สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 33 ตอนที่ 970 งูดำที่มีพลังปีศาจ
ก่อนหน้านี้ ในปราสาทโบราณหลานลั่ว แม้แต่เชือกเทวะก็คลายมาแล้ว ซูจิ่นซีไม่เชื่อว่าเชือกวิเศษชื่อเลี่ยนเส้นเล็กแค่นี้ นางจะคลายไม่ออกเชียวหรือ
“ขอข้าดูหน่อย! ” ซูจิ่นซีเดินไปข้างหน้า เตรียมคลายเชือกให้เป่ยถังฉินเกอ
ทว่าทันทีที่นางเข้าใกล้เป่ยถังฉินเกอ และยังไม่ทันเห็นว่าเกิดอันใดขึ้นกับเชือกวิเศษชื่อเลี่ยน ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามเหมือนมังกรดังอยู่ข้างหลังนาง จากนั้น นางก็ถูกดึงกลับมาอย่างแรงและเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเยี่ยโยวเหยา
ซูจิ่นซีรีบมองไปยังทิศทางของเสียงนั้น นางเห็นงูน้ำขนาดเท่าคนสองคน ลำตัวยาวสิบจั้ง อวิ๋นจิ่น อู๋จุน และตงหลิงหวงกำลังต่อสู้กับมัน
เมื่อเห็นดวงตาสองข้างของงูน้ำที่สว่างไสวราวกับโคมไฟ ซูจิ่นซีก็ขมวดคิ้วอย่างแรง
ดวงตาคู่นี้ เป็นดวงตาคู่เดียวกับที่นางเห็นในคลื่นน้ำก่อนหน้านี้มิใช่หรือ?
ที่แท้คลื่นน้ำครั้งก่อนก็เป็นฝีมือของงูน้ำตัวนี้ หลังจากครุ่นคิดอย่างละเอียด ซูจิ่นซีก็รู้สึกว่าภาพมิติมายาก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นฝีมือของงูน้ำตัวนี้เช่นกัน
ดูเหมือนว่า เจ้าสิ่งนี้จะทรงพลังอย่างมาก ไม่ธรรมดา!
ในชั่วพริบตา อวิ๋นจิ่น อู๋จุน และตงหลิงหวงก็ต่อสู้กับมันไปสิบกว่ากระบวนท่า เห็นได้ชัดว่างูน้ำเป็นฝ่ายได้เปรียบ
“เยี่ยโยวเหยา ท่านเข้าไปช่วยพวกเขา ข้าจะคลายเชือกวิเศษชื่อเลี่ยน”
“ตกลง เจ้าต้องระมัดระวังตัวด้วย”
“เพคะ” ซูจิ่นซีพยักหน้า
เยี่ยโยวเหยา อวิ๋นจิ่น และคนอื่นๆ ร่วมมือกันจัดการงูน้ำตัวนั้น
ซูจิ่นซีเดินมาหาเป่ยถังฉินเกออีกครั้ง เดิมทีนางคิดว่าคลายเชือกวิเศษชื่อเลี่ยนเป็นเรื่องไม่ยากนัก กลับไม่คิดว่า นางใช้พลังเสวียนลี่หลายครั้ง ทว่าไร้ผล
ซูจิ่นซีอดขมวดคิ้วไม่ได้ “หรือว่าของสิ่งนี้จะร้ายกาจยิ่งกว่าเชือกเทวะ? ”
“เชือกเทวะหรือ? เจ้าเคยคลายเชือกเทวะมาก่อนหรือ? ”
“ใช่! ” ซูจิ่นซีตอบ
เป่ยถังฉินเกอพูดว่า “ดูเหมือนความสามารถของเจ้าจะไม่ธรรมดา เชือกวิเศษชื่อเลี่ยนเดิมเทียบไม่ได้กับเชือกเทวะที่มาจากเผ่าเซียน ทว่ามันผนึกรวมกับพลังปีศาจและความอาฆาตแค้นมากมาย ดังนั้นมันจึงทนทานต่อพลังด้านดี หากคลายเชือกวิเศษชื่อเลี่ยนด้วยวิธีเดียวกับคลายเชือกเทวะ ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอน”
เช่นนั้นควรทำอย่างไร?
