สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 36 ตอนที่ 1072 ร่วมมือกันครั้งแรก
ความจริงแล้ว การเคลื่อนไหวของเยี่ยโยวเหยาและอู๋จุนอยู่ในการควบคุมของจิ้นอี้เฉินมาโดยตลอด
ตั้งแต่ทั้งสองคนเข้ามาในแคว้นไหวเจียง ลูกน้องของจิ้นอี้เฉินได้ควบคุมข้อมูลทั้งหมดของเขาแล้ว แม้งานสายสืบความลับของเยี่ยโยวเหยาจะยอดเยี่ยม ทว่าที่นี่คือแคว้นไหวเจียง เป็นถิ่นของจิ้นอี้เฉิน
จวนราชครู จิ้นอี้เฉินกำลังศึกษาสารพิษ องครักษ์พิษเข้ามาที่ประตูและรายงานข่าวการเคลื่อนไหวในวันนี้ให้จิ้นอี้เฉินทราบอย่างละเอียด
“ท่านราชครู ท่านต้องการให้ข้าน้อยนำองครักษ์จำนวนหนึ่งไปจับพวกเขามาหรือไม่! ”
“ไม่ต้อง! ”
“ทว่าคนเหล่านี้เข้ามาในแคว้นไหวเจียงของเราอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ น่ารังเกียจจริงๆ หากไม่ทำให้พวกเขาเห็นฝีมือของพวกเราบ้าง คงคิดว่าแคว้นไหวเจียงของเรารังแกกันได้ง่ายๆ กระมัง”
“ข้ามีแผนอื่น ออกไปก่อน! ” แม้องครักษ์พิษจะไม่เต็มใจนัก แต่ในเมื่อราชครูมีแผนเตรียมการในใจแล้ว เขาก็รู้ทันทีว่าคนเหล่านั้นคงจะหยิ่งผยองได้อีกไม่นาน จึงออกไปเงียบๆ
จากนั้น จิ้นอี้เฉินก็เรียกองครักษ์พิษที่เฝ้าซูจิ่นซีและถังเสวี่ยเข้ามาถาม “สองคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? ”
“ขังอยู่ในตำหนักหลังจวนขอรับ พวกนางไม่ได้ร้องโหวกเหวกหรือสร้างปัญหาอื่นใดตลอดทั้งบ่าย ทว่าตอนมื้ออาหารเที่ยง รองเจ้าสำนักแอบสั่งให้คนไปส่งอาหาร ข้าน้อยก็ทำเป็นไม่สังเกตเห็นตามคำสั่งของราชครู”
จิ้นอี้เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าหมาป่าตัวน้อยจากภายนอกจะเลี้ยงไม่เชื่องเสียแล้ว”
“…” องครักษ์พิษนิ่งเงียบ อย่างไรก็ตาม แววตาเจ้าเล่ห์ดุร้ายของจิ้นอี้เฉินทำให้เขาสันหลังเย็นวาบ
“ส่งสองคนนั้นไปที่วังใต้ดิน จำไว้ว่าหากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า จะให้พวกเขาตายไม่ได้ และต้องไม่เปิดเผยตำแหน่งที่แน่นอนของพวกเขาเด็ดขาด”
“ขอรับ! ”
องครักษ์พิษรับคำสั่งและเดินจากไป จิ้นอี้เฉินมองแสงเทียนสั่นไหวเบื้องหน้า เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แววตาเย็นชาดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆ กำมือแน่น ขยี้คัมภีร์พิษในมือจนขาดเป็นแผ่นๆ
“ซูจิ่นซี หากไม่ใช่เพราะเจ้า จิ่วหรงคงไม่ตาย ข้าไม่สังหารเจ้าตอนนี้ชั่วคราว รอจนข้าทำลายล้างอาณาจักรเทียนเหอได้สำเร็จ ข้าจะสังหารเจ้าด้วยตนเองเพื่อสังเวยให้กับเขา”
หลายวันมานี้ เยี่ยโยวเหยาส่งคนออกไปสืบหาที่อยู่ของซูจิ่นซีแทบจะพลิกแผ่นดินแคว้นไหวเจียง กลับไม่มีข่าวของซูจิ่นซีหรือเงื่อนงำอันใดแม้แต่น้อย เหมือนว่าพวกนางไม่เคยมาที่แคว้นแห่งนี้
แม้อู๋จุนจะได้รับบาดเจ็บ ทว่าเขาก็เรียกกำลังคนทั้งหมดที่มีและค้นหาอยู่ตลอด
จิ้นหนานเฟิงก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขามีความกังวลอยู่ในใจเสมอ
“ท่านอ๋อง พวกเราอยู่ในแคว้นไหวเจียงมากมายเช่นนี้ดูเด่นเกินไป ข้าน้อยเกรงว่าหากพวกเรายังสืบหาอีก คงจะทำให้เจ้าโจรเฒ่าจิ้นอี้เฉินรู้เป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องกลัว พวกเขารู้แล้ว”
“เช่นนั้นท่านอ๋องพาองครักษ์จำนวนหนึ่งกลับไปก่อน ข้าน้อยจะตามหาต่อไป ข้าน้อยสัญญาว่าตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ข้าน้อยจะพาพระชายากลับไปให้ได้อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นข้าน้อยจะยอมตายอยู่ที่นี่”
เยี่ยโยวเหยาถลึงตาใส่ เขาเหลือบมองจิ้นหนานเฟิงด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “ชีวิตของเจ้าไม่คุ้มกับชีวิตของพระชายาและบุตรของข้า”
จิ้นหนานเฟิงขาอ่อนระทวยทันทีและคุกเข่าลงกับพื้น “ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสมควรตาย”
ขณะที่เขากำลังพูด องครักษ์นายหนึ่งก็วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นจิ้นหนานเฟิงคุกเข่าอยู่บนพื้น เขาก็ตกใจกลัว สันหลังเย็นวาบจนไม่กล้าเปิดปากพูด
“พูดมา! ” เยี่ยโยวเหยากระชากเสียงใส่
องครักษ์คนนั้นตัวสั่นเล็กน้อยและพูดว่า “ทูลท่านอ๋อง เจ้าหุบเขาอู๋ที่ถูกขับไล่ออกไปหลายวันก่อนกลับมาและพูดว่าเขามีเรื่องสำคัญที่จะหารือกับท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าถมึงทึงของเยี่ยโยวเหยายังคุกคามและนิ่งเงียบ… ความหมายชัดเจนว่าเขาไม่อยากพบอู๋จุน
องครักษ์กล่าวเสริมอย่างกล้าหาญว่า “ท่านอ๋อง เจ้าหุบเขาอู๋บอกว่า… เกี่ยวกับเรื่องพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”
‘เปรี๊ยะ’ เสียงพู่กันขนจิ้งจอกในมือของเยี่ยโยวเหยาหักเป็นสองท่อน แววตาของเขาเป็นประกายเย็นชา จิ้นหนานเฟิงและองครักษ์ตกใจกลัวจนตัวสั่นพร้อมกัน ไม่กล้าพูดอันใดอีก
หลังจากนั้นไม่นาน เยี่ยโยวเหยาก็พูดขึ้นว่า “ให้เขาเข้ามา”
องครักษ์รีบพาอู๋จุนเดินเข้าประตู
เยี่ยโยวเหยาก้มหน้าจัดการจดหมายบนโต๊ะหนังสือ ไม่เงยหน้าขึ้นมอง จิ้นหนานเฟิงและองครักษ์ออกไป อู๋จุนนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างและดื่มชาหนึ่งถ้วย
“เดิมทีข้าไม่อยากมาหาเจ้า ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแม่นางพิษน้อย ข้าคนเดียวทำไม่ได้”
“พูดเข้าประเด็น! ”
“ก่อนหน้านี้ข้าแอบเข้าไปในจวนราชครู ข้าค้นหาทั่วทั้งจวนจนแทบพลิกแผ่นดินแต่ไม่พบแม่นางพิษน้อยเลย ทว่ามีเรือนหนึ่งที่ข้ายังเข้าไปไม่ได้ อยู่สวนหลังจวนของราชครู เป็นเรือนที่ค่อนข้างใหญ่และมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ตอนนั้นองครักษ์พิษพบข้าก่อนที่จะเข้าไปใกล้ๆ ข้ารู้สึกว่าฝั่งนั้นมีบางอย่างผิดปกติ เมื่อสองสามวันก่อนข้าจึงไปอีกครั้ง ทว่าพบเพียงองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกจำนวนหนึ่ง องครักษ์ส่วนใหญ่ถอนกำลังออกไปเกือบหมด ภายในไม่มีสิ่งใดแม้แต่น้อย”
“เจ้าต้องการอธิบายอันใด? ”
“หากข้าคาดเดาไม่ผิด ก่อนหน้านี้ที่นั่นต้องมีไว้เพื่อคุมขังแม่นางพิษน้อยและถังเสวี่ยแน่นอน ต่อมาพวกเขาก็ย้ายพวกนางไปที่อื่นแล้ว เยี่ยโยวเหยา จวนราชครูเป็นถิ่นของกูสือซาน และจิ้นอี้เฉินเป็นอาจารย์ของกูสือซาน เป็นไปได้ว่าแม่นางพิษน้อยถูกขังอยู่ที่นั่น พวกเราหาจิ้นอี้เฉินไม่พบ ทว่าเราสามารถเริ่มต้นจากกูสือซานก่อน เรื่องนี้เจ้ากูสือซานต้องเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน”
“ข้าส่งคนไปเฝ้าจวนราชครู และข้าก็ไม่เคยเห็นพวกเขาพาคนที่น่าสงสัยออกมาเลย”
“เช่นนั้นก็หมายความว่า คนยังอยู่ในจวนราชครู? ”
เยี่ยโยวเหยานิ่งเงียบ เป็นท่าทีที่ยอมรับโดยปริยาย
ช่วงกลางดึก เยี่ยโยวเหยาและอู๋จุนกำลังหารือกันเรื่องงานอย่างกลมกลืนเป็นครั้งแรก พวกเขาหารือกันเป็นเวลานาน ทว่าเมื่อใกล้รุ่งสาง องครักษ์เงาก็เข้ามาแจ้งรายงานด่วน
เยี่ยโยวเหยาดูรายงานด่วนพลางขมวดคิ้วหนัก สีหน้าของเขาปรากฏความเย็นชา ไอสังหารรอบตัวเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง
อู๋จุนหยิบรายงานด่วนและเห็นว่าเยี่ยโยวเหยาไม่ได้ปฏิเสธ
“บัดซบ โจรชั่วพวกนี้เลวทรามที่สุด” อู๋จุนสบถอย่างรุนแรง
แคว้นจงหนิง แคว้นแคว้นตงเฉิน แคว้นหนานหลี ทั้งสามแคว้นมีคนภายในวังหลวงได้รับพิษหลายจุด และบุคคลสำคัญหลายคนถูกวางยาพิษ รวมทั้งฮูหยินปิงจี มู่หรงอวิ๋นไห่ จงซีจือ และฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน นอกจากนี้ค่ายทหารของสามแคว้นตามแนวชายแดนทางใต้ที่ตั้งค่ายห่างออกไปสิบลี้ล้วนได้รับพิษ ที่รุนแรงที่สุดก็คือกองทัพแคว้นหนานหลี มู่หรงฉีแทบจะควบคุมไม่อยู่แล้ว
นี่เป็นผลให้เยี่ยโยวเหยายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า จิ้นอี้เฉินรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาแอบเข้ามาในแคว้นไหวเจียง และรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นคงไม่ใช้พิษกับแคว้นต่างๆ อย่างอุกอาจเช่นนี้
แววตาของอู๋จุนเผยแววถมึงทึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาฉีกจดหมายในมือเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนจะโปรยลงบนพื้นและกระทืบซ้ำอีกครั้ง
“จิ้นอี้เฉิน หากวันหนึ่งเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า ข้าจะหั่นเจ้าออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็สับเจ้าเป็นเนื้อสับ”
เยี่ยโยวเหยามีท่าทีทนไม่ได้ “พอได้แล้ว! ปากเร็วจะมีประโยชน์อันใด? หากจิ้นอี้เฉินยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าในเวลานี้ เจ้าก็ยังทำอันใดเขาไม่ได้”
เป็นเรื่องยากที่อู๋จุนจะไม่โต้เถียงกับเยี่ยโยวเหยา เขานั่งเงียบอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าถมึงทึง
เยี่ยโยวเหยาพูดว่า “เรื่องนี้ต้องวางแผนระยะยาว พวกเรา… ”
ในเวลาเดียวกันที่จวนราชครู
ซูจิ่นซีและถังเสวี่ยถูกย้ายออกไปจริงๆ อีกทั้งสถานการณ์ของพวกนางยังย่ำแย่อย่างมาก