สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 34 ตอนที่ 1014 เยี่ยโยวเหยาไม่รอดแน่
ซูจิ่นซีตะลึงอยู่ในเหตุการณ์
กระบี่ยวี่หลงเปล่งประกายเจิดจ้าไปทุกทิศทุกทาง
ท่ามกลางแสงสว่างเจิดจ้า เยี่ยโยวเหยาใบหน้าเขียวซีด แม้แต่บริเวณรอบๆ ขอบตาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ ซูจิ่นซีเหลือบมองอย่างรวดเร็ว หลังเสียงกรีดร้องทุรนทุรายราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่นจากแท่นบูชา
ซูจิ่นซีไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น ทว่าระบบถอนพิษเริ่มแจ้งเตือนอย่างบ้าคลั่งในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีพิษมหาศาลกำลังเข้ามาใกล้ ข้อมูลในระบบเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทว่าไม่อาจระบุส่วนประกอบของยาพิษได้
“เยี่ยโยวเหยา… ”
ซูจิ่นซีรีบตั้งสติ จากนั้นจึงวิ่งไปรับตัวเยี่ยโยวเหยา ทว่ามีเสียง “จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้น หนูตัวใหญ่ยาวกว่าหนึ่งฉื่อกระโดดออกมาจากอกเสื้อของเยี่ยโยวเหยา และกระโดดไปที่ใบหน้าของซูจิ่นซี
สิ่งที่ซูจิ่นซีกลัวมากที่สุดคือหนู ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนูตัวใหญ่ขนาดนี้ เดิมทีใบหน้าที่ซีดเซียวอยู่แล้วพลันซีดมากขึ้นไปอีก จากนั้นจึงหลบไปอีกฝั่งหนึ่ง
ขณะที่ซูจิ่นซีหลบเลี่ยง เยี่ยโยวเหยาก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรงดัง ‘ตึ่ง’
“จี๊ด จี๊ด… จี๊ด จี๊ด จี๊ด… ”
หนูไม่ได้โจมตีซูจิ่นซี ทว่าได้สร้างความรำคาญเล็กน้อย ตัวมันตกลงบนพื้นและรีบวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
ซูจิ่นซีไม่สนใจสิ่งอื่นใด หลังร่อนลงบนพื้นก็รีบพุ่งไปหาเยี่ยโยวเหยา
“เยี่ยโยวเหยา… เยี่ยโยวเหยา ท่านเป็นอันใด เยี่ยโยวเหยา… ”
ทั่วทั้งร่างของเยี่ยโยวเหยาเป็นสีดำ เขาจ้องมองซูจิ่นซีด้วยดวงตาเบิกกว้าง เหมือนต้องการพูดสิ่งใด ทว่าท้ายที่สุด ก็ไม่ได้พูดและหมดสติไปทันที
ซูจิ่นซีเป็นปรมาจารย์พิษ จึงรู้อย่างแน่ชัดว่าเยี่ยโยวเหยาถูกพิษ ทว่าระบบถอนพิษยังไม่อาจวิเคราะห์ส่วนประกอบของสารพิษได้
พิษนี้คือพิษชนิดใดกันแน่? เกี่ยวข้องอันใดกับหนูตัวใหญ่นั้นหรือไม่?
