สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 35 ตอนที่ 1034 โอ้ พระเจ้า นี่เป็นครั้งแรก!
หลานเยวี่ยหลีไม่ได้พูดสิ่งใด นางหันหลังกลับและค่อยๆ เดินลงบันได
อู๋จุนขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลมากขึ้น “เฮ้ หลานเยวี่ยหลี เจ้าหมายความว่าอย่างไร? แม่นางพิษน้อยเป็นอย่างไรกันแน่? ”
ถังเสวี่ยกังวลใจเช่นกัน “ใช่ เจ้าพูดสิ นางพ้นขีดอันตรายและยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? ”
มู่หรงฉีตรงไปขวางทางหลานเยวี่ยหลี “แม่นางเยวี่ยหลี โปรดช่วยบอกความจริง อาการของน้องจิ่นซีเป็นอย่างไรกันแน่? ”
หลานเยวี่ยหลียังคงไม่พูดสิ่งใด สตรีชุดขาวเดินมาข้างหน้า “รัชทายาทแห่งแคว้นหนานหลีไม่ต้องห่วง เซิ่งหนี่ว์ได้ใช้บัวหิมะปกป้องหัวใจของพระชายาโยวอ๋องแล้ว พระชายาโยวอ๋องปลอดภัยชั่วคราว แค่พยุงนางเข้าไปห้องด้านใน พักผ่อนอีกสักครู่ก็ฟื้นแล้ว”
คำพูดเหล่านี้ยิ่งทำให้อู๋จุนกังวลมากขึ้นไปอีก “ปลอดภัยชั่วขณะหนึ่ง หมายความว่าอย่างไร? ยังอันตรายอยู่ใช่หรือไม่? เจ้าเป็นเซิ่งหนี่ว์แห่งวิหารเทพซีหวังหมู่ เทพซีหวังหมู่สอนพลังเวทมนตร์เพื่อรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนไม่ใช่หรือ? เจ้ารีบรักษาแม่นางพิษน้อยเร็วเถิด! ”
มู่หรงฉีเหลือบมองใบหน้าของหลานเยวี่ยหลี แม้ใบหน้าธรรมดานั้นไม่ได้แสดงออกอันใดให้เห็น ทว่ามู่หรงฉียังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้งว่า “รีบประคองจิ่นซีเข้าไปในห้อง ”
จากนั้น อวิ๋นจิ่นและตงหลิงหวงจึงรีบประคองซูจิ่นซีเข้าไปในห้อง
เสวียนเจิ้นจื่อและคนอื่นๆ มีความตั้งใจที่จะขัดขวางพวกเขา ทว่าไม่มีผู้ใดกล้า
เมื่อพวกเขามาถึงประตู ซูอวี้ก็เปิดประตูและเห็นซูจิ่นซี สีหน้าของเขาดูประหลาดใจเช่นกัน “พี่จิ่นซีเป็นอันใดไปหรือ? ”
มู่หรงฉีมีท่าทางเคร่งขรึม “เข้าไปข้างในก่อน”
“ตกลง! ”
ทันทีที่เขาพูดจบ ซูอวี้ก็เหลือบมองไปทางลานบ้าน ก่อนจะตกตะลึง
อู๋จุนและคนอื่นๆ ช่วยพยุงซูจิ่นซีเข้าไปในห้องและวางนางลงบนเตียง ทว่าเมื่อเห็นซูจิ่นซีอยู่ในอาการสาหัส เขาก็กังวลเล็กน้อยและพูดเสียงดังว่า “เจ้ากำลังทำอันใด รีบมาดูอาการทางนี้”
ซูอวี้เพิ่งได้สติและรีบเดินไปทางซูจิ่นซี ทว่าเมื่อเขาจับชีพจรของซูจิ่นซี สีหน้าก็ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
“แม่นางพิษน้อยเป็นอย่างไรบ้าง? ” อู๋จุนถาม
ซูอวี้จับชีพจรและพูดว่า “แม้พี่จิ่นซีจะร่างกายอ่อนแอ ทว่าไม่ต้องกังวล ตอนนี้ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแล้ว มีคนรักษาอาการบาดเจ็บให้นางแล้วหรือ? ”
“หลานเยวี่ยหลีรักษานาง” ตงหลิงหวงกล่าว
ซูอวี้มองออกไปนอกหน้าต่างและนิ่งเงียบไม่พูดอันใด
ดวงตาของมู่หรงฉีมองไปยังเยี่ยโยวเหยาที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งอีกครั้ง “สถานการณ์ของโยวอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง? ”
สีหน้าของซูอวี้ดูงุนงงเล็กน้อย “พิษถูกขจัดออกไปแล้ว”
ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตงหลิงหวงพูดว่า “หมอหลวงอวิ๋น คุณชายอวี้ ในเมื่อโยวอ๋องและพระชายาไม่เป็นอันตรายแล้ว พวกท่านดูแลพวกเขา ข้าจะออกไปดูเหตุการณ์ด้านนอกก่อน”
แม้จะมีหลานเยวี่ยหลีควบคุมสถานการณ์ ทว่าตงหลิงหวงยังเป็นกังวลอยู่บ้าง
“ตกลง! ”
อู๋จุนกระโดดไปที่เตียงซูจิ่นซี “ใครจะไปก็ไป ข้าจะอยู่ดูแลแม่นางพิษน้อยที่นี่”
ถังเสวี่ยขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นท่าทางของอู๋จุน และพูดว่า “พี่จุนไม่ไป ข้าก็ไม่ไป”
ตงหลิงหวงพยักหน้า
ดังนั้น ตงหลิงหวง มู่หรงฉี และมู่หรงอวิ๋นไห่จึงออกไปนอกห้องอีกครั้ง
เป่ยถังเฮ่อและคนอื่นๆ ยังคุกเข่าอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าคนจากวิหารเทพซีหวังหมู่จะปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้ แม้จะแสดงอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้าง พวกเขาก็ไม่กล้าปริปากพูดอันใด ทำได้เพียงก้มหน้า ทันใดนั้น สตรีชุดขาวสองคนก็กล่าวตำหนิ
“เป่ยถังเฮ่อ ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมคำเตือนครั้งก่อนของเทพธิดาอวิ๋นเสีย กล้าบุกเข้ามาเขาคุนหลุน บนยอดเขาคุนหลุน เจ้ามีสิทธิ์ขึ้นมาได้หรือ? ”
เคราของเป่ยถังเฮ่อสั่นเทาอย่างรุนแรง น้ำเสียงระมัดระวังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “ท่านนางฟ้าเข้าใจผิดแล้ว คำเตือนของเทพธิดาอวิ๋นเสีย ข้าน้อยไม่มีทางขัดขืน คราวนี้ข้าน้อยพาคนมาบนเขาคุนหลุนก็เพื่อเห็นแก่เทพธิดาอวิ๋นเสีย มีคนบางกลุ่มคิดร้าย แอบขึ้นมาบนเขาคุนหลุนและจงใจทำร้ายนางฟ้า เมื่อข้ารู้ข่าวก็พาคนมาที่นี่ทันที นางฟ้า ท่านต้องอย่าเข้าใจผิด”
“ตามที่เจ้าบอกมา เจ้าพาคนมากมายขึ้นมาบนยอดเขาคุนหลุน ทั้งหมดทำเพื่อวิหารเทพซีหวังหมู่หรือ? ”
“แน่นอน ทุกประโยคที่ข้าน้อยพูดเป็นความจริง ข้าไม่กล้าพูดโกหกต่อหน้าท่านนางฟ้า”
นางฟ้าสวมชุดขาวนิ่งเงียบ หลานเยวี่ยหลีพูดว่า “หากเจ้าโกหกควรทำอย่างไร? ”
เป่ยถังเฮ่อมองมาที่หลานเยวี่ยหลีและตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาไม่พูดตอบสักคำ นางฟ้าชุดขาวจึงตำหนิทันที “เซิ่งหนี่ว์ถามเจ้า ยังไม่รีบตอบอีก”
เป่ยถังเฮ่อตอบว่า “ข้าไม่รู้ว่าภายในวิหารมีเซิ่งหนี่ว์”
เห็นได้ชัดว่านางฟ้าเริ่มหมดความอดทน “เรื่องภายในวิหารของเทพซีหวังหมู่ เจ้ามีสิทธิ์ซักไซ้ได้หรือ? ”
เป่ยถังเฮ่อรีบตอบกลับ “ท่านนางฟ้าอย่าเข้าใจข้าผิด ข้าทำทุกอย่างเพื่อวิหารเทพ อย่างไรวิหารเทพซีหวังหมู่ก็เกี่ยวพันกับแคว้นเป่ยอี้ดั่งเส้นชีวิต รวมถึงความตายของสกุลเป่ยถัง ข้าย่อมเป็นกังวลแทน! ”
นางฟ้าอธิบาย “เทพธิดาอวิ๋นเสียกลับสู่แดนหุ้นตุ้น นี่คือเซิ่งหนี่ว์แห่งวิหารเทพซีหวังหมู่”
เป่ยถังเฮ่อคิ้วขมวดอย่างรุนแรง เขาไม่มีทางคาดคิดเลยว่า หญิงสาวตัวเล็กอ่อนแอที่เข้ามาในจวนเป่ยอี้อ๋องและแทบจะเอาชีวิตไม่รอด บัดนี้ได้กลายเป็นเซิ่งหนี่ว์แห่งวิหารเทพซีหวังหมู่
นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
นางเป็นเซิ่งหนี่ว์นั้นเรื่องจริง
ทว่าเซิ่งหนี่ว์ที่ถูกส่งไปยังเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เทียนเม้ยหลิงหลง
เพื่อเป็นเครื่องสังเวย
ก่อนหน้าขึ้นมาบนเขาคุนหลุน มีลูกศิษย์รายงานว่าเป่ยถังหลีได้ถวายตัวเป็นเครื่องสังเวยที่เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เทียนเม้ยหลิงหลงแล้ว แล้วเหตุใดนางถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ ทั้งยังกลายเป็นเซิ่งหนี่ว์แห่งวิหารเทพซีหวังหมู่อีกด้วย
เกิดอันใดขึ้นในช่วงเวลาระหว่างนั้นกันแน่?
ขณะที่เป่ยถังเฮ่อกำลังครุ่นคิดก็เกิดเสียงดัง ‘เพียะ’ นางฟ้าชุดขาวตบไปที่ใบหน้าแก่ชราของเป่ยถังเฮ่ออย่างแรง
“ยังกล้าพูดว่าไม่มีเจตนาร้าย! เซิ่งหนี่ว์ถาม เจ้าไม่เพียงไม่ตอบคำถาม กลับกล้ามองตรงไปยังเซิ่งหนี่ว์อยู่เป็นเวลานาน ใบหน้าเซิ่งหนี่ว์ เจ้ามีสิทธิ์มองหรือ? ”
เป่ยถังเฮ่อก้มหน้าลงต่ำ แม้เขาจะกัดฟันด้วยความเกลียดชัง ทว่าเขาก็ไม่กล้าทำซ้ำอีก อย่างไรเสีย อำนาจของราชวงศ์แคว้นเป่ยอี้และความเชื่อที่สืบต่อกันมาคือความศักดิ์สิทธิ์ของวิหารเทพซีหวังหมู่ หลานเยวี่ยหลีได้กลายเป็นเซิ่งหนี่ว์แห่งวิหารเทพซีหวังหมู่ นางย่อมเป็นผู้ปกครองสูงสุดของแคว้นเป่ยอี้
ทว่าเป่ยถังเฮ่อแอบซ่อนจิตใจชั่วร้ายของเขามาเป็นเวลานาน เขาจะยอมจำนนต่อหญิงสาวตัวเล็กอย่างหลานเยวี่ยหลีได้อย่างไร? อีกทั้งหญิงสาวคนนี้ เขาไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตามาตั้งแต่แรก
เป่ยถังเฮ่อกัดฟันและพูดว่า “ทูลเซิ่งหนี่ว์ ข้าน้อยพูดความจริง”
น้ำเสียงของหลานเยวี่ยหลียังคงเฉยเมยและเย็นชา “เป่ยถังเฮ่อ เซิ่งหนี่ว์อย่างข้าคิดว่า เจ้าคงลืมข้าไปทั้งหมดแล้ว ทว่ามันไม่สำคัญ หากเจ้าลืมมัน ข้าจดจำได้ก็พอแล้ว” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชามากขึ้น “คุมตัวเป่ยถังเฮ่อกลับไปที่วิหารเทพซีหวังหมู่”
“เจ้าค่ะ! ” นางฟ้าในชุดขาวทั้งสองคนตอบรับคำ และรีบเข้าไปคุมตัวเป่ยถังเฮ่อ
เป่ยถังเฮ่อกัดฟันกรอดด้วยความตกใจ เขาคว้ากระบี่ยาวด้านข้างและกระโดดขึ้นแทงกระบี่ไปทางเป่ยถังหลี
ในขณะเดียวกัน องครักษ์กล้าตายข้างกายเขาจำนวนสิบกว่าคนก็หยิบกระบี่ขึ้นมาด้วยสีหน้าดุดันกระหายเลือด และโจมตีนางฟ้าชุดขาวทั้งแปดที่มากับหลานเยวี่ยหลี
แม้พวกเขาจะรวดเร็วมาก ทว่าทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน สีหน้าของทุกคนทั้งตกใจและตกตะลึง
โอ้ พระเจ้า!
กล้าต่อสู้กับคนของวิหารเทพซีหวังหมู่ อ๋องรองแห่งสกุลเป่ยถังนับเป็นคนแรก!