สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 35 ตอนที่ 1024 มอบป้ายคำสั่งเจ้าสำนัก
เสียงที่คุ้นเคยและอ่อนโยนดังเข้ามาในหู “พระชายา ระวังด้วย! ”
อวิ๋นจิ่นเข้ามาประคองร่างของซูจิ่นซีด้วยท่าทีเคารพและสุภาพ ตระหนักถึงความพอดี ขณะเดียวกัน เขาก็จับชีพจรที่ข้อมือของซูจิ่นซี
แม้อวิ๋นจิ่นจะเป็นคนสงบนิ่ง ทว่าใบหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าเขาได้สัมผัสเตาเหล็กร้อน เขายกนิ้วมือออกจากข้อมือของซูจิ่นซีด้วยใบหน้าประหลาดใจ ทว่าเพียงครู่เดียวก็กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
ซูจิ่นซีพิงร่างของอวิ๋นจิ่น สติของนางพร่ามัวเล็กน้อย
“อวิ๋นจิ่น ลูก ลูกของข้า… ปกป้องไว้ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่? ”
แม้หมอจะรักษาตนเองไม่ได้ ทว่าซูจิ่นซีตระหนักรู้ถึงสภาพร่างกายของนางเป็นอย่างดี
“พระชายาอย่าได้กังวล มีกระหม่อมอยู่ ทารกต้องไม่เป็นอันใด เพียงพระวรกายของพระองค์… ”
ซูจิ่นซีขัดจังหวะอวิ๋นจิ่นก่อนที่เขาจะพูดจบ “อวิ๋นจิ่น ข้าเชื่อเจ้า! ”
หากนางไม่สามารถอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้ นางคิดว่า นางสามารถคลอดทารกคนนี้ให้กับเยี่ยโยวเหยา อย่างน้อยช่วงเวลาที่เหลืออยู่ นางสามารถพิสูจน์ได้ว่านางเคยอยู่ในชีวิตของเขา
สีหน้าของอวิ๋นจิ่นไม่เคยจริงจังเช่นนี้มาก่อน เขารีบหยิบยาเม็ดสีขาวขุ่นออกมาและใส่เข้าไปในปากของซูจิ่นซี
“พระชายาอย่าเพิ่งพูดอันใด! ”
หลังพูดจบ เขาก็เล็งฝ่ามือไปที่หลังของซูจิ่นซี ส่งถ่ายพลังภายในเข้าสู่ร่างกายของซูจิ่นซีอย่างต่อเนื่อง
ชื่อหงผู้นำผาแห่งอวิ๋นเสียและผู้นำแห่งผาเฉาหยางเข้าไปภายในห้อง เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า พวกเขาก็โกรธทันที
เฉาเซิงกระชากเสียงดุดันว่า “ชิงอวิ๋นจื่อ เจ้าคิดจะทรยศหรือ? เจ้าไม่รู้หรือ? ตอนนี้เจ้าสำนักกำลังอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติและกำลังพักฟื้นอยู่ด้านใน หากรบกวนเขา เจ้ารับผิดชอบเรื่องนี้ไหวหรือ? ”
หากเป็นเวลาปกติ เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉาเซิงและชื่อหง ท่านผู้นำทั้งสอง ชิงอวิ๋นจื่อย่อมให้ความเคารพ ทว่าตอนนี้เขาไม่มีท่าทีเกรงกลัวแม้แต่น้อย
“อาจารย์อาเฉาเซิง เกรงว่าท่านจะเข้าใจผิดแล้ว เจ้าสำนักนักพรตอวี้หยาง เวลานี้ได้ละสังขารไปแล้ว และคนที่อยู่ในห้องตอนนี้เป็นเพียงศิษย์พี่เยี่ยแห่งตำหนักฉางเซิงเท่านั้น”
