมน่าหลานรีบปล่อยตงหลิงจวิ้น นางสูดลมหายใจเข้าและลุกขึ้นยืนอย่างไร้ความรู้สึก
“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป มีนักฆ่าบุกเข้ามาในจวนอ๋อง ซื่อจื่อถูกลอบสังหาร”
“เพคะ! ”
“จัดงานศพให้เร็วที่สุด! ”
“เพคะ! ”
ตอนนี้หลู่หยางอ๋องทรงยุ่งอยู่กับเรื่องในราชสำนัก เขาจึงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องภายในจวนอ๋อง แม้ตงหลิงจวิ้นจะตายไปแล้ว หลู่หยางอ๋องคงเสียใจเพียงไม่กี่วัน
นอกจากนั้น พระสนมน่าหลานสั่งให้จัดงานศพอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนั้นหลู่หยางอ๋องจะต้องซาบซึ้ง พระสนมน่าหลานกำลังตั้งครรภ์ ทว่านางกลับดูแลจัดการเรื่องราวภายในจวนอ๋องได้อย่างเหมาะสม ท่านอ๋องจะต้องทรงรักและทะนุถนอมนางมากขึ้นแน่นอน
คาดว่าแม้แต่พระศพของตงหลิงจวิ้น ท่านอ๋องก็คงไม่เหลียวมองแม้แต่น้อย
หลังจากพระสนมน่าหลานออกคำสั่ง นางก็หันกลับไปด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่อาลัยอาวรณ์สักนิด
ทว่าทันทีที่นางหันหลังกลับ นางยังไม่ทันได้ก้าวไปข้างหน้า กระบี่คมกริบก็โจมตีไปที่นาง
ผู้ที่โจมตีสวมเสื้อคลุมสีดำและหมวกสีดำปกปิดใบหน้า ทำให้มองไม่เห็นใบหน้า
พระสนมน่าหลานถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ทว่าเมื่อนางถอยกลับไปถึงขอบเตียง ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง ‘ฉึก’ มีดพกส่องแสงวับวาวปักเข้าที่กลางแผ่นหลังของนาง
เมื่อมีการลอบโจมตีจากทางด้านหลัง นางจึงไม่สามารถหลบหนีกระบี่ของคนชุดดำข้างหน้า ทว่าไม่มีผู้ใดคาดคิด ขณะที่กระบี่ของคนชุดดำกำลังจะแทงหน้าอกของพระสนมน่าหลาน พระสนมน่าหลานกลับกระโดดขึ้นพลิกตัวกลางอากาศ พร้อมกับเสียงมีดพกที่ฉีกเนื้อแผ่นหลังของนาง นางจึงสามารถหลบกระบี่ของคนชุดดำได้
กระบี่ยาวของคนชุดดำพุ่งไปข้างหน้าและกำลังจะแทงตงหลิงจวิ้น แต่กลับเปลี่ยนทิศทางได้ทันเวลา
“อ้าก… คนร้า… ”
แม่นมหลี่กับนางกำนัลสองคนที่อยู่ด้านข้างกำลังจะตะโกนด้วยความตกใจ แต่ก่อนที่พวกนางจะตะโกนเรียกคนในจวน พวกนางก็ถูกคนชุดดำจัดการอย่างรวดเร็ว และถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุ
พระสนมน่าหลานเหาะลงบนพื้นอย่างมั่นคง ใบหน้าของนางซีดเผือดด้วยความตกใจ พลางมองตงหลิงจวิ้นที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
“เจ้า… เจ้ายังไม่ตายหรือ! ”
“สนมชั่ว เจ้าทำร้ายมารดาของข้า ทั้งยังต้องการสังหารข้าอีก! เจ้ายังไม่ตาย ข้าจะตายก่อนได้อย่างไร! ”
พระสนมน่าหลานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นางหัวเราะเสียงดัง และยกฝ่ามือปิดริมฝีปาก ท่วงท่าดูงดงามไม่น้อย
“เหอะ เหอะ เหอะ ดูเหมือนจวิ้นเอ๋อร์ไม่ต้องการทิ้งข้าไว้ตามลำพังบนโลกนี้กระมัง? เจ้าคงเสียใจจนอยากตายไปพร้อมกับข้าใช่หรือไม่?”
สีหน้าของตงหลิงจวิ้นเปลี่ยนเป็นถมึงทึงในทันที “สนมชั่ว เลิกพูดจาสามหาวได้แล้ว! ”
พระสนมน่าหลานไม่สนใจท่าทีโกรธเคืองของตงหลิงจวิ้น นางหันไปมองคนชุดดำที่ถือกระบี่พลางยกยิ้มมุมปาก จากนั้นจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เจ้าเป็นใคร จวนอ๋องมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เจ้าเข้ามาได้อย่างไร? ”
คนชุดดำค่อยๆ ยกกระบี่ยาวในมือชี้ไปที่พระสนมน่าหลาน “ข้ามาเพื่อเอาชีวิตเจ้า! ”