สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 34 ตอนที่ 1013 พบคนรักเก่า ใจอ่อนแล้วล่ะสิ?
ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของหลานอวี่ ดวงตาของนางพลันเป็นประกาย “บุกเข้าไป! ”
กูสือซานและปรมาจารย์พิษหลายคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลานอวี่ หันไปโจมตีซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ทว่าเยี่ยเซินกลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จ้องซูจิ่นซีด้วยสายตาลึกซึ้ง
แววตาของหลานอวี่มองไปที่เยี่ยเซิน “เป็นอย่างไร? เจอคนรักเก่า ใจอ่อนแล้วหรือ? ”
ทันใดนั้น เยี่ยเซินก็หันมามองหลานอวี่โดยไม่พูดอันใด เขาโจมตีไปที่เป้าหมาย เสวียนชิง หลิงอวิ๋น และคนอื่นๆ ส่วนหลานอวี่ยิ้มเยาะ จากนั้นจึงเดินไปทางกระบี่ยวี่หลง
ผู้มีดวงชะตาโอรสมังกรเท่านั้นจึงจะสามารถปราบและครอบครองกระบี่ยวี่หลงได้ ตอนแรกซูจิ่นซีและคนอื่นๆ ต่างไม่สนใจหลานอวี่ ทว่าไม่มีทางคาดคิดได้เลยว่า หลังจากหลานอวี่เดินไปที่กระบี่ยวี่หลงบนแท่นบูชา นางก็พลิกฝ่ามือ บนฝ่ามือปรากฏกระจกเปล่งประกายแสงสีฟ้า
กระจกดูดวิญญาณ…
สีหน้าของเยี่ยโยวเหยา ซูจิ่นซี เสวียนชิง หลิงอวิ๋น และคนอื่นๆ เปลี่ยนไปทันที ไม่คาดคิดว่าหลานอวี่มาเตรียมกระจกดูดวิญญาณมาด้วย
กระจกดูดวิญญาณสามารถทำลายพลังวิญญาณในใต้หล้า แม้แต่กระบี่ยวี่หลงที่เป็นกระบี่วิเศษล้ำค่าโบราณ แม้กระจกดูดวิญญาณไม่อาจทำลายพลังวิเศษที่แข็งแกร่งของมัน ทว่าสามารถระงับมันได้ชั่วคราว ด้วยวิธีนี้ หลานอวี่สามารถครอบครองกระบี่ยวี่หลงได้อย่างง่ายดาย
เสวียนชิงและหลิงอวิ๋นถูกเยี่ยเซินและปรมาจารย์พิษหลายคนขัดขวางไว้ จึงไม่สามารถหลบหนี เยี่ยโยวเหยาก็ถูกกูสือซานและปรมาจารย์พิษหลายคนขัดขวางไว้จึงไม่สามารถเข้าใกล้หลานอวี่เช่นกัน ซูจิ่นซีรีบจัดการกับปรมาจารย์พิษที่ขวางทางคนหนึ่งและรีบวิ่งเข้าไปหาหลานอวี่ ป้องกันไม่ให้หลานอวี่ใช้กระจกดูดวิญญาณระงับพลังวิเศษของกระบี่ยวี่หลง ไม่นานทั้งสองก็ต่อสู้กัน
หลานอวี่เป็นคนฉลาด รู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูจิ่นซี จึงไม่เผชิญหน้าตัวต่อตัวกับนาง มักจะหลบเลี่ยงในรูปแบบต่างๆ
ซูจิ่นซีฟาดกระบี่เฟิ่งอวี่ คมกระบี่ในทุกกระบวนท่าล้วนเป็นกระบวนท่าสังหาร
“หลานอวี่ ข้าเคยให้โอกาสเจ้า คราวนี้เป็นเจ้าที่รนหาที่ตาย อย่าได้โทษข้าที่โหดเหี้ยม” ซูจิ่นซีมุ่งมั่นจัดการกับหลานอวี่ให้สิ้นซาก
กลับไม่คิดว่า หลานอวี่จะอาศัยช่องว่าง สบโอกาสหัวเราะเยาะเบาๆ “สังหารข้าได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องภายหลัง ทว่าพระชายาโยวอ๋อง ข้าตามหากระบี่ยวี่หลงมาหลายปียังไม่สำเร็จ วันนี้ต้องขอบคุณกระบี่เฟิ่งอวี่ในมือของเจ้า ทำให้พวกเราตามหากระบี่ยวี่หลงมาถึงที่นี่ได้ หากพูดเช่นนี้ เจ้านับเป็นผู้มีบุญคุณของชาวแคว้นไหวเจียง! แม้วิชาพิษของเจ้าจะเก่งกาจเพียงใด ทว่าแคว้นอื่นไม่ใช้พิษ ช่างน่าเสียดาย เหตุใดเจ้าไม่มาเป็นพวกเดียวกับแคว้นไหวเจียงของข้า? แคว้นไหวเจียงของข้าจะต้องให้ความสำคัญกับเจ้ามากแน่นอน” ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น ไม่นานก็นึกถึงความหมายของคำพูดครึ่งประโยคแรกของหลานอวี่
