สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 36 ตอนที่ 1054 พวกข้าเคยมาห้องศิลาแห่งนี้แล้ว
“นางตัวแสบ ปากดีเช่นนี้ อยากมีเรื่องใช่หรือไม่? ” หลานอวี่วางท่าเตรียมพร้อมต่อสู้
ถังเสวี่ยก็ไม่อ่อนข้อ “มีก็มี ผู้ใดกลัวเจ้า! ”
ทั้งสองกระตือรือร้นเปิดศึกทะเลาะกันอีกครั้ง หากสู้กันขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าจะลำบากเยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ ต้องเข้าร่วมต่อสู้ด้วย หากยืดเยื้อก็ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด
มู่หรงฉีลากถังเสวี่ยออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “อดกลั้นไว้ก่อน อย่าสร้างปัญหา ออกไปจากที่นี่เมื่อไร เจ้าค่อยหาโอกาสระบายความโกรธก็ได้”
“หึ ปล่อยเจ้าไปก่อน ออกไปได้ค่อยว่ากัน” ถังเสวี่ยกล่าว
หลานอวี่รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาทะเลาะเบาะแว้งกัน จึงระงับอารมณ์ “หึ นางตัวแสบ ข้าจะดูว่าหลังออกไปจะจัดการเจ้าอย่างไร! ”
เยี่ยโยวเหยาเริ่มศึกษาหมากรุกกลอย่างละเอียด มู่หรงฉี อู๋จุน กูสือซาน จิ้นอี้เฉิน หลานอวี่ และคนอื่นๆ ก็มาห้อมล้อมเพื่อศึกษาหมากรุกกลนี้อย่างละเอียดเช่นกัน
หลังศึกษาอยู่ครู่ใหญ่ เยี่ยโยวเหยาก็เริ่มเห็นช่องทาง เขาขยับหมากบนกระดาน
คนที่เหลือมองด้วยอาการเหงื่อเย็นเต็มศีรษะ อย่างไรเสีย นี่ไม่ใช่การเดินเล่น หากเดินพลาดเพียงก้าวเดียว ก้าวต่อๆ ไปก็พลาดด้วยเช่นกัน
เดินหมากรุกพลาด พวกเขาจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร?
ผลลัพธ์คงเป็นการถูกฝังอยู่ที่นี่
“ไม่ถูกต้อง” ขณะที่เยี่ยโยวเหยาวางหมากสีดำลงบนกระดาน จู่ๆ จิ้นอี้เฉินก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วห้ามไว้ “หมากชิ้นนี้ไม่ควรเดินลงตรงนี้ เห็นได้ชัดว่าหมากสีดำไม่มีทางให้เดินแล้ว วิธีเดินเช่นนี้จะยิ่งเดินยิ่งจนมุม”
เยี่ยโยวเหยาเหลือบมองจิ้นอี้เฉินเงียบๆ จากนั้นจึงเดินต่อไป
จิ้นอี้เฉินหยุดเขาอีกครั้ง “ยังไม่ถูกต้อง หมากสีขาวควรเดินรอบนอกเพื่อล้มหมากสีดำ” ขณะที่พูดก็หยิบหมากสีขาวที่เยี่ยโยวเหยาวางบนกระดานขึ้นมาและวางในตำแหน่งที่เขาเห็นว่าเหมาะสม
เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วแน่นและไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
อู๋จุนไม่พอใจเสียยิ่งกว่าเยี่ยโยวเหยา ตราบใดที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับแคว้นไหวเจียง เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาตบหลังมือจิ้นอี้เฉินอย่างแรง
“เลิกขัด หากผิดพลาดผู้ใดจะรับผิดชอบ? ”
จิ้นอี้เฉินขมวดคิ้วอย่างรุนแรง ทว่าไม่ได้พูดตอบโต้สักประโยค เยี่ยโยวเหยาหยิบหมากขาวมาวางตำแหน่งเดิมและเล่นหมากรุกต่อไป
คราวนี้ไม่มีผู้ใดส่งเสียงทักท้วง ทว่าทุกคนล้วนดูตกประหม่า หัวใจแทบกระโดดขึ้นมาที่ลำคอ
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว บนกระดานหมากรุกมีหมากขาวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จู่ๆ ก็มีเสียงแกร๊กแกร๊กของกลไกดังขึ้นภายในห้องศิลา
ทุกคนมองตามที่มาของเสียงและเห็นเพียงประตูหินค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ในที่สุดประตูห้องศิลาก็เปิดออก ซึ่งหมายความว่าเยี่ยโยวเหยาได้แก้หมากรุกกลนี้สำเร็จ
ทุกคนรีบวิ่งไปที่ประตูหินด้วยความตื่นเต้น
อู๋จุนกล่าวชมเยี่ยโยวเหยา “ผู้แซ่เยี่ยช่างยอดเยี่ยม ข้าขอชมเจ้า! ”
ผู้ใดอยากให้เจ้าชื่นชม!
