สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 34 ตอนที่ 992 ไม่เสียใจภายหลัง
ด่านที่สาม ซูจิ่นซีและคนอื่นๆ เข้าสู่ดินแดนภาพมายาพร้อมกัน ซึ่งเป็นความฝันของหลานเยวี่ยหลีและซูอวี้ เมื่อตื่นจากฝัน ซูจิ่นซีก็หลุดออกมาจากดินแดนภาพมายาทันที
ข้างกายเป็นหลานเยวี่ยหลี ถังเสวี่ย ตงหลิงหวง และอู๋จุน
ทว่าไม่พบซูอวี้ เยี่ยโยวเหยา และนักพรตจื่ออิน
“คนที่เหลืออยู่ที่ใด? ” ซูจิ่นซีเอ่ยอย่างรวดเร็ว
อู๋จุนนวดหน้าผากที่ชนจนเจ็บแล้วพูดว่า “ตอนที่ออกมา ข้าเห็นนักพรตจื่ออินเปิดดินแดนภาพมายาเป็นช่องว่าง เขาจะหลบหนี เยี่ยโยวเหยาตามไปแล้ว ข้าก็อยากไล่ตามไป กลับคลาดกับพวกเขา”
เยี่ยโยวเหยาไล่ตามนักพรตจื่ออินไปแล้ว?
“ซูอวี้อยู่ที่ใด? ”
ทุกคนเพิ่งพบว่าซูอวี้หายไป
หลานเยวี่ยหลีพลันตื่นตระหนก “ไม่น่าจะใช่ ข้าออกมาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ผู้นำซูยังไม่ออกมา เกิดอันใดขึ้นกันแน่? ”
ผู้นำซู…
ทุกคนได้ยินชัดเจนว่าหลานเยวี่ยหลีเรียกซูอวี้ว่าผู้นำซู ไม่ใช่เจ้าทึ่ม
“แม่นางเยวี่ยหลี เจ้า… ” ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองหลานเยวี่ยหลี
ดวงตากระจ่างใสของหลานเยวี่ยหลีมองไปทางซูจิ่นซี “พระชายาโยวอ๋อง ข้าจำทุกอย่างได้แล้ว เรื่องเมื่อก่อน ข้าจดจำได้ทั้งหมดแล้ว”
“ดีแล้ว” ซูจิ่นซีเอ่ยอย่างมีความสุข
“ทว่าผู้นำซูยังไม่ออกมา นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่? ”
“เขาจมอยู่ในดินแดนภาพมายา ออกไปไม่ได้” ท่ามกลางความว่างเปล่า มีเสียงของเซียนฉยงเซียวดังขึ้น “มีเวลาเพียงครึ่งก้านธูป หากภายในเวลาครึ่งก้านธูป เขายังออกมาไม่ได้ ดินแดนภาพมายาก็จะแตกสลายทันที”
“หมายความว่าพวกเขาจะแตกสลายเช่นเดียวกับดินแดนภาพมายา ไม่สามารถออกมาได้อีกหรือ? ” ซูจิ่นซีเอ่ยถาม
“ใช่! ”
“ไม่ ไม่ได้” แววตาของหลานเยวี่ยหลีเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ท่านเซียน ท่านให้ข้าเข้าไป ท่านเซียน ให้ข้าเข้าไปช่วยเขาออกมา”
ซูจิ่นซีก็กล่าวเช่นกันว่า “ข้าไปด้วย”
“ผู้ที่สามารถออกมาจากดินแดนมายาด่านที่สามได้ ไม่อาจเข้าไปในดินแดนภาพมายาได้อีก หากฝืนเข้าไปก็อาจไปทำลายกฎดั้งเดิมและเพิ่มความยากในการผ่านด่าน ยิ่งทำให้พวกเขาออกมาจากดินแดนภาพมายาได้ยากมากขึ้น”
หลานเยวี่ยหลีและซูจิ่นซีลังเลเล็กน้อย
ตงหลิงหวงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “แม่นางเยวี่ยหลี พระชายาโยวอ๋อง พวกท่านวางใจ โยวอ๋องและคุณชายอวี้เป็นคนดี ย่อมได้รับการช่วยเหลือจากสวรรค์ พวกเขาจะไม่เป็นอันใด”
จะไม่เป็นอันใดจริงๆ หรือ?