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่นขึ้น
น่าเสียดายที่อาคมกำไลปี่อั้นใช้งานไม่ได้ กระบี่เฟิ่งอวี่ถูกผนึกไว้ในอาคมกำไลปี่อั้น ไม่สามารถเรียกออกมาได้ บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ในเวลานี้
กระบี่เฟิ่งอวี่…
ความคิดนั้นพลันแวบเข้ามาในหัว
ซูจิ่นซีรีบหันหลังกลับไป ดวงตาของนางจับจ้องไปที่เยี่ยโยวเหยา ซึ่งกำลังต่อสู้กับงูน้ำร่วมกับอวิ๋นจิ่นและคนอื่นๆ
กระบี่เฟิ่งอวี่ใช้ไม่ได้ ทว่ายังมีกระบี่เสวียนหยวนมิใช่หรือ!
“เยี่ยโยวเหยา… ”
ซูจิ่นซีตะโกนเสียงดัง เยี่ยโยวเหยาอาศัยช่องว่าง เหาะมาอยู่ข้างกายซูจิ่นซี
“เชือกวิเศษชื่อเลี่ยนคลายออกยากยิ่งนัก ท่านลองใช้กระบี่เสวียนหยวนเถิด”
“ตกลง! เจ้าถอยห่างออกไปอีกหน่อย”
เยี่ยโยวเหยากลัวว่าพลังของกระบี่เสวียนหยวนจะทำร้ายนางและทารกในครรภ์
หลังจากซูจิ่นซียืนห่างออกไปเล็กน้อย เยี่ยโยวเหยาก็เรียกกระบี่เสวียนหยวนออกมา และตัดเชือกวิเศษชื่อเลี่ยนที่ข้อเท้าของเป่ยถังฉินเกอ
เป็นจริงดั่งคาด ทันทีที่กระบี่เสวียนหยวนฟันลงไปก็เกิดเสียงดัง ‘ชริ้ง’ เชือกวิเศษชื่อเลี่ยนถูกตัดขาดเป็นสองส่วน และตกลงบนพื้น
ซูจิ่นซีกับเป่ยถังฉินเกอรู้สึกดีใจมาก
จากนั้น เยี่ยโยวเหยาก็ตัดเชือกวิเศษชื่อเลี่ยนที่ข้อเท้าอีกข้างของเป่ยถังฉินเกอ และตัดเชือกวิเศษชื่อเลี่ยนที่ข้อมือทั้งสองข้างของนาง
ทว่าเชือกวิเศษชื่อเลี่ยนเพิ่งถูกตัดออก คลื่นน้ำโดยรอบบริเวณก็กระเพื่อมรุนแรงขึ้น งูน้ำเดือดดาลสุดขีด
เยี่ยโยวเหยาเกรงว่าคลื่นน้ำจะทำร้ายซูจิ่นซีและเด็ก เขาจึงรีบเข้าไปปกป้องซูจิ่นซี
ซูจิ่นซีตกตะลึงครู่หนึ่ง นางขมวดคิ้วมองคลื่นน้ำและรีบเข้าไปประคองเป่ยถังฉินเกอ “รีบลงมา ออกไปกับพวกเรา”
เป่ยถังฉินเกอลุกจากเตียงอย่างรวดเร็วและตามซูจิ่นซีออกไป
ภายใต้ความเดือดดาลของงูน้ำ มันซัดพลังอันไร้ขอบเขต เมื่อเห็นว่าอวิ๋นจิ่นและคนอื่นๆ กำลังรับมือไม่ไหว เยี่ยโยวเหยาก็หันหลังกลับและพูดกับซูจิ่นซีว่า “ระวังตัวด้วย! ” จากนั้นก็เข้าไปช่วยอวิ๋นจิ่นและคนอื่นต่อสู้กับงูน้ำอีกครั้ง
ซูจิ่นซีประคองเป่ยถังฉินเกอ และค่อยๆ พาเดินออกไปด้านนอก
ทว่าทันทีที่นางเดินไปที่ประตูวิหาร เสียงดัง ‘ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด’ ของระบบถอนพิษที่ไม่ได้ยินมานานก็ส่งเสียงเตือนรุนแรง
เสียงนั้นดังมากจนซูจิ่นซีซึ่งเปิดระบบถอนพิษถึงระดับสุดต้องกุมศีรษะและเกือบเป็นลมหมดสติ
เป่ยถังฉินเกอรีบพยุงซูจิ่นซี “เกิดอันใดขึ้น? ”
หลังผ่านไปครู่ใหญ่ ซูจิ่นซีก็ตั้งสติกลับมาเป็นปกติ นางลดระดับเสียงของระบบถอนพิษ พลางเขย่าศีรษะเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอันใด” จากนั้นจึงมองไปรอบๆ บริเวณและพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “มีงูพิษจำนวนมากกำลังเข้ามาใกล้พวกเรา”