เฉาเซิงสีหน้าเคร่งขรึม “บังอาจ ก่อนที่อดีตเจ้าสำนักจะละสังขาร เขาได้มอบป้ายคำสั่งเจ้าสำนักให้กับโยวเหยาด้วยตนเอง เวลานี้โยวเหยาเป็นเจ้าสำนักกระบี่คุนหลุน เจ้าไม่เรียกเขาว่าท่านเจ้าสำนักก็พอจะอภัยให้ได้ ทว่ายังพาคนจำนวนมากมาที่นี่ อาศัยจังหวะที่ท่านเจ้าสำนักได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแผนการอันใด? ชิงอวิ๋นจื่อ เจ้าคิดจะทรยศหรือ? ”
ชิงอวิ๋นจื่อหัวเราะเสียงเย็นชา “อาจารย์อาเฉาเซิง ข้าคิดว่าท่านชราภาพจนเลอะเลือนไปแล้วกระมัง? ”
เฉาเซิงไม่มีทางคาดคิดได้เลย ชิงอวิ๋นจื่อในเวลานี้แสดงท่าทีโอหังได้ถึงเพียงนี้ เขาตกตะลึงกับคำพูดของชิงอวิ๋นจื่อไปชั่วขณะหนึ่ง
ชิงอวิ๋นจื่อพูดเสริมอีกว่า “เป็นความจริงที่อดีตเจ้าสำนักมอบป้ายคำสั่งเจ้าสำนักให้เยี่ยโยวเหยาก่อนที่จะละสังขาร ทว่านั่นเป็นเพราะอดีตเจ้าสำนักรู้จักคนผิด เยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีร่วมมือกับจิ่วหรง เจ้าสำนักแพทย์เทียนอี สมรู้ร่วมคิดกับคนของแคว้นไหวเจียงบุกเข้ามาโจมตีเขาคุนหลุน ทำลายสำนักของเราและฆ่าศิษย์ร่วมสำนักของพวกเรา เรื่องนี้ศิษย์น้องของข้าเห็นกับตาพวกเขาเอง”
“พูดจาเหลวไหล! ” เฉาเซิงและชื่อหงพูดพร้อมกัน “โยวเหยาไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน! ”
ชิงอวิ๋นจื่อหยุดและพูดว่า “ข้าไม่เชื่อว่าศิษย์พี่เยี่ยจะเป็นคนเช่นนั้น และข้าก็ไม่เชื่อว่าคุณชายจิ่วจะทำเช่นนั้น ทว่านี่คือสิ่งที่ลูกศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุนเห็นกับตาตนเอง ข้าต้องเชื่อ! ” “เหอะ! ” ชื่อหงกระชากเสียงเย็นชา “คุณชายจิ่วเป็นคนไร้มลทินและสูงศักดิ์ดั่งเทพเซียน ไม่มีทางไปสุงสิงกับคนแคว้นไหวเจียง และด้วยอุปนิสัยของโยวเหยาแล้ว ไม่มีวันอยู่ร่วมโลกกับคนแคว้นไหวเจียงแน่นอน ชิงอวิ๋นจื่อ เจ้าอย่าใส่ร้ายพูดจาเหลวไหล”
ชิงอวิ๋นจื่อไม่มีท่าทีโกรธเคือง ทว่าตอบกลับด้วยความอดทนว่า “อาจารย์อาชื่อหง สิ่งที่ท่านพูดคือคุณชายจิ่วที่คนในใต้หล้าเห็นเท่านั้น ตัวตนที่แท้จริงของคุณชายจิ่วมีลักษณะอย่างไร อุปนิสัยเป็นอย่างไร ท่านเคยเห็นหรือ? อีกทั้งตามที่ท่านอาจารย์อาพูด นั่นคือเยี่ยโยวเหยาเมื่อหลายปีก่อน เยี่ยโยวเหยาในวันนี้คือรัชทายาทแห่งจักรวรรดิต้าฉินในอดีต โยวอ๋องแห่งแคว้นจงหนิงในเวลานี้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ท่านอย่าลืมว่า คนที่ยุ่งเกี่ยวเรื่องอำนาจหามีความดีไม่ ใครจะรู้ว่าเขากำลังคิดทำการสิ่งใดอยู่”
ชิงอวิ๋นจื่อวาจาเฉียบคม ไม่ให้โอกาสชื่อหงโต้เถียงแม้แต่น้อย ชื่อหงอึกอักเล็กน้อยและกระชากเสียงเย็นชา “ไม่ว่าอย่างไร ข้าไม่เคยเชื่อว่าโยวเหยาจะทำเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ คุณชายจิ่ว เจ้าสำนักแพทย์เทียนอียิ่งเป็นไปไม่ได้! ”
