สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน - เล่มที่ 36 ตอนที่ 1079 แผนของจิ้นอี้เฉิน
ภายในกระโจมเงียบสนิท หลังผ่านไปครู่ใหญ่ เยี่ยโยวเหยาก็หยิบจดหมายของเยี่ยเซินมอบให้จงรุ่ยอันพ่อลูก “ใช้เทียบยานี้”
จงรุ่ยอันตกตะลึงครู่หนึ่งแล้วรับไว้ “ขอรับ โยวอ๋อง ข้าน้อยจะไปทำเดี๋ยวนี้! ”
จงรุ่ยอันและบุตรชายออกจากกระโจม หมอเทวดาก็ตามไปด้วย แม่ทัพหลายคนได้รับคำสั่งให้ช่วยเหลือจึงตามออกไป
ภายในกระโจมเหลือเพียงเยี่ยโยวเหยาและมู่หรงฉี
“โยวเหยา เราจะทำอย่างไรต่อไป? ท่านมีแผนช่วยเหลือจิ่นซีที่รัดกุมหรือไม่? อีกเรื่อง สงครามจะเริ่มเมื่อใด? อากาศเริ่มหนาวแล้ว หากเราไม่เริ่มสงครามจะต้องรอจนกว่าฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เพราะฉะนั้นแผนการทั้งหมดที่วางกันมาเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนก็จะเสียเปล่า อีกทั้งรอให้สงครามเริ่มต้นอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าจะทำให้แคว้นไหวเจียงมีโอกาสปรับตัวมากขึ้น สงครามครั้งหน้ายากตัดสินแพ้ชนะได้”
“สงครามต้องเสร็จสิ้นปีนี้”
“เวลาที่แน่นอนเล่า เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว! ”
เยี่ยโยวเหยาวางมือบนโต๊ะ ดวงตาเขาจ้องตรงไปข้างหน้าด้วยสายตาขึงขัง ไม่ได้พูดอันใด
“โยวเหยา! ” มู่หรงฉีพูดเสริม “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังรอ ทว่าเราไม่มีเวลามากพอที่จะรอ จิ่นซีกำลังจะใกล้คลอดแล้ว มีความเป็นไปได้ที่จะคลอดเมื่อใดก็ได้ ยังมีแคว้นตงเฉินอีก… เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว”
ทั้งสองต่างลำบากใจและเป็นกังวล มู่หรงฉีไม่รู้ว่าไม่ได้นอนหลับอย่างสงบมากี่วันแล้ว
มือของเยี่ยโยวเหยาที่อยู่บนโต๊ะค่อยๆ กำแน่น
เหลือเวลาอีกไม่นานจริงๆ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก ดังนั้นต้องวางแผนให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้น… จะล้มทั้งกระดาน
ทว่าท้ายที่สุด หลานอวี่ก็ไม่สามารถเชื่อได้ทั้งหมด นี่คือดาบสองคม หมากตัวนี้มีหนาม หากใช้งานไม่ดีก็เป็นดาบแหลมคมที่พุ่งกลับมาหาเรา หากวันหนึ่งใช้ไม่ดี… ก็จะทำร้ายตนเองได้
จวนราชครูแคว้นไหวเจียง องครักษ์พิษยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้จิ้นอี้เฉิน
จิ้นอี้เฉินเปิดออกมาดูพลางยกยิ้มมุมปาก ปรากฏเป็นรอยยิ้มแปลกประหลาด จากนั้นเขาก็ยื่นจดหมายให้ปรมาจารย์พิษที่อยู่ด้านข้าง
ปรมาจารย์พิษอ่านโดยไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น “นี่… มันเป็นไปไม่ได้! ”
“โอ้? ”
“หากเยี่ยเซินจะทรยศท่านราชครู พูดได้ว่าเป็นไปได้ ทว่าประมุขหลาน… นางครองอำนาจสูงสุดในแคว้นไหวเจียงและราชครูชุบเลี้ยงนางมาด้วยตนเอง หากบอกว่านางจะทรยศ ข้าไม่เชื่อเลย”
