สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 30 ตอนที่ 893 ซูจิ่นซี พวกเรากลับมาแล้ว
ซูจิ่นซีกลับไปถึงตำหนักฟางเฟย เยี่ยโยวเหยาได้จัดการเอกสารที่องครักษ์ส่งมาให้เรียบร้อยแล้ว และกำลังนั่งอ่านตำรา
ซูจิ่นซีไม่สนใจเยี่ยโยวเหยา นางเดินอ้อมไปที่ห้องด้านใน
เดิมทีนางคิดว่าคงเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ ระหว่างนางกับเยี่ยโยวเหยาไม่มีใครคิดจะเริ่มพูดก่อน แต่นางไม่คิดว่าเยี่ยโยวเหยาจะเดินเข้ามา ทั้งยังนั่งลงข้างกายนาง และแสดงท่าทีราวกับไม่มีอันใดเกิดขึ้น
“พระอาการประชวรของฮ่องเต้แคว้นตงเฉินเป็นอย่างไรบ้าง? ”
ซูจิ่นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ไม่เป็นอย่างไร! ”
แท้จริงแล้ว เยี่ยโยวเหยาไม่ได้ต้องการถามถึงอาการเจ็บป่วยของฮ่องเต้แคว้นตงเฉินอย่างจริงใจ เพียงแค่หาหัวข้อสนทนาเท่านั้น
จากนั้น เขาก็จับมือของซูจิ่นซี พาเดินออกไปข้างนอก “มานี่ ข้ามีของบางสิ่งจะมอบให้เจ้า! ”
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วมุ่น นางยืนนิ่งและยืนกรานไม่ยอมออกไป
“สิ่งของอันใด? ข้าไม่ต้องการ! ”
“ของขวัญจากข้า! ”
เยี่ยโยวเหยามอบของขวัญให้ซูจิ่นซีมากมาย และทุกครั้ง สิ่งของนั้นล้วนมีค่ามาก ไม่รู้ว่าคราวนี้คือสิ่งใด
ขณะที่ซูจิ่นซีกำลังลังเล เยี่ยโยวเหยาก็ลากนางไปด้านนอกแล้ว
เขาปรบมือ องครักษ์หลายสิบคนจึงเดินเข้ามาพร้อมกล่องราวๆ หกเจ็ดกล่อง
คิ้วของซูจิ่นซีที่ขมวดอยู่แล้วยิ่งขมวดแน่นเข้าไปอีก สิ่งของอันใดต้องบรรจุในกล่องจำนวนมากเช่นนี้?
องครักษ์ยกกล่องเข้ามาวางลงบนพื้น จากนั้นจึงเปิดฝากล่องตามคำสั่งของเยี่ยโยวเหยา
ทันทีที่ฝากล่องถูกเปิดออก ซูจิ่นซีก็ขมวดคิ้วและแสดงสีหน้าตกตะลึง
ภายในกล่องเต็มไปด้วยเงินทองมากมาย เครื่องประดับ เสื้อผ้าอาภรณ์ รองเท้า รวมถึงของเก่าและของแปลกๆ หลากหลายชนิด
แม้ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งของที่สตรีใช้กันทั่วไป ทว่าซูจิ่นซีเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งของเหล่านั้นไม่เพียงล้ำค่า ทว่าแต่ละรายการยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย
หากนางเดาไม่ผิด สิ่งของหลายชิ้นคงทำขึ้นมาเพียงชิ้นเดียว หรือทำขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องจากหาไม่ได้ตามท้องตลาด
ขณะที่ซูจิ่นซีกำลังตกตะลึง เยี่ยโยวเหยาก็ก้าวมาด้านข้างซูจิ่นซีสองก้าว และจับมือของซูจิ่นซีด้วยท่าทางจริงจังอย่างมาก
“ซีซี สิ่งของเหล่านี้มีหลายชิ้นที่ข้าเลือกเองกับมือ มีบางชิ้นที่ข้าสั่งให้คนทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ส่วนมากเป็นแบบฉบับเฉพาะในแคว้นตงเฉิน ไม่พบเห็นตามท้องตลาด