อย่างไรก็ตาม ในใจของซูจิ่นซีและหลานเยวี่ยหลีตื่นตระหนกเป็นพิเศษ
เวลาครึ่งก้านธูปผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น เยี่ยโยวเหยาก็จับกุมนักพรตจื่ออินออกมาจากดินแดนภาพมายาทั้งข้างกายยังมีเสือดำของนักพรตจื่ออินตามมาด้วย
หลานเยวี่ยหลีเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ นางหวาดกลัวเยี่ยโยวเหยามาตลอด แต่กลับกล้าเอ่ยปากถามเยี่ยโยวเหยาว่า “โยวอ๋อง ท่านพบผู้นำซูหรือไม่? ”
“ซูอวี้? ” เยี่ยโยวเหยาเหลือบมองไปรอบๆ “เขายังไม่ออกมาหรือ? ”
เยี่ยโยวเหยาถามเช่นนี้ แสดงว่าเขาไม่เห็น
ทำอย่างไรดี?
ทำอย่างไรดี?
ทำอย่างไรดี?
ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับเขาใช่หรือไม่?
ทุกคนอดเป็นกังวลเล็กน้อยไม่ได้ โดยเฉพาะหลานเยวี่ยหลี สองมือของนางกำแน่น ฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อ
เยี่ยโยวเหยาเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของซูจิ่นซี จึงใช้เชือกเทวะมัดนักพรตจื่ออินกับเสือดำแล้วส่งให้ตงหลิงหวงเอาเข้าไปในแหวนเก้ามังกร จากนั้นจึงมาอยู่ข้างกายซูจิ่นซีและค่อยๆ รวบนางเข้าสู่อ้อมแขน
“ทำให้ชายาที่รักเป็นกังวลแทนข้าแล้ว”
ซูจิ่นซีกอดเยี่ยโยวเหยากลับโดยไม่พูดอันใด
รออยู่ชั่วครู่ก็ยังไม่เห็นซูอวี้ออกมา เวลาก็ใกล้จะหมดแล้ว
หลานเยวี่ยหลีรอไม่ไหวอีกต่อไป จึงขอร้องเซียนฉยงเซียว “ท่านเซียน ได้โปรดให้ข้าเข้าไปเถิด ให้ข้าไปพาเขาออกมา”
“เวลาเหลือไม่มากแล้ว” เซียนฉยงเซียวกล่าว “เมื่อหมดเวลา แม้เขาไม่ออกมา ผู้เสียสละก็มีเพียงหนึ่งคน ทว่าหากเจ้าเข้าไปก็จะเป็นสองคน”
“ข้าไม่กลัว! ” ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเซียนฉยงเซียว หลานเยวี่ยหลีก็พูดอย่างแน่วแน่ว่า “หากต้องตาย ข้าก็จะตายกับเขา” ขณะที่พูด แววตาของหลานเยวี่ยหลียิ่งปรากฏความมุ่งมั่นที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
“แม่นางเยวี่ยหลี อย่าหุนหันพลันแล่น ไม่มีผู้ใดรู้ว่าจะเกิดอันใดขึ้นจนถึงวินาทีสุดท้าย” ตงหลิงหวงกล่าว “ผู้นำซูจะต้องออกมาได้ก่อนด่านปิดแน่นอน”
“ถ้าเขาออกมาไม่ได้เล่า? ” หลานเยวี่ยหลียกยิ้มมุมปากบางเบา “ข้าไม่กลัวอันใดทั้งนั้น นับประสาอันใดกับความตาย? ถ้าข้าเข้าไปและเขาออกมา ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี แม้ข้าจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ และติดอยู่ในดินแดนภาพมายา ข้าก็ไม่เสียใจภายหลัง”
หลังจากเข้าสู่ด่านที่สามจึงได้เห็นดินแดนภาพมายาของหลานเยวี่ยหลีและซูอวี้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนภาพมายา พวกเขาเห็นมันชัดเจนและล่วงรู้ความคิดที่หลานเยวี่ยหลีมีต่อซูอวี้
