สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 29 ตอนที่ 866 ความผิดที่ยกโทษให้ไม่ได้ ตายสถานเดียว
ตงหลิงหวงโน้มตัวลงตรวจชีพจรของสตรีนางนั้น ทันทีที่มือของนางสัมผัสชีพจรที่ข้อมือ นางก็รู้สถานการณ์ในทันที
ตงหลิงหวงนิ่งเงียบ ทว่าสีหน้าของนางได้อธิบายทุกอย่างแล้ว
ตงหลิงจวิ้นกอดสตรีนางนั้น พยายามอย่างมากที่จะโอบกอดนางไว้
“เสด็จแม่ วางใจได้ ท่านจะไม่เป็นอันใด ไม่เป็นอันใดอย่างแน่นอน จวิ้นเอ๋อร์จะพาท่านแม่ไปสำนักแพทย์เทียนอี พวกเราไปตามหาคุณชายจิ่ว พูดกันว่าคุณชายจิ่วมีวิชาหวนคืนฟ้าดิน สามารถชุบชีวิตคนได้ พวกเราไปหาคุณชายจิ่ว คุณชายจิ่วจะต้องมีวิธีช่วยเสด็จแม่แน่นอน”
ทว่าอาการบาดเจ็บของสตรีนางนั้นสาหัสเกินไป ตอนที่พวกเขาอยู่ในเส้นทางลับก่อนหน้านี้ เขาเคยอุ้มสตรีนางนี้บนหลัง เขาไม่รู้สึกว่าตัวนางหนักแต่อย่างใด ทว่าครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ร่างกายของนางถึงหนักอึ้งดั่งก้อนหิน ทั้งตัวยังเย็นเฉียบอีกด้วย เขาพยายามอุ้มสตรีนางนั้นหลายครั้งทว่าไม่สามารถอุ้มขึ้นได้เลย
ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไร ยิ่งทำให้เลือดไหลออกจากปากของสตรีนางนั้นมากขึ้น
ตงหลิงจวิ้นรู้สึกร้อนใจอย่างมาก เขารีบใช้มือเช็ดเลือดบนใบหน้าของสตรีนางนั้น แม้แต่ผ้าคลุมใบหน้าของสตรีก็ถูกดึงออก
เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ความเศร้าโศกภายในใจของตงหลิงจวิ้นพลันระเบิดออกมา เขาร้องไห้เสียงดังด้วยความโศกเศร้าอย่างมาก
“เสด็จแม่… เสด็จแม่ จวิ้นเอ๋อร์ไม่ให้เสด็จแม่ไปที่ใด อย่าปล่อยจวิ้นเอ๋อร์อยู่คนเดียว เสด็จแม่… ”
เสียงแห่งความเศร้าโศกดังก้องไปทั่วสวนดอกไม้ในวังหลวง กอปรกับเสียงตะโกนเข่นฆ่าที่โหดร้าย ส่งผลให้เสียงนั้นทุกข์ระทมเกินคำบรรยาย
เมื่อฮ่องเต้หลู่เห็นใบหน้าของสตรีนางนั้นอย่างชัดเจน ใบหน้าที่มั่นคงของเขาก็ไม่สามารถควบคุมไว้ได้อีก และถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ทันที
ทว่าเขายังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ร่างกายของเขาโซเซเล็กน้อยและไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า
ซินหรูพยายามยืดลำคอของนางขึ้น พลางมองไปที่ฮ่องเต้หลู่ ก่อนจะยื่นมือที่เปื้อนเลือดไปทางฮ่องเต้หลู่
ในที่สุด ฮ่องเต้หลู่ก็ตัดสินใจเดินไปหาซินหรูด้วยท่าทางแข็งทื่อ และยื่นมือไปหาซินหรู
น้ำตาของซินหรูไหลอาบสองแก้มดั่งน้ำพุ
“ตง… ตงหลิงชาง ในชีวิตนี้ ซินหรูไม่เคยขออะไรจากท่านเลย ใช่หรือไม่? ”
ใบหน้าของฮ่องเต้หลู่ยังคงแข็งทื่อ ดวงตาของเขาปรากฏความสิ้นหวัง ทว่าเขายังคงนิ่งเงียบและไม่พูดอันใด
ซินหรูเปล่งเสียงพูดออกมาอย่างยากลำบากอีกครั้ง “ใช่หรือไม่? ”
ฮ่องเต้หลู่พยักหน้า
ซินหรูพยายามสูดลมหายใจ ก่อนจะวางมือของฮ่องเต้หลู่ลงบนมือของตงหลิงจวิ้น
