สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 32 ตอนที่ 946 ถูกคนหัวเราะเยาะได้
“ตกลง! ”
“คิก คิก คิก” เป่ยถังหลีหัวเราะเสียงใสแล้วเข้าไปในเรือน
เมื่อเดินเข้าไป นางก็หันหลังกลับมาเอ่ยว่า “เจ้าทึ่ม ตกลงกันแล้ว พรุ่งนี้เจ้าต้องไปซื้อถังหูลู่มาให้ข้าทาน ข้าจะรอ เจ้าต้องมานะ! ”
……
เดิมที ซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ต้องการชิงเพลิงอัคคีจิ่วโยว กลับไม่คิดว่าเมื่อมาถึงเรือนอี๋หง เรื่องของเป่ยถังหลีจะทำให้องครักษ์เรือนอี๋หงตื่นตัว พวกเขาจึงถูกล้อมจนไม่สามารถปลีกตัวไปได้
หลังจากมีคนมาช่วยเป่ยถังหลีหนีออกไปแล้ว เป่ยถังเฮ่อก็ไล่ตามไป ขณะที่เห็นทุกคนต่อสู้กับองครักษ์ในจวน นัยน์ตาของเขาพลันปรากฏแสงเย็นยะเยือก
“พวกโจร กล้าบุกรุกเรือนอี๋หงของข้า องครักษ์จับตัวให้ข้า จับพวกมันทั้งหมด! ”
ด้วยคำสั่งของเป่ยถังเฮ่อ องครักษ์จึงไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป พวกเขาต่อสู้กับซูจิ่นซีและคนอื่นๆ อย่างสุดความสามารถ
องครักษ์เข้ามาล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางหลบหนีของซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนาจนน้ำหยดเดียวก็ผ่านไม่ได้
“ท่านอ๋อง สู้ต่อไปเช่นนี้ไม่ดีแน่! ” อวิ๋นจิ่นตะโกนบอกเยี่ยโยวเหยา
เยี่ยโยวเหยาเข้าใจที่อวิ๋นจิ่นสื่อได้ในทันที หลังจัดการองครักษ์ไปหลายคนก็มาอยู่ข้างกายซูจิ่นซีแล้วเอ่ยว่า “ดูแลตนเองให้ดี อย่าให้ข้าเป็นกังวล ประเดี๋ยวข้ามา! ”
ซูจิ่นซีแสดงสีหน้าจำใจ ตั้งแต่นางตั้งครรภ์ คนเหล่านี้ปฏิบัติต่อนางเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ โดยเฉพาะเยี่ยโยวเหยาที่กลัวว่านางจะชนหรือกระแทกจนแตกร้าว ทว่านางอ่อนแอเพียงนั้นเชียวหรือ?
อย่างไรก็ตาม แม้จะคิดเช่นนี้ ซูจิ่นซีก็ยังพยักหน้าตอบรับ “ท่านอ๋องวางใจ จิ่นซีดูแลตนเองได้”
จากนั้น อู๋จุนก็กระโดดมาอยู่ข้างกายซูจิ่นซีแล้วเอ่ยกับเยี่ยโยวเหยา “เยี่ยโยวเหยา เจ้าวางใจได้! ฝากแม่นางพิษน้อยไว้กับข้า ข้ารับรองว่านางจะไร้ซึ่งรอยขีดข่วน”
ใบหน้าเยี่ยโยวเหยาถมึงทึงอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเขาไม่ได้พูดอันใด ก่อนจะหันหลังไปต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอวิ๋นจิ่น สังหารองครักษ์จนล้มตายราวกับสายน้ำไหล ถนนกลายเป็นเลือด และพุ่งไปหาเป่ยถังเฮ่อ
เมื่อเป่ยถังเฮ่อเห็นเยี่ยโยวเหยาและอวิ๋นจิ่นพุ่งเข้ามาหาตนเองราวกับพายุ ดวงตาเสมือนนกอินทรีพลันหรี่ลง แสงเยือกเย็นแวบผ่านดวงตา เขารีบหมุนกายหนีไปยังด้านหลังเรือนอี๋หง
เยี่ยโยวเหยาและอวิ๋นจิ่นหยุดอยู่ด้านหน้าประตูเรือนอี๋หง ทั้งสองสบตาและเข้าใจกันโดยไม่ต้องเอ่ย เยี่ยโยวเหยาไล่ตามเข้าไปจากประตูด้านหน้า อวิ๋นจิ่นแยกไปดักที่ประตูด้านหลัง