สิ่งของเหล่านี้ ข้ามอบให้เจ้า”
เขาพูดพลางโน้มตัวลงมาเล็กน้อย และเอ่ยข้างใบหูของซูจิ่นซีว่า “ข้าคิดอย่างไรกับซีซี ซีซียังไม่เข้าใจอีกหรือ? เจ้า… ก็อย่าโกรธข้าอีกเลย ตกลงหรือไม่? ”
หัวใจของซูจิ่นซีเจ็บแปลบ
นางจำได้ว่าตอนที่อยู่ในจวนโยวอ๋องแคว้นจงหนิง เยี่ยโยวเหยาให้สิ่งของเช่นนี้กับนาง สิ่งของที่ให้เป็นเครื่องประดับ เงินทอง เสื้อผ้า และรองเท้าของสตรี
ทว่าเยี่ยโยวเหยาในตอนนั้นไม่รู้วิธีมอบสิ่งของให้สตรีแม้แต่น้อย เขาไม่รู้ว่าซูจิ่นซีชอบสิ่งใด ชอบรูปแบบใด จึงฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองอย่างมาก
แม้สิ่งของที่มอบให้ในครั้งนี้ไม่ได้น้อยไปกว่าครั้งที่แล้ว ปริมาณอาจจะมากกว่าเท่าตัว ทว่าของหลายชิ้นนั้น เยี่ยโยวเหยาเป็นคนเลือกเองกับมือ และเป็นรูปแบบที่ซูจิ่นซีชื่นชอบ แม้จะมีหลากหลาย ทว่าทุกชิ้นล้วนประณีตงดงาม
ต้องบอกว่า ในด้านความรัก เยี่ยโยวเหยาเปลี่ยนแปลงตนเองไปจากเมื่อก่อนมาก และการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นล้วนทำเพื่อซูจิ่นซีผู้เดียว
ซูจิ่นซีจะไม่ประทับใจได้อย่างไร?
เยี่ยโยวเหยาไม่ได้ยินคำตอบจากซูจิ่นซีเป็นเวลานาน ทว่าเขาไม่ได้เร่งรัด ทำเพียงส่งสายตาไปทางซูจิ่นซี
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาของซูจิ่นซีก็ทอประกายราวกับดวงดาว นางถามเยี่ยโยวเหยาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เยี่ยโยวเหยา ข้าไม่ได้โกรธท่าน ข้าไม่ได้ใช้อารมณ์เหมือนเด็ก และไม่ได้สร้างปัญหาให้กับท่าน ข้าเพียงต้องการทราบว่า… ต้องการทราบว่าท่านอ๋องกำลังคิดอันใดอยู่? ”
เมื่อเผชิญกับคำถามของซูจิ่นซี ดวงตาของเยี่ยโยวเหยาก็สั่นไหวเล็กน้อย ทว่าเขาไม่ได้พูดตอบอันใด
ซูจิ่นซีเข้าใจอุปนิสัยของเยี่ยโยวเหยาเป็นอย่างดี หากเขาเป็นเช่นนี้ นางไม่มีวิธีจัดการได้เลย นางกัดริมฝีปากและจ้องมองใบหน้าของเยี่ยโยวเหยาอย่างเนิ่นนาน ในที่สุดก็ต้องจำยอมอย่างช่วยไม่ได้
เพราะนางรู้ว่า ไม่ว่าเยี่ยโยวเหยาจะซ่อนสิ่งใดไว้ หัวใจของเขาที่มีต่อนางก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
นางจึงพูดว่า “เยี่ยโยวเหยา ในเมื่อท่านไม่พูด ข้าก็ไม่ถาม ยังเป็นเช่นที่ข้าเคยพูด เยี่ยโยวเหยา ท่านสามารถเก็บซ่อนบางเรื่องจากข้าได้ ทว่าท่านหลอกข้าไม่ได้ ข้าสามารถให้อภัยท่านได้หนึ่งครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าสามารถให้อภัยได้เป็นครั้งที่สอง”
เยี่ยโยวเหยารู้ดีว่าครั้งแรกที่ซูจิ่นซีเอ่ยถึงคือเรื่องอันใด เรื่องที่ช่วยไม่ได้ คิดไม่ตก ความรักใคร่ลึกซึ้ง ความปวดร้าว ยากจะลืมเลือน… อารมณ์ต่างๆ นานา เกี่ยวพันถึงเรื่องในอดีต เกี่ยวพันกับหัวใจของซูจิ่นซีและหัวใจของเยี่ยโยวเหยา