ซูจิ่นซีรีบหันศีรษะไปทางหนูตัวนั้น ทว่าไม่รู้ว่ามันหนีหายไปที่ใดนานแล้ว
“โยวเหยา… ”
“โยวเหยา… ”
“ศิษย์พี่… ”
เสวียนเจิ้นจื่อและผู้อาวุโสทั้งสามต่างตกใจและกังวลไม่น้อยไปกว่าซูจิ่นซี แต่น่าเสียดายที่ถูกศัตรูขัดขวางไว้ ไม่อาจปลีกตัวออกมาได้
เดิมทีเยี่ยโยวเหยาได้นำกระบี่ยวี่หลงออกจากแท่นบูชาแล้ว น่าเสียดายที่ถูกหนูตัวนั้นฉวยจังหวะโจมตี ทำให้หลานอวี่ได้ประโยชน์หยิบกระบี่ยวี่หลงไปได้
“แย่แล้ว กระบี่ยวี่หลงห้ามตกไปอยู่ในมือของคนนอกสำนักกระบี่คุนหลุนเด็ดขาด” เสวียนชิงตะโกนขึ้นทันที
หลานอวี่รีบเดินออกไปตามเส้นทางลับพร้อมกับกระบี่ยวี่หลงที่อยู่ในอ้อมแขนของนาง
ซูจิ่นซีจดจ่ออยู่กับเยี่ยโยวเหยาและไม่สนใจกระบี่ยวี่หลงแม้แต่น้อย
แม้ผู้อาวุโสทั้งสามและเสวียนเจิ้นจื่อกำลังร้อนใจ ทว่าถูกกูสือซาน เยี่ยเซิน และปรมาจารย์พิษหลายคนขวางไว้ ทำให้ไม่อาจสกัดกั้นหลานอวี่ได้
“จิ่นซี… ” เสวียนชิงพูดกับซูจิ่นซีเสียงดัง “จิ่นซี กระบี่ยวี่หลงห้ามตกอยู่ในมือคนนอกสำนักกระบี่คุนหลุนเด็ดขาด แม้โยวเหยาจะฟื้น เขาจะต้องปกป้องมันอย่างสุดกำลัง”
แม้เพียงเวลาสั้นๆ ซูจิ่นซีก็สามารถควบคุมพิษในร่างของเยี่ยโยวเหยาได้ชั่วคราว และแน่ใจว่าเยี่ยโยวเหยาจะไม่ตกอยู่ในอันตรายในช่วงเวลานี้ ดวงตาของนางเปล่งประกายเย็นชา มือถือกระบี่เฟิ่งอวี่ จากนั้นก็รีบวิ่งไปตามเส้นทางลับ แม้เวลาจะผ่านไปไม่นานนัก ทว่าหลานอวี่หายตัวไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปลายทางเข้าอีกด้านหนึ่งของเส้นทางลับก็คือตำหนักฉางเซิง ซูจิ่นซีเข้าไปขวางทางหลานอวี่ไว้ได้
หลานอวี่มองกระบี่เฟิ่งอวี่ของซูจิ่นซีที่กำลังพาดอยู่บนลำคอ คมกระบี่ส่องแสงเจิดจ้าเย็นเฉียบ อดทำให้นางเกิดอาการตกประหม่าไม่ได้ ทว่านางยังควบคุมอารมณ์ พยายามไม่แสดงออกบนใบหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “พระชายาโยวอ๋อง เหตุใดเจ้าถึงยังทำเช่นนี้? ร่วมมือกับแคว้นไหวเจียงของข้าเถิด ท่านไม่ลองคิดทบทวนดูหรือ? เพียงท่านตอบตกลงร่วมมือกับแคว้นไหวเจียง ข้า หลานอวี่ รับรองว่า แคว้นไหวเจียงทั้งหมดต้องเคารพท่านในฐานะแขกผู้สูงศักดิ์ โอ้ ไม่ เคารพท่านดั่งเทพเซียน แม้แต่ฮ่องเต้แห่งแคว้นไหวเจียงก็ยังต้องยอมจำนนต่อเจ้า”
หลานอวี่ชำนาญการเกลี้ยกล่อม นางยังคงพยายามยั่วยุซูจิ่นซี
ดวงตาเย็นยะเยือกของซูจิ่นซีไม่ขยับแม้แต่น้อย กระบี่ยาวในมือสั่นไหว เลื่อนไปที่ลำคอของหลานอวี่ ทันใดนั้นเลือดสีแดงสดก็ไหลจากลำคอของหลานอวี่
“หยุดพูดจาไร้สาระ มอบยาถอนพิษออกมา”
หลานอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “พระชายากำลังพูดเรื่องอันใด ข้าไม่เข้าใจ”
“หยุดเสแสร้งแกล้งตีหน้าเซ่อได้แล้ว”
ซูจิ่นซีเลื่อนกระบี่เฟิ่งอวี่ไปที่ลำคอของหลานอวี่ลึกขึ้นเล็กน้อย เลือดไหลมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าหลานอวี่ไม่ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย
ซูจิ่นซีพูดว่า “เจ้ากล้าบอกหรือไม่ว่า หนูเมื่อครู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแคว้นไหวเจียงของเจ้า? มอบยาถอนพิษ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า หากเยี่ยโยวเหยามีอันตรายถึงแก่ชีวิต ข้าจะทำให้แคว้นไหวเจียงของเจ้าต้องชดใช้”
หลานอวี่ยกยิ้มมุมปากและพูดว่า “ที่แท้ ในแผ่นดินนี้ยังมีพิษที่พระชายาโยวอ๋องรักษาไม่ได้ จะให้ข้ามอบยาถอนพิษเพื่อช่วยชีวิตโยวอ๋อง ก็ได้ ก็ได้ ขอเพียงพระชายาโยวอ๋องตกลงเข้าร่วมอยู่ฝ่ายแคว้นไหวเจียงของข้า หลานอวี่จะมอบยาถอนพิษด้วยมือทั้งสองแน่นอน อีกทั้ง… กระบี่ยวี่หลงนี้อีกด้วย”
หลานอวี่พูดพลางยกยิ้มมุมปากยั่วยุ
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึม นางถือกระบี่ยาวพุ่งเข้าหาหลานอวี่
ทั้งสองต่อสู้กันอีกครั้ง
ในเวลานี้ ซูจิ่นซีไม่เหมือนก่อน นางกังวลเรื่องเยี่ยโยวเหยาถูกยาพิษ และนางต้องการยาถอนพิษจากหลานอวี่โดยเร็วที่สุด เอากระบี่ยวี่หลงและยาถอนพิษ แล้วรีบกลับไปที่แท่นบูชา นางจึงลงมืออย่างไร้ความปรานี
นางลงมือกับหลานอวี่อย่างสุดกำลัง ทุกกระบวนท่าคือกระบวนท่าสังหาร
หลานอวี่พยายามออกแรงรับมืออย่างหนัก ในไม่ช้า เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบก็ไหลออกมาบนหน้าผาก และไม่มีท่าทางยั่วยุเหมือนก่อนหน้านี้
ซูจิ่นซีกระแทกหลานอวี่จนนอนฟุบลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว
นางกำลังคิดจะแทงหลานอวี่ให้ตายด้วยกระบี่เดียว ทว่าหลานอวี่กลับพูดว่า “พระชายาโยวอ๋อง หากข้าตาย เยี่ยโยวเหยาก็ไม่รอด! ”
หลานอวี่หมายความว่าอย่างไร?
กระบี่ของซูจิ่นซีหยุดอยู่ที่ตำแหน่งหัวใจของหลานอวี่อย่างกะทันหัน ใบหน้าของนางซีดเผือด “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ”
แม้ซูจิ่นซีจะรั้งกระบี่ได้ทันเวลา ทว่ากระบี่ยังทิ้งร่องลึกบริเวณหน้าอกของหลานอวี่ จนทำให้นางขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด
ทว่านางกลับเลิกคิ้ว ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มลำพองใจ
“ความหมายอย่างที่พูด”
ซูจิ่นซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเย็นชา
“เพียงพิษเล็กน้อยจากแคว้นไหวเจียงของเจ้า ไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับข้า”
นางมั่นใจว่า แม้พิษของแคว้นไหวเจียงจะร้ายกาจเพียงใด นางก็มีความเชื่อมั่นว่าสามารถถอนพิษให้เยี่ยโยวเหยาได้แน่นอน นางจึงคิดจะสังหารหลานอวี่
ปลายกระบี่เล็งไปที่กระบี่ยวี่หลงที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นจึงหยิบมันถือไว้ในมือ
ดวงตาของซูจิ่นซีเปล่งประกายแสงเย็นเฉียบ กระบี่เฟิ่งอวี่ในมือแทงที่ตำแหน่งหัวใจของหลานอวี่โดยไม่ลังเล
ทว่า ทันใดนั้น…
ลมหนาวพัดหวนขึ้นจากพื้นดิน ทำให้เครื่องประดับตกแต่งบริเวณนั้นสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน ระบบถอนพิษเริ่มส่งเสียงเตือนอย่างรุนแรง ส่งสัญญาณว่าพิษจำนวนมากกำลังใกล้เข้ามา
ที่นี่คือตำหนักฉางเซิง จู่ๆ มีลมพัดแรงเช่นนี้ได้อย่างไร?