ในเรือนอี๋หงประดับด้วยผ้าม่านยาว ไอน้ำคลุ้งกระจายไปทั่ว เทียนสีแดงเหมือนน้ำตา ผ้าม่านยาวพลิ้วไหวอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้เป่ยถังเฮ่อหลบหนีได้พอดี ตอนที่เยี่ยโยวเหยาไล่ตามเข้าไป เขาก็ไม่เห็นเงาร่างของเป่ยถังเฮ่อแล้ว
ดวงตาดำขลับลึกล้ำจดจ้อง เขาชะลอฝีเท้าและเดินไปข้างหน้าทีละก้าว เปิดผ้าม่านพลิ้วไหวออกทีละชั้น ใช้กำลังภายในฟังเสียงรอบด้านทั้งหมดด้วยความระมัดระวังถึงขีดสุด
แม้ความสามารถในการฟังของเยี่ยโยวเหยาจะเทียบไม่ได้กับอาคมกำไลปี่อั้นของซูจิ่นซี ทว่าระดับความระแวดระวังนั้นสูงมาก
ทันใดนั้น เยี่ยโยวเหยาก็ถือกระบี่เสวียนหยวนฟันไปที่เสาข้างกาย
เขายกมือขึ้นฟันกระบี่ออกไป เสียงพลัน “อ้าก… ” ดังขึ้น ด้านหลังมีเสียงกรีดร้องโหยหวน ตามมาด้วยเสียงดัง ‘ตู้ม’ เป่ยถังเฮ่อตกลงไปในสระสุราขนาดใหญ่
“กรี๊ด… ”
เสียงกรีดร้องจ้าละหวั่นของสตรีดังขึ้นด้านหลังผ้าม่านลึกเข้าไปด้านใน
เยี่ยโยวเหยาใช้กระบี่เสวียนหยวน ทั้งยังใช้พลังในกระบี่เพียงเจ็ดส่วน แม้เป่ยถังเฮ่อจะไม่ตาย ทว่าต้องบาดเจ็บสาหัสแน่ อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดว่าเขาจะปีนขึ้นมาจากสระสุรา ในขณะเดียวกันก็หยิบกระบี่ขึ้นมาจากก้นบ่อและโจมตีใส่เยี่ยโยวเหยาทันที
เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วพลางกวัดแกว่งกระบี่เพื่อต่อต้าน เป่ยถังเฮ่อลอบโจมตีไม่สำเร็จ ในไม่ช้า ทั้งสองก็ต่อสู้พัวพันกัน
ในเวลานี้ อวิ๋นจิ่นโผล่มาจากประตูหลังและเข้าต่อสู้ร่วมกับเยี่ยโยวเหยา จัดการเป่ยถังเฮ่อ
วรยุทธ์ของเยี่ยโยวเหยาในตอนนี้ นอกจากซูจิ่นซีแล้ว มีคู่ต่อสู้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ทว่าหลังจากที่เป่ยถังเฮ่อถูกฟันด้วยกระบี่เสวียนหยวนของเยี่ยโยวเหยา คาดไม่ถึงว่าจะยังสามารถต่อสู้กับเยี่ยโยวเหยาและอวิ๋นจิ่นได้หลายสิบกระบวนท่า ทั้งสองยังล้มเป่ยถังเฮ่อไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงวรยุทธ์ขั้นสูงของคนผู้นี้
กระบวนท่าของเป่ยถังเฮ่อนั้นอำมหิตอย่างมาก แต่ละการโจมตีล้วนชั่วร้ายและแปลกประหลาด เยี่ยโยวเหยาและอวิ๋นจิ่นจัดการอย่างระมัดระวัง ในที่สุด เมื่อถึงกระบวนท่าที่ยี่สิบเอ็ด เยี่ยโยวเหยาก็เตะเป่ยถังเฮ่อล้มลงกับพื้น จากนั้นอวิ๋นจิ่นก็เหยียบหน้าอกของเป่ยถังเฮ่อเอาไว้ ไม่ให้เขาขยับได้
‘ชริ้ง’ เยี่ยโยวเหยากดกระบี่เสวียนหยวนในมือลงไปที่ลำคอของเป่ยถังเฮ่อ
เป่ยถังเฮ่อตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าในไม่ช้า เขาก็ยิ้มชั่วร้าย
