สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 36 ตอนที่ 1063 แคว้นจงหนิงเกิดโกลาหล
เทพโอสถและหมอเทวดาสบตากันและส่ายศีรษะ
ซูจิ่นซีโซเซไปสองก้าว หากไม่ได้เยี่ยโยวเหยาประคองไว้คงล้มไปแล้ว
เทพโอสถมองไปที่ซูจิ่นซีอย่างตื่นตระหนกเล็กน้อย “เจ้าสำนัก ในสำนักมีงานมากมาย เชิญเจ้าสำนักกลับสำนักโดยด่วน เพื่อควบคุมสถานการณ์! ”
ซูจิ่นซีนิ่งเงียบไม่พูดอันใด หมอเทวดามีท่าทีตั้งตารอเช่นกัน “เจ้าสำนัก คุณชายจะไม่กลับมาแล้ว เจ้าสำนักโปรดเห็นแก่ส่วนรวม สำนักแพทย์เทียนอีเป็นสิ่งที่คุณชายทุ่มเทอย่างหนักมากว่าพันปี! ” ในใจของซูจิ่นซีเหมือนโดนแทงด้วยสิ่งใดบางอย่างจนปวดแปลบอย่างรุนแรง นางกวาดสายตามองสิ่งของที่สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักเหล่านั้นทีละอย่าง ในอกรู้สึกเพียงถูกบางอย่างขวางไว้จนหายใจไม่ออก
คุณชายจะไม่กลับมาอีกแล้ว…
เขาจะไม่กลับมาอีกแล้วจริงๆ หรือ?
“เจ้าสำนัก… ” เทพโอสถและหมอเทวดากลัวว่าซูจิ่นซีจะไม่ตกลงจึงเรียกอีกครั้งอย่างใจจดใจจ่อ
เหล่าลูกศิษย์ด้านหลังโขกศีรษะกับพื้นอย่างรุนแรง “เจ้าสำนักโปรดเห็นแก่ส่วนรวม กลับไปควบคุมสถานการณ์ในสำนักด้วยเถิด”
ในเมื่อเป็นความปรารถนาของจิ่วหรง ซูจิ่นซีจึงไม่อยากปฏิเสธ นอกจากนี้… นางเชื่อมั่นกับการเลือกของจิ่วหรง
นางจึงกล่าวว่า “ทุกท่านรีบลุกขึ้นเถิด! ” จากนั้นสายตาของนางก็หยุดอยู่ที่ป้ายคำสั่งเจ้าสำนัก คัมภีร์แพทย์ หนังสือแพทย์ ตำราแพทย์ และของอื่นๆ “ข้าจะรับของไว้ก่อน ทว่ารายละเอียดการจัดการค่อยหารือกัน”
เทพโอสถและหมอเทวดาเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยสีหน้าตื่นเต้น “เจ้าสำนักรับปากจะดูแลสำนักแพทย์เทียนอีแล้วหรือ? ”
ซูจิ่นซีพยักหน้าช้าๆ
ทั้งสองรีบลุกขึ้นด้วยท่าทางยินดี “ดี ดี ดี ! ” พวกเขาพูดคำว่าดีสามครั้งติด จากนั้นลูกศิษย์ทุกคนจึงลุกขึ้นตาม
“ท่านเจ้าสำนัก เมื่อไรพวกเราจะกลับไปที่สำนักหรือ? ” หมอเทวดาเอ่ยถาม
ซูจิ่นซีกล่าวว่า “พวกเราหาที่ใกล้ๆ พักก่อนเถิดแล้วค่อยหารือกัน” อย่างไรเสีย นางยังมีอีกหลายเรื่องต้องพูดคุยกับเยี่ยโยวเหยา มู่หรงฉี และคนอื่นๆ
แม้หมอเทวดาและเทพโอสถจะรีบร้อนอย่างมาก ทว่าพวกเขาก็พยักหน้า “ได้ ได้! ”
หลังจากนั้นทุกคนก็ออกจากหุบเขาไปหาโรงเตี๊ยมใกล้ๆ พักชั่วคราว
เวลากลางคืน เมื่อในห้องเหลือซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาเพียงสองคน ซูจิ่นซีจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างในดินแดนปรภพให้เยี่ยโยวเหยาฟัง แม้เยี่ยโยวเหยาจะประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทว่าภายใต้การครุ่นคิดอย่างละเอียด เขากลับรู้สึกว่าทุกอย่างมีเหตุผล เพราะจิ่วหรงทำทุกอย่างเพื่อซูจิ่นซีจริงๆ เขานิ่งเงียบไม่พูดอันใดสักประโยค