กระบี่ยวี่หลงหายสาบสูญนับพันปี มันถูกซ่อนไว้ที่นี่กว่าพันปี มีคนมากมายที่ต้องการกระบี่ยวี่หลง ทว่าไม่มีผู้ใดหามันพบแม้แต่น้อย
ตอนนี้นางและเยี่ยโยวเหยากลับหาพบ หากบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่เชื่อ เพราะหลังจากเข้าสู่สำนักกระบี่คุนหลุน นางรู้สึกเล็กน้อยว่ากระบี่เฟิ่งอวี่ที่ซ่อนอยู่ในอาคมกำไลปี่อั้นถูกพลังลึกลับบางอย่างดึงดูด และพวกเขาก็มาถึงที่นี่ ความจริงแล้วเป็นเพราะพลังของกระบี่เฟิ่งอวี่ด้วย
เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้ว เส้นทางจากตำหนักฉางเซิงมาถึงที่แห่งนี้ แม้พวกเขาจะเดินทางมาอย่างราบรื่นที่สุด ทว่าด้านในจุดพลิกผันหลายครั้ง ไม่ใช่ทุกคนจะพบเส้นทางปลอดภัยที่สุดได้
อีกทั้งหลานอวี่และคนอื่นๆ จะต้องเดินตามพลังวิญญาณของกระบี่เฟิ่งอวี่ในมือของนางมาอย่างแน่นอน
กระบี่เฟิ่งอวี่…
ดวงตาของซูจิ่นซีมองไปที่กระบี่เฟิ่งอวี่ในมือตนเองระหว่างการต่อสู้
ตอนนั้นเป่ยถังเย่เป็นผู้มอบกระบี่เฟิ่งอวี่ให้นาง หรือว่าตอนนั้นเป็นแผนการของเขา เพื่อใช้ในวันนี้…
ซูจิ่นซีคิดพลางกวัดแกว่งกระบี่เฟิ่งอวี่ในมือไปมาอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
เยี่ยโยวเหยาจดจ่ออยู่กับซูจิ่นซี เขาจัดการกูสือซานได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเข้ามาช่วยซูจิ่นซี
หลานอวี่รับมือซูจิ่นซีเพียงคนเดียวก็ยากลำบากมากพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยา สามีภรรยาร่วมกำลังกัน ทว่านางยังหลบเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาโดยตรง อาศัยช่องว่างเริ่มใช้งานแมลงปอโลหิต
แม้ซูจิ่นซีจะไม่กลัว ทว่าแมลงปอโลหิตรับมือได้ยากเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น แมลงปอโลหิตนี้ไม่ใช่แมลงปอโลหิตที่เคยรับมือครั้งก่อน
ซูจิ่นซีต่อสู้กับแมลงปอโลหิต นางอาศัยจังหวะตะโกนไปทางเยี่ยโยวเหยา “เยี่ยโยวเหยา ไปหยิบกระบี่ยวี่หลง”
ไม่ว่าอย่างไร กระบี่ยวี่หลงไม่อาจตกอยู่ในมือของผู้อื่น ในเมื่อสถานที่แห่งนี้ถูกค้นพบแล้ว ไม่อาจซ่อนกระบี่ยวี่หลงได้อีกต่อไป แทนที่จะให้ผู้อื่น มิสู้ให้เยี่ยโยวเหยารับกระบี่ยวี่หลงไว้ก่อน
ความจริงแล้ว เยี่ยโยวเหยาก็ตั้งใจทำเช่นนี้ ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยาก็ใช้พลังวิชายุทธ์จิ่วเซียวเก้าส่วนโจมตีหลานอวี่จนกระเด็นลงไปกองบนพื้น จากนั้นก็เหาะขึ้นไปที่แท่นบูชา พยายามหยิบกระบี่ยวี่หลง
กระบี่ยวี่หลงไม่เพียงมีพลังวิเศษที่แข็งแกร่ง มันรับรู้ได้หากมีคนเข้าใกล้ หากเป็นผู้มีดวงชะตาโอรสมังกร กระบี่จะเปล่งประกายลำแสงสีแดงทันที ซึ่งทำให้พื้นที่โดยรอบมีสีแดง