“โยวอ๋อง! เยี่ยโยวเหยา! กล่าวกันว่า เมื่อโยวอ๋องแห่งแคว้นจงหนิงโจมตี ล้วนโหดเหี้ยมอำมหิต วรยุทธ์ยอดเยี่ยมหาผู้ใดเทียบ เป็นบุคคลอันตรายที่สุดในอาณาจักรเทียนเหอ วันนี้ได้เห็นชื่อเสียงเป็นจริงสมคำร่ำลือ”
สีหน้าของเยี่ยโยวเหยายังคงถมึงทึง “ในเมื่อรู้ว่าเป็นข้า เช่นนั้นก็มอบเพลิงอัคคีจิ่วโยวออกมา ข้าจะพิจารณาไว้ชีวิตเจ้า! ”
“เพลิงอัคคีจิ่วโยว? ” เป่ยถังเฮ่อขึ้นเสียงสูงเล็กน้อย “เดิมทีเพลิงอัคคีจิ่วโยวเป็นของแคว้นเป่ยอี้ โยวอ๋องอยู่บนแผ่นดินแคว้นเป่ยอี้ของข้า กลับขโมยเพลิงอัคคีของแคว้นเป่ยอี้ข้า คาดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะฉกชิงกันซึ่งๆ หน้าเช่นนี้ ชื่นชม! ชื่นชม! ข้าชื่นชมจริงๆ ! ”
เป่ยถังเฮ่อพูดพลางปรบมือ
ทั้งใต้หล้า เยี่ยโยวเหยาไม่เคยชายตามอง นับประสาอันใดกับแคว้นเป่ยอี้เล็กๆ
เยี่ยโยวเหยาเคลื่อนกระบี่เสวียนหยวนไปที่คอของเป่ยถังเฮ่อใกล้ขึ้นเล็กน้อย พลางเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ส่งมันมา! ”
เป่ยถังเฮ่อนอนราบกับพื้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “วิธีการของโยวอ๋องนั้นโหดเหี้ยม ดวงวิญญาณที่ดับสูญด้วยน้ำมือของท่านมีน้อยหรือ? สันนิษฐานว่ามากกว่าข้าไม่มากนัก หากอยากฆ่าก็ลงมือ เหตุใดถึงต้องพูดพล่ามให้มากความ”
เป่ยถังเฮ่อคาดเดาว่าเยี่ยโยวเหยาจะไม่ฆ่าเขาก่อนที่จะได้เพลิงอัคคีจิ่วโยวแน่ เขาจึงเล่นสงครามประสาทกับเยี่ยโยวเหยา
“โอ้? จริงหรือ? หรือเจ้าไม่รู้ว่าบนโลกนี้ นอกจากความตาย ยังมีหลายวิธีที่ทำให้มนุษย์ตายทั้งเป็น? ”
ทันใดนั้น เสียงของซูจิ่นซีก็ดังขึ้นจากด้านนอก
ซูจิ่นซี อู๋จุน ถังเสวี่ย ตงหลิงหวง และคนอื่นๆ เดินเข้ามา
จากนั้น องครักษ์ก็ไล่ตามเข้ามา เมื่อเยี่ยโยวเหยาเห็นสถานการณ์ เขาก็ดันกระบี่เสวียนหยวนไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล คอหอยของเป่ยถังเฮ่อก็มีเลือดซึมออกมาทันที
“ข้าจะดูว่าผู้ใดกล้าเข้ามาอีก! ”
องครักษ์พลันหยุดฝีเท้า พวกเขาถือกระบี่ในมือเล็งไปที่ซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ทว่าไม่มีผู้ใดกล้าไล่ตามเข้ามา
ซูจิ่นซีเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเป่ยถังเฮ่อด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย “ข้าว่าท่านอ๋องรองแห่งสกุลเป่ยถัง มอบเพลิงอัคคีจิ่วโยวมาแต่โดยดีจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดจากการเสียเลือดเนื้อ มิฉะนั้น ข้ามีวิธีทำให้ท่านจะอยู่ก็อยู่ไม่ได้ จะตายก็ตายไม่ได้”
“เจ้าคือซูจิ่นซี? ” เป่ยถังเฮ่อหรี่ตาลง
ซูจิ่นซีไม่พูด นับเป็นการยอมรับ
เป่ยถังเฮ่อยกยิ้มเย็นชา “อย่างไรก็ตาม ร่างกายข้าอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง หากโยวอ๋องและพระชายาโยวอ๋องไม่กลัวคนใต้หล้าหัวเราะเยาะ ก็ลงมือเถิด”