ซูจิ่นซีกล่าวว่า “ข้าไม่มีทางเชื่อว่าจิ่วหรงตายไปแล้ว เขายังอยู่บนโลกนี้แน่นอน เยี่ยโยวเหยา ไม่ว่าอย่างไรข้าต้องหาจิ่วหรง มีชีวิตก็ต้องตามหาร่างเขา ตายไปแล้วก็ต้องหาวิญญาณเขา”
“ตกลง ข้าจะตามหาเป็นเพื่อนเจ้า พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนจากวิหารวิญญาณไปค้นหาทั่วทุกที่ในอาณาจักรเทียนเหอ”
ซูจิ่นซีพยักหน้า
ร่างลึกลับสีดำราวกับใบไม้แห้งร่อนลงมาอยู่ที่หน้าต่างและกล่าวเสียงเบาว่า “ท่านอ๋อง! ”
เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย “เข้ามา! ”
องครักษ์เงาพาลมเย็นยะเยือกเข้ามาในห้องและยื่นหนังสือที่ประทับตราให้กับเยี่ยโยวเหยา
เยี่ยโยวเหยารับมาและเปิดออก… เมื่อตัวอักษรบนหนังสือปรากฏสู่สายตาทีละตัว เขาพลันขมวดคิ้ว ขณะที่ซูจิ่นซีมองไป ภายในใจรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง “เป็นอย่างไรหรือ? ”
เยี่ยโยวเหยาฟาดหนังสือลงบนโต๊ะอย่างรุนแรงเสียงดังปัง สีหน้าดำทะมึนราวกับหมึกและไม่พูดอันใด
ซูจิ่นซีหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่านได้ไม่กี่บรรทัด นางก็ขมวดคิ้วแน่น
แม้ตอนนั้นเยี่ยเซินจะลี้ภัยไปแคว้นไหวเจียง และราชสำนักมีมติเอกฉันท์สนับสนุนให้เยี่ยโยวเหยาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ทว่าใจของคนบางคนยากแท้หยั่งถึง พวกเขามีใจเอนเอียงไปทางเยี่ยเซินเสมอ ไม่กี่วันที่ผ่านมา ในราชสำนักเรียกร้องให้เยี่ยโยวเหยาคืนอำนาจ หวังจะต้อนรับเยี่ยเซินกลับแคว้นจงหนิง และเสียงที่เรียกร้องให้ท่านอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินใหม่ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเผยแพร่สู่ประชาชนในเมืองหลวงแล้ว
เรื่องนี้ต้องการให้เยี่ยโยวเหยากลับแคว้นโดยด่วน เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาเสถียรภาพโดยรวม
องครักษ์เงากล่าวเสียงเบา “ท่านอ๋อง ความจริงแล้ว… ความจริงแล้วสถานการณ์ในแคว้นซีอวิ๋นไม่ค่อยดีเช่นกัน แม่ทัพใหญ่หลานให้กระหม่อมมาแจ้งท่านอ๋องด้วยพ่ะย่ะค่ะ แม้ตอนนี้ในใจยังไม่ชัดเจน ทว่าท่านอ๋องโปรดกลับแคว้นโดยด่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์”
แม้แคว้นซีอวิ๋นจะมีฮูหยินปิงจีนั่งรักษาการณ์ตำแหน่งไทเฮาอยู่ ทว่าตระกูลหนานกงเป็นเสี้ยนหนามตำใจฮูหยินปิงจีและเยี่ยโยวเหยามาโดยตลอด ทั้งยังมีสกุลหยาง…
“ออกไป! ” เยี่ยโยวเหยาโบกมือพลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา องครักษ์เงากล่าวเสียงเบาว่า “พ่ะย่ะค่ะ” แล้วก็หายวับไป
เมื่อเห็นเยี่ยโยวเหยาค่อยๆ กำมือแน่น ซูจิ่นซีจึงก้าวไปข้างหน้าแล้วกุมมือเยี่ยโยวเหยาเบาๆ เยี่ยโยวเหยาเงยศีรษะขึ้นสบตากับซูจิ่นซี
ซูจิ่นซีพยายามยิ้มให้เยี่ยโยวเหยา “การเมืองของแคว้นสำคัญที่สุด พรุ่งนี้ท่านเดินทางกลับแคว้นเถิด”
“ทว่าเรื่องสำนักแพทย์เทียนอี… ”
“เรื่องสำนักแพทย์เทียนอี จิ่นซีมีวิธีจัดการแล้ว! ”
เยี่ยโยวเหยายังอยากพูดบางอย่าง ทว่าซูจิ่นซีเพียงต้องการให้เขาสบายใจ “ท่านอ๋องเชื่อในตัวจิ่วหรงใช่หรือไม่? ดังนั้นท่านอ๋องวางใจ สำนักแพทย์เทียนอีไม่มีเรื่องยุ่งยากอันใดแน่นอน ข้าจะเดินทางกลับสำนักแพทย์เทียนอีตามหมอเทวดาไปก่อน รอเรื่องทุกอย่างคลี่คลายแล้วค่อยส่งต่อให้ผู้ที่รับมือได้จัดการ เสร็จแล้วจิ่นซีจะรีบกลับไปหาท่านที่แคว้นจงหนิงทันที”
เยี่ยโยวเหยายังคงเป็นห่วงซูจิ่นซี ทว่าเรื่องแคว้นจงหนิงและแคว้นซีอวิ๋นไม่อาจล่าช้าได้ แล้วก็เรื่องของแคว้นไหวเจียง… ไม่กี่วันก่อนมีรายงานเร่งด่วนครั้งแล้วครั้งเล่า คนของแคว้นไหวเจียงเหิมเกริมในแคว้นจงหนิงอีกแล้ว เกิดการก่อจลาจลหลายครั้ง ถึงขั้นเกิดเหตุวุ่นวายในวังหลวง
แม้ไม่มีข้อสรุปในรายงานเร่งด่วน ทว่าเยี่ยโยวเหยารู้ดีอยู่แก่ใจว่าข่าวลือครั้งนี้ทำให้เยี่ยเซินกลับแคว้น เรื่องการสำเร็จราชการในราชสำนักครั้งนี้ของท่านอ๋องเกี่ยวข้องกับแคว้นไหวเจียงอย่างแน่นอน
ซูจิ่นซียื่นมือออกมาคลายคิ้วที่ขมวดกันแน่นของเยี่ยโยวเหยา “ท่านอ๋อง ท่านวางใจเถิด! จิ่นซีไม่เป็นอันใดแน่นอน”
“จะมีเรื่องหรือไม่นั้น ไม่ใช่เจ้าเป็นคนตัดสินใจ”
มือที่คลายอยู่ตรงหว่างคิ้วเยี่ยโยวเหยาพลันชะงักงัน เยี่ยโยวเหยารวบนางเข้าสู่อ้อมกอดและกอดนางอย่างแนบแน่น แม้ไม่ได้พูด ทว่าในใจของเยี่ยโยวเหยานั้นหวาดกลัวมากจริงๆ
หลายวันที่ผ่านมานี้ ในใจของเขาไม่เคยมีช่วงเวลาสงบสุขเลย โดยเฉพาะหลังจากจิ่วหรงเสียชีวิต
ในอดีต มีหลายครั้งที่เขาอยากถามซูจิ่นซีว่า ในใจของนาง เขาสำคัญกว่าหรือจิ่วหรงสำคัญกว่า ทว่าวันนี้คำถามนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นปริศนาชั่วนิรันดร์ไปแล้ว เขายังอยากรู้ อยากถาม ทว่าเมื่อถามออกไปคงไร้ความหมาย
คนที่มีชีวิตอยู่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับคนที่ตายไปแล้วได้ตลอดกาล
“หากตอนนี้ท่านอ๋องไม่วางใจก็ส่งกำลังคนมาให้ข้าเพิ่มก็ได้”
“ต่อให้ส่งผู้ยอดเยี่ยมที่สุดจากวิหารวิญญาณมาให้เจ้าทั้งหมด ข้าก็ไม่วางใจ” แทนที่จะฝากความปลอดภัยของผู้เป็นที่รักไว้ในมือผู้อื่น มิสู้ปกป้องด้วยตนเองย่อมวางใจมากกว่า
“ท่านอ๋อง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาใช้อารมณ์”
“พรุ่งนี้เช้าให้หมอเทวดามาดูเสียหน่อยว่าร่างกายเจ้าฟื้นฟูมามากน้อยเพียงใด? ”
“เพคะ! ”
“…”
“ท่านอ๋อง จิ่นซีมีเรื่องอยากขอร้องท่าน”
“อืม? ”
“สามารถส่งพวก JX มาอยู่ข้างกายข้าได้หรือไม่? ” ก่อนหน้าที่เยี่ยโยวเหยาจะตามซูจิ่นซีออกจากแคว้นจงหนิง เนื่องจากมีองครักษ์เงาติดตามอยู่ข้างกายเยี่ยโยวเหยามาตลอด จึงไม่ได้ใช้งานเหล่า JX วันนี้ดูแล้วต้องแยกจากกันชั่วคราว ซูจิ่นซีคิดว่าปรับกำลังคนมาช่วยเหลือคงสะดวกกว่า
“ตกลง ข้าจะส่งคนมาให้เจ้ามากขึ้น”
“ไม่ต้องเพคะ มีพวก JX ก็เพียงพอแล้ว”