ครั้งนั้นเขาโกหกนางจริงๆ… แต่เป็นสิ่งที่เขาอับจนหนทาง
ทว่าเรื่องมันนานมากแล้ว พอหวนนึกถึงขึ้นมาก็ยังคงเจ็บปวดรวดร้าวเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน มันทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ดวงตาของเยี่ยโยวเหยาปรากฏความรู้สึกลึกซึ้ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และโอบกอดซูจิ่นซีไว้ในอ้อมแขนแน่น
เขาต้องการพูดอันใดบางอย่าง ทว่าริมฝีปากกลับขยับเพียงเล็กน้อย สุดท้ายก็ยังไม่พูดสิ่งใดออกมา
เหตุการณ์เล็กๆ นี้จึงผ่านไปเช่นนี้ ใช่ว่าซูจิ่นซีไม่เด็ดขาด หรือหลงระเริงไปกับสิ่งของ เสื้อผ้า และเครื่องประดับไม่กี่กล่องของเยี่ยโยวเหยา ทว่าเป็นอย่างที่เยี่ยโยวเหยาเคยพูดไว้ นางเข้าใจหัวใจของเยี่ยโยวเหยาดีที่สุด
ความรักระหว่างคนสองคน ใช่ว่าต้องไม่มีความลับต่อกัน นางคิดว่าบางครั้ง นางควรให้เยี่ยโยวเหยามีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องถามให้เข้าใจเสียทุกเรื่อง
บางทีหลายวันมานี้ เยี่ยโยวเหยาอาจมีบางเรื่องที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
สิ่งที่นางกระทำได้ก็คือ อยู่เคียงเขาเงียบๆ ไม่หนีหน้าไปที่ใด
นางจึง ‘ให้อภัย’ เยี่ยโยวเหยา
หลังจากนั้น เหตุการณ์ก็เป็นปกติ ไม่มีอันใดเกิดขึ้น สามวันต่อมา ในตอนบ่าย ดวงอาทิตย์อบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิ ซูจิ่นซีกำลังนั่งดื่มชาอยู่บนเก้าอี้โยกนอกจวน เมื่อองครักษ์รายงานว่าอู๋จุนและถังเสวี่ยมาถึงแคว้นตงเฉินแล้ว พวกเขากำลังเข้าวังและมุ่งหน้ามาที่ตำหนักฟางเฟย
เดิมที การเดินทางจากแคว้นไหวเจียงมายังแคว้นตงเฉินใช้เวลาสี่ถึงห้าวัน ทว่าอู๋จุนและถังเสวี่ยกลับมาถึงภายในเวลาสามวัน ซูจิ่นซียังไม่ทันได้สติจากความประหลาดใจ เสียงของอู๋จุนก็ดังมาจากด้านบน
“แม่นางพิษน้อย จุ๊บจุ๊บ พี่จุนกลับมาแล้ว! ”
ซูจิ่นซีเงยหน้ามองไปยังทิศทางของเสียง นางเห็นอู๋จุนในชุดสีแดงเพลิง ท่วงท่าพราวเสน่ห์และน่าเกรงขาม เขาเหาะลงมาจากท้องฟ้าราวกับเมฆสีแดง
ด้านหลังของเขาคือถังเสวี่ย ผู้บริสุทธิ์และอ่อนหวานในชุดสีเหลืองอ่อน
“ซูจิ่นซี พวกเรากลับมาแล้ว!”
ทันทีที่อู๋จุนเหาะลงสู่พื้น เขาก็เดินวนรอบซูจิ่นซีสองครั้งและขมวดคิ้วแน่น
“แม่นางพิษน้อย จุ๊จุ๊ เจ้าผอมไปหรือไม่? เยี่ยโยวเหยารังแกเจ้าหรือ? ”
จากนั้น เสียงของถังเสวี่ยก็ดังตามมา
“พี่เป่าอวี้อย่าพูดจาไร้สาระ โยวอ๋องรักใคร่เอ็นดูซูจิ่นซีอย่างมาก เขาจะรังแกซูจิ่นซีได้อย่างไร? ”
ทันทีที่อู๋จุนพูดจบ บรรยากาศรอบตัวเขาก็เย็นยะเยือกลงอย่างมาก รัศมีแข็งแกร่งพลันแผ่ซ่านกดดัน
จากนั้น เยี่ยโยวเหยาในชุดสีดำก็ค่อยๆ เดินออกมาจากห้องโถงด้านใน