สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 36 ตอนที่ 1075 อยู่ฝ่ายเดียวกัน
ในเรือนพักลึกลับแห่งนี้ แผนการสมรู้ร่วมคิดที่สะเทือนใต้หล้าได้ถือเกิดขึ้นและกลายเป็นแผนการลับสุดยอด
แคว้นต่างๆ เกิดความโกลาหล ค่ายทหารตามชายแดนทั้งสามแคว้นภายในระยะสิบลี้วุ่นวายอลหม่านมากขึ้นกว่าเดิม แคว้นเป่ยอี้ฉวยโอกาสจากความโกลาหลนี้โจมตีแคว้นตงเฉิน ตงหลิงหวงต้องจัดกำลังทหารครึ่งหนึ่งกลับไปช่วยเหลือ ในกองทัพจึงเหลือเพียงมู่หรงฉีปกป้องผู้เดียว เยี่ยโยวเหยาจึงต้องกลับไปค่ายทหารชั่วคราว
ในตอนนั้น เมื่อเยี่ยโยวเหยาวางแผนกับหลานอวี่เสร็จแล้ว หลังจากอธิบายรายละเอียดให้จิ้นหนานเฟิงฟังอย่างละเอียดอีกครั้ง เขาก็เดินทางกลับ
อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดว่าขณะเดินทางไปถึงชายแดน เขากลับถูกกลุ่มคนจำนวนหนึ่งขวางไว้ และหัวหน้าคนกลุ่มนั้นก็คือเยี่ยเซิน
เยี่ยโยวเหยาพร้อมกับองครักษ์ที่เขานำไปด้วยถูกล้อมไว้ทั้งหมด เยี่ยเซินขี่ม้ามาหาเยี่ยโยวเหยา
“เสด็จอา เราพบกันอีกแล้ว”
เยี่ยโยวเหยานิ่งเงียบไม่ตอบโต้ จู่ๆ ก็มีองครักษ์มายืนขวางด้านหน้าเยี่ยโยวเหยา “เยี่ยเซิน เจ้าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แคว้นจงหนิง กลับทรยศแคว้นจงหนิงไปเข้าร่วมกับแคว้นไหวเจียง เจ้าเป็นคนทรยศ ยังกล้ามาเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีกหรือ? ”
“โอ้? ” เยี่ยเซินเลิกคิ้วและพูดกับองครักษ์คนนั้นว่า “หากข้าจำไม่ผิด เจ้าคงจะเป็นหวังเจิ้น พี่ชายอดีตผู้บัญชาการทหารในวังหลวง เหตุใดหรือ? ติดตามเสด็จอาเยี่ย ใช้ชีวิตสุขสบายหรือไม่? ”
นึกไม่ถึงว่าเยี่ยเซินจะจดจำคนไร้ชื่อเสียงและมีตำแหน่งเล็กๆ ได้ชัดเจนถึงเพียงนี้ สีหน้าขององครักษ์คนนั้นเปลี่ยนไปทันที เขานิ่งเงียบและไม่พูดโต้ตอบ
เยี่ยเซินพูดเสริมไปว่า “เจ้าพูดว่าข้าทรยศหรือ? ลองทบทวนดูสิ ตอนนั้นรัชทายาทอย่างข้าถูกกำลังทหารบีบบังคับอย่างไร จนต้องระหกระเหินออกจากบ้านเกิดและต้องลี้ภัยไปอยู่แคว้นไหวเจียง ในบรรดาพวกเจ้าที่อยู่ในเหตุการณ์ ตอนนั้นมีผู้ใดบ้างที่ไม่ได้พระมหากรุณาธิคุณของเสด็จพ่อของข้า ได้รับเบี้ยหวัดของแคว้นจงหนิง แต่กลับทรยศกษัตริย์และฆ่าเจ้านาย นี่คือวิธีที่เจ้าตอบแทนเชื้อพระวงศ์อย่างข้าหรือ? ”
แม้องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังเยี่ยโยวเหยาจะมีท่าทีมุ่งมั่น ทว่าแววตาของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ทันใดนั้น ทหารองครักษ์ก็เดินออกมาและพูดว่า “เยี่ยเซิน เจ้าอย่าใช้คารมหว่านล้อมเพื่อหลอกลวงพวกเราที่นี่เลย หากไม่ใช่เพราะความโง่เขลาไร้ซึ่งคุณธรรมของผู้ปกครอง พวกข้าจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านหรือ? ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า… ” เยี่ยเซินเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง “ความโง่เขลาไร้ซึ่งคุณธรรมของผู้ปกครอง… ” เขาพูดพลางชี้ไปทางเยี่ยโยวเหยา “ทุกอย่างเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการที่เห็นแก่ตัวของเจ้า เยี่ยโยวเหยา เจ้าก็เป็นเชื้อพระวงศ์เช่นกัน ทว่าเจ้ากลับสังหารเชื้อพระวงศ์ เจ้าก่อกรรมทำชั่ว วันหนึ่งเจ้าต้องถูกลงโทษ”
เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วมุ่น แววตาแสดงถึงการหมดความอดทนอย่างเห็นได้ชัด ยามนี้เวลามีค่าดั่งทองพันชั่ง เขาไม่มีเวลามาทะเลาะกับเยี่ยเซินที่นี่
เขาจึงพูดไปว่า “ไปให้พ้น มิเช่นนั้นอย่าโทษที่ข้าโหดเหี้ยมไร้เมตตากับเจ้า”
เยี่ยโยวเหยาไม่เคยคิดจะสังหารฮ่องเต้แคว้นจงหนิงและเยี่ยเซิน ทว่าหากเยี่ยเซินยังยั่วยุเขาอยู่เช่นนี้เรื่อยๆ คงพูดยาก
เยี่ยเซินพูดว่า “เสด็จอา ท่านยังคงวางท่าหยิ่งยโสเช่นเดิม วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อเด็ดหัวท่าน” หลังพูดจบ เยี่ยเซินก็ชักกระบี่ยาวออกมา ก่อนจะเหาะขึ้นพุ่งโจมตีไปยังทิศทางที่เยี่ยโยวเหยาอยู่
เยี่ยโยวเหยานั่งบนหลังม้าอย่างมั่นคง ไม่ขยับเขยื้อน รอจนเยี่ยเซินเข้ามาใกล้ เขาก็ชักกระบี่เสวียนหยวนออกมา
ในไม่ช้า ทั้งสองฝ่ายก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เดิมทีเยี่ยเซินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยโยวเหยา ทว่าไม่รู้เขาเรียนวรยุทธ์ชั่วร้ายมาจากที่ใด ลงมือแต่ละกระบวนท่าล้วนโหดเหี้ยมดุดัน ในหลายครั้งสามารถทำร้ายศัตรูนับพันคน ทั้งสองประมือไปกว่าสิบกระบวนท่า
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบ ท้ายที่สุดเยี่ยโยวเหยาก็จัดการเยี่ยเซินได้ การต่อสู้จึงหยุดลง
กระบี่ยาวเย็นเฉียบของเยี่ยโยวเหยากดที่ลำคอของเยี่ยเซิน
เยี่ยเซินพูดว่า “จะฆ่าจะแกงก็เชิญตามสลาย ในเมื่อข้าแพ้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก”
“หากข้าต้องการสังหารเจ้า เหตุใดถึงให้โอกาสเจ้าหนีมายังแคว้นไหวเจียง? ”
“เยี่ยโยวเหยา เจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่? ”
“ส้มที่ปลูกทางใต้เรียกว่าส้มแป้น และส้มที่ปลูกทางเหนือเรียกว่าส้มเช้ง แม้แคว้นไหวเจียงจะช่วยเหลือเจ้าในตอนนั้น ทว่าพวกเขาไม่เคยเห็นค่าของเจ้าเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้พวกเขาจะมอบตำแหน่งรองเจ้าสำนักให้เจ้า แต่เจ้าไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง”
คำพูดของเยี่ยโยวเหยาแทงตรงใจของเยี่ยเซิน เยี่ยเซินกำหมัดแน่น ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงก่ำ ทว่ายังกัดฟันกรอดพูดว่า “เรื่องนี้เสด็จอาไม่ต้องคิดเป็นห่วงข้า”
เยี่ยโยวเหยาพูดว่า “เสด็จพี่ชราภาพมากแล้ว หลายปีมานี้สุขภาพก็ทรุดโทรม เจ้าทนดูเขาในวัยชราที่ไม่มีคนคอยดูแลได้หรือ? ”
เยี่ยเซินกระชากเสียงดุดัน “เยี่ยโยวเหยา เจ้าอย่าเสแสร้ง อย่าลืมว่าข้ากับเสด็จพ่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เป็นผู้ใดที่มอบให้ ตราบใดที่ข้ามีโอกาส ข้าจะฆ่าเจ้าเพื่อระบายความโกรธแทนเสด็จพ่อและคนบริสุทธิ์ที่ต้องตายไปในวันนั้น”
“เอาเถิด ข้าจะรอให้เจ้ามาสังหารข้า! ” เยี่ยโยวเหยาเก็บกระบี่ในมือ ก่อนจะหันหลังกระโดดขึ้นบนหลังม้า
ขณะที่เยี่ยโยวเหยากำลังจะจากไป เยี่ยเซินลุกขึ้นและเดินไปด้านหน้าสองก้าวพลางพูดว่า “เยี่ยโยวเหยา ข้าเห็นจิ่นซีอยู่ที่จวนราชครู”