“หม่อมฉันไม่เคยขออะไรพระองค์เลยสักครั้ง วันนี้… วันนี้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่หม่อมฉันจะขอร้อง พระองค์ต้องสัญญากับหม่อมฉัน อย่างไรเสีย… จวิ้นเอ๋อร์ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์กับหม่อมฉัน ไม่ว่าเขาจะกระทำผิดมากเพียงใด เขาก็คือบุตรของหม่อมฉัน สายเลือดของพระองค์ หม่อมฉันขอร้องให้พระองค์โปรดอภัยให้เขา เพื่อเห็นแก่หม่อมฉันและพระองค์ที่ครองคู่กันมานานหลายปี ได้โปรดไว้ชีวิตเขา…ได้หรือไม่เพคะ? ”
ดวงตาของฮ่องเต้หลู่เผยให้เห็นความเจ็บปวดบาดลึกในใจ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านจนแทบมองไม่เห็น ทั้งยังนิ่งเงียบและไม่พูดสิ่งใด
ซินหรูคิดว่าฮ่องเต้หลู่ไม่เต็มใจตอบตกลง จึงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
“พระองค์ทรงรับปากหม่อมฉัน ได้หรือไม่เพคะ? ”
ดวงตาของฮ่องเต้หลู่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็กัดฟันพูดว่า “ซินหรู… ที่เจ้าพูดมาเมื่อครู่ เจ้ากับข้าอยู่กินกันมานานหลายปีแล้ว หรือว่าในใจของเจ้า คิดว่าเรา ตงหลิงชางผู้นี้เป็นคนใจจืดใจดำนัก? ”
ซินหรูหลับตาลง ดูเหมือนว่าสติของนางเริ่มเลือนรางเล็กน้อย ทันทีที่นางหลับตา น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ชาติภพหน้า… ตงหลิงชาง หากชาติภพหน้ามีจริง หม่อมฉันยังต้องการพบพระองค์อีกครั้ง… ไม่ว่าพระองค์จะถูกหรือผิด หม่อมฉันก็ยังอยากพบพระองค์ มีบุตรธิดากับพระองค์ ทว่าชาติภพหน้า พระองค์อย่าได้ถือกำเนิดในตระกูลแห่งเชื้อพระวงศ์ได้หรือไม่เพคะ?
ชาติภพหน้า หม่อมฉันต้องการอยู่กับพระองค์… อยู่อาศัยด้วยกันดั่งปุถุชนคนธรรมดา ท่ามกลางภูเขาและสายน้ำ เป็นครอบครัวธรรมดา เป็นคู่รักธรรมดา ได้หรือไม่เพคะ?
หม่อมฉันไม่ต้องการแบ่งปันพระองค์กับสตรีอื่น หม่อมฉันไม่ต้องการจริงๆ… เพคะ ”
ดวงตาของซินหรูปิดสนิทตลอดเวลา น้ำตายังคงไหลริน
นอกจากความโศกเศร้าในดวงตาของฮ่องเต้หลู่แล้ว แววตาของเขายังปรากฏความตกตะลึง
เขาไม่คิดว่าซินหรูจะเอ่ยคำพูดเหล่านี้ก่อนที่นางจะเสียชีวิต
หลายครั้ง เขามักครุ่นคิดอยู่เสมอว่าสิ่งที่ซินหรูเก็บซ่อนไว้ในหัวใจของนางคือตงหลิงไท่ คนที่นางชอบคือตงหลิงไท่ อย่างไรก็ตาม เขาไม่คาดคิดว่าภายในใจของนางมีเพียงเขาผู้เดียว
ทันใดนั้น ภายในหัวของเขาก็ปรากฏภาพในอดีตที่เต็มไปด้วยความหมกมุ่น อิจฉาริษยา เกลียดชัง โกรธเคือง และทอดทิ้งนาง รวมทั้งการแต่งตั้งพระสนมน่าหลาน ปล่อยให้พระสนมน่าหลานทำร้ายนางตามอำเภอใจโดยไม่แยแสแม้แต่น้อย เขาอยากตบหน้าตนเองแรงๆ
ในที่สุด น้ำตาก็ไหลรินลงมาตามใบหน้าชราภาพของฮ่องเต้หลู่ ทันใดนั้น เขาก็ผลักตงหลิงจวิ้นออกไปและเข้าไปโอบนางไว้ในอ้อมกอด
“ไม่ต้องการชาติภพหน้า ไม่อนุญาตให้มีชาติภพหน้า ข้าอยากอยู่กับเจ้าในชาตินี้ พระราชอำนาจ แคว้น กำลังทหาร ตำแหน่งสูงศักดิ์ต่างๆ ไม่สำคัญสำหรับข้าอีกแล้ว ในใจของข้า มีเจ้าเพียงผู้เดียว
มีเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น! ”
มือที่เปื้อนเลือดของซินหรูคว้าเสื้อของฮ่องเต้หลู่ไว้แน่น
“หม่อมฉันไม่ทราบ ตงหลิงชาง หม่อมฉันไม่เคยทราบเลย พระองค์ไม่เคยบอกหม่อมฉันเรื่องนี้ พระองค์ช่างใจร้าย… ใจร้ายมากจริงๆ ทว่าหม่อมฉันเกลียดพระองค์ไม่ลงเลยสักครั้ง… อึก… ”