ทว่ามีรายงานเป็นตัวอักษรชัดเจน เขาจะไม่เชื่อก็ไม่ได้ ทักษะสายลับขององครักษ์พิษของจิ้นอี้เฉินไม่ได้ด้อยไปกว่าองครักษ์เงาแห่งวิหารวิญญาณที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
จิ้นอี้เฉินเทยาพิษที่เพิ่งหลอมสำเร็จลงในขวดแก้ว พลางยกยิ้มอย่างเย็นชา “ลูกหมาป่าเติบโตขึ้นมา มันไม่ได้เกิดจากตนเอง หากวันหนึ่งมันจะแว้งกัดก็เป็นเรื่องธรรมดา”
“ทว่า… ” ปรมาจารย์พิษต้องการจะพูดอันใดบางอย่าง ทว่าหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ยังมีสีหน้าซับซ้อนและไม่พูดอันใด
จิ้นอี้เฉินยื่นขวดแก้วที่บรรจุยาพิษให้กับปรมาจารย์พิษ “ดูยาพิษที่ข้ากลั่นใหม่สิ เป็นอย่างไร? ”
ปรมาจารย์พิษหยิบขวดแก้วแล้วเขย่าเบาๆ น้ำยาโปร่งแสง เนื้อยาเข้มข้น “ยาพิษชั้นสูง วิธีการหลอมยาพิษของราชครูก้าวไปอีกขั้นแล้ว ไม่รู้ว่าพิษนี้ชื่อว่าอันใด? ”
“พิษกร่อนหัวใจ! ”
ปรมาจารย์พิษหน้าถอดสี มือที่กำลังถือขวดแก้วสั่นเทาไม่หยุด สันหลังเย็นวาบ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า… ” จิ้นอี้เฉินหัวเราะเสียงดัง “ไม่ต้องกังวล ยาพิษนี้ยังหลอมไม่สำเร็จ หากต้องการให้มันสามารถสังหารคนได้อย่างไร้ร่องรอย ยังต้องมีกระบวนการสุดท้าย”
“แหะ แหะ แหะ… ” สีหน้าปรมาจารย์พิษแข็งทื่อ จู่ๆ เขาก็ส่งเสียงหัวเราะ ทว่ารอยยิ้มนั้นช่างแข็งทื่อเหมือนกับแก้มของเขา
ทันใดนั้นก็มีรายงานจากองครักษ์พิษด้านหน้าประตู “รายงานราชครู ประมุขหลานขอพบท่าน! ”
เสียงหัวเราะของปรมาจารย์พิษหยุดกะทันหัน
จิ้นอี้เฉินกำลังยุ่งอยู่กับการหลอมยา และยังคงไม่หยุดมือ “เข้ามา! ”
ปรมาจารย์พิษพูดว่า “ท่านราชครู ในเมื่อประมุขหลานมาแล้ว คงมีเรื่องสำคัญที่จะหารือกับราชครู ข้าน้อยขอตัวออกไปก่อน”
จิ้นอี้เฉินไม่พูดอันใดนั่นคือตอบตกลง ปรมาจารย์พิษจึงออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน หลานอวี่ก็เข้ามาในห้อง
“ศิษย์คำนับท่านอาจารย์! ”
แม้ขณะที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น หลานอวี่ กูสือซาน และคนอื่นๆ จะเรียกจิ้นอี้เฉินว่าราชครู ทว่าเมื่ออยู่กันสองต่อสอง นางจะเรียกว่า ‘อาจารย์’ ด้วยความเคารพ
“อืม! ” จิ้นอี้เฉินตอบรับเบาๆ ฟังดูแล้วไม่แฝงอารมณ์ใดๆ
หลานอวี่ครุ่นคิดและกำลังจะอ้าปากพูด จิ้นอี้เฉินก็ถามว่า “เรื่องในวังหลวงจัดการเป็นอย่างไรบ้าง? ”
หลานอวี่ตอบกลับว่า “เรื่องในวังศิษย์ได้เข้าไปจัดการแล้ว ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของศิษย์”
“ดีมาก! ” จิ้นอี้เฉินตอบด้วยความพึงพอใจ
หลานอวี่พูดเสริมอีกว่า “อาจารย์ ศิษย์มีบางอย่างที่จะบอกท่านอาจารย์ หวังว่าอาจารย์จะเห็นด้วย”
“เรื่องอันใด? ”
หลานอวี่พูดว่า “ศิษย์… ศิษย์ต้องการแต่งงานกับศิษย์พี่กู”
จิ้นอี้เฉินเงยหน้ามองหลานอวี่ ทว่าไม่ได้พูดสิ่งใด หลานอวี่พูดเสริมว่า “ศิษย์คิดว่า… จะจัดงานแต่งก่อนวันที่แปดเดือนหน้า! ”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องมงคล อาจารย์เลี้ยงเจ้ากับสือซานมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก อาจารย์ตั้งตารอให้พวกเจ้าแต่งงานกัน ทว่าวันที่แปดของเดือนหน้าไม่รีบร้อนเกินไปหรือ? ช่วงนี้มีเรื่องมากมายต้องจัดการ เกรงว่าคงไม่มีเวลาจัดพิธี”