ทันทีที่สิ้นเสียงของนาง หมอกสีดำก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา จากนั้นหมอกสีดำเหล่านั้นก็กลายร่างเป็นงูสีดำ
แม้ขนาดตัวจะไม่ใหญ่เท่างูน้ำที่กำลังต่อสู้อยู่กับเยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ทว่าเมื่อมองแวบแรก จะเห็นได้ว่างูพวกนี้ไม่ธรรมดา อีกทั้งพวกเขายังอยู่ภายใต้ภาพมิติมายา พลังปีศาจนั้นแข็งแกร่งมาก
แม้เยี่ยโยวเหยาจะต่อสู้กับงูน้ำ ทว่าความสนใจครึ่งหนึ่งของเขาอยู่ที่ซูจิ่นซีเสมอ เมื่อเห็นว่าซูจิ่นซีกับเป่ยถังฉินเกออยู่ในอันตราย เขาก็รีบผละตัวออกมายืนอยู่ข้างกายซูจิ่นซี
งูดำเหล่านั้นพ่นพิษสีแดงสดไปพลางเลื้อยเข้าใกล้ซูจิ่นซี เป่ยถังฉินเกอ และเยี่ยโยวเหยา ทุกครั้งที่พิษสีแดงสดพ่นออกมา จะปรากฏควันสีขาวน้ำนมฟุ้งกระจายจากพิษนั้น เสียงของระบบถอนพิษเริ่มร้องเตือนดังขึ้นเรื่อยๆ
ซูจิ่นซีพลิกฝ่ามือ นางหยิบยาสามเม็ดออกมาจากระบบถอนพิษ และยื่นให้เป่ยถังฉินเกอกับเยี่ยโยวเหยา
“หมอกพวกนี้มีพิษ ยานี้สำหรับต้านพิษ รีบกลืนลงไป”
เยี่ยโยวเหยาและเป่ยถังฉินเกอรีบหยิบยามาจากมือของซูจิ่นซี และกลืนลงไปทันที
การเคลื่อนไหวของงูดำเริ่มเร็วขึ้น เมื่อมันใกล้มาถึง ซูจิ่นซีก็ใช้เข็มเงินและยาพิษต่างๆ จัดการพวกมัน ทว่าผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม นางไม่สามารถจัดการพวกมันได้ ซ้ำยังกระตุ้นให้พวกมันพ่นพิษออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เยี่ยโยวเหยาลองใช้กระบี่เสวียนหยวนสังหารพวกมัน ทว่าหลังจากหัวและหางของงูขาดออกจากกัน มันกลับงอกออกมาและเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นงูดำสองตัว เลือดที่หยดลงบนพื้นขยายตัวอย่างบ้าคลั่ง งูพิษมีจำนวนมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
สถานการณ์นี้ค่อนข้างคล้ายกับสมุนไพรกินคนที่พบในดินแดนต้องห้ามของสกุลจง สมุนไพรกินคนเหล่านั้นกลัวสัตว์เทพกิเลน มีความเป็นไปได้มากที่สัตว์เทพกิเลนจะเป็นศัตรูของงูดำปีศาจเหล่านี้ น่าเสียดาย ขณะที่พวกออกมา ซูจิ่นซีได้ให้สัตว์เทพกิเลนและจิ้งจอกเก้าสีเฝ้าจวนเป่ยอี้อ๋อง สั่งให้พวกมันคุ้มครองเป่ยถังหลีและซูอวี้
เช่นนั้นควรทำอย่างไร? ใช้กระบี่ไม่ได้ ยาพิษก็ไร้ผล เป่ยถังฉินเกอถูกงูน้ำกักบริเวณไว้ในวิหารตลอดหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังสูญเสียวรยุทธ์ไปทั้งหมด นางจึงไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ งูดำเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ หมอกพิษในอากาศเริ่มหนาแน่นขึ้น
แม้ซูจิ่นซีจะมอบยาป้องกันพิษให้กับเป่ยถังฉินเกอและเยี่ยโยวเหยา ทว่ามันคงอยู่ได้ไม่นาน
ควรทำอย่างไร?
ควรทำอย่างไร?
ทันใดนั้น งูสีดำที่เลื้อยอยู่หน้าสุดก็ดีดตัวพุ่งเข้าโจมตีซูจิ่นซี