เยี่ยโยวเหยาไม่ได้สนใจอู๋จุนเหมือนเคย ทว่าอู๋จุนก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เขาหมุนกายเดินออกไปนอกประตู
มู่หรงฉีปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากและกล่าวขอบคุณเยี่ยโยวเหยาจากใจจริง “โยวอ๋อง ขอบคุณท่าน ครั้งนี้เป็นเพราะท่าน พวกเราจึงสามารถเปิดกลไกหาทางออกได้ หากไม่ใช่ท่าน ไม่รู้ว่าพวกเราจะถูกขังไปจนถึงเมื่อไร”
นี่เป็นการขอบคุณจากใจจริง
เพราะถูกขังอยู่ที่นี่อยู่หลายชั่วยาม มู่หรงฉีคิดไปเลยเถิดมากมาย ไม่เพียงแค่ความปลอดภัยของซูจิ่นซี ยังรวมถึงแคว้นหนานหลี แคว้นตงเฉิน ใต้หล้า… เรื่องที่เขาปล่อยวางไม่ได้มีมากเกินไปจริงๆ
“ไม่ต้องเกรงใจ! ” เยี่ยโยวเหยากล่าว “หาซูจิ่นซีก่อนค่อยว่ากัน”
จากนั้นเยี่ยโยวเหยาและมู่หรงฉีจึงเดินตามทุกคนออกนอกประตูไป
สุสานโบราณแห่งนี้เหมือนกับเขาวงกต ทุกคนจำทางเข้าได้ไม่ชัดเจนนัก นอกจากนี้ทางข้างหน้าประตูห้องศิลายังมีถึงสามเส้นทางให้พวกเขาเลือกเดิน
เหมือนก่อนหน้านี้ ทั้งสามทางมีเพียงทางเดียวที่ถูกต้อง หากเลือกผิด ผลลัพธ์คงร้ายแรงเกินคาดเดา
ทุกคนยืนงงอยู่ตรงทางแยก โดยไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร
คนของแคว้นไหวเจียงยิ่งมึนงงสับสน พวกเขามองเยี่ยโยวเหยาและคนอื่นๆ
“ควรเลือกอย่างไร! ไม่รู้ว่าตอนนี้ซูจิ่นซีเป็นอย่างไรบ้าง? เส้นทางที่นี่ยุ่งยากยิ่งนัก” ถังเสวี่ยกล่าว
คราวนี้อู๋จุนไม่ขัดถังเสวี่ย ซึ่งเป็นเรื่องที่พบเห็นได้น้อยมาก มู่หรงฉีปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากและเอ่ยถามเยี่ยโยวเหยา “ยังจำได้เส้นทางตอนที่เข้ามาได้หรือไม่? ตอนอยู่นอกสุสานเลือกอย่างไร? ข้ารู้สึกว่าที่นี่กับสามเส้นทางในตอนนั้นน่าจะใช้หลักการเดียวกัน”
เยี่ยโยวเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ได้พูดอันใด เขาเลือกมาเส้นทางหนึ่งแล้วเดินตรงไปด้านหน้า มู่หรงฉีเดินตามไปโดยไม่ลังเล อู๋จุนและถังเสวี่ยก็เดินตามไปเช่นกัน
กูสือซานและคนอื่นๆ ลังเลเป็นอย่างมาก “เฮ้ เหตุใดถึงเลือกทางนี้ ถูกทางหรือไม่? หากเดินผิดทางจะทำอย่างไร? ”
“หากกังวลว่าเดินผิดทางก็ไม่ต้องตามมา! ” ถังเสวี่ยหันไปจ้องกูสือซานและคนอื่นๆ เขม็ง
หลานอวี่วิเคราะห์ครู่หนึ่ง “ไม่มีเวลาให้สนใจไปมากกว่านี้แล้ว พวกเราไม่รู้อันใดเกี่ยวกับสุสานแห่งนี้เลย ทำได้เพียงเดินตามพวกเขาเท่านั้น! ท้ายที่สุดโยวอ๋องก็เป็นคนฉลาด คงไม่เอาชีวิตตนเองมาล้อเล่น”
“ตกลง! ”