นางพูดพลางกระอักเลือดออกมาคำโต ทำให้ชุดมังกรของฮ่องเต้หลู่เต็มไปด้วยเลือดของนาง
ทว่าฮ่องเต้หลู่กลับโอบกอดซินหรูไว้แน่น
เมื่อเห็นเลือดสีแดงสด หัวใจของตงหลิงหวงและตงหลิงจวิ้นก็บีบรัด
“เสด็จแม่! ” ตงหลิงจวิ้นตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
ดวงตาของซินหรูค่อยๆ เลื่อนผ่านไปมองตงหลิงจวิ้น นางพยายามเอื้อมมือไปหาตงหลิงจวิ้นอีกครั้ง
ตงหลิงจวิ้นจับมือซินหรู เสด็จแม่ของเขา
ทว่าพระชายาหลู่หยางอ๋องไม่ได้ยกมือของตงหลิงจวิ้นให้กับฮ่องเต้หลู่ แต่ยื่นมืออีกข้างของนางไปที่ตงหลิงหวง
ตงหลิงหวงโน้มตัวลงมาและยื่นมือเข้าไปหาซินหรู พระชายาหลู่หยางอ๋อง
“พระชายา พระองค์มีอันใดจะพูดก็พูดออกมาได้ ไม่ว่าขึ้นเขาลงห้วย บุกป่าฝ่าดง ตงหลิงหวงจะทำเพื่อพระองค์ทุกอย่าง”
ซินหรูลืมตาขึ้นเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้า
“หวงเอ๋อร์… เสด็จป้า… เสด็จป้าไม่ต้องการให้เจ้าขึ้นเขาลงห้วย บุกป่าฝ่าดงอันใด… ต่อไปภายภาคหน้า… ขอให้จวิ้นเอ๋อร์เป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้า… ได้หรือไม่? ”
“เพคะ! ”
“เจ้า… เจ้ารับปากเสด็จป้าได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น เจ้าจะปกป้องจวิ้นเอ๋อร์ เจ้า… ต้องปกป้องเขาให้ดีที่สุด เจ้า… เจ้าเคยรับปากเสด็จป้าแล้ว”
“หม่อมฉันรับปาก! ”
เมื่อรับปากออกไป ตงหลิงหวงผู้ซึ่งหลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตาพลันรู้สึกเจ็บปวดใจ น้ำตาที่คลอเบ้าไหลรินออกมาอย่างอดกลั้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
“เช่นนั้น… เสด็จป้าจะได้วางใจ แม้จะไปถึงที่นั่นก็ไม่มีอันใดต้องกังวลอีกแล้ว”
ขณะที่พูด เปลือกตาของนางสั่นไหวสองครั้งและหลับตาลงอีกครั้ง
ตงหลิงจวิ้นร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“เสด็จแม่… เสด็จแม่… ลืมตา ลืมตาขึ้นมา เสด็จแม่ไม่รักจวิ้นเอ๋อร์แล้วหรือ? ไม่รักจวิ้นเอ๋อร์แล้วหรือ? ”
ทว่าซินหรูกลับนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถามของตงหลิงจวิ้นแม้แต่คำเดียว หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ตงหลิงหวงก็เข้าไปตรวจลมหายใจของซินหรู ร่างของนางเย็นยะเยือกและไร้ซึ่งลมหายใจแล้ว
ฮ่องเต้หลู่กอดซินหรูแน่นอย่างเศร้าโศกเสียใจสุดซึ้ง แม้จะร้องไห้เสียใจไม่เท่าตงหลิงจวิ้น ทว่าน้ำตากลับไหลรินออกมาดั่งสายน้ำ
อีกด้านหนึ่ง ฮั่วจีรีบพากำลังทหารไปที่ประตูตะวันตกอย่างรวดเร็ว ส่วนฮั่วซืออวี่รวมกำลังพลเพื่อรอฟังคำสั่งของตงหลิงหวง
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ฮ่องเต้หลู่ก็หลับตาและเงยหน้าขึ้น เขาตั้งสติ ฝืนน้ำตาที่กำลังคลอเบ้าให้คืนสภาพเดิม ก่อนจะวางร่างที่ไร้ซึ่งลมหายใจของซินหรูลงกับพื้นและค่อยๆ ยืนขึ้น
แววตาของฮ่องเต้หลู่ดั่งใบมีดเชือดเฉือน เขาจ้องตงหลิงหวงโดยไม่ละสายตา รวมถึงนักฆ่าชุดดำที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนจะกระชากเสียงสูง “กบฏตงหลิงหวง ลักพาตัวองค์รัชทายาทและสังหารพระชายา ความผิดที่มิอาจให้อภัยได้ สังหารไม่ละเว้น!”