“ไม่เป็นอันใด” หลานอวี่พูด “ศิษย์ได้หารือกับพี่กูแล้ว จะว่าไป พวกเราเป็นคนในยุทธภพ ไม่สนใจเรื่องแบบนี้”
จิ้นอี้เฉินพูด “ก็ดี ในเมื่อเจ้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เช่นนั้นก็จัดงานมงคลเถิด! เรื่องนี้ให้กรมพิธีการจัดการ”
“ศิษย์รับทราบ! ” หลานอวี่ตอบรับและกำลังจะออกไป ทว่าขณะที่นางเดินถึงประตู จิ้นอี้เฉินกลับส่งเสียงเรียกนาง “อวี่เอ๋อร์… ”
“อาจารย์… ” หลานอวี่หันหลังกลับมา จิ้นอี้เฉินยื่นจดหมายที่องครักษ์พิษส่งมาให้หลานอวี่ “เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”
หลานอวี่หยิบจดหมายมาด้วยท่าทางสงสัยและค่อยๆ เปิดออก มองเพียงแวบแรกสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที นางรีบคุกเข่ากับพื้น
“ศิษย์ถูกปรักปรำ อาจารย์ ศิษย์… ศิษย์ไม่มีเจตนาจะทรยศอาจารย์เด็ดขาด ศิษย์ไม่มีเจตนาจริงๆ ”
“เหอะ? ” จิ้นอี้เฉินวางยาพิษในมือลง “เจ้าหมายความว่า… สายสืบของอาจารย์ไร้ความสามารถหรือ? ”
สีหน้าของหลานอวี่ยิ่งปรากฏความหวาดกลัวมากขึ้น “ไม่ใช่ อาจารย์… สายสืบของอาจารย์มีความสามารถเก่งกาจอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าศิษย์ภักดีต่ออาจารย์ ไม่เคยคิดทรยศตามจดหมายฉบับนี้เลย”
“จริงหรือ? ในจดหมายเขียนว่า เจ้าได้แอบมอบสูตรถอนพิษที่ปรมาจารย์พิษใช้วางยาพิษในค่ายทหารและพระราชวังหลายแห่งให้กับเยี่ยโยวเหยา รวมถึงเรื่องที่เจ้าไปพบกับเยี่ยโยวเหยาที่ชานเมืองก่อนหน้านี้ หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่จริง? ”
เป็นจริงดั่งคาด ทุกอย่างไม่สามารถหนีรอดจากสายตาของจิ้นอี้เฉิน
หลานอวี่คลานอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทา นางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจิ้นอี้เฉิน “ไม่ใช่อย่างนั้น อาจารย์ ข่าวที่ท่านได้มานั้นเป็นความจริง ทว่า… ทว่าศิษย์ไม่ได้ทรยศอาจารย์จริงๆ ศิษย์เพียงซ้อนแผนเท่านั้น รอให้คนมาติดกับ สูตรยาถอนพิษที่ศิษย์ให้ไปนั้นเป็นของปลอม” พูดจบก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อและยื่นให้จิ้นอี้เฉิน
จิ้นอี้เฉินเปิดออกมา เขาเหลือบมองแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูแล้ว อาจารย์จะเข้าใจเจ้าผิดไปจริงๆ ”
หลานอวี่ก้มหน้ากับพื้น “ความภักดีของศิษย์ที่มีต่ออาจารย์ สวรรค์เป็นพยาน อาจารย์ได้โปรดไตร่ตรองด้วย”
จิ้นอี้เฉินและหลานอวี่สบตากัน ดวงตางดงามของเขาลึกซึ้งดั่งท้องทะเล ภายในใจเขาคิดอย่างไร หลานอวี่ไม่มีทางเข้าใจได้เลย
หลังผ่านไปครู่ใหญ่ จิ้นอี้เฉินก็ถามอีกครั้งว่า “เจ้ากับเยี่ยโยวเหยากำลังวางแผนสมคบคิดเรื่องใดอีก?”