เยี่ยโยวเหยาค่อยๆ เหาะขึ้นไปบนอากาศ ขนานกับกระบี่ยวี่หลง จากนั้นจึงรวบรวมพลังภายในใส่เข้าไปในกระบี่ยวี่หลง กระบี่ยวี่หลงเริ่มสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เยี่ยโยวเหยากำลังถ่ายทอดพลังภายในมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ภูเขาโดยรอบก็เริ่มสั่นสะเทือน ราวกับกำลังเกรี้ยวกราดต่อการเข้าใกล้ของเยี่ยโยวเหยา พลังต่อต้านนั้นแข็งแกร่งมาก
ไม่นานนัก หน้าผากของเยี่ยโยวเหยาก็มีเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบไหลซึมออกมาเป็นชั้นๆ ทว่ากระบี่ยวี่หลงกลับไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ด้านซูจิ่นซีกำลังรับมือกับแมลงปอโลหิตพร้อมกับสังเกตการเคลื่อนไหวของเยี่ยโยวเหยาด้วยใบหน้าวิตกกังวล
เห็นได้ชัดว่าเยี่ยโยวเหยาใช้พลังของเขาไปกับกระบี่ยวี่หลงแล้วสิบส่วน กระบี่ยวี่หลงค่อยๆ ดูดซับพลังภายในที่แข็งแกร่งของเยี่ยโยวเหยา แม้จะไม่มาก ทว่าพละกำลังและพลังภายในกลับสูญเสียไปอย่างรวดเร็ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าเยี่ยโยวเหยาจะเป็นอันตราย
ซูจิ่นซีรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง วันนี้ไม่ใช่แค่หลานอวี่และกูสือซานเท่านั้นที่บุกเข้ามาที่สำนักกระบี่คุนหลุนแน่ ทว่าเบื้องหลังยังมีปรมาจารย์พิษจากแคว้นไหวเจียงอีกหลายคน ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่กระทำตามอำเภอใจโดยไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อย
พละกำลังและพลังภายในของเยี่ยโยวเหยาต้องเก็บไว้จัดการกับตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง หากสูญเสียพลังมากเกินไป หากพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งต่อไปในภายหลัง เขาต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก
เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ซูจิ่นซีก็รีบพุ่งเข้าไปหาหลานอวี่โดยไม่ลังเล และคว้ากระจกดูดวิญญาณในมือของหลานอวี่
หากมีกระจกดูดวิญญาณคอยช่วยเหลือและควบคุมพลังของกระบี่ยวี่หลง เยี่ยโยวเหยาจะได้ควบคุมกระบี่ยวี่หลงได้ง่ายขึ้น
หลานอวี่จัดการกับซูจิ่นซีไปพลางแย้มยิ้มเย็นชา “พระชายาโยวอ๋อง กระจกดูดวิญญาณเป็นของแคว้นไหวเจียงของข้า เจ้าสองสามีและภรรยาเคยดูถูกแคว้นไหวเจียงมิใช่หรือ? ไม่สนใจเรื่องนั้นแล้วหรือ? ข้าบอกแล้ว พระชายาโยวอ๋องกับแคว้นไหวเจียงของข้ามีวาสนาต่อกัน”
การแสดงออกของซูจิ่นซีเคร่งขรึม นางยกมือขึ้น จากนั้นลำแสงทรงพลังก็พุ่งกระทบร่างของหลานอวี่ “หยุดพูดจาไร้สาระ สิ่งที่ข้าต้องการก็ต้องแย่งมา หรือว่าต้องดูทิศทางลม? ”
ลำแสงที่แข็งแกร่งนั้นเป็นพลังเสวียนชี่ที่ทรงพลัง หลานอวี่ตกกระแทกกับพื้น กระจกดูดวิญญาณกระเด็นออกจากแขนเสื้อ ซูจิ่นซีรีบหยิบกระจกดูดวิญญาณมาไว้ในมือและหันไปช่วยเยี่ยโยวเหยา
ทว่าสิ่งที่นางไม่คาดคิด ขณะที่นางหันกระจกกลับไป จู่ๆ เยี่ยโยวเหยาก็ส่งเสียงร้องอย่างทุรนทุราย ซึ่งเป็นเสียงที่นางไม่เคยได้ยินมาก่อน