ทุกคนเห็นพ้องต้องกันจึงเดินตามเยี่ยโยวเหยากับคนอื่นๆ ไป
เยี่ยโยวเหยาโชคดีจริงๆ ที่เลือกเส้นทางไม่ผิด ระหว่างทางก็ไม่พบอันตรายใดๆ พบเพียงห้องศิลาจำนวนมาก ทั้งห้องศิลาทุกห้องยังมีกลไกทั้งหมด
ในตอนแรกทุกคนเปิดกลไกอย่างอยากลำบากเล็กน้อย ทว่าเมื่อทำหลายครั้งก็ค่อยๆ ชำนาญ วิธีการก็ง่ายขึ้นเป็นเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเดินเท่าไรก็ยังไม่พบร่องรอยที่จิ่วหรงทิ้งไว้ตอนพาซูจิ่นซีหนีไป
“เดินไปอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้ไม่ใช่วิธีที่ดี! ” มู่หรงฉีกล่าว “ห้องศิลาที่นี่ดูเหมือนเขาวงกต เหมือนพวกเราเดินวนอยู่กับที่ และพวกเราก็เดินมาห้องศิลาห้องนี้แล้วด้วย”
“ไม่น่าเป็นไปได้กระมัง? ” หลานอวี่และคนอื่นๆ รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
ถังเสวี่ยชี้ไปยังตัวอักษรที่อยู่บนกำแพงอย่างแน่วแน่ “ข้าแน่ใจว่าพวกเรามาห้องศิลานี้แล้ว ข้าจำลวดลายการแกะสลักตัวอักษรบนกำแพงได้อย่างชัดเจน”
“นี่ไม่ใช่ห้องศิลาที่เรามาแล้วอย่างแน่นอน ทุกห้องศิลาในสุสานโบราณแห่งนี้ล้วนมีรูปแบบการแกะสลักตัวอักษรเช่นนี้ นอกจากนั้นเนื้อหาก็คล้ายคลึงกัน” อู๋จุนกล่าว
“คล้ายกันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทว่าต่างกันเพียงเล็กน้อย เหตุใดข้าจึงจำรูปแบบตัวอักษรบนกำแพงได้ชัดเจนที่สุดเล่า? ” ถังเสวี่ยพูดพลางเดินไปที่กำแพงแล้วใช้นิ้วลูบลวดลายการแกะสลักบนกำแพงเบาๆ “เพราะการแกะสลักตัวอักษรบนกำแพงนี้คล้ายกับหุบเขาร้อยบุปผาของเรามาก ถังเป่าอวี้ ท่านดูสิ พืชชนิดนี้เหมือนดอกหน้าวัวที่หุบเขาหรือไม่? แล้วสิ่งนี้ก็เหมือนต้นถั่วแดงที่หุบเขาร้อยบุปผา แล้วก็มีสิ่งนี้… สิ่งนี้… รูปปั้นพวกนี้ เหมือนรูปปั้นหินตรงหลังเขาที่มารดาข้าฝึกวรยุทธ์ตลอดทั้งปีใช่หรือไม่? ”
อู๋จุนมองอย่างละเอียด มีบางอย่างคล้ายกับหุบเขาร้อยบุปผาจริงอย่างที่ถังเสวี่ยกล่าว “ทว่ามันก็ไม่แปลกอันใด คนโบราณสร้างสุสานโบราณเพื่อรวบรวมพลังวิญญาณบนโลก คงรวบรวมรูปแบบและประเพณีจากทุกที่มาสร้างในสุสานโบราณ ในตอนนั้นช่างฝีมือที่สร้างสุสานแห่งนี้คงแกะสลักของทั้งสองไปเรื่อยแล้วดันไปเหมือนกับหุบเขาร้อยบุปผาพอดี ไม่มีอันใดน่าแปลก! ”
“ดังนั้นข้าถึงได้บอกว่าพวกเราเคยมาห้องศิลาแห่งนี้แล้วจริงๆ ! ”
สีหน้าของทุกคนพลันแปลกไป นี่คือประเด็นหลักของคำถาม
พวกเขาเคยมาห้องศิลานี้แล้ว เหตุใดถึงได้เข้ามาอีกครั้ง?
หรือว่าพวกเขาหลงทาง? กำลังเดินวนอยู่ในห้องศิลาหลายห้องในสุสานโบราณแห่งนี้?