สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 35 ตอนที่ 1023 อดทนไว้! อดทนไว้!
ครู่เดียว ชิงอวิ๋นจื่อก็พาคนจำนวนมากมาปรากฏตัวเบื้องหน้า
ตงหลิงหวงและมู่หรงฉีแสดงท่าทางเย็นชา ก่อนจะเดินออกไปขวางพวกเขาหน้าประตู
“ชิงอวิ๋นจื่อ เจ้าคิดจะทำอันใด? เหตุใดไปแล้วถึงกลับมาอีก? ”
ชิงอวิ๋นจื่อแย้มยิ้ม ‘อ่อนโยน’ บนใบหน้า ทว่าอากัปกิริยาและสายตาของเขากลับไม่ทำให้นึกถึง ‘ความเป็นมิตร’ แม้แต่น้อย
“รัชทายาทตงหลิงหวง ฉีอ๋อง ไม่สิ ข้าควรเรียกท่านว่าองค์รัชทายาทมู่หรงแห่งแคว้นหนานหลี วันนี้เป็นเรื่องของสำนักกระบี่คุนหลุน ไม่เกี่ยวอันใดกับท่านสองคน ชิงอวิ๋นจื่อขอเตือนท่านทั้งสอง อย่าเข้ามายุ่งเรื่องภายในเลย หากทั้งสองท่านยังยืนกรานที่จะขัดขวาง แคว้นตงเฉินและแคว้นหนานหลีก็จะเป็นศัตรูกับสำนักกระบี่คุนหลุน”
นี่คือการเตือนให้ตงหลิงหวงและมู่หรงฉีอย่าเข้ามายุ่งเรื่องภายใน
ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยา พวกเขาไม่อาจเพิกเฉยได้
ตงหลิงหวงสีหน้าเคร่งขรึม “หากเราสองคนต้องยุ่งเกี่ยวด้วยเล่า? ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชิงอวิ๋นจื่อยังคงเหมือนเดิม “หากเป็นเช่นนั้นก็อย่าโทษที่ลูกน้องของข้าไร้ความปรานี” ขณะที่เขาพูด รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อยๆ หายไป ก่อนจะยกมือขึ้นและส่งเสียงออกไป “ศิษย์ทุกคน ล้อมไว้ อย่าให้ผู้ใดเล็ดลอดออกไปได้แม้แต่คนเดียว! ”
ในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนก็ถูกลูกศิษย์ของสำนักกระบี่คุนหลุนล้อมไว้อีกครั้ง
ชิงอวิ๋นจื่อจากไปและกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ไอสังหารดุดันกว่าครั้งแรก มู่หรงอวิ๋นไห่และจงซีจือที่ยืนอยู่ด้านหลังรู้สึกตกใจเล็กน้อย มู่หรงฉีและตงหลิงหวงที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดก็กังวลเล็กน้อยเช่นกัน
ดูเหมือนว่ามู่หรงฉีจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของมู่หรงอวิ๋นไห่และจงซีจือ เขาจึงปกป้องพวกเขาทั้งสองและแสดงท่าทางปลอบใจ
แววตาของชิงอวิ๋นจื่อหันไปทางห้องที่ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาพักอยู่ “ใครก็ได้ เตะประตูเข้าไป”
ทันทีที่เขาพูดจบ ศิษย์คนหนึ่งก็เดินไปที่ประตู
ตงหลิงหวงรีบเข้าไปขวางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ชิงอวิ๋นจื่อ เยี่ยโยวเหยาที่อยู่ด้านในคือผู้สืบทอดป้ายคำสั่งเจ้าสำนักกระบี่คุนหลุนของเจ้า เจ้าพาคนมามากมาย คิดจะทรยศหรือ? เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ? ”
เดิมที ตงหลิงหวงคิดว่าอาศัยป้ายคำสั่งเจ้าสำนักขู่ชิงอวิ๋นจื่อ ทว่านางไม่คาดคิดว่าชิงอวิ๋นจื่อจะยิ้มเยาะเย้ย “ซูจิ่นซีสมรู้ร่วมคิดกับคนของแคว้นไหวเจียง บุกเข้ามาทำร้ายสำนักกระบี่คุนหลุน สังหารศิษย์ในสำนักของข้าไปเป็นจำนวนมาก เยี่ยโยวเหยาในฐานะผู้สืบทอดเจ้าสำนัก ไม่เพียงไม่ทำตามกฎของสำนัก ทว่ายังเห็นแก่เรื่องส่วนตัวและปกป้องนางอีก ข้า ชิงอวิ๋นจื่อพาคนมาที่นี่เพื่อชิงป้ายคำสั่งเจ้าสำนักคืนมาจากเยี่ยโยวเหยา”
ชิงอวิ๋นจื่อพูดเสียงดังต่อหน้าทุกคน ทุกคนในเหตุการณ์ล้วนได้ยินอย่างชัดเจน
ตงหลิงหวงขมวดคิ้วแน่น
ก่อนหน้านี้นางคาดไว้ไม่ผิด เยี่ยโยวเหยาไม่สามารถขู่เสวียนเจิ้นจื่อได้ ชิงอวิ๋นจื่อกลับมาอีกครั้ง ทั้งยังก้าวร้าวดุดันกว่าครั้งก่อนมาก เห็นได้ชัดว่าถูกเสวียนเจิ้นจื่อยั่วยุมาแน่นอน
ชิงอวิ๋นจื่อรีบบุกเข้าไปยังหน้าห้องที่ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาอยู่ ตั้งใจจะเตะประตูเข้าไปด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าขณะที่เขาเดินไปถึงประตู ประตูกลับเปิดออกเสียงดัง ‘เอี๊ยด’
ชิงอวิ๋นจื่อตกตะลึงตัวแข็งทื่อ
เมื่อเห็นซูจิ่นซีมีสีหน้าโกรธเคือง นางค่อยๆ เดินออกมาจากภายในห้อง จากนั้นก็ปิดประตูเสียงดัง ‘ปัง’
ทุกคนอยากดูว่าเกิดอันใดขึ้นภายในห้อง ทว่าพวกเขาไม่เห็นสิ่งใดแม้แต่น้อย
ซูจิ่นซีไม่ได้พูดอันใด เพียงจ้องใบหน้าของชิงอวิ๋นจื่อ เมื่อเห็นชิงอวิ๋นจื่อแสดงท่าทางตกใจกลัวเล็กน้อย สันหลังเย็นวาบ ทว่าเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบกลับก่อตัวบนหน้าผากของเขา
เดิมที ลูกศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุนที่เหลือสามารถจ้องหน้าซูจิ่นซีได้โดยตรง ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ขณะที่มองนานขึ้นทุกคนต่างก้มหน้าไม่กล้าสบสายตานาง
“แย่แล้ว! ” ลักษณะท่าทางดุดันเย็นชาของซูจิ่นซี เหตุใดถึงเหมือนเยี่ยโยวเหยา? สมแล้วที่เป็นสามีภรรยา
ทว่าในไม่ช้า ภายในใจของชิงอวิ๋นจื่อก็ตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งจากคำพูดเตือนของเสวียนเจิ้นจื่อก่อนหน้านี้ ซูจิ่นซีได้รับบาดเจ็บสาหัส สถานการณ์ไม่ได้ดีไปกว่าเยี่ยโยวเหยามากนัก อีกทั้งนางกำลังตั้งครรภ์ นี่คือโอกาสที่ดีแล้ว หากใช้มันเป็นประโยชน์ก็สามารถทำสำเร็จได้โดยง่าย
เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ภายในใจของชิงอวิ๋นจื่อก็ไม่เกิดความหวาดกลัวอีกต่อไป เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองตรงไปที่ซูจิ่นซี
เขากุมมือคำนับซูจิ่นซีและพูดว่า “พี่สะใภ้ ต้องขออภัยด้วย! ลูกศิษย์รายงานว่า ท่านสมรู้ร่วมคิดกับคนจากแคว้นไหวเจียง ก่อกวนสำนักกระบี่คุนหลุน ลูกศิษย์ในสำนักเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเรื่องกระบี่ยวี่หลงที่สูญหายอีก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก พวกเราต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ขอให้พี่สะใภ้ร่วมมือด้วย”
เขาพูดพลางยกมือขึ้น ลูกศิษย์สี่คนก็ก้าวไปข้างหน้าและล้อมซูจิ่นซีทันที
ซูจิ่นซีแอบสังเกตจังหวะการเดินของพวกเขาทั้งสี่ จังหวะก้าวเดินที่มั่นคงหนักแน่น มองแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าฝีมือไม่ด้อยเป็นแน่ ต้องเป็นศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุนระดับสูงแน่นอน
เดิมที การจัดการลูกศิษย์สี่คนนี้ไม่มีปัญหาใหญ่ ทว่าตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสและสถานการณ์ย่ำแย่อย่างมาก
ก่อนหน้านี้ นางใช้เข็มเงินผนึกพลังภายในไว้และดึงเอาแก่นพลังภายในร่างกายออกมาใช้งานไปมากแล้ว ตอนนี้นางยังสูญเสียพลังภายในเพื่อถอนพิษให้เยี่ยโยวเหยาอีก ทำให้ร่างกายของนางเป็นเหมือนถังที่เต็มไปด้วยรูพรุน เพราะดึงพลังทั้งหมดในร่างกายของนางออกไปเกือบหมดแล้ว
สาเหตุที่ยังสามารถยืนหยัดอยู่ตรงนี้ได้ อาศัยเพียงจิตใจล้วนๆ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางสามารถยืนหยัดได้อีกนานเพียงใด ก่อนที่นางจะล้มลง
ทว่านางไม่สามารถล้มลงได้
เพราะด้านหลังของนางยังมีเยี่ยโยวเหยา และบุตรของพวกเขาในครรภ์ของนาง
ทารกในครรภ์…
นิ้วมือของซูจิ่นซีสั่นเทาเล็กน้อย นางต้องการสัมผัสเด็กในท้องของนางอีกครั้ง ทว่าเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจของชิงอวิ๋นจื่อและคนอื่นๆ จนกลายเป็นเครื่องต่อรองของพวกเขา ซูจิ่นซีจึงไม่ได้ทำอย่างนั้น
“เหอะ สมรู้ร่วมคิดกับคนแคว้นไหวเจียงหรือ? ”
ซูจิ่นซีคิ้วกระตุกเล็กน้อย น้ำเสียงทอดยาว
ขณะที่ชิงอวิ๋นจื่อเผชิญหน้ากับซูจิ่นซี เขายังมีความเคารพอยู่ในที
“มีคนเห็นกับตาของเขาว่า คนที่โจมตีสำนักกระบี่คุนหลุน พร้อมกับคนจากแคว้นไหวเจียงคือ คุณชายจิ่วจากสำนักแพทย์เทียนอี ท่านคือศิษย์สายตรงของคุณชายจิ่ว ท่านย่อมเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุดมิใช่หรือ?”
หากคิดจะปรักปรำ ย่อมยากที่จะแก้ต่างได้
ซูจิ่นซีเหลือบมองชิงอวิ๋นจื่อด้วยสายตาเย็นชา “เหอะ หากคุณชายจิ่วปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าเจ้าเวลานี้ ข้าเกรงว่าเจ้าคงยอมตัดลิ้นตนเองมากกว่าที่จะกล้ากล่าววาจาออกมาเยี่ยงนี้”
ชิงอวิ๋นจื่อสำลักในลำคอ ไม่คิดจะเกรงใจซูจิ่นซีอีกต่อไปแล้ว เขากระชากเสียงเย็นชาและกล่าวว่า “พี่สะใภ้ เชิญ! ” จากนั้นจึงโบกมือให้ลูกศิษย์ข้างกายเขาลงมือทันที
ตงหลิงหวงและมู่หรงฉีไม่มีทางนิ่งดูดาย พวกเขาเหาะขึ้น และกระโจนเข้าไปจัดการกับลูกศิษย์จำนวนหนึ่งที่กำลังลงมือกับซูจิ่นซี
ซูจิ่นซีรู้สึกเพียงว่าดวงตาของนางพร่ามัว สิ่งที่อยู่ตรงหน้านางก็เลือนราง ร่างกายของนางเบาหวิวเล็กน้อย ทว่าในใจของนางพร่ำบอกกับตนเองตลอดเวลา ‘อดทนเอาไว้! อดทนเอาไว้! ’
เพื่อเยี่ยโยวเหยาและเพื่อทารกในครรภ์
นางไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป มือของซูจิ่นซีค่อยๆ เลื่อนไปสัมผัสหน้าท้องของตนเอง
ลูกจ๋า เป็นมารดาเองที่ผิดต่อเจ้า!
มารดาไม่มีความสามารถให้กำเนิดเจ้าออกมาดูโลก!
เป็นมารดา… ที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกของเราเอง!
นางยืนอยู่ที่เดิม ไม่กล้าขยับแม้ครึ่งก้าว เพราะกลัวว่าหากขยับ นางจะล้มลงกับพื้น
อย่างไรก็ตาม แม้นางจะเข้มแข็งและยืนหยัดมากเพียงใด ร่างกายของนางก็ไม่ได้ทำจากเหล็กกล้า ขณะที่สติของนางค่อยๆ เลือนรางและกลายเป็นภาพสีดำ ยามที่นางกำลังจะล้มลง จู่ๆ ก็มีมือมาคว้าแขนของนางจากด้านหลัง
ในเวลาเดียวกัน สายตาของนางที่กำลังพร่ามัว ชื่อหง ผู้นำแห่งผาอวิ๋นเสีย และเฉาเซิง ผู้นำแห่งผาเฉาหยางก็พากลุ่มลูกศิษย์เข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว