สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 35 ตอนที่ 1046 แม้ต้องทำลายทุกอย่างในใต้หล้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า
- Home
- สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน
- เล่มที่ 35 ตอนที่ 1046 แม้ต้องทำลายทุกอย่างในใต้หล้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้า
จิ่วหรงเดินโซเซออกไปด้านนอก
“คุณชาย… ”
ช่างฝีมือต้วนต้องการพูดอันใดบางอย่างกับจิ่วหรง ทว่าเมื่อเห็นจังหวะเท้าของจิ่วหรงที่ไม่มีท่าทีลังเล เขาจึงไม่พูดอันใด และขมวดคิ้วมองไปที่ธาตุอมฤตทั้งห้าบนโต๊ะหิน
ขณะที่เขามองไป ช่างฝีมือต้วนพลันมีสีหน้าเปลี่ยนไป
เขาคิดว่าตนเองตาฝาด จึงรีบเดินไปที่โต๊ะหินเพื่อยืนยันอีกครั้ง
ถูกต้อง ธาตุอมฤตทั้งห้าเกิดปฏิกิริยาแล้ว แสงสว่างสีขาวน้ำนมค่อยๆ แผ่ซ่านรอบบริเวณ
“คุณชาย! ” ช่างฝีมือต้วนรีบตะโกนเรียกจิ่วหรง
ทันทีที่จิ่วหรงเดินไปถึงประตู เขาหยุดและหันหลังกลับมาทันที…
เป็นครั้งแรกที่จิ่วหรงผู้ซึ่งใบหน้าสงบนิ่งดั่งเขาไท่ซาน กลับแสดงท่าทีตื่นตระหนก และเดินไปด้านข้างโต๊ะหินโดยไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
แสงที่ปล่อยออกมาจากธาตุอมฤตทั้งห้านั้นสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ
“รีบไปแจ้งเยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ให้ทราบเดี๋ยวนี้… ”
“ขอรับ! ” ช่างฝีมือต้วนรีบออกไปตามเยี่ยโยวเหยา มู่หรงฉี และคนอื่นๆ
เยี่ยโยวเหยาเป็นคนแรกที่มาถึง เขามีท่าทีประหลาดใจไม่น้อยไปกว่าจิ่วหรงเลย
ในที่สุดมู่หรงฉีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และยืนพิงขอบประตูด้วยใบหน้ามีความสุข
“ข้าได้ยินว่าธาตุอมฤตทั้งห้าเกิดปฏิกิริยาแล้ว จริงหรือไม่? ” อู๋จุนและถังเสวี่ยปรากฏตัวพร้อมกัน ถังเสวี่ยตื่นเต้นมากจนเกือบจะร้องไห้
แม้จะช้ามาก ทว่าแสงที่ปล่อยออกมาจากธาตุอมฤตทั้งห้าค่อยๆ แข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยความเร็วที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ จนกระทั่งแสงสว่างส่องไปทั่วทั้งห้องหลอมยา
ในขณะเดียวกัน ภายในสว่างนั้นจะเห็นลวดลายละเอียดอ่อนได้อย่างชัดเจน เป็นภาพภูเขาและแม่น้ำที่ตั้งตระหง่านทอดยาวอย่างต่อเนื่อง แม่น้ำคดเคี้ยวพาดผ่านระหว่างภูเขา
“วิเศษมาก มันวิเศษมากจริงๆ ! ” ดวงตาของมู่หรงฉีมองจนตะลึงงัน “ไม่คิดว่าคนในสมัยโบราณจะสร้างแผนที่ที่งดงามและมีรายละเอียดได้ถึงเพียงนี้ อีกทั้งสามารถเก็บซ่อนงานฝีมือได้เช่นนี้ ตรงนี้น่าจะเป็นภูเขาเทียนเหิงแคว้นหนานหลีของข้า นี่คือภูเขาเทียนซูแคว้นแคว้นตงเฉิน นี่คือเขาคุนหลุนแคว้นเป่ยอี้ และนี่คือชายแดนแคว้นไหวเจียง ข้าคิดว่านี่คือแผนที่ที่สมบูรณ์และละเอียดที่สุดของอาณาจักรเทียนเหอทั้งหมด”
มู่หรงฉีกรำศึกมาหลายปี เชี่ยวชาญด้านการทหาร เขาสนใจภาพภูเขาและแม่น้ำมากที่สุด
เยี่ยโยวเหยา จิ่วหรง และอู๋จุนก็พิจารณาอย่างจริงจัง
ทว่าอู๋จุนไม่สนใจในเรื่องการทหาร ภูเขา แม่น้ำ หรือลำธารอันใดจำพวกนั้น “ข้าถามว่า สุสานจิ่นอีโหวอยู่ที่ใดกันแน่? พวกเจ้ามองออกหรือไม่? ”
“ใช่! ” ถังเสวี่ยพูดอีกว่า “ดูเหมือนหายาก หากหาไม่เจอจะทำอย่างไร? ”
เยี่ยโยวเหยากับจิ่วหรงนิ่งเงียบไม่พูดสิ่งใด ต่างชำเลืองมองกันและกัน จากนั้นจึงเดินออกไปด้านนอกทันที
อู๋จุนแสดงสีหน้างุนงง “เฮ้ย ข้าถาม พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่? ไม่หาสุสานจิ่นอีโหวแล้วหรือ? พวกเจ้ากำลังจะไปที่ใด? ”
“เฮ้ย! ”
ทั้งสองไม่สนใจอู๋จุน และวิ่งหายลับจากสายตาทุกคนในชั่วพริบตา
“พวกเขาคงจะรู้แล้ว! ” มู่หรงฉีพูด
“หมายความว่าอย่างไร? ”
มู่หรงฉีเหลือบดูแผนที่ภูเขาและแม่น้ำพลางส่ายศีรษะอย่างเชื่องช้า “โยวอ๋องกับจิ่วหรงเป็นคนอย่างไร? เขายังต้องใช้เวลาศึกษาสิ่งเหล่านี้อย่างละเอียดอีกหรือ? ทว่าพวกเขามองแวบแรกก็รู้ถึงสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ในแผนที่”
“บ้าฉิบ พวกเขารู้แล้วไม่บอกอันใดพวกเราสักคำ”
มู่หรงฉียกยิ้มมุมปากและเดินออกไปเช่นกัน แม้เขาจะมองไม่เห็นว่าสุสานจิ่นอีโหวอยู่ที่ใด ทว่าตามเยี่ยโยวเหยาและจิ่วหรงไปต้องไม่ผิดแน่นอน เป็นจริงดั่งคาด โชคชะตาย่อมยุติธรรมกับทุกคน
เขาให้ปัญญาแก่ทุกคนบนโลก ทว่ากลับมอบสิ่งสุดพิเศษไม่ธรรมดาให้กับคนสองคน
ภายในห้องหลอมยาเหลือเพียงถังเสวี่ย อู๋จุน และช่างฝีมือต้วนเท่านั้น
ช่างฝีมือต้วนรู้เพียงวิธีหลอมธาตุอมฤตทั้งห้า แต่เขาไม่รู้ว่าภายในนั้นจะมีความลึกลับอันใดแอบแฝงอยู่เช่นนี้
“เจ้าหุบเขาอู๋ สิ่งที่พวกท่านพูดถึงสุสานจิ่นอีโหว คือจิ่นอีโหวในยุคราชวงศ์โจวตะวันตกใช่หรือไม่? ”
อู๋จุนที่นิ่งเงียบขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันไปหาช่างฝีมือต้วน
ช่างฝีมือต้วนแสดงสีหน้าสงสัย “มีคนบอกว่าสุสานจิ่นอีโหว ผนึกความลับของการรวบรวมใต้หล้า เป็นความจริงหรือไม่”
อู๋จุนยังนิ่งเงียบรักษาท่าทีของเขา
ความสงสัยบนใบหน้าของช่างฝีมือต้วนยิ่งมีมากขึ้น “โยวอ๋องคิดรวบรวมใต้หล้าให้สงบสุข ทุกคนต่างรู้ดี ฉีอ๋องปกครองแคว้นหนานหลี เวลานี้เป็นถึงรัชทายาทและจะเป็นฮ่องเต้แคว้นหนานหลีในอนาคต ต้องการครองใต้หล้าก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ ทว่าคุณชายจิ่วเป็นคนที่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวความวุ่นวายโลกภายนอก ครั้งนี้กลับ… หรือว่าเขาต้องการครอบครองใต้หล้าด้วยหรือ? ”
อู๋จุนยังคงนิ่งเงียบ
หนวดที่มุมปากของช่างฝีมือต้วนกระตุกเล็กน้อย “ท่านว่า ใต้หล้านี้จะเป็นของผู้ใด? พระชายาโยวอ๋องเป็นกงจู่แห่งแคว้นหนานหลี และฉีอ๋องเป็นพี่เขยของโยวอ๋อง พวกเขาคงไม่ต่อสู้กันเพื่อครองใต้หล้ากระมัง? ทว่าเพื่ออำนาจแล้วก็พูดยาก หากวิเคราะห์ตามความแข็งแกร่ง แคว้นหนานหลีไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแคว้นจงหนิงแน่ ทว่าโยวอ๋องรักใคร่เอ็นดูพระชายาโยวอ๋อง ทุกคนรู้กันทั่ว คงไม่รักหญิงงามจนไม่ห่วงใยใต้หล้ากระมัง! ทว่าสิ่งที่ข้าประหลาดใจมากก็คือ คุณชายจิ่วกับโยวอ๋องทั้งสองคน บุคคลสำคัญในเวลานี้เป็นดั่งโอรสสวรรค์ ท่านว่าผลสุดท้ายแล้วผู้ใดจะชนะ? ผู้ใดรวบรวมใต้หล้าให้สงบสุขได้”