ดังนั้นการเกลี้ยกล่อมหลานเยวี่ยหลีจึงไร้ผล
“เซียนฉยงเซียว ท่านปล่อยให้ข้าเข้าไปเถิด! ” หลานเยวี่ยหลีอ้อนวอน
“ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะปล่อยเจ้าเข้าไป ทว่าเจ้าต้องเตรียมตัวให้ดี เมื่อหมดเวลาแล้วเจ้ายังไม่ออกมา ด่านที่สามนี้จะถูกปิด และเจ้าจะออกมาไม่ได้อีกตลอดไป”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
“ข้าจะไปกับเจ้า” ซูจิ่นซีกล่าว
หลานเยวี่ยหลีหันหลังมามองซูจิ่นซีด้วยความซาบซึ้ง “พระชายาโยวอ๋อง ข้าเข้าใจความคิดของท่าน ทว่าท่านกำลังตั้งครรภ์ การไปครั้งนี้อาจได้แค่สองคน หากเป็นเมื่อก่อนข้าคงรบกวนท่านแน่นอน ทว่าครั้งนี้ พวกท่านอย่าห้ามข้าเลย”
“พระชายาไม่สะดวก ข้าไปกับเจ้าเอง” ตงหลิงหวงกล่าว
อู๋จุนก็เอ่ยตาม “ข้าไปด้วย”
“ทุกคนไม่ต้องไป ข้าไปเอง” หลานเยวี่ยหลีหนักแน่นยิ่งนัก นางมองทุกคนอย่างซาบซึ้งใจ ในแววตายังมีความอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย
ทุกคนที่มองต่างแสดงสีหน้าเศร้าใจ
พวกเขาเข้าใจดีว่าหลานเยวี่ยหลีไม่ต้องการให้ทุกคนเสี่ยงอันตราย หากทุกคนตกอยู่ในอันตรายเพราะนาง นางย่อมไม่สบายใจอย่างแน่นอน
“เซียนฉยงเซียว เริ่มกันเถิด! ” หลานเยวี่ยหลีพูดกับเซียนฉยงเซียว
เซียนฉยงเซียวร่ายคาถาเพื่อส่งหลานเยวี่ยหลีเข้าสู่ดินแดนภาพมายา ทว่าไม่มีทางคาดคิดได้เลยว่าขณะที่ดินแดนภาพมายากำลังเปิด เยี่ยโยวเหยาและอู๋จุนที่อยู่ด้านหลังก็พร้อมใจกันดึงหลานเยวี่ยหลีออกมา จากนั้น… ทั้งสองก็เข้าสู่ดินแดนภาพมายา
“เยี่ยโยวเหยา… ” ซูจิ่นซีพลันตกใจ
“ถังเป่าอวี้… ” ถังเสวี่ยก็ตกใจกลัวมากเช่นกัน
คนที่เหลือต่างตะลึงงันอยู่กับที่
เวลานี้ ห่างจากเวลาที่ด่านสามจะปิดไม่มากแล้ว
ความกังวลในแต่ละนาที แต่ละวินาทีที่ผ่านไป สำหรับทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนเป็นความวิตกกังวล
ซูจิ่นซีและถังเสวี่ยไม่กล้าจินตนาการว่าหากพวกเขาไม่ออกมา ตนเองควรจะทำอย่างไร ชีวิตที่เหลือจะทำอย่างไร เวลาเพียงครู่เดียวราวกับผ่านไปนานหลายปี ใบหน้าของซูจิ่นซีดูชราลงมาก
หลานเยวี่ยหลีคุกเข่าลงกับพื้น มือทั้งสองประสานกันและอธิษฐานด้วยใจจริง น้ำตาไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้
ตงหลิงหวงอยากปลอบใจพวกเขาทั้งสาม ทว่าไม่รู้ควรพูดอันใด จึงทำได้เพียงช่วยอธิษฐานไปด้วยกันกับหลานเยวี่ยหลี
สวรรค์โปรดคุ้มครองให้เยี่ยโยวเหยา อู๋จุน และซูอวี้กลับมาอย่างปลอดภัย
น่าเสียดาย เมื่อด่านที่สามกำลังจะปิดลง สุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้ออกมาจากดินแดนภาพมายา