สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 35 ตอนที่ 1044 รอคนรัก คุ้มค่าหรือ?
จู่ๆ อู๋จุนก็กระโดดไปยืนด้านข้างช่างฝีมือต้วนและจับคอเสื้อของเขา “ตาเฒ่า เจ้าล้อข้าเล่นหรือ? สี่สิบเก้าวัน รอเจ้าหลอมเจ้าขยะพวกนี้สำเร็จ แม่นางพิษน้อยของข้าคงตายไปนานแล้ว แทนที่จะรอนานถึงเพียงนั้น ข้าจะส่งเจ้าไปตายก่อน”
เขาพูดพลางใช้มืออีกข้างของเขาผนึกพลังภายในและกำลังจะฟาดลงบนศีรษะของช่างฝีมือต้วน
ช่างฝีมือต้วนตกใจหน้าถอดสีทันที
ขณะที่ฝ่ามือของอู๋จุนกำลังจะกระแทกไปที่ศีรษะของช่างฝีมือต้วน มู่หรงฉีก็รีบคว้ามือเขาไว้ได้ทัน
เขาพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “พอได้แล้ว สงบสติอารมณ์ลองคิดหาวิธี เรื่องทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ หากเจ้าฟาดเขาจนตายจริงๆ คราวนี้จิ่นซีก็หมดหนทางรอด”
อู๋จุนผลักช่างฝีมือต้วนออกไป “ก็ได้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าก่อน คิดดู คิดให้ดี ยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่? หากเจ้าคิดไม่ออก อย่าว่ามู่หรงฉีขอร้อง ใครจะพูดก็เปล่าประโยชน์”
สีหน้าของช่างฝีมือต้วนซีดเผือด เขาตกใจกลัวจนตัวสั่นและมองไปที่จิ่วหรงด้วยท่าทางลำบากใจ
สีหน้าของจิ่วหรงเรียบเฉย หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็พูดว่า “สี่สิบเก้าวันนั้นนานเกินไปจริงๆ ควรจะมีวิธีลดเวลาการหลอม”
ช่างฝีมือต้วนพูดว่า “หากต้องการย่นระยะเวลาการหลอมให้สั้นลง ทำได้เพียงถ่ายเทพลังภายในเข้าไปที่เตาหลอมเท่านั้น ทว่าเพลิงอันใดในโลกที่มีพลังรุนแรงยิ่งกว่าเพลิงอมฤตอีก สี่สิบเก้าวันเป็นเวลาสั้นที่สุดแล้ว”
จิ่วหรงครุ่นคิดครู่หนึ่งและพูดว่า “ใช้กระถางหงส์สัมฤทธิ์หลอม และเสริมด้วยเพลิงซานเว่ยเจินเป็นอย่างไร? ”
แววตาของช่างฝีมือต้วนเปล่งประกายอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “กระถางหงส์สัมฤทธิ์และเพลิงซานเว่ยเจิน คุณชายสามารถหาของสองสิ่งนี้ได้หรือ? ”
นี่คือเรื่องเล่าสมัยบรรพกาล เป็นสิ่งของแดนสวรรค์! ช่างฝีมือต้วนเป็นช่างฝีมือมาทั้งชีวิต นับประสาอันใดกับเห็น เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด หากเขาได้เห็นของสองสิ่งนี้ ชีวิตนี้ของเขาไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจแล้ว
จิ่วหรงนิ่งเงียบและยื่นมือออกจากเสื้อคลุมสีขาวหิมะ เมื่อพลิกฝ่ามือก็ปรากฏกระถางหลอมอยู่กลางฝ่ามือ นี่มันกระถางหงส์สัมฤทธิ์มิใช่หรือ?
ช่างฝีมือต้วนรู้สึกประหลาดใจมากจนแทบกัดลิ้นตนเอง เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ และมองกระถางหงส์สัมฤทธิ์ด้วยสายตาเป็นประกาย เขาต้องการยื่นมือออกไปสัมผัสมัน ทว่าเขาไม่กล้า
เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วอย่างดุดัน พลางมองจิ่วหรงด้วยสายตาเกลียดชังเล็กน้อย
กระถางหงส์สัมฤทธิ์อยู่ในอาคมกำไลปี่อั้นของซูจิ่นซี นางร่างกายอ่อนแอ เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกกระถางหงส์สัมฤทธิ์ออกมาแน่นอน และเยี่ยโยวเหยาไม่เคยได้ยินว่าซูจิ่นซีมอบกระถางหงส์สัมฤทธิ์ให้กับจิ่วหรง เช่นนั้นจิ่วหรงเอามันออกมาได้อย่างไร?
หรือว่าลูกสมุนของนางเข้าไปในอาคมกำไลปี่อั้นได้?
บุรุษผู้นี้บำเพ็ญเพียรถึงระดับขั้นใดกันแน่?
น่าเสียดายที่จิ่วหรงไม่ได้ใส่ใจสายตาเกลียดชังของเยี่ยโยวเหยาเลย เขาผลักฝ่ามือเล็กน้อย วางกระถางหงส์สัมฤทธิ์ลงบนพื้น ทันทีที่กระถางหงส์สัมฤทธิ์วางลงบนพื้น มันก็ขยายใหญ่ขึ้นทันที มีความสูงประมาณสองคน
หลังจากนั้นจิ่วหรงก็เรียกสัตว์เทพกิเลนออกมา เขาลูบหัวสัตว์เทพกิเลน สัตว์เทพกิเลนก็ร้องเรียกจิ่วหรง ‘โฮก โฮก’ สองครั้งแล้วพ่นเปลวเพลิงกิเลนออกมา
มู่หรงฉีและอู๋จุนรู้ดีถึงพลังเปลวเพลิงกิเลน สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที กลับไม่คิดว่าจิ่วหรงจะโบกแขนเสื้อ เปลวเพลิงกิเลนสีฟ้าทรงพลังก็ปรากฏบนฝ่ามือของเขา
ช่างฝีมือต้วนแต่เดิมก็แสดงท่าทีตกใจสุดขีดอยู่แล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก ดวงตาเปล่งประกายจนแทบจะถลนออกมา เขาจ้องมองเปลวเพลิงกิเลนในมือของจิ่วหรง นี่… นี่คือเพลิงซานเว่ยเจิน
จิ่วหรงเกรงว่าเปลวเพลิงจะทำร้ายช่างฝีมือต้วน เขาจึงก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว “แม้สิ่งนี้จะไม่ใช่เพลิงซานเว่ยเจิน ทว่าพลังของมันก็แข็งแกร่งกว่าเพลิงซานเว่ยเจินหลายร้อยเท่า”
“โอ้ พระเจ้า! ”
ช่างฝีมือต้วนกลอกตาไปมาและหงายหลังเป็นลมหมดสติทันที
……
จิ่วหรงจัดเตรียมให้ลูกศิษย์ยกกระถางหงส์สัมฤทธิ์ไปที่ห้องหลอมยา และให้ช่างฝีมือต้วนหลอมธาตุอมฤตทั้งห้า จากนั้นจึงจัดที่พักให้เยี่ยโยวเหยา ซูจิ่นซี และคนอื่นๆ
มีกระถางหงส์สัมฤทธิ์และเปลวเพลิงกิเลน เดิมใช้เวลาสี่สิบเก้าวัน ทว่าตอนนี้ใช้เวลาเพียงเจ็ดวันเท่านั้น
ในช่วงเวลาเจ็ดวัน มู่หรงฉี อู๋จุน และคนอื่นๆ ต่างกังวลใจ เยี่ยโยวเหยาอยู่เคียงข้างซูจิ่นซีตลอดเวลาไม่ห่างกาย
จิ่วหรงใช้สมุนไพรที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในสำนักแพทย์เทียนอีกับซูจิ่นซี และใช้แม้กระทั่งเลือดของเขาเพื่อหลอมเป็นยาให้ซูจิ่นซี กลับเหมือนเป็นการโยนสิ่งของลงไปในหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง ไม่มีผลแม้แต่น้อย
ไม่มีใครรู้ว่าจิ่วหรงกำลังคิดสิ่งใด แม้เขาจะเหมือนเดิม ไม่มีอันใดเปลี่ยนแปลง ยกเว้นเส้นสีเทาเงินบนแขนของเขาเริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ ทว่านอกจากจิ้งจอกเก้าสีแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้
ทุกคืนท่ามกลางความเงียบสงบ บนหอดูดาวในตำหนักเซียนหลิน เขาจะดีดพิณเสียงทอดยาว และมีเพียงจิ้งจอกเก้าสีเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ เป็นเวลาหลายพันปีที่จิ้งจอกเก้าสีอยู่กับเขาเช่นนี้ ทว่าจิ้งจอกเก้าสีรู้ดีว่าหัวใจของคุณชายนั้นว่างเปล่า มีจิ้งจอกเก้าสีอยู่ด้วยก็ไม่สามารถเติมเต็มสิ่งใดได้
คุณชาย จะมีสักวันที่ท่านจะไปจากที่นี่ ไปจากสำนักแพทย์เทียนอี ไปจากโลกนี้ และไปอาณาจักรอื่น
คุณชาย ท่านมอบทุกอย่างให้กับเจ้านายน้อย คนของท่าน จิตวิญญาณของท่าน ความคิดของท่าน ทุกสิ่งอย่างท่านล้วนมอบให้นาง คงจะมีสักวันที่ท่านมอบเลือดเนื้อให้กับนางกระมัง?
คุณชาย ท่านตายได้หรือไม่?
คุณชาย เก้าสีทุกข์ใจมาก เหตุใดหัวใจของเก้าสีถึงได้เจ็บปวดเพียงนี้?
เทพจิ้งจอกเก้าสีแห่งเขาชิงชิวสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ หากจิ้งจอกเก้าสีมีวันนั้นก็คงจะดี หากคุณชายจะหันมาสนใจมัน จิ้งจอกเก้าสีคงจะพอใจอย่างมาก
“จี๊ด… จี๊ด… ” จิ้งจอกเก้าสีลุกขึ้นและวิ่งออกจากประตูทันที
เสียงพิณจิ่วหรงหยุดกะทันหัน และตำแหน่งของเส้นสีเทาเงินบนแขนก็เริ่มเจ็บ เสียงพิณเบาลงเล็กน้อย อ้างว้าง และไม่ต่อเนื่อง ขาดหายเป็นจังหวะ จนกระทั่งภายในตำหนักเซียนหลินเงียบสงัด จิ่วหรงหมดสติลงกับพื้น
“จี๊ด… จี๊ด” จิ้งจอกเก้าสีรีบวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง มันส่งเสียงเรียกจิ่วหรงที่กำลังหมดสติ ทว่าจิ่วหรงไม่ตอบสนองอันใดเลย จิ้งจอกเก้าสีต้องการวิ่งออกไปเรียกเหล่าลูกศิษย์นอกประตู ทว่าเมื่อมันกำลังวิ่งไปถึงประตู มันก็หันหลังและเดินถอยกลับทีละก้าว
เรื่องอาการบาดเจ็บของคุณชายจะให้ผู้อื่นรู้ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่สามารถแพร่งพรายออกนอกสำนัก ทั้งยังเป็นอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงเช่นนี้อีกด้วย
จิ้งจอกเก้าสีครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อมันหันหลังกลับมาข้างกายจิ่วหรง ขนสีขาวรอบดวงตาของมันเปียกชุ่ม
มันรู้ดีว่าคุณชายไม่เป็นไรมาก เขาแค่หมดสติ และไม่มีอันตรายถึงชีวิต ทว่าเห็นคุณชายตกอยู่ในสภาพแบบนี้ มันทุกข์ใจมากจริงๆ เจ็บปวดใจมากยิ่งกว่าสังหารมันเสียอีก
“จี๊ด… จี๊ด… ” จิ้งจอกเก้าสีร้องเรียกเสียงต่ำหลายครั้ง มันค่อยๆ มุดเข้าไปนอนในอ้อมแขนของจิ่วหรง พยายามใช้ร่างกายของมันทำให้หัวใจของจิ่วหรงอบอุ่น
เมื่อหัวใจอุ่น ร่างกายก็อุ่น คนที่บาดเจ็บจะไม่หนาวมาก
มันมองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยทะเลดวงดาวอันไกลโพ้นกว้างใหญ่ไพศาล ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ หลายคนบอกว่านี่เป็นทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในสำนักแพทย์เทียนอี ยกเว้นป่าดอกเหมยที่หลังเขา ทว่าในสายตาของจิ้งจอกเก้าสีมันเป็นความอ้างว้างที่โศกเศร้าที่สุด เพราะดวงดาวแต่ละดวงเป็นเหมือนน้ำตาที่คุณชายไม่กล้าหลั่งออกมานับพันปี
คุณชายรอคนรัก รอตั้งแต่ชาติภพที่แล้ว รอจนถึงวันนี้ คุ้มค่าหรือ?