ม้าของเยี่ยโยวเหยาหยุด ทว่าเขากลับไม่พูดตอบอันใด
เยี่ยเซินพูดเสริมอีกว่า “จิ้นอี้เฉินโทษการตายของจิ่วหรงว่าเป็นเพราะจิ่นซี เขาต้องการใช้จิ่นซีหลอมยาวิเศษ ข้าช่วยนางได้ชั่วคราว ทว่าข้าไม่สามารถอยู่ปกป้องข้างกายนางได้ จิ้นอี้เฉินขังพวกนางไว้ที่วังใต้ดิน”
เยี่ยโยวเหยาขี่ม้า นิ้วมือของเขากำสายบังเหียนแน่น
“เยี่ยโยวเหยา มีเจ้าเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยนางได้ ตอนนี้นางใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว ข้าเกรงว่านางคงอดทนได้อีกไม่นาน”
เยี่ยโยวเหยากำมือแน่น ทว่าเขาไม่ได้พูดตอบสักคำ ทำเพียงควบม้าจากไป
ดวงตาของเยี่ยเซินเผยให้เห็นความประหลาดใจแกมตกตะลึง เขาไล่ตามม้าของเยี่ยโยวเหยาไปและพูดว่า “เยี่ยโยวเหยา เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าไม่เป็นห่วงนางหรือ? เยี่ยโยวเหยา จิ่นซีเชื่อในตัวเจ้ามาก ที่แท้อำนาจที่เจ้าปรารถนาก็สำคัญกว่านาง เยี่ยโยวเหยา เจ้าไม่คู่ควรกับซูจิ่นซี! ”
น่าเสียดายที่ม้าของเยี่ยโยวเหยาได้วิ่งไปไกลแล้ว
เยี่ยเซินกระแทกหมัดใส่ต้นไม้ด้านข้างอย่างแรง มือของเขาเต็มไปด้วยเลือด พลางกัดฟันแน่น “จิ่นซี เจ้าวางใจได้ ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะช่วยเจ้าเอง แม้จะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของข้าก็ตาม”
ทันใดนั้น องครักษ์ก็ขี่ม้าเข้ามาอยู่ด้านข้างเยี่ยเซิน เขาลงจากม้าและพูดว่า “รองเจ้าสำนักเยี่ย ท่านอ๋องรับสั่งให้ข้ามาถามท่านว่า ในใจของท่านยังมีแคว้นจงหนิงอีกหรือไม่? ”
แม้เยี่ยเซินไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเยี่ยโยวเหยา ทว่าเขาตอบกลับอย่างหนักแน่นว่า “แคว้นจงหนิงเป็นแคว้นที่เสด็จปู่ของข้าสร้างขึ้น หากในใจข้าไม่มีแคว้นจงหนิง แล้วเยี่ยโยวเหยามีหรือ? ”
“ขอรับ! ” องครักษ์พูดว่า “ท่านอ๋องต้องการทำข้อตกลงกับท่าน หากสำเร็จ แคว้นจงหนิงจะคืนเป็นของท่าน”
เยี่ยเซินรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย เนื้อชิ้นมันอยู่ในมือ เยี่ยโยวเหยาจะส่งกลับมาง่ายๆ ได้อย่างไร? ทว่าเขายังถามออกไปด้วยความคาดหวังเล็กๆ ว่า “ข้อตกลงเรื่องอันใด? ”
“ได้โปรดไปพบผู้บัญชาการจิ้นพร้อมกับข้าน้อย”
เยี่ยโยวเหยากลับไปที่ค่ายทหาร เรื่องทั้งหมดที่แคว้นไหวเจียงมอบให้จิ้นหนานเฟิงจัดการทั้งหมด รวมถึงแผนการร่วมมือกับหลานอวี่ ขณะที่องครักษ์พาเยี่ยเซินไปหา จิ้นหนานเฟิงเข้าใจความหมายของเยี่ยโยวเหยาทันที เขาจึงบอกแผนการของเยี่ยโยวเหยาให้เยี่ยเซินฟังอีกครั้ง
แม้เยี่ยเซินจะแสดงท่าทีสงสัย แต่เพราะเยี่ยโยวเหยาได้สัญญาว่าจะคืนแคว้นจงหนิงให้เขา และช่วยซูจิ่นซีออกมาพร้อมกัน เขาจึงตอบตกลงที่จะจัดการกับจิ้นอี้เฉิน
ขณะที่เขาเดินออกจากคฤหาสน์ เยี่ยเซินรู้สึกหนักใจมาก ในตอนนั้นเยี่ยโยวเหยาบังคับให้เสด็จพ่อของเขามอบอำนาจให้แก่ตน ทั้งเขายังถูกบังคับให้ลี้ภัยมาอยู่แคว้นไหวเจียง หลายปีที่ผ่านมา ไม่มีสักวันหนึ่งที่เขาไม่อยากสังหารเยี่ยโยวเหยาเพื่อล้างแค้นให้ความอัปยศในวันนั้น กลับไม่คาดคิดว่า วันหนึ่งพวกเขาทั้งสองจะยืนอยู่ฝ่ายเดียวกัน