สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 35 ตอนที่ 1031 ความดื้อรั้นของอวิ๋นจิ่น
ซูจิ่นซีคิดถึงฝูงหมาป่าที่อวิ๋นจิ่นขู่ให้หนีไปก่อนหน้านี้ บางทีเขาอาจควบคุมฝูงหมาป่าบนเขาคุนหลุนฝูงนั้นได้
เป่ยถังเฮ่อลุงหลานเข้ามาโจมตีสำนักกระบี่คุนหลุนอีกครั้ง เกรงว่าอาศัยเพียงศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุนคงจะไม่สามารถต้านทานไว้ได้แน่
หากควบคุมหมาป่าได้ ไม่เพียงบีบบังคับให้เป่ยถังเฮ่อและเป่ยถังเย่ถอยกลับไปเท่านั้น ยังปกป้องสำนักกระบี่คุนหลุนได้อีกด้วย นี่เป็นการยิงเกาทัณฑ์นัดเดียวได้นกสองตัว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูจิ่นซีจึงมองไปที่อวิ๋นจิ่นที่ยืนอยู่ด้านข้างและกำลังจะบอกใบ้อันใดบางอย่าง กลับไม่คิดว่าจะมีเสียงขลุ่ยดังมาจากระยะไกล
ทว่าเสียงขลุ่ยนี้ไม่ใช่ของอวิ๋นจิ่น แต่เป็นนักดนตรีที่อยู่ข้างเป่ยถังเฮ่อ
ซูจิ่นซี อวิ๋นจิ่น และคนอื่นๆ ต่างชำเลืองมองหน้ากันและกัน
เป็นจริงดั่งคาด ไม่นานนัก เสียงหมาป่าหอนก็ดังมาจากระยะไกล
เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ และใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆ
เป่ยถังเฮ่อมองความคิดของซูจิ่นซีออก จึงเข้าควบคุมฝูงหมาป่าก่อน
นี่มันแสดงให้เห็นว่า?
ซูจิ่นซีไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
หมายความว่า ตั้งแต่พวกเขาขึ้นเขาคุนหลุน การเคลื่อนไหวทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของลุงหลานสกุลเป่ยถัง รวมถึงหมาป่าหิมะที่พวกเขาพบบนเทือกเขาคุนหลุนก่อนหน้านี้อีกด้วย
ขณะที่หมาป่าหิมะตัวแรกปรากฏขึ้นบนกำแพงด้านนอกเรือน ซูจิ่นซีพลันขมวดคิ้วแน่น
มันมีสีขาวเหมือนหิมะทั้งตัว ร่างเล็กกว่าหมาป่าทั่วไป ดวงตาสีฟ้าและแสดงออกถึงความดุร้ายเป็นพิเศษ ซูจิ่นซีรู้ได้ทันทีว่าตัวนี้คือจ่าฝูง
เมื่อเห็นซูจิ่นซีและอวิ๋นจิ่น เห็นได้ชัดว่ามันหวาดกลัวเล็กน้อย ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่ถอย มันยืนอยู่บนกำแพงอย่างมั่นคง จากนั้นหมาป่าหิมะ หนึ่งตัว สองตัว สามตัว สี่ตัว และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ปรากฏตัวต่อสายตาทุกคน
ลำพังแค่องครักษ์ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีของจวนเป่ยอี้อ๋องและลุงหลานสกุลเป่ยถัง ก็ทำให้ทุกคนในสำนักกระบี่คุนหลุนยากจะต่อต้านแล้ว ตอนนี้ยังมีฝูงหมาป่าเพิ่มเข้ามาอีก ไม่มีโอกาสชนะเลย
เมื่อลูกศิษย์หลายคนเห็นหมาป่าหิมะ ใบหน้าก็แสดงถึงความหวาดกลัว
เคราสีขาวราวกับหิมะของเสวียนชิงกระตุกเล็กน้อย เขาชี้นิ้วไปทางเป่ยถังเฮ่อและพูดว่า “เป่ยถังเฮ่อ เจ้ากำลังคิดจะทำอันใด? ”
“เฒ่าเสวียนชิง ข้าคิดจะทำอันใดต้องอธิบายอีกหรือ? ตอนที่ข้าออกมาจากสำนักกระบี่คุนหลุน ในปีนั้นข้าเคยพูดไว้แล้วว่า สักวันหนึ่ง ข้าจะต้องกลับมาทวงคืนของที่เป็นของข้าทั้งหมดอย่างสง่างาม”
เสวียนชิงกระชากเสียงเย็นชา “ก็แค่ศิษย์ทรยศที่ถูกขับออกจากสำนักเพราะฝ่าฝืนคำสั่ง เป่ยถังเฮ่อ เจ้าพยายามวางแผนเข้ามาบนสำนักกระบี่คุนหลุน อย่าลืมว่าเจ้ามีสถานะเช่นไร? แม้สกุลเป่ยถังจะมีสถานะสูงศักดิ์ในแคว้นเป่ยอี้ ทว่าสำหรับเขาคุนหลุนเราแล้วก็แค่มนุษย์ธรรมดา บนภูเขาแห่งนี้ ดินแดนแห่งนี้ มีส่วนไหนที่เป็นของเจ้าบ้าง เป่ยถังเฮ่อ เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงพูดจาโอหังถึงเพียงนี้! ”
ใบหน้าของเป่ยถังเฮ่อไม่มีความโกรธ น้ำเสียงบางเบา ยกยิ้มเย็นชา “คนที่กำลังจะตาย เฒ่าเสวียนชิง ข้ายอมให้เจ้าวาจาสามหาวอีกไม่กี่คำ จะทำอันใดได้ ทว่า… เฒ่าชราอย่างเจ้าวางท่าหยิ่งผยอง ข้าเห็นแล้วช่างหงุดหงิดใจจริงๆ ”
เขาพูดพลางเหาะขึ้นโจมตีมาที่เสวียนชิงทันที
สีหน้าของเสวียนชิงปรากฏความเคร่งขรึม เขาถอยกลับไปสองก้าว แม้จะหลบหลีกการโจมตีของเป่ยถังเฮ่อได้ ทว่าเป่ยถังเฮ่อยังโจมตีครั้งที่สองทันที ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด
อวิ๋นจิ่นกลัวว่าซูจิ่นซีซึ่งอยู่กลางเรือนจะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างเสวียนชิงกับเป่ยถังเฮ่อ เขาจึงรีบเข้ามาปกป้องนาง
สีหน้าของซูจิ่นซีแย่ลงเรื่อยๆ นางจะมีพละกำลังต่อสู้กับเป่ยถังเฮ่อและคนอื่นๆ ได้อย่างไร?
ขณะที่ปกป้องซูจิ่นซี อวิ๋นจิ่นบีบข้อมือตรวจชีพจรของซูจิ่นซี สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที
“พระชายา เป็นไปได้อย่างไร? ”
ร่างกายของซูจิ่นซีดูเหมือนจะวิกฤติมาก พลังภายในที่เขาส่งถ่ายเข้าไปในร่างกายของซูจิ่นซีก่อนหน้านี้ได้ไหลออกมาราวกับน้ำไหล ตอนนี้เหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้น
ซูจิ่นซีพยายามยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง นางแย้มยิ้มให้อวิ๋นจิ่นโดยไม่ส่งเสียงสักคำ
นิ้วของอวิ๋นจิ่นที่กำลังจับชีพจรที่ข้อมือของซูจิ่นซี พลันพลิกกลับมาเล็งไปที่ฝ่ามือของซูจิ่นซีและค่อยๆ ส่งถ่ายพลังภายในเข้าสู่ร่างกายของซูจิ่นซีอีกครั้ง
ทว่าซูจิ่นซีค่อยๆ ส่ายศีรษะและดึงฝ่ามือออก
“ไม่มีประโยชน์ อวิ๋นจิ่น อย่าเสียพลังภายในท่านไปเปล่าประโยชน์เลย”
อวิ๋นจิ่นขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเป็นกังวล เขาไม่ได้พูดอันใด เพียงจับฝ่ามือของซูจิ่นซีแน่นอีกครั้ง และส่งถ่ายพลังภายในต่อไป
ทว่าในไม่ช้า เขาก็พบว่า ไม่ว่าเขาจะส่งถ่ายพลังภายในเข้าไปมากเพียงใด ร่างกายของซูจิ่นซีก็ไม่สามารถเก็บกักพลังนั้นไว้ได้เลย มันรั่วไหลออกมาอย่างรวดเร็ว
เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นจิ่นแสดงสีหน้าเป็นกังวลและร้อนใจอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในเวลาเพียงครู่เดียว หน้าผากก็ปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ
ซูจิ่นซีลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก พลางเงยหน้ามองอวิ๋นจิ่น “ข้ากลัวว่า… ข้ากลัวว่าจะยืนหยัดอีกได้ไม่นานแล้ว”
“พระชายา ไม่ควรพูดคำพูดที่ท้อแท้เช่นนี้ มีกระหม่อมอยู่ กระหม่อมจะไม่ปล่อยให้พระชายาเกิดเรื่องอันใด”
ทว่าในเวลานี้ แม้อวิ๋นจิ่นเองยังไม่มีความมั่นใจเลย เขาทำได้เพียงส่งถ่ายพลังภายในเสวียนชี่เข้าสู่ร่างกายของซูจิ่นซีอีกครั้ง
เสวียนชิงกับเป่ยถังเฮ่อต่อสู้กันอย่างดุเดือด ระยะเวลาเพียงครู่เดียวก็ประมือไปแล้วสิบกว่ากระบวนท่า
ไม่รู้ว่าเป่ยถังเฮ่อเรียนรู้กระบวนท่าโจมตีที่ดุดันมาจากที่ใด ก่อนหน้านี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานกระบวนท่าของเสวียนชิงได้นานถึงเพียงนี้ ทว่าตอนนี้เขารับมือได้เป็นเวลานาน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าผลแพ้ชนะคงถูกตัดสินในไม่ช้านี้
ตงหลิงหวง มู่หรงฉี มู่หรงอวิ๋นไห่ จงซีจือ และคนอื่นๆ เห็นความผิดปกติของซูจิ่นซี พวกเขาจึงกังวลมาก ทว่าพวกเขากลัวที่จะดึงความสนใจจากคนสกุลเป่ยถัง พวกเขาจึงไม่เดินไปหาซูจิ่นซี
ซูจิ่นซีพยายามลืมตาด้วยความยากลำบาก นางมองไปที่อวิ๋นจิ่นด้วยดวงตาพร่ามัว
“อวิ๋นจิ่น… อย่าพยายามให้เปล่าประโยชน์เลย”
“…”
“สิ่งที่ทำให้ข้ากังวลมากที่สุดคือ… คือท่านอ๋อง”
นางพูดพลางไม่รู้ว่าคิดอันใดอยู่ในใจ ขนตายาวสั่นไหวสองครั้ง ละอองน้ำจางๆ ปรากฏรอบดวงตา
“หากข้าสามารถให้กำเนิดเด็กคนนี้ได้ และเขาได้อยู่กับท่านอ๋องไปตลอดชีวิต ข้าตายก็ไม่เสียดาย ทว่าข้า… ข้าคงไม่มีวาสนาเช่นนั้น… ”
ในที่สุด… หยาดน้ำตาของซูจิ่นซีก็ไหลออกมาจากหางตา
ฝ่ามือของอวิ๋นจิ่นยังคงถ่ายทอดพลังภายในเสวียนชี่ไปยังร่างกายของซูจิ่นซีอย่างต่อเนื่อง นางกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ ทว่าภายใต้ดวงตาแดงเรื่อกลับมีความไม่เต็มใจและความโกรธมากขึ้น
ทว่าซูจิ่นซีมองไปยังท่าทางของอวิ๋นจิ่นจนนางยิ้ม รอยยิ้มนั้นเบาบางและอบอุ่นเหมือนกับรอยยิ้มปกติของอวิ๋นจิ่นที่สงวนไว้สำหรับซูจิ่นซีเท่านั้น ทว่ามันเหมือนใบมีดคมกริบที่ค่อยๆ เชือดเฉือนหัวใจของอวิ๋นจิ่น
มือของอวิ๋นจิ่นที่จับมือซูจิ่นซีเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย หากมองให้ละเอียด แม้แต่กล้ามเนื้อบนแก้มของเขาก็สั่นเทาเช่นกัน
ไม่ได้ ไม่ได้…
เขารอมานานนับพันปี สูญเสียทุกอย่างไปมากมาย ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
เป็นไปได้อย่างไร?
เขาไม่ยอม
ขณะที่อวิ๋นจิ่นกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้ด้วยสีหน้ากังวล ทันใดนั้นก็เสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น เสวียนชิงถูกฝ่ามือของเป่ยถังเฮ่อกระแทกที่หน้าอกอย่างรุนแรง เขาล้มลงกับพื้นและอาเจียนออกมาเป็นเลือดทันที