“อาจารย์อาชื่อหง ข้าก็ไม่เชื่อเช่นเดียวกับท่าน แม้แต่ศิษย์ทุกคนก็ไม่เชื่อ นั่นคือศิษย์พี่เยี่ยที่พวกเราภูมิใจมากที่สุด! ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง เขาจะทรยศต่อสำนักของอาจารย์และสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลภายนอกเพื่อโจมตีสำนักของอาจารย์ ทว่าหลักฐานแน่นหนาดั่งภูผา ต่อให้ข้าพูดโกหก ทว่าศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็เห็นกับตาตนเอง ศิษย์ทุกคนคงไม่ปรักปรำศิษย์พี่เยี่ยในเวลาพร้อมกันได้กระมัง? ”
ขณะที่พูด เขาก็เหลือบมองเหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ข้างหลัง ทันใดนั้น ทุกคนเริ่มสับสนอลหม่าน ต่างคนต่างพูด วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ไปต่างๆ นานา
“รายงานอาจารย์อาทั้งสอง ตอนนั้นศิษย์เห็นกับตาตนเอง ชายในชุดขาวดั่งเทพเซียนเข้ามาในประตูภูเขาคุนหลุนของพวกเราพร้อมกับคนของแคว้นไหวเจียง”
“ศิษย์ก็เห็นเช่นกัน ชายชุดขาวก็คือคุณชายจิ่วแห่งสำนักแพทย์เทียนอี แม้ศิษย์จะไม่เคยเห็นหน้าที่แท้จริงของคุณชายจิ่ว ทว่าศิษย์ชื่นชมคุณชายจิ่วมาตลอด เก็บภาพวาดของเขาไว้มากมาย วันนั้นเขากับคนของแคว้นไหวเจียงบุกเข้ามาสังหารคนของสำนักกระบี่คุนหลุน เป็นคุณชายจิ่วอย่างแน่นอน เหอะ ข้าชื่นชมเขามาหลายปีแล้ว ไม่ผิดแน่นอน”
“วันนั้นศิษย์อยู่ในหอพระสูตรเจี๋ยลวี่ คุณชายจิ่วบุกเข้ามาในหอพระสูตรเจี๋ยลวี่ จากนั้นก็ไปที่ตำหนักฉางเซิง” ลูกศิษย์คนหนึ่งพูดพลางมองไปทางซูจิ่นซี “วันนั้นศิษย์พี่สะใภ้ซูก็ตามชายชุดขาวไปจนถึงตำหนักฉางเซิง ข้าเห็นกับตาตนเองว่าชายชุดขาวทำร้ายนางจนได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นนางคงเห็นได้ชัดเจนว่าชายชุดขาวเป็นใครกันแน่ นางควรพูดความจริงออกมา! ไม่เช่นนั้น นางก็คงเป็นพวกเดียวกับชายชุดขาว! ”
โดยไม่รอให้ซูจิ่นซีพูด ชิงอวิ๋นจื่อก็พูดเยาะเย้ยว่า “ศิษย์น้อง อย่าโง่ไปหน่อยเลย จิ่วหรงเป็นอาจารย์ของซูจิ่นซี พวกเขาย่อมเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว! ”
“ทว่า… ศิษย์พี่สะใภ้ซูได้รับบาดเจ็บจากฝีมือชายชุดขาวจริงๆ ”
“เจ้าโง่ มันเป็นแผนแสร้งเจ็บตัว เป็นการแสดงให้ลูกศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุนที่อยู่ในเวลานั้นได้เห็นก็เท่านั้น” ขณะที่เขาพูด ดวงตาของเขาค่อยหรี่ลงและมองไปที่ซูจิ่นซี “ซูจิ่นซี เจ้าช่างมีแผนร้ายมากมายทีเดียว! ”
เหอะ เหอะ…
แผนร้ายบ้าบออันใด ทำร้ายตนเองจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรือ???
ถ้าไม่ใช่เพราะซูจิ่นซีในตอนนี้บาดเจ็บเหลือจะทานทน นางคงสังหารชิงอวิ๋นจื่อด้วยฝ่ามือเดียวไปนานแล้ว
ทว่านางรู้ว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่เวลาแสดงความเกรี้ยวกราด นางต้องวางแผนระยะยาว ควรจัดการอย่างเหมาะสม
ขณะที่เฉาเซิงและชื่อหงเผชิญหน้ากับชิงอวิ๋นจื่อ อวิ๋นจิ่นก็ถ่ายเทพลังภายในเข้าไปในร่างกายของซูจิ่นซีมากพอสมควรแล้ว พละกำลังของซูจิ่นซีฟื้นขึ้นมามากแล้ว นางพยายามหยัดร่างกายยืนขึ้นอย่าง ‘แข็งแกร่ง’ ต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง
ทว่านางเพียงยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ว่าคำพูดหยาบคายของชิงอวิ๋นจื่อและลูกศิษย์ของเขาจะปรักปรำให้ร้ายเยี่ยโยวเหยาและจิ่วหรงมากเพียงใด นางก็ไม่โต้แย้ง เพียงฟังและสังเกตท่าทีอยู่เงียบๆ
“เช่นนี้ก็ชัดเจนแล้วมิใช่หรือ ซูจิ่นซีกับจิ่วหรงสมรู้ร่วมคิดกับแคว้นไหวเจียง ลอบโจมตีสำนักกระบี่คุนหลุนของเรา ซูจิ่นซีเป็นพระชายาของศิษย์พี่เยี่ย ศิษย์พี่เยี่ยของเราคงไม่ปกป้องนางโดยไร้เหตุผลกระมัง” ศิษย์คนหนึ่งพูดขึ้น
“ปกป้อง? ศิษย์น้องทึ่ม เจ้าช่างมีความคิดไร้เดียงสา เจ้าคิดเช่นนี้ได้อย่างไร” ชิงอวิ๋นจื่อเยาะเย้ย “ลองคิดดู ผู้ใดได้รับผลประโยชน์มากที่สุด หากครั้งนี้สำนักกระบี่คุนหลุนของเราประสบปัญหาภายในและภายนอก? เหอะ เหอะ ยังต้องให้ข้าเจาะจงตัวบุคคลไปมากกว่านี้อีกหรือ? ”
ดูเหมือนลูกศิษย์จะคิดบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป เป็นสายตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะชี้ไปที่ชิงอวิ๋นจื่อ “เจ้าหมายถึง…? ”
ชิงอวิ๋นจื่อยิ้มเยาะเย็นชา “ข้าไม่ได้พูดอันใดเลย! ”
ศิษย์คนนั้นเหลือบมองไปยังห้องที่เยี่ยโยวเหยาอยู่ “เหตุการณ์วุ่นวายภายในครั้งนี้ ทั้งยังศึกภายนอกของสำนักกระบี่คุนหลุนเรา ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ศิษย์พี่เยี่ย เจ้าสำนักอวี้หยางละสังขาร เขาก็กลายเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป แผนการร้ายกาจยิ่งนัก พิษสงรอบตัว อุบายลึกซึ้ง ศิษย์พี่เยี่ยเราเป็นเช่นนี้ จะคู่ควรกับการเป็นเจ้าสำนักกระบี่คุนหลุนของเราได้อย่างไร? ”
ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของลูกศิษย์คนนั้น เหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ข้างหลังเขาต่างร้อนใจเหมือนน้ำหยดลงไปในกระทะน้ำมัน และเดือดพล่านทันที
“ศิษย์พี่เยี่ย เขาไม่คู่ควร! ”
“ใช่ เขาไม่คู่ควรเป็นศิษย์พี่ของข้า อย่าว่าแต่เจ้าสำนักของเรา! ”
“ใช่ เขาไม่คู่ควรเป็นเจ้าสำนักของเรา คืนป้ายคำสั่งเจ้าสำนักมา! ”
“คืนป้ายคำสั่งเจ้าสำนัก! ”
“คืนป้ายคำสั่งเจ้าสำนัก! ”
“คืนป้ายคำสั่งเจ้าสำนัก! “