“…”
“เจ้าหุบเขาอู๋ เหตุใดท่านไม่พูดอันใดบ้างเล่า! ”
“…”
“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้ ข้ากล่าวสิ่งใดผิดหรือ? ”
อู๋จุนยกยิ้มมุมปากแห้งๆ เขาตบไหล่ช่างฝีมือต้วนเบาๆ ด้วยท่าทางมีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นจึงกวักนิ้วเรียกช่างฝีมือต้วนให้เข้ามาใกล้เขา
ช่างฝีมือต้วนเอาหูแนบใกล้อู๋จุน
อู๋จุนพูดเบาๆ “ข้าไม่รู้ว่าใครรวบรวมใต้หล้าสำเร็จ ทว่าข้ารู้อย่างเดียว… ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวได้ เจ้าเดาดูเองเถิด สิ่งที่เจ้าพูดภายในห้องหลอมยาวันนี้ เจ้าเยี่ยโยวเหยาและจิ่วหรง พวกเขาจะได้ยินหรือไม่? ”
ช่างฝีมือต้วนตกใจจนตัวสั่นเทา ก่อนจะถอยกลับไปสองก้าวและมองอู๋จุนด้วยใบหน้าซีดขาว
อู๋จุนหัวเราะสองครั้งและจากไปพร้อมกับหัวเราะเสียงยาว
ถังเสวี่ยปิดริมฝีปากและหัวเราะคิกคักสองครั้ง “เจ้าอย่าไปสนใจเขา เขาก็แค่ขู่ให้เจ้ากลัวเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่โยวอ๋องและคุณชายจิ่วจะได้ยิน ระยะทางห่างไกลถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเป็นห่วงอาการของซูจิ่นซีมากที่สุด แม้เขาจะได้ยินก็ไม่สนใจเจ้าแน่” หลังพูดจบก็เดินตามอู๋จุนไป
สีหน้าของช่างฝีมือต้วนซีดเผือดมากยิ่งขึ้น ขาสั่นเล็กน้อยและเดินโซเซถอยหลังไปสองก้าว หากมือเขาไม่ได้ค้ำโต๊ะหินข้างหลังก็คงจะล้มลงกับพื้นไปแล้ว
คำพูดเช่นนี้คลุมเครืออย่างมาก
สรุปแล้ว ท่านทั้งสองผู้สูงศักดิ์นั้นได้ยินหรือไม่ได้ยินกันแน่!
โอ้ นางหนูเอ๋ย เจ้ารู้วิธีปลอบใจคนแก่บ้างหรือไม่?
ในเมื่อทราบตำแหน่งที่แน่นอนของสุสานจิ่นอีโหวแล้ว เยี่ยโยวเหยาและจิ่วหรงก็ไม่คิดจะรีรอแม้สักวินาทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนมากมายต่างแย่งชิงอั้นหรานเซียวหุนเพื่อตามหาสุสานจิ่นอีโหว ตอนนี้พวกเขาได้ไขความลับของอั้นหรานเซียวหุนแล้ว หากไม่สามารถปิดข่าวเรื่องสุสานจิ่นอีโหวได้ ไม่นานเรื่องนี้ต้องแพร่งพรายออกไปในวงกว้าง ยิ่งดึงดูดคนจำนวนมากเข้ามา
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องรีบไปสุสานจิ่นอีโหวก่อนคนอื่น
พวกเขาจึงออกเดินทางข้ามคืนไม่หยุดพัก
ดวงจันทร์สว่างไสวบนท้องฟ้าและรถม้าที่กำลังพุ่งทะยาน เยี่ยโยวเหยาไม่ได้นั่งรถม้า ทว่าให้ถังเสวี่ยดูแลซูจิ่นซีในรถม้า
ค่ำคืนอันยาวนาน ร่างที่สมส่วนหล่อเหลาคมสัน คนหนึ่งสวมชุดดำและคนหนึ่งสวมชุดขาว ห้อตะบึงม้าเคียงข้างกัน
“วิธีที่สามารถผนึกจิตวิญญาณของจิ่นซีอยู่ในสุสานจิ่นอีโหวจริง หากเจ้าโกหกข้า ข้า เยี่ยโยวเหยาจะไม่ละเว้นเจ้า แม้ต้องทำลายทุกอย่างในใต้หล้า”
“ข้าไม่อยากให้นางตายมากกว่าเจ้